บทที่ 54 สถานการณ์พลิกผันอีกครั้ง
พระอาทิตย์กำลังตกดิน ม่านเมฆย้อมสีแดงราวกับเื
เวทีประลองที่เกือบถูกทำลายมีบรรยากาศเคร่งเครียด แม้ว่าจะมีคนรู้สึกผิด ตกตะลึง และขอโทษนับไม่ถ้วนจากรอบข้าง แต่ฉู่อวิ๋นก็ยังคงเฉยเมย สีหน้าเ็าจ้องมองที่ฉู่เฟย
“พูดถึงเื่นี้ เ้าเป็หนี้ชีวิตของพวกเขามากมายเชียวนะ” ฉู่อวิ๋นยกมือซ้ายขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
“ข้าไม่ได้เป็หนี้อ้ายอีหน้าไหน พวกสารเลวนั่นมีค่าเท่าใดกันเชียว? ฮ่าๆ...” ฉู่เฟยให้ตายก็ไม่ยอมกลับใจ
“จากนี้ ข้าจะให้ตบนี้เป็การตอบแทนจากท่านลุงข้า”
"เพียะ!"
ฉู่อวิ๋นกางมือตบอย่างแรง เสียงดังจนน่าใ และแม้แต่รอยแตกในกระดูกฝ่ามือก็ยังลึกลงไปอีกเล็กน้อย แต่ฉู่เฟยก็ยังทนต่อความเ็ปครั้งใหญ่นี้ ทั้งยังอับอายเกินจะรับไหว
“แค่ก...ถ้าเ้าตบข้าอีก ข้ารับรองว่าเ้าออกไปจากที่นี่ไม่ได้แน่!” ฉู่เฟยแค่นพูดเสียงดัง
ฉู่อวิ๋นเพิกเฉยต่อนาง และพูดโดยไม่เปลี่ยนน้ำเสียงใดๆ "นี่ของลุงรอง"
"เพียะ!"
ด้วยการตบที่รุนแรงอีกครั้งทำให้ฉู่เฟยร้องออกมาอย่างน่าสมเพช "มันเจ็บ! เจ็บนะ! ไอ้สารเลว ไอ้บัดซบ ไอ้สุนัข!"
“นี่ของท่านอาเจ็ด”
"เพียะ!"
คราวนี้ ฉู่อวิ๋นเพิ่มแรงมากยิ่งขึ้น ฉู่เฟยถูกตบจนฟันร่วงออกมาหลายซี่ ซ้ำยังกระอักเืออกมาไม่น้อย
“โอ๊ย! ฟันของข้า...ฟันของข้า!” เมื่อมองไปที่ก้อนกระดูกสีหยกขาวบนพื้น ฉู่เฟยก็เผยให้เห็นสีหน้าหวาดกลัวเป็ครั้งแรก
“ฟันสองสามซี่จะชดเชยชีวิตมนุษย์หลายสิบคนได้หรือ? พวกเขาเป็ญาติของข้า และอย่าลืมว่าพวกเขาก็เป็ญาติทางสายเืของเ้าด้วย” เสียงของฉู่อวิ๋นเ็าเสียดกระดูก เขาพูดซ้ำว่า "นี่เพิ่งสามครั้งเอง...ยังมีคนในตระกูลอีกมากที่้าให้ข้าทวงคืนจากเ้า”
“นี่ของพี่หญิงติงเซียง”
"เพียะ!"
“นี่ของลูกผู้พี่จิน”
"เพียะ!"
บนเวทีประลอง เสียงสนั่นสั่นสะท้านตามมาพร้อมกับเืที่สาดกระเซ็น ทำให้ทุกคนขมวดคิ้วและทนดูไม่ได้
“ท่านพ่อ ฉู่อวิ๋นเสียสติไปแล้วหรือ? ลูกไม่เคยเห็นเขาเป็แบบนี้มาก่อน” ดวงตาคู่งามของมู่หรงซินเต็มไปด้วยความกังวล
“เฮ้อ เขาไม่ฆ่าฉู่เฟยไปทั้งเช่นนั้นก็ดีถมถืดแล้ว” มู่หรงเจี๋ยถอนหายใจยาว ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ความจริงแล้ว ใน่กระแสสัตว์ปีศาจครั้งก่อน ข้าก็ค่อนข้างสับสนเกี่ยวกับตระกูลรองฉู่ที่ถูกทำลายล้าง แต่คำอธิบายของตระกูลฉู่กลับบอกว่าเป็เพราะฉู่อวิ๋นปลุกิญญายุทธ์พิการขึ้นมา เลยดึงดูดหายนะมาสู่ตระกูล ครั้งนั้นข้าจึงเชื่อไปทั้งเช่นนั้น"
“ไม่คิดว่า แท้จริงแล้วฉู่อวิ๋นคือแพะรับบาปของฉู่เฟย ต้องทนทุกข์ทรมานจากการดุด่าและดูถูกเหยียดหยามอยู่หลายเดือน ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอดทนผ่านมาได้อย่างไร เด็กคนนี้น่าสงสารจริงๆ”
เมื่อได้ยิน การแสดงออกของมู่หรงซินก็เปลี่ยนไป การที่เ้าอันธพาลคนนี้เป็เช่นนี้ได้ ก็เพราะในใจเก็บงำความคับแค้นใจที่ซ่อนอยู่มากมายเหลือเกิน
ทันใดนั้น นางก็อยากจะลงไปที่เวทีประลองและมอบอ้อมกอดที่อบอุ่นให้ฉู่อวิ๋น
ในเวลานี้ ผู้ชมหลายคนมองไปยังค่ายตระกูลฉู่อย่างโกรธขึ้ง ทำให้ผู้าุโของตระกูลฉู่ไร้ซึ่งความสุข
แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่กล้าพูด เพราะตระกูลฉู่อำนาจล้นมือและเป็หนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไป๋หยาง มีคนแข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ไม่มีใครอยากถูกเผาจนตายหรอก
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ตระกูลใหญ่จะเสียสละคนจากตระกูลรองเพื่อชื่อเสียงก็ไม่น่าแปลกใจอันใด
แน่นอนว่าหลังจากเื่สกปรกของการใส่ร้ายฉู่อวิ๋นถูกเปิดเผย ชื่อเสียงของผู้นำตระกูลฉู่ก็จะลดลงตามไปด้วย
"เพียะ!"
ประมาณหนึ่งเค่อต่อมา ฉู่อวิ๋นก็หยุดลงด้วยการตบครั้งสุดท้าย
มือของเขาเต็มไปด้วยเื กระดูกฝ่ามือข้างซ้ายรวดร้าว ฉู่เฟยเองก็ดูฟั่นเฟือน พึมพำคำพูดสองสามคำในปากเช่นว่า "อย่าตบหน้า" "อย่าตบหน้า"
เมื่อมองดูท่าทางที่น่าสลดใจของฉู่เฟย ฉู่อวิ๋นก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าอะไร และยังไม่คิดจะลุกขึ้นจากตัวนาง
“ถ้าตอนนั้นเ้าไม่เย่อหยิ่งเช่นนั้น คนของตระกูลข้าคงไม่ตายอย่างอนาถเช่นนี้”
“ตอนนี้เ้าาเ็สาหัส หวังเหลือเกินว่าทุกวันหลังจากนี้ เ้าจะส่องกระจกแล้วมองเห็นรอยแผลเป็พวกนี้”
“และรอยแผลเป็พวกนี้ ล้วนเกิดจากคนที่เ้าเอาแต่ด่าว่าเป็คนสารเลว”
คำพูดที่เ็าและเจ็บแสบ ดังเข้าหูของฉู่เฟยที่อ่อนแรงคล้ายกำลังจะตาย ทำให้ร่างกายอันบอบบางของนางสั่นอย่างรุนแรง
แม้ว่าใบหน้าของนางจะเต็มไปด้วยเืและบวมช้ำ แต่ก็สามารถมองเห็นความกลัวและเนื้อตัวที่สั่นไหวของนางได้
ครั้งนี้ฉู่เฟยกลัวมาก! ชายที่นั่งทับนางนั้นเป็ปีศาจจอมอาฆาต!
“จำวันนี้ไว้ให้ดีๆ คนจากตระกูลรองไม่ใช่ไอ้สารเลว” ฉู่อวิ๋นเอ่ยคำพูดอันเคร่งขรึมออกมา ทำให้ร่างกายอันบอบบางของฉู่เฟยสั่นสะท้านอีกครั้ง จากนั้น เขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้น หันหลังกลับ และเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงไปหยิบกระบี่ชื่อยวนขึ้นมาจากพื้น
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ผู้เฒ่าเฟิงซึ่งอยู่ด้านข้างเวทีประลองใ เขาคิดว่าฉู่อวิ๋นกำลังจะฆ่าฉู่เฟย จึงรีบะโขึ้นไปบนเวทีประลองแล้ววางมือบนไหล่ของฉู่อวิ๋น
“น้องชาย อย่าได้หุนหันพลันแล่น ตอนนี้คนผิดได้รับการลงโทษ ความคับแค้นเทียมฟ้าได้รับการชำระแล้ว พลังยุทธ์เ้ายอดเยี่ยมมาก อนาคตไร้ซึ่งขีดจำกัด เหตุใดจึงยังต้องไล่ตามสิ่งเ่าั้ไม่หยุดอีก?” ผู้เฒ่าเฟิงแนะนำ
“ความคับแค้นเทียมฟ้าได้รับการชำระแล้ว?” ฉู่อวิ๋นยกยิ้มอย่างเ็า จ้องมองไปที่ผู้าุโหกในกลุ่มผู้ชม และพูดว่า "สิ่งที่ข้ายังไม่ได้ทำนั้นเยอะเหลือจะนับ และข้าจะไม่ทำเื่โง่ๆ เพียงเพื่อประโยชน์เดี๋ยวเดียวหรอกขอรับ”
แม้ว่าฉู่เฟยจะถือเป็ผู้กระทำผิดที่ทำให้คนในตระกูลรองตาย แต่นางก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าคน นางก็แค่อวดรู้ เย่อหยิ่ง และไม่ยอมรับความเป็จริง
ศัตรูที่แท้จริงของฉู่อวิ๋น คือผู้าุโหกฉู่เจิ้นหยวน ผู้ที่สร้างกับดักเพื่อสังหารฉู่ซานเหอพ่อของเขา
"เอาล่ะ ข้าผู้เฒ่าขอประกาศว่า การประลองยุทธ์เซี่ยหยางได้สิ้นสุดลงแล้ว และผู้ชนะคนสุดท้ายคือตระกูลฉู่ ฉู่อวิ๋น!" ผู้เฒ่าเฟิงะโเสียงดัง ยกแขนของเขาขึ้น และประกาศผลการประลองทันที
"ตึง!"
เมื่อมีการประกาศออกไป ทั่วทั้งลานประลองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เสียงปรบมือดังสนั่นกึกก้อง ทุกคนมองไปที่ฉู่อวิ๋นด้วยสายตาชื่นชม
ผู้คนจะจดจำได้เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะฉู่อวิ๋นที่เอาชนะฉู่เฟยที่เป็อัจฉริยะในระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณได้ โดยตนเองอยู่เพียงระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณเท่านั้น การพัฒนาที่น่าทึ่งนี้จะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของเมืองไป๋หยาง
พระอาทิตย์ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า ปรากฏแสงเรืองรองของยามใกล้พลบค่ำ
“ท่านพ่อ ิญญาคุณบน์ช่วยปกป้องลูกด้วย วันนี้เป็ก้าวแรกของข้าที่จะล้างแค้นให้ท่าน” ฉู่อวิ๋นยืนอย่างภาคภูมิใจบนเวทีประลอง าแของเขาถูกรักษาแล้ว เขาหลับตาและเพลิดเพลินไปกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง แต่จิตใจก็ยังคงแกร่งดังเหล็กกล้า
ในยามนี้ ฉู่เฟยบนเวทีประลองถูกส่งตัวออกไปแล้ว และผู้เฒ่าเฟิงก็กำลังจะมอบรางวัลให้ผู้ชนะการประลองยุทธ์เซี่ยหยางให้ฉู่อวิ๋น
"รางวัลสำหรับการประลองนี้คือหนังสือวิชายุทธ์ระดับิญญาระดับต่ำ ก้าวเงาบิน และสิ่งนี้" ผู้เฒ่าเฟิงยกยิ้มและยื่นกล่องที่แกะสลักสวยงามให้ฉู่อวิ๋น
“แหวน?”ฉู่อวิ๋นตกตะลึงเล็กน้อย
“ไม่ผิด นี่คือแหวนอวกาศที่สร้างจากหยกิญญาแห่งอวกาศที่หายาก ขอเพียงแค่เปิดใช้งานด้วยพลังปราณ มันก็สามารถเก็บสมบัติลงไปได้”
“รางวัลที่เ้าได้รับในรอบแรกและทักษะวิชายุทธ์ล้วนถูกบรรจุไว้ในนี้แล้ว ข้าอยู่ที่นี่ ขอแสดงความยินดีกับน้องชายอีกครั้ง” ผู้เฒ่าเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉู่อวิ๋นพยักหน้าและค้อมมือให้เขา จากนั้นก็หยิบแหวนเงินแวววาวออกมาแล้ววางบนมือ รู้สึกสงสัยอยู่นิดหน่อย
เขาพยายามระดมพลังปราณเพื่อเปิดใช้งาน และแน่นอนว่า พื้นที่ภายในแหวนมองเห็นได้ชัดเจน มีหนังสือวิชายุทธ์อยู่สองเล่ม ยารักษาต่างๆ กว่าหนึ่งโหล และหินิญญามากมาย
“น่าทึ่งจริงๆ! ว่ากันว่าหินหยกอวกาศหายากมาก รางวัลนี้มีคุณค่ามากจริงๆ”
ในขณะที่ผู้ชมส่งเสียงปรบมือและเพ่งความสนใจไปที่ฉู่อวิ๋น ทันใดนั้น ร่างหลายร่างที่มีสีหน้าเคร่งขรึมก็รีบไปที่ค่ายตระกูลฉู่
คนเหล่านี้เป็นักรบทรงพลัง หนึ่งในนั้นเดินไปหาผู้าุโหกและกระซิบข้างหู "รายงานผู้าุโหก หลังจากรองหัวหน้าของผู้น้อยตรวจค้นแล้ว นายน้อยฉู่ป้าเขา..."
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา? รีบพูดมา!” ผู้าุโหกใ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
“นายน้อย...นายน้อยเขาเต็มไปด้วยรอยกระบี่ ตอนที่เราไปถึง เขา...เขาก็หมดลมไปแล้ว!” นักรบผู้นั้นมีสีหน้าโศกเศร้าและโกรธเคือง
"อะไรนะ!?"
ผู้าุโหกรู้สึกเพียงว่าพลังปราณและเืในร่างกายของเขาพลันหยุดนิ่ง พลังปราณไหลเวียนอย่างรุนแรง มือสั่นระริกควบคุมไม่อยู่ และร่างกายคล้ายจะแก่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“...รู้หรือไม่ว่าใครเป็คนทำ?!” ผู้าุโหกถามอย่างสั่นเครือ น้ำเสียงของเขาติดเ็า
นักรบลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดตามความจริง "ลูกน้องของข้าไม่อาจหาฆาตกรได้ แต่ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้จะมีคนบุกรุกสุสานปราณั ผู้าุโผู้พิทักษ์หลายคนได้รับาเ็ สัตว์ผู้พิทักษ์ต่างก็สลบไม่ฟื้น ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็หลุมศพของบรรพบุรุษหรือศิลาทลายัต่างก็ถูกทำลายแล้วขอรับ!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ท่าทางของผู้าุโหกก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาสมคบคิดกับชายลึกลับในชุดดำเพื่อขโมยสมบัติลับของตระกูล ดังนั้นจึงไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสุสานปราณั
แต่สิ่งที่ผู้าุโหกคิดไม่ตกคือ ทำไมหลุมศพของบรรพบุรุษจึงถูกทำลาย? เพราะตามแผนแล้ว เขา้าขโมยสมบัติโดยไม่ให้มีใครสังเกตเห็น และไม่้าสร้างปัญหาใหญ่หลวงในภายหลัง
เขาไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วทั้งหมดนี้เกิดจากทักษะกระบี่ของฉู่อวิ๋น
“แต่พวกเราพบกระบี่หักในหลุมศพของบรรพบุรุษ หลังจากการตรวจสอบ ดูเหมือนว่าจะเป็กระบี่ของฉู่อวิ๋น ชื่อเศวตรรุ้ง”
หลังจากที่นักรบเสริมขึ้นมาอีกประโยค ใบหน้าของผู้าุโหกก็เปลี่ยนไปในทันที หัวใจของเขาเต้นเร็วรัวและโกรธจัด
“ทำไมถึงมีฉู่อวิ๋นอยู่ในหลุมศพของบรรพบุรุษ? หรือว่า...รอยกระบี่บนร่างกายของป้าเอ๋อร์เกิดจากเขา? ฉู่อวิ๋นผู้นี้เป็คนฆ่าป้าเอ๋อร์ของข้า?!" ั์ตาของผู้าุโหกแดงก่ำ จ้องมองไปที่ฉู่อวิ๋นที่อยู่บนเวที
“ข้าเข้าใจแล้ว...ข้าเข้าใจแล้ว! เ้าฉู่อวิ๋นต้องบังเอิญเจอกับป้าเอ๋อร์ของข้าที่กำลังหาสมบัติอยู่ แต่เขาเอาชนะป้าเอ๋อร์ไม่ได้ เลยคว้ากระบี่สีแดงเข้มเล่มนั้นฆ่าป้าเอ๋อร์ของข้าเสีย!"
“ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถเอาชนะฉู่เฟยได้…กระบี่นั่นดูเหมือนจะเป็สมบัติที่แท้จริงของสุสานบรรพบุรุษ! มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างมหาศาลและควบคุมคนทั้งตระกูลได้!”
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ผู้าุโหกก็เชื่อว่าเขารู้ความจริงแล้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโกรธเคือง แต่ก็แฝงความตื่นเต้นอยู่ด้วย
เขานึกไม่ถึงว่าตนเองจะต้องเสี่ยงครั้งใหญ่ ทรยศตระกูล สมรู้ร่วมคิดกับคนชั่ว และทำงานอย่างหนักเพื่อออกแบบแผนการที่สมบูรณ์แบบนี้ทีละขั้นตอน แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ใช้ประโยชน์จากฉู่อวิ๋นและฉู่ป้า ลูกชายสุดที่รักที่สิ้นชีวิตไปแล้ว
“ต่ำช้า...ต่ำช้านัก! เ้าเด็กนี่ อย่าแม้แต่จะคิดกลืนสมบัติลงท้อง[1]ไปเชียว!” แสงเย็นเฉียบวาบผ่านดวงตาของผู้าุโหก
ต่อมาผู้าุโหกเล่าเื่การทำลายสุสานปราณัให้ผู้าุโคนอื่นๆ ฟัง ทำให้ผู้เฒ่าทุกคนประหลาดใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังบิดเบือนข้อเท็จจริงและกล่าวร้ายฉู่อวิ๋นเพิ่มไปด้วย
เมื่อผู้าุโของตระกูลฉู่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ผู้าุโหกก็ยิ้มเหี้ยม ลุกขึ้นยืนทันที และะโลั่นด้วยความโกรธไปยังเวทีประลอง "ฉู่อวิ๋น! เ้าคนเนรคุณ คนทรยศจิตใจโฉดชั่ว ยังมีหน้ารับรางวัลอยู่ที่นี่อีกหรือ?!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้ชมทั้งหมดก็ตกตะลึง การประลองยุทธ์เซี่ยหยางในครั้งนี้เต็มไปด้วยเื่ราวหักมุมจริงๆ
ฉู่อวิ๋นมองไปที่ผู้าุโหกโดยไม่แสดงความกลัว และคิดกับตัวเอง "ตาเฒ่าใจโฉดคนนี้จะเล่นกลอุบายอะไรอีก?"
----------
[1] ฮุบไว้เป็ของตัวเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้