มือเล็กๆ ถือกล่องข้าวเล็กๆ เข้ามา ใบหน้าของป๋ายจื่อเผยความโศกเศร้าเล็กน้อย
ใต้ชายคาเรือนป๋ายจีกับป๋ายซ่าวกำลังตากผ้านวมขนเป็ดอยู่
“เป็อะไรไป?หรือกินข้าวเช้าไม่อิ่ม? แต่ข้าเห็นเ้ากินซาลาเปาไปห้าลูกเลยนะ”
ป๋ายจีหัวเราะหยิกแก้มเล็ก ๆ ของป๋ายจื่อ
“นี่มันก็ห้าหกวันแล้วแต่ท่านอ๋องไม่เคยมาดูอาการนายหญิงเลย ข้าอุตส่าห์พรรณนาแต่ความดีของท่านอ๋อง”
“ชู่เบาหน่อย หากนายหญิงได้ยินเข้าจะคิดมากเอาได้”
ป๋ายซ่าวตีป๋ายจื่อเบาๆ พลางเอ่ยกระซิบ
ทั้งสามถอนหายใจพร้อมกันหันไปมองทางประตูห้องของหลินเมิ้งหยา ส่ายหน้า
ทุกคนล้วนคิดว่าท่านอ๋องจะรักพระชายาจนมิอาจห่างหาย
แต่คิดไม่ถึงเลยว่านับั้แ่วันนั้นจวบจนวันนี้เวลาล่วงเลยไปกว่าหกวันแล้ว ทว่าท่านอ๋องกลับไม่เคยเหยียบเท้าเข้ามาที่ตำหนังหลิวซิน
กลับกันองค์หญิงิเยว่ไปถวายคำนับพระสนมเต๋อเฟยทุกวัน
หลินเมิ้งหยายังคงเจ็บป่วยรักษาไม่หาย
ดังนั้นพระสนมเต๋อเฟยจึงต้องดูแลงานในจวน เมื่อเป็เช่นนี้ิเยว่จึงเข้าไปช่วยให้คำแนะนำ
ข้าทาสในเรือนล้วนคาดเดาว่าบางทีิเยว่อาจเข้ามาเป็ชายารองของท่านอ๋อง
คนหัวไวจึงเริ่มแล่นเรือไปตามสายลมโดยการเข้าไปประจบสอพลอว่าที่เ้านายคนใหม่
แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเมินเฉยพระชายาตัวจริง
“ป๋ายซูดอกเก๊กฮวยในสวนบานหรือยัง? ”
หลินเมิ้งหยานั่งอยู่ข้างหน้าต่างมองดูสวนด้านนอก
ทั้งยาที่หมอหลวงจ่ายให้ทั้งยาขนานวิเศษที่หลินจงอวี้และชิงหูต่างสรรหามาให้ล้วนเข้าไปอยู่ในท้องของนางทั้งสิ้น
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าสาเหตุที่ทำให้อาการเจ็บป่วยของนางหายได้อย่างรวดเร็วก็เพราะเรดาร์ในสมองบอกรายชื่อยาที่จำเป็ต้องใช้ในการแก้พิษ
บางทีอาจเพราะอยู่ด้วยกันนานมากแล้วดังนั้นเสียงเย็นะเืของเครื่องจักรในหัวจึงทำให้นางรู้สึกเหมือนเป็ญาติมิตร
บางทีสิ่งเดียวที่ทำให้นางหวนนึกถึงความทรงจำในชาติปางก่อนได้ก็คือเสียงของเครื่องตรวจจับในหัว
บำรุงร่างกายนานราวครึ่งเดือนแต่ถึงกระนั้นร่างกายของนางก็ยังผ่ายผอม ไม่มีน้ำมีนวลเหมือนแต่ก่อน
บางทีอาจเพราะร่างกายอ่อนแอร่างกายของหลินเมิ้งหยาจึงผอมประหนึ่งไม้เสียบผี
ใบหน้างดงามน้อยครั้งนักที่จะหยักยิ้ม
ดวงตาที่เคยเปล่งประกายมักมองทอดยาวไปยังที่ไกลๆ ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“เ้าค่ะเคยได้ยินว่าท่านชอบดอกเก๊กฮวยหลายวันมานี้ชิงหูกับนายน้อยนำต้นไม้ราคาแพงมาปลูกมากมาย เช่นนั้นให้หนู่ปี้พยุงนายหญิงไปดูดีหรือไม่เ้าคะ? ”
ในบรรดาสาวใช้ทั้งสี่มีเพียงป๋ายซูที่ไม่ยอมออกห่างจากตัวนาง
หลินเมิ้งหยาพยักหน้าลงลุกขึ้นจากม้านั่ง ป๋ายซูค่อย ๆ พยุงร่างของนางเดินออกไปด้านนอก
“นายหญิงด้านนอกลมแรง ห่มผ้าให้มิดชิดดีกว่าเ้าค่ะ”
ป๋ายจีรีบเข้าไปหยิบเสื้อคลุมสีทองที่หลินจงอวี้มอบให้ออกมาคลุมลงบนร่างของหลินเมิ้งหยา
เสื้อคลุมผืนใหญ่คลุมอยู่บนร่างผอมบางของหลินเมิ้งหยาจึงทำให้นางดูผอมมากกว่าเดิม
“ไม่เป็ไรหรอกข้าเพียงแต่ออกไปดูดอกเก๊กฮวยแต่เพียงเท่านั้น พวกเ้าไปทำงานของตัวเองเถิดให้ป๋ายซูพาข้าไปก็พอ”
นับั้แ่วันที่เกิดเื่กับเยว่ถิงหลินเมิ้งหยาพยายามอดทนต่อความโศกเศร้าในการจากไปของเยว่ถิง
แต่ถึงกระนั้นจิตใจของนางยังไม่กลับมาเป็เหมือนเดิมอีกทั้งยังไม่สนใจงานในจวนอีกด้วย
หลินเมิ้งหยาเดินไปยังศาลาเล็กในสวนทั้งสวนล้วนเต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลือง จากเดิมที่เคยมีดอกไม้หลากสีสันทว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็ป่าขนาดย่อมไปแล้ว
“เ้าเด็กน้อยออกมาทำไม?ระวังจะเป็หวัด ดูนี่สิ นี่เป็ดอกเก๊กฮวยเขียว ราคาแพงมาก”
ทั้งที่มิใช่ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกดอกเก๊กฮวยแต่ไม่รู้ว่าชิงหูกับหลินจงอวี้ใช้วิธีใดทำให้ทั้งตำหนักหลิวซินเต็มไปด้วยดอกเก๊กฮวย
ขณะเดียวกันชิงหูพุ่งเข้ามาด้วยความดีใจก่อนจะถือดอกเก๊กฮวยสีเขียวทาบหน้าหน้าของหลินเมิ้งหยา
“อืมสีสวยสดใสสง่างาม เหมาะกับเ้าเป็อย่างมาก”
ป๋ายจื่อนำชาร้อนมาให้ก่อนจะนั่งอยู่ข้างกายหลินเมิ้งหยา ไม่ยอมขยับหนีไปไหน
โชคดีที่คนในตำหนักหลิวซินล้วนรู้เื่ราวระหว่างหลินเมิ้งหยากับนางดีดังนั้นจึงไม่มีใครว่าอะไร
“เ้าเด็กน้อยจริงสิ นี่คือโฉนดที่เ้า้า ข้าซื้อบ้านหลังนั้นให้เ้าแล้วแต่ว่า...เ้าจะทำเช่นนั้นจริงหรือ?”
ชิงหูแอบดึงกระดาษบางๆ แผ่นหนึ่งออกมา
หลินเมิ้งหยาไม่แม้แต่จะมองหยิบส่งให้ป๋ายจื่อ ก่อนจะสั่งให้นางเอาไปเก็บไว้ในคลังเล็ก
หลินเมิ้งหยาจิบชาหอมๆ ก่อนเอื้อนเอ่ย
“ในเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องเปิดร้าน ยิ่งไปกว่านั้นเ้าเองก็บอกเองว่าหลังจากการต่อสู้กันในครั้งนั้นนักฆ่าหลายคนคิดอยากถอนตัวออกจากเถาฮวาอู๋มิใช่หรือ? ”
แสงบางอย่างเปล่งประกายในตาของหลินเมิ้งหยา
นางมิได้สิ้นไร้ไม้ตอกแต่นางต้องวางแผนให้รอบคอบยิ่งขึ้น
“เป็ไปตามที่เ้าว่าเพียงแค่ ผู้สนับสนุนเถาฮวาอู๋เป็คนใจคอโเี้และเก่งกาจ หากพวกเขารู้เกรงว่าจะต้องตายอย่างเอน็จอนาจ”
เขาที่เคยเป็ผู้นำรู้จักวิธีการของคนเ่าั้ดี
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดเถาฮวาอู๋จึงลอบโจมตีเหล่าขุนนางแต่หลังจากผ่านการต่อสู้ในคราวนั้น เถาฮวาอู๋ได้รับผลกระทบเป็อย่างมากมิได้รุ่งโรจน์เหมือนแต่ก่อน
“ก็แค่วางยาพวกเ้าและบังคับขู่เข็ญเท่านั้นหรือ?ข้าสามารถแก้พิษได้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะยื่นข้อเสนอที่น่าดึงดูดมากกว่าเถาฮวาอู๋”
มุมปากของหลินเมิ้งหยาหยักยิ้มเ็า
คนตายเพราะเงินนกตายเพราะอาหาร
หลายวันมานี้นางสั่งให้คนเข้าไปนับจำนวนทรัพย์สินของตนเอง
ท่านพ่อและพี่ชายเอ็นดูนางมากท่านพ่อมอบทรัพย์สินกว่าครึ่งสกุลหลินและภาพวาดที่ไม่อาจประเมินค่าได้ให้กับนาง
มีสุภาษิตเคยกล่าวว่า“หากมีเงิน แม้แต่จะปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งก็ยังสามารถทำได้”
ชีวิตที่ต้องอยู่ท่ามกลางหอกดาบมิใช่สิ่งที่คน้า
“เป็เช่นนั้นนับว่าเ้าใจกล้ามากที่เข้าไปควักไส้ควักพุงของเถาฮวาอู๋ ข้าเลื่อมใสในตัวเ้าจริง ๆ”
ชิงหูที่หวาดกลัวว่าโลกใบนี้จะไร้ซึ่งความวุ่นวายมิเคยกลัวปัญหาใหญ่ใด ๆ
แม้เด็กสาวตรงหน้าจะมีท่าทางสุขุมแต่นับวันยิ่งทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึง
หลินเมิ้งหยามีแผนในใจ...ซูเหม่ยหยุนไท่จื่อ ฮองเฮา
นางจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแม้แต่คนเดียว
“พระชายาไท่จื่อส่งจดหมายเชิญท่านกับองค์หญิงิเยว่ไปร่วมเสวยอาหารเย็นกับไท่จื่อและพระชายารองพ่ะย่ะค่ะ”
ด้านนอกเสียงพ่อบ้านเติ้งดังขึ้น
หลินเมิ้งหยาหลุบตาต่ำพระชายารองของไท่จื่อ หรือจะหมายถึงชายารองตู๋กู?
ผู้หญิงคนนั้นมิใช่คนดี
“ข้าทราบแล้วข้าจะไปร่วมงาน”
ทหารต้นขุนพลดินต้านน้ำ ดีจริง นางยังกลัวอยู่เลยว่าจะไม่มีโอกาสเปิดศึกกับไท่จื่อ
ยังไม่ทันง่วงก็มีคนส่งหมอนมาให้นอนแล้วหรือคืนนี้นางจะไปเผชิญหน้ากับไท่จื่อและพระชายารองของเขา
ในเทศกาลไหว้พระจันทร์นอกจากจะมีงานเลี้ยงในวัง แต่ละจวนเองก็จัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เช่นเดียวกัน
หนึ่งในนั้นคือจวนของไท่จื่อที่มักจะจัดงานเลี้ยงเอิกเกริกใหญ่โต
หลินเมิ้งหยาแต่งตัวใหม่ยังไม่ทันที่ฟ้าจะมืด นางก็เดินทางมาถึงจวนของไท่จื่อ
ทั้งเมืองหลวงรู้เื่อาการเจ็บไข้ของหลินเมิ้งหยาหลังจากรักษาหาย เชื่อว่าใบหน้าของนางจะต้องขาวซีด
่นี้แม้แต่เื่ที่อ๋องอวี้กำลังจะขอองค์หญิงิเยว่แต่งงานเองก็กำลังเป็ที่ซุบซิบนินทา
ทุกคนล้วนมองหลินเมิ้งหยาเหมือนตัวตลก
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อนางลงจากเกี้ยวทุกคนจะได้เห็นใบหน้างดงามยิ่งกว่าดอกไม้ที่ใช้ประดับตกแต่งเรือนร่างเสียอีก
“ชายาอวี้เสด็จ”
เสี่ยวซีหน้าประตูร้องประกาศ
สายตาทุกคู่ตกลงบนร่างของหลินเมิ้งหยา
ความงามที่กำลังเปล่งประกายหยุดปากของผู้ที่กำลังพูดจาประสงค์ร้าย
ยิ่งไปกว่านั้นองค์หญิงิเยว่ที่ตามมาทางด้านหลังยังถูกรัศมีของนางกลบจนแทบจะไร้ตัวตน
“เป็เพียงแสงเทียนบนเรือริอาจจะสู้กับแสงของพระจันทร์ ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย”
มิรู้ว่าเสียงของผู้ใดดังลอดออกมาจากกลุ่มคนเ่าั้
ทว่ากลับได้รับความเห็นด้วยของทุกคน รอยยิ้มของิเยว่แข็งทื่อแต่ถึงกระนั้นก็ยังฝืนยิ้มอ่อนโยน
ทว่าบางครั้งสายตาของนางที่มองทางหลินเมิ้งหยากลับเจือไว้ซึ่งความชิงชัง
“ถวายคำนับพระชายารองเหนียงเหนียงคงไม่โกรธหม่อมฉันที่มาช้าใช่หรือไม่? ”
แสดงท่าทางประหนึ่งมิเคยมีเื่กันมาก่อนในค่ายล่าสัตว์
หลินเมิ้งหยาถวายคำนับตามประเพณีแก่พระชายารองตู๋กูพระชายารองตู๋กูเข้ามาคล้องแขนหลินเมิ้งหยาด้วยท่าทางสนิทสนมเสมือนพี่น้อง
“รีบลุกขึ้นเถิดเ้าและข้าล้วนเป็พี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน ได้ยินว่าเ้าเจ็บป่วยข้าเป็ห่วงเ้ามากเหลือเกิน”
ใบหน้าของพระชายารองตู๋กูประดับไว้ซึ่งรอยยิ้มเสมือนคนสนิทสนม
เดินนำหลินเมิ้งหยาเข้าไปภายในงาน
“ทูลเหนียงเหนียงเมิ้งหยาหายเป็ปกติแล้วเพคะ พระองค์อย่าได้ใส่พระทัยเลย”
หลินเมิ้งหยาแสดงท่าทางเป็ปกติอย่างไร้ที่ติ
คนที่อยู่รอบๆ ล้วนคิดว่าพวกนางมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
มีเพียงเ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าอีกฝ่ายร้ายกาจขนาดไหน
“จริงสิ เหตุใดท่านอ๋องจึงไม่มาพร้อมกันกับเ้าเล่า?”
แสดงละครต่อก่อนจะหันหน้าไปมองทางประตู พระชายารองตู๋กูแสดงสีหน้าสงสัย
หลินเมิ้งหยาก้มหน้าลงทำเพียงยิ้มและมิได้ตอบอันใด
“ท่านอ๋องถูกไท่จื่อเรียกตัวเข้าวังเพื่อปรึกษาเื่งานเลี้ยงเทศกาลไว้พระจันทร์ดังนั้นจึงไม่อยู่จวนเพคะ”
ิเยว่แสดงท่าทางประหนึ่งเป็พระชายาเอกอีกทั้งเอ่ยตอบเื่ของหลงเทียนอวี้แทน
หลังจากพูดจบิเยว่แสดงท่าทางประหนึ่งคนทำเื่ผิดพลาด หดตัวชำเลืองมองหลินเมิ้งหยาก้มหน้าเงียบไป
บรรยากาศเริ่มอึดอัด
“คือว่า...ดูเหมือนอีกไม่นานจวนอวี้จะมีเื่น่ายินดีเกิดขึ้นใช่หรือไม่ชายาอวี้ ข้าต้องยินดีกับเ้าด้วย”
คำพูดของพระยารองตู๋กูเหมือนกับข่าวลือที่กำลังโจษจันกันอยู่ในเวลานี้
่นี้ทุกคนล้วนซุบซิบนินทากันเื่หนึ่ง
แม้ิเยว่จะยังไม่ได้ตบแต่งเข้าจวนอย่างเป็ทางการแต่เมื่อเทียบกับพระชายาอย่างหลินเมิ้งหยาแล้วเกรงว่าิเยว่จะได้รับความรักความเอ็นดูจากท่านอ๋องมากกว่า
หลินเมิ้งหยายิ้มราวกับมิได้ใส่ใจต่อคำติฉินนินทาเ่าั้
กลับกันนางชำเลืองตามองทางิเยว่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย
“ต้องเป็เื่น่ายินดีอยู่แล้วเพคะอีกไม่นานก็จะถึงวันคล้ายวันประสูติของท่านอ๋องแล้ว ขนาดพระชายารองยังจำได้ทั้งที่หม่อมฉันเกือบจะลืมไปแล้ว”
กระตุ้นความอยากรู้ความเห็นของทุกคนก่อนจะเอ่ยเื่ที่พวกเขามิได้ตั้งตาคอย
การแสดงออกของหลินเมิ้งหยาทำให้ทุกคนฉงนงงงวย
หรือว่าหลินเมิ้งหยาจะไม่รู้เื่ที่ท่านอ๋องกำลังจะเลือกชายารอง
หรือว่า....
