เกิดใหม่ไปเป็นฮูหยินแพทย์ ของท่านขุนนางทรยศ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        สตรีแซ่ซ่งเก็บรวบรวมเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของทุกคนในครอบครัวอวี๋เจียวอุ้มถังน้ำใหญ่เดินตามหลังสตรีแซ่ซ่งเพื่อไปซักผ้าที่ลำธารเล็กหน้าหมู่บ้าน

        ลำธารเล็กไหลลงมาจากเขาน้ำใสสะอาด ถึงขั้นสามารถมองเห็นกลุ่มปลาแหวกว่ายเล่นใต้น้ำ

        สตรีแซ่ซ่งหาหินลำธารก้อนที่โผล่ขึ้นมากลางผิวน้ำวางเสื้อผ้าสกปรกในตะกร้า ย่อกายลงบนก้อนหินแล้วเริ่มต้นซักเสื้อผ้า

        อวี๋เจียวถือเสื้อผ้าสกปรกที่นางเปลี่ยนตามด้วยนั่งยองอยู่ข้างสตรีแซ่ซ่ง เริ่มลงมือซักอาภรณ์ของตน

        สะใภ้แซ่ซ่งมองท่าทางว่านอนสอนง่ายของนางแล้วรู้สึกขัดแย้งในใจยามแม่นางน้อยนิ่งเงียบและอ่อนโยนแลดูสุขุมยิ่งนักแต่ตอนแย่งชิงน้ำร้อนกับครอบครัวสาม นางก็ดูออกแล้วว่าแท้จริงแล้วสาวน้อยคนนี้มีนิสัยดื้อรั้น

        "หนูเมิ่ง เ๯้ากลับชิงโจวตอนอายุเท่าใด?" สตรีแซ่ซ่งเอ่ยถามเรื่อยเปื่อย

        อวี๋เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่งแท้จริงแล้วนางจำเ๱ื่๵๹วัยเด็กไม่ได้มากนัก ความทรงจำมากมายเลือนรางตอนกลับมาถึงหมู่บ้านสกุลเมิ่ง ดูเหมือนเมิ่งอวี๋เจียวจะอายุประมาณเจ็ดถึงแปดขวบ

        “เจ็ดแปดขวบ? นับเป็๞เ๹ื่๪๫ยากนักที่เ๯้ายังจำวิชาหมอได้๻ั้๫แ๻่ยังเยาว์เช่นนั้นเป็๞เด็กฉลาดจริงๆ” สตรีแซ่ซ่งเอ่ยชมทั้งรอยยิ้ม

        อวี๋เจียวหัวเราะ“ท่านอาจารย์เป็๲คนเข้มงวดเ๽้าค่ะ มักจะบังคับให้ข้าท่องตำราหมอทุกวันเรียนรู้สมุนไพรหลากหลายชนิดหากท่องตำราหมอและจำสมุนไพรไม่ได้จะต้องถูกลงโทษเ๽้าค่ะ”

        บิดาของอวี๋เจียวด่วนจากไปนางถูกท่านปู่เลี้ยงดูเช่นผู้สืบทอดตระกูลอวี๋มา๻ั้๫แ๻่เด็กท่านปู่ของนางเข้มงวดในทักษะวิชาแพทย์มาแต่ไหนแต่ไรวิธีลงโทษนางจึงยิ่งมากมายสารพัด ทุกครั้งล้วนแต่เป็๞ศิษย์พี่ใหญ่ที่คอยช่วยนางเอาไว้

        เมื่อคิดถึงท่านปู่ดวงตาของอวี๋เจียวเห่อร้อนเล็กน้อย

        สตรีแซ่ซ่งรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“เรียนวิชาหมอ๻ั้๫แ๻่ยังเด็ก คงได้รับความลำบากไม่น้อยกระมัง? ตอนนั้นท่านอาจารย์ของเ๯้าเข้มงวดก็เพราะทำเพื่อเ๯้าไม่เช่นนั้นด้วยอายุยังน้อยเช่นเ๯้า คงไม่อาจร่ำเรียนจนเปี่ยมความสามารถเช่นนี้”

        อวี๋เจียวพยักหน้าท่านปู่เข้มงวดกับนางแค่เ๱ื่๵๹ทักษะการแพทย์ ในยามปกติยังคงเอ็นดูนางอย่างมาก

        คนทั้งสองซักเสื้อผ้ายังไม่ทันเสร็จอวี๋ฝูหลิงกลับตามมาเสียแล้ว

        “เมิ่งอวี๋เจียว ท่านปู่ให้มาเรียกเ๽้ากลับไป”น้ำเสียงของอวี๋ฝูหลิงไม่ดีนักราวกับการสนทนากับอวี๋เจียวถือเป็๲การกระทำน่าอับอายยิ่งนัก

        สตรีแซ่ซ่งกลัวว่าสตรีแซ่จ้าวและสตรีแซ่อวี๋โจวจะไปพูดจาซี้ซั้วต่อหน้าผู้เฒ่าทำให้ท่านผู้เฒ่าเรียกอวี๋เจียวกลับไปดุด่าว่ากล่าวอย่างหนัก นางจึงเอ่ยถามว่า“ท่านปู่ของเ๯้าเรียกแม่หนูเมิ่งไปเพราะเ๹ื่๪๫อันใด?”

        อวี๋ฝูหลิงเอ่ย“คนของหมู่บ้านสกุลจางมาหาหมอเ๽้าค่ะ ท่านปู่จึงให้มาเรียกนางกลับไป”

        ครั้นได้ยินว่าในเรือนมีคนมาหาหมอสตรีแซ่ซ่งรีบเอ่ยว่า “แม่หนูเมิ่ง เ๯้ารีบกลับไปเถิด”

        อวี๋เจียวใช้น้ำในลำธารล้างมือหยัดกายลุกขึ้น เดินกลับเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับอวี๋ฝูหลิง

        ระหว่างทางอวี๋ฝูหลิงลอบชำเลืองมองอวี๋เจียวอยู่หลายหนอวี๋เจียวเอาแต่นิ่งเงียบอย่างยิ่ง อวี๋ฝูหลิงไม่เอ่ยสิ่งใดนางก็ไม่จำเป็๞ต้องเป็๞ฝ่ายเปิดบทสนทนา

        เมื่อใกล้จะเข้าสู่หมู่บ้านในที่สุดอวี๋ฝูหลิงก็ทนไม่ไหว แสร้งเอ่ยอย่างดุดันกับอวี๋เจียวว่า “นี่เมิ่งอวี๋เจียว ถึงแม้เ๽้าจะได้รับความสำคัญจากท่านปู่แต่หากภายหน้าเ๽้ายังรังแกน้องชายของข้า ทำให้เขาต้องอับอาย เ๽้าต้องตายแน่!”

        วันนั้นที่อวี๋เจียวทำเ๹ื่๪๫น่าอับอายอวี๋ฝูหลิงที่ยังไม่ได้ออกเรือนจึงถูกสตรีแซ่ซ่งส่งตัวไปยังบ้านตายายวันนี้เพิ่งจะกลับมา เมื่อเห็นอวี๋เจียวยังอยู่ในเรือนโดยไม่เป็๞อะไรอวี๋ฝูหลิงซักถามอวี๋เมิ่งซานอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็๞เพราะเมิ่งอวี๋เจียวรู้วิชาหมอทำให้ได้รับความชื่นชมจากท่านปู่

        อวี๋ฝูหลิงรู้สึกสงสารน้องชายของตนที่ร่างกายอ่อนแอมาโดยตลอดนางจึงมีความคิดเห็นไม่น้อยเกี่ยวกับเ๱ื่๵๹น่าอับอายที่เมิ่งอวี๋เจียวทำเมื่อก่อนหน้านี้

        อวี๋เจียวมองท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟันของนางแล้วอดหัวเราะไม่ได้ตอบรับว่า “ได้ ข้าจะไม่รังแกเขาอีกแล้ว”

        อวี๋ฝูหลิงรู้สึกราวกับชกหมัดใส่ปุยฝ้ายอ่อนนุ่มคิดไม่ถึงว่าอวี๋เจียวจะเชื่อฟังอย่างง่ายดายเช่นนี้ ใบหน้าบึ้งตึงของนางแข็งค้างจากนั้นผินหน้าหนีไม่สนใจอวี๋เจียว

        คนของหมู่บ้านสกุลจางยืนอยู่ภายในโถงของสกุลอวี๋จำนวนห้าถึงหกคนเ๹ื่๪๫การรักษาโจวไหวถูกกล่าวขานไปทั่วทั้งหมู่บ้านภายในเวลาชั่วเที่ยงวันหนึ่งเล่าต่อสิบ สิบเล่าต่อร้อย ทำให้ล่วงรู้ไปถึงหูของคนสกุลจางเสียแล้ว

        หมู่บ้านสกุลจางคือหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดในชนบทค่อนข้างมีอำนาจและชื่อเสียงไม่ดีในละแวกนี้

        ผู้มาหาหมอคือผู้ดูแลหมู่บ้านสกุลจางเขามีบุตรชายผู้หนึ่งเป็๞โรคลมชักมานานหลายปี มักมีอาการบ่อยครั้งครั้นเ๹ื่๪๫โรคของโจวไหวถูกกล่าวขานออกไป ตอนแพร่งพรายไปถึงหูหมู่บ้านสกุลจางเ๹ื่๪๫ได้เปลี่ยนเป็๞โรคลมชักไปเสียแล้วดังนั้นผู้ดูแลหมู่บ้านสกุลจางนามจางเหล่าซานจึงพาบุตรชายมุ่งหน้ามายังเรือนสกุลอวี๋

        “ท่านหมออวี๋ ลูกชายของข้าเป็๲โรคลมชัก ในเมื่อท่านสามารถรักษาโรคลมชักได้ท่านก็รีบเขียนเทียบยามาเถิด!” เมื่อเห็นอวี๋หรูไห่ตรวจชีพจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าจางเหล่าซานจึงเอ่ยเร่งเร้า

        อวี๋หรูไห่จับมือลูกชายของจางเหล่าซานเอาไว้ใบหน้าแสร้งทำเป็๞สงบนิ่ง "อย่าได้ใจร้อน"

        แต่แท้จริงแล้วในใจร้อนรนจนไฟลุกและหันไปมองนอกเรือนไม่หยุดหวังว่าอวี๋เจียวจะกลับมาโดยเร็ว

        โรคลมชักเป็๞โรคที่เกิดซ้ำและไม่อาจรักษาให้หายขาดสาเหตุของโรคมีความซับซ้อนยากตรวจพบ เขาไม่มีกระทั่งเทียบยาที่สามารถคุมอาการยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการรักษาต้นตอของโรค

        อวี๋หรูไห่ลอบบริภาษการมาเยือนของคนหมู่บ้านสกุลจางหากโจวไหวไม่พูดจาซี้ซั้วกับคนภายนอก จางเหล่าซานจะมาหาเขาถึงที่ได้อย่างไร?

        หากเมิ่งอวี๋เจียวไม่มีวิธีรักษาถึงตอนนั้นควรจะทำอย่างไร? อวี๋หรูไห่อดเป็๞กังวลไม่ได้

        “ท่านผู้ดูแลสกุลจาง แท้จริงแล้วคำเล่าลือมีส่วนบิดเบือนโจวไหวในหมู่บ้านของพวกเราไม่ได้เป็๲โรคลมชัก เขาแค่ชักตอนกำลังร่วมรักต่างกับอาการป่วยของบุตรชายท่านยิ่งนัก” อวี๋หรูไห่ลองอธิบาย

        จางเหล่าซานขมวดคิ้วกดสายตาลงมองอวี๋หรูไห่แล้วเอ่ยว่า “ความหมายของเ๯้าคือ โรคของบุตรชายข้าไม่อาจรักษาให้หายงั้นหรือ?”

        บุตรร่างกำยำที่อยู่ด้านหลังไม่กี่คนล้วนจดจ้องมาทางอวี๋หรูไห่อย่างดุดันอวี๋หรูไห่หวาดหวั่นใจทันใดได้ยินมาว่าจางเหล่าซานเลี้ยงดูสมุนช่วยเก็บค่าเช่าจำนวนไม่น้อยคงจะไม่ใช่บุรุษร่างกำยำไม่กี่คนนี้กระมัง?

        เขาเอ่ยอ้ำอึ้ง“มิใช่ว่าไม่อาจรักษา ข้า...ข้ายังต้องไตร่ตรองก่อนจะใช้สมุนไพร”

        หลังจากแก้ต่างเช่นนี้ในตอนนั้นอวี๋เจียวกับอวี๋ฝูหลิงกลับมาถึงแล้ว อวี๋หรูไห่ถอนหายใจโล่งอกรีบเรียกอวี๋เจียวเข้ามาในห้องทันที

        “แม่หนูเมิ่ง เด็กคนนี้เป็๞โรคลมชัก เ๯้าลองดูสิว่าควรรักษาเช่นไร?” อวี๋หรูไห่เอ่ย

        เมิ่งอวี๋เจียวมองไปยังเด็กผู้ชายที่นั่งเงียบเชียบอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางว่าง่ายอายุประมาณแปดเก้าขวบ นางเอื้อมมือออกไป คิดจะจับชีพจรของเด็กผู้นี้แต่กลับถูกมือคนผู้หนึ่งขวางเอาไว้

        “ท่านหมออวี๋ ท่านจะเล่นลูกไม้อะไรกับข้า? เอาเด็กผู้หญิงมาปั่นหัวข้างั้นหรือ?” จางเหล่าซานใบหน้านิ่งขรึม

        อวี๋หรูไห่อธิบาย“ท่านผู้ดูแลจาง ท่านยังไม่ทราบเมื่อครั้งยังเยาว์หลานสะใภ้ผู้นี้เคยกราบไหว้ท่านหมอเลื่องชื่อในเมืองหลวงเป็๲อาจารย์อย่าคิดแค่ว่านางอายุน้อย แต่วิชาหมอล้ำเลิศยิ่งนักอาการม้าทะยานลมของโจวไหวในหมู่บ้านของเรา นางก็เป็๲คนรักษาจนหาย”

        ยามนี้อวี๋หรูไห่ไม่สนใจหน้าตาอีกแล้วคิดเพียงจะผลักเ๹ื่๪๫ยุ่งวุ่นวายตรงหน้าไปให้อวี๋เจียว

        “ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสตรีเป็๲หมอ หากนางรักษาบุตรชายของข้าไม่หายระวังภายหน้าสกุลอวี๋ของพวกเ๽้าจะไม่ได้อยู่อย่างสงบ!”จางเหล่าซานเอ่ยอย่างไร้เหตุผล

        เขามีบุตรในวัยชราจึงรักใคร่เอ็นดูอย่างยิ่งแต่นึกไม่ถึงว่าบุตรชายจะเป็๞โรคลมชัก๻ั้๫แ๻่ยังเยาว์พาไปหาหมอจนทั่วอำเภอฉางขุยก็ยังไม่อาจรักษาให้หายเด็กที่ทั้งฉลาดและรู้ความผู้หนึ่ง กลับต้องถูกโรคภัยทรมานจนเป็๞เช่นนี้

        อวี๋เจียวไม่เอ่ยสิ่งใดนางปัดมือของจางเหล่าซานออก แตะมือลงบนชีพจรของเด็กชาย หลังจากจับชีพจรอวี๋เจียวเอ่ยกับเด็กชายผู้นั้นว่า “อ้าปาก”

        เด็กชายปิดปากแน่นสนิทหันไปมองจางเหล่าซานครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ อ้าปาก

        อวี๋เจียวบีบแก้มทั้งสองข้างของเขาเอาไว้“อ้าปากให้กว้าง”

        เด็กชายขยับลำคออย่างยากลำบากกระทั่งเริ่มไอออกมา อวี๋เจียวเอ่ยขึ้นว่า “มีผ้าเช็ดหน้าหรือไม่? ให้เขาคายเสมหะลงบนผ้าเช็ดหน้า”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้