เขาเคี้ยวต่อช้าๆ และกลืนช้าๆ สีหน้าท่าทางบนใบหน้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ปากยังคงรำพึงรำพันเป็เสียงอืออาไม่หยุด กระทั่งสุดท้ายเขาหลับตาลง ดูดเม้มริมฝีปาก ย้อนคิดถึงรสชาติของหมูสามชั้นชิ้นนั้น
เห็นเขาไม่ยอมพูดจาสักที คนอื่นๆ ที่อยู่ในที่นั้นจวนเจียนจะคลุ้มคลั่ง ได้แต่เบิกตามองท่าทางหวนคิดถึงรสชาติของเขาจนน้ำลายไหล
ตกลงอร่อยหรือไม่ เขาบอกออกมาสักคำสิ! นี่มันทรมานคนอื่นเกินไปแล้ว!
เฟิ่งเฉี่ยนจับจ้องสีหน้าท่าทางของเขาเขม็ง นางตื่นเต้นถึงขีดสุด ขณะที่นางกำลังคิดจะเอ่ยปากถาม คิดไม่ถึงว่าหลีต้าซือจะใจร้อนกว่านางชิงเอ่ยปากถามก่อนว่า “คุณชายฮวา เปรียบเทียบกับหมูสามชั้นในน้ำซอสที่ข้าน้อยทำแล้ว ตกลงว่าดีกว่าหรือไม่”
สายตาของคนทั้งหมดตกลงบนร่างของฮวาเมิ่งหยิ่ง ในที่สุดก็ได้เวลาประกาศผลแพ้ชนะ
สิ่งที่ทุกคนเห็นคือฮวาเมิ่งหยิ่งค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาอ้าปาก ขณะที่ทุกคนเข้าใจว่าเขาประกาศผลแพ้ชนะในที่สุด เขากลับหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบหมูสามชั้นในจานขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้นแล้วส่งเข้าปาก หลับลงอีกครั้งเพื่อเคี้ยวช้าๆ
คนทั้งหมดกลอกตาขาว เกือบจะกระอักเื!
ท่านประกาศผลแพ้ชนะก่อนแล้วค่อยกินได้นี่นา นี่ตกลงจะให้พวกเขารออีกนานแค่ไหน
หลีต้าซือรอไม่ไหวแล้ว เขาเดินเข้ามาหยิบตะเกียบขึ้นมาหนึ่งคู่ คีบเนื้อหนึ่งชิ้นเพื่อลิ้มลองรสชาติ ทันทีที่ได้ลิ้มลอง เขาก็เลียนแบบฮวาเมิ่งหยิ่ง หลับตาลงค่อยๆ เคี้ยวหวนคิดถึงรสชาติ เนิ่นนานโดยไม่เอ่ยปากพูดจาอีก
คนทั้งหมดอับจนด้วยคำพูด!
เหตุใดคนแล้วคนเล่า กินหมูสามชั้นแล้วไร้เสียงทันที
ด้วยความประหลาดใจ มู่หรงจิ่งเทียนเดินเข้ามาเช่นกัน เขาคีบเนื้อขึ้นมาหนึ่งชิ้นส่งเข้าปาก จากนั้น...ก็กลายเป็คนสามคนที่กำลังหวนคิดถึงรสชาติ!
ต่อมาเซวียนหยวนเช่อเดินเข้าไปกินหมูสามชั้น ต่อมา...สามคนที่กำลังหวนคิดถึงรสชาติอาหารก็กลายเป็สี่คน!
มู่หรงจื่ออวิ๋นเดินเข้าไปอย่างไม่เชื่อ จะอร่อยถึงเพียงนั้นเชียวหรือ อร่อยเสียจนไม่อยากพูดอะไรแล้วหรือ
นางคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วออกแรงกัดลงไป
ทันทีที่กัดลงไป เนื้อนุ่ม เด้งสุดๆ ความหวานนั้นปนเปมากับกลิ่นหอม เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ หอมหวานแต่ไม่เลี่ยน หลังจากกินแล้วหอมในปาก ทำให้คนคิดถึงจนหยุดกินไม่ได้!
สีหน้าของมู่หรงจื่ออวิ๋นสับสนในชั่วพริบตา ไม่ต้องรอให้ฮวาเมิ่งหยิ่งประกาศผล นางก็รู้ผลแล้ว
ชนะขาดลอย!
แทบจะเรียกได้ว่าเบียดตกขอบไปเลย!
เนื้อที่หลีต้าซือหั่นนั้นใหญ่เกินไป เมื่อกัดลงไปเต็มๆ คำ เนื้อจะเต็มปาก ส่วนเนื้อที่เฟิ่งเฉี่ยนหั่นนั้นมีขนาดใหญ่เล็กพอดี ส่งผลให้เมื่อคนกัดลงไปแล้วรู้สึกติดอกติดใจ และไม่ชิ้นเล็กจนทำให้รู้สึกว่าเละเกินไป ไม่เสียอรรถรส
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เพราะลดขั้นตอนการใช้ไฟอ่อนทอดหนังของหมูสามชั้นไป จึงทำให้หนังของมันทั้งนุ่มและเด้ง แล้วยังรักษารสชาติที่เป็เอกลักษณ์ของมันเอาไว้ได้
ที่ทำให้นางคิดไม่ออกก็คือนางรู้สึกว่ายังมีเครื่องปรุงชนิดพิเศษเพิ่มเข้ามาในเนื้อด้วย คล้ายๆ ว่ามีกลิ่นและรสชาติของหญ้าสมุนไพร และเป็เพราะรสชาตินี้ที่ทำให้มีรสชาติพิเศษ จึงทำให้รสชาติของมันโดดเด่นขึ้นมา ทิ้งหลีต้าซือไว้ไกลโยชน์!
มันคือเครื่องปรุงชนิดใดกันนะ นางถามตามที่ตนสงสัย “เ้ายังได้เพิ่มเครื่องปรุงชนิดใดไว้ในนี้อีก เหตุใดจึงมีรสชาติพิเศษเช่นนี้”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะจนดวงตาโค้งลง “นี่เป็ความลับของอาชีพ อภัยที่ข้าไม่อาจบอกความจริงได้”
น่าขัน จะให้นางนำความลับเช่นนี้มาบอกกล่าวกับนางหรือ
หากให้นางรู้ว่าตนเองได้เพิ่มหญ้าสมุนไพรชนิดหนึ่งเข้าไป และสรรพคุณของมันทำให้คนรู้สึกเจริญอาหาร ย่อมเท่ากับว่านางโกงการแข่งขัน อีกฝ่ายย่อมต้องกัดไม่ปล่อยแน่นอน!
แต่ในความเป็จริงแล้ว การรักษาโรคด้วยอาหาร หรือการรักษาโรคด้วยยานั้นเชื่อมโยงกัน หากพูดกันตามความหมายอย่างเข้มงวดแล้วนางไม่ได้โกง การเพิ่มหญ้าสมุนไพรชนิดนี้เข้าไปไม่เพียงแต่ไม่ทำร้ายร่างกายของคน แต่ยังให้คุณกับร่างกายยิ่งยวด
นี่เป็ความรู้ที่นางตกผลึกมาจากการอ่านตำราแพทย์มากมาย การนำสรรพคุณจากหญ้าสมุนไพรมาช่วย หลังจากนางลองเสี่ยงชิมดูแล้ว จึงแอบนำน้ำสมุนไพรนี้เทลงไปในน้ำที่ต้มเนื้อหมูโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
เพราะนางรู้ดีว่าการที่ตนเองคิดจะเอาชนะเทพอาหารขั้นสามคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็ยอดฝีมือที่ถนัดในการทำหมูสามชั้นในน้ำซอสที่สุดคนหนึ่ง นางจำเป็ต้องเดินทางลัดเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้!
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า นางทำสำเร็จ!
การเสี่ยงอันตรายของนาง ทำให้นางทำสำเร็จ!
ฮวาเมิ่งหยิ่งลืมตาขึ้นในที่สุด มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยปรากฏให้เห็นเป็รอยยิ้มพึงพอใจอย่างเอกอุประหนึ่งบุปผาบานสะพรั่ง “ข้าประกาศ ผู้ชนะคือแม่นางท่านนี้!”
แม้จะคาดเดาผลการแข่งขันได้รางๆ แต่เมื่อเขาประกาศออกมาจากปาก เฟิ่งเฉี่ยนยังคงรู้สึกว่าตนเองตื้นตันใจ นางหันไปยื่นมือทั้งคู่ให้เซวียนหยวนเช่อ คิดจะแปะมือกับเขาสักหน่อย เซวียนหยวนเช่อไม่เข้าใจความหมายของนาง ได้แต่เลิกคิ้วมองนาง
เฟิ่งเฉี่ยนมุมปากกระตุก เก็บไม้เก็บมืออย่างกระดากใจ
แม้มู่หรงจื่ออวิ๋นจะไม่อยากยอมแพ้ แต่ผลการแข่งขันถูกประกาศออกมาแล้ว นางไม่อาจไม่ยอมรับ นางหันไปพูดกับมู่หรงจิ่งเทียน “เสด็จพี่ พวกเรากลับเถิด”
มู่หรงจิ่งเทียนกลับหัวเราะเบาๆ แล้วส่ายหน้า “อย่าเพิ่งใจร้อน! สุดท้ายแล้วคุณชายฮวาจะไปกับใครยังไม่รู้แน่”
มู่หรงจื่ออวิ๋นตะลึงงัน นางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ มู่หรงจิ่งเทียนยิ้มมีเลศนัยยากจะคาดเดา
พลันมีคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอกหุบเขาในตอนนี้ “คุณชาย เกิดเื่แล้วขอรับ--”
ฮวาเมิ่งหยิ่งขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ “เื่อะไร ถึงวิ่งพรวดพราดเข้ามา”
ผู้ที่มากล่าวอย่างร้อนใจ “คุณหนูได้รับจดหมายจากเมืองหลวงฉบับหนึ่ง บอกว่ามีข่าวของท่านน้าแล้ว นางออกเร่งเดินทางไปเพียงลำพัง ข้าน้อยขวางไว้ไม่อยู่ขอรับ!”
“อะไรนะ ไฉนนางจึงหุนหันพลันแล่นเช่นนี้” ฮวาเมิ่งหยิ่งขมวดคิ้ว เขาใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วพูดกับเฟิ่งเฉี่ยน “แม่นาง ขออภัยด้วย เกรงว่าข้าไม่อาจไปช่วยคนพร้อมกับเ้าได้แล้ว”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน “แต่ท่านรับปากแล้ว เหตุใดจึงกลับคำเล่า”
ฮวาเมิ่งหยิ่งหน้าตึงทันที เขาแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ข้าฮวาเมิ่งหยิ่งทำเื่อันใดล้วนทำตามอารมณ์ทั้งสิ้น ข้าไม่อยากไป เ้าจะทำอะไรข้าได้”
“ท่าน...” เฟิ่งเฉี่ยนโมโห คนผู้นี้คิดจะชักสีหน้าก็ชักสีหน้า ไม่คิดถึงความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย
กำลังคิดจะโต้แย้งกับเขา ทว่าถูกเซวียนหยวนเช่อสะกิดนางเอาไว้ เขาพูดเสียงหนัก “คุณชายฮวาเป็ห่วงความปลอดภัยของน้องสาว เจิ้นเข้าใจได้ แต่การช่วยคนเหมือนช่วยดับไฟ หากคุณชายฮวาไปช่วยคนกับพวกเราไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นจะมองตำราเกี่ยวกับการถอนพิษทั้งหมดที่ท่านมีให้กับพวกเราได้หรือไม่”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน ถูกต้อง คนไปไม่ได้ แต่ให้ตำรามาก็ยังดี อย่างไรนางก็เรียนรู้เองได้! ไม่อาจไม่เลื่อมใส่เซวียนหยวนเช่อที่มองการณ์ไกล!
แต่เซียนพิษจะรับปากหรือไม่
สำหรับท่านหมอคนหนึ่งแล้ว เทียบยาที่เพียงคนเดียวมีค่ามากมายเพียงใด เช่นเดียวกันสำหรับเซียนพิษคนหนึ่งแล้ว ยาพิษและวิธีการทำยาพิษรวมไปถึงการปรุงยาถอนพิษล้วนมีค่ามากมายสุดจะเปรียบเช่นเดียว
ตำราแพทย์และข้อมูลที่มีค่าเช่นนี้ เขาจะมอบให้ผู้อื่นอย่างง่ายดายหรือ
ฮวาเมิ่งหยิ่งลังเลใจเช่นกัน เขาขมวดคิ้วใคร่ครวญจริงจัง ขณะที่เฟิ่งเฉี่ยนคิดว่าเขาจะปฏิเสธ เขากลับเอ่ยปากกล่าวว่า “ช่างเถิด ฝีมือการปรุงอาหารของเ้าทำให้ข้าชื่นชมจริงๆ ข้ามอบตำราและบันทึกโบราณหีบนั้นให้เ้าก็แล้วกัน! เ้าตามมาข้ามาเถิด!”
เฟิ่งเฉี่ยนดีใจ เขารับปากแล้วจริงๆ หรือ นี่ก็คือขนมที่ร่วงลงมาจาก์!
นางรีบเดินตามเขาเข้าไปในเรือนไผ่