มีร้านเหล้าใกล้ๆ สถานีรถไฟเมืองเซี่ยหยางอยู่หนึ่งแห่ง ประตูร้านถูกปิดสนิท แต่ข้างในกลับเปิดไฟ
“พี่ฉิน ไว้ชีวิตด้วย! พวกเราสองพี่น้องมีตาหามีแววไม่ กลับไม่รู้ว่าเป็ท่าน โปรดเมตตาปล่อยพวกเราไปเถอะครับ…”
ตอนนี้ เ้าอ้วนกับเ้าผมทองคุกเข่าอยู่กลางร้านเหล้า อ้อนวอนฉินหลางให้ปล่อยพวกเขาไป
ในขณะที่ฮานซานฉาง กระทิงและพวก ยืนล้อมรอบรอคำสั่งของฉินหลางอยู่
“พี่ฉิน พวกเรายอมแล้ว! อีกอย่าง พวกเราก็ไม่เคยแตะต้องของของท่านด้วย” เ้าอ้วนอธิบายสุดชีวิต “แล้วพวกเราเป็คนของ ‘แก๊งแมงป่องเหล็ก’ ด้วย แก๊งของเราเป็มิตรกับทุกแก๊งรอบข้าง ยังเคยส่ง ‘ของขวัญ’ ไปให้ด้วย ไม่ว่ายังไงท่านก็ต้องไว้ชีวิตพวกเรานะครับ”
“อ๋อ? ฉันกำลังติดใจเื่นี้อยู่พอดีเลย” ฉินหลางหันไปพูดกับฮานซานฉาง “ตอนนี้แถบสถานีรถไฟเป็สัมปทานของพวกเรา เ้าพวกนี้ทำธุรกิจบนรถไฟ เคยส่ง ‘ของขวัญ’ ให้พวกนายหรือเปล่า?”
ฉินหลางมองว่า กินของคนอื่นจะไม่พูดแรง เอาของคนอื่นมาจะไม่ลงไม้ลงมือ ถ้าฮานซานฉางหรือกระทิงรับสินบนของพวกเขามา ฉินหลางก็จะได้ไม่ต้องรุนแรงกับพวกเขามากนัก
“แม่ม! มารดาแกสิ ใส่ร้ายพวกฉันเหรอ!” ฮานซานฉางด่าทันทีที่ได้ยิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเขาไม่ได้รับสินบนของคนอื่น
กระทิงเองก็ด่าชุดใหญ่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นกัน
“เ้าหนู พวกแกจ่ายสินบนให้ใครกันแน่?” ฉานซานฉางถามขึ้น
“เมื่อก่อนพวกเราเคยจ่ายให้พี่ใหญ่ซางคุน—”
“ซางคุน มันเข้าตารางไปแล้วนี่นา!” ฮานซานฉางพูดเย็นเยือก “พวกแกจ่ายสินบนให้นักโทษหรือไง?”
“ไม่ใช่ นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้พวกเราจ่ายเงินให้ลูกพี่อันหยาง! เป็ค่าคุ้มครองให้พวกเราสามารถทำธุรกิจในเมืองเซี่ยหยางต่อโดยไม่ได้รับผลกระทบ” เ้าอ้วนรีบอธิบาย
“อันหยาง?”
ฉินหลางมองไปที่ฮานซานฉาง สีหน้าของฮานซานฉางดูแปลกประหลาก “พี่ฉิน อันหยางคนนี้มาจากต่างถิ่น แต่กลับแสบมาก! พี่ก็รู้ว่าตอนนี้เขตเฉิงหนาน กับเขตเฉิงตงอิทธิพลของพวกเราใหญ่ที่สุด เรียกว่าเป็พื้นที่ของเราเลยก็ยังได้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขตเฉิงซีกับเขตเฉิงเป่ย กลับถูกอันหยางที่มาจากต่างถิ่นยึดอย่างรวดเร็ว ตอนนี้กลายเป็พื้นที่ของพวกมันหมดแล้ว”
“มาจากต่างถิ่น?” ฉินหลางใเล็กน้อย “ยึดเขตเฉิงซีกับเขตเฉิงเป่ย ในระยะเวลาสั้นขนาดนี้?”
ฮานซานฉางกับกระทิงก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะพวกเขาสองคนยังต้องจับมือกันถึงเอาชนะซางคุนมาได้ แล้วถึงได้เป็พี่ใหญ่ของเขตเฉิงหนานกับเขตเฉิงตง และพวกเขายังยึดสัมปทานเขตเฉิงหนานกับเขตเฉิงตงมาไม่ได้ไม่เต็มร้อยด้วย แต่เ้าอันหยาง กลับยึดสัมปทานในเขตเฉิงซีกับเขตเฉิงเป่ยได้ทั้งหมด ภายในระยะเวลาแค่นี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเ้าหมอนี่โเี้มากขนาดไหน
แต่ฮานซานฉางเข้าใจว่าฉินหลางตำหนิตนที่ทำงานไม่เรียบร้อย จึงรีบอธิบาย “พี่ฉิน อันที่จริงพวกเราก็อยากจะแย่งพื้นที่ตรงนั้นมา แต่ก่อนหน้านี้พี่สั่งไว้ ไม่ให้พวกเรารีบร้อนเกินไป รอให้ก่อตั้งบริษัทฟอกจนขาวแล้ว ค่อยเริ่มก้าวต่อไป…”
“อาฉางฉันไม่ได้จะตำหนิอะไรนาย” ฉินหลางกล่าว “เพียงแต่ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เ้าอันหยางนี่เป็ใครมาจากไหน ทำไมมันถึงหยิ่งผยองขนาดนี้ สถานีรถไฟเป็สัมปทานของพวกเราแท้ๆ ทำไมไอ้แก๊งแมงป่องเหล็กอะไรนี่ถึงไปติดสินบนไอ้อันหยาง โดยไม่ไว้หน้าพวกเรา น่าสนใจจริงๆ!”
“พี่ฉิน อันที่จริง…ผมเคยสืบประวัติของอันหยางมาบ้าง เดี๋ยวผมค่อยรายงานกับพี่ แล้วสองคนนี้ล่ะ พี่จะให้จัดการยังไง?” กระทิงถามฉินหลาง ตอนนี้กระทิงนับถือและให้ใจฉินหลางเกินร้อยแล้ว ด้านหนึ่งเพราะวรยุทธ์ของฉินหลาง อีกด้านหนึ่งเพราะวิธีการที่ฉินหลางใช้จัดการอันเต๋อเซิ่งกับซางคุน ทำให้กระทิงตกตะลึง
“สองคนนี้?” ฉินหลางจ้องมองเ้าอ้วนกับเ้าผมทอง ทำเอาพวกเขาขนลุกไปทั้งตัวเลย
เ้าอ้วนรีบพูดขึ้น “พี่ฉิน พวกเราหากินในยุทธภพเหมือนกัน อย่างน้อยพี่ก็ไว้หน้าพวกเราบ้างเถอะ เดี๋ยวพวกเรากลับไปแล้ว จะบอกหัวหน้าแก๊งว่าต่อไป ‘ของขวัญ’ ของเมืองเซี่ยหยางให้ส่งให้พวกพี่แทน พี่ฉิน ไม่อย่างงั้นพี่ก็ช่วยเมตตาถอนพิษให้พวกผมเถอะ พวกผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ถอนพิษใช่ไหม?” ฉินหลางหัวเราะเย็นเยือก “พวกแกส่งของขวัญผิดบ้าน ใครรับเงินของพวกแก แกก็ไปหาคนนั้นเถอะ—”
“พี่ฉิน…ขอร้องล่ะ!” เ้าผมทองอ้อนวอน
“ไสหัวไปเถอะ! ไม่ได้ตัดมือพวกแกไว้ ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว!” ฉินหลางสบถเย็นเยือก
ฮานซานฉางรีบสั่งให้คนโยนสองคนนี้ออกไป
อันที่จริง ฉินหลางแค่อยากจะสั่งสอนเ้าอ้วนกับเ้าผมทองให้จำฝังใจเท่านั้นเอง มือของเ้าสองคนนี้ไม่ได้เป็อะไรจริงๆ หรอก แต่ต้องเ็ปแน่นอนอยู่แล้ว ใครใช้ให้พวกเขาไม่มีตา กล้าบังอาจมาทำ ‘ธุรกิจ’ บนหัวฉินหลางเอง
เมื่อโยนเ้าอ้วนกับเ้าผมทองออกไปแล้ว กระทิงจึงหันไปพูดกับฉินหลาง “พี่ฉิน ผมได้ยินมาว่าเ้าอันหยางนี่โเี้มาก ร้ายกาจยิ่งกว่าซางคุนซะอีก! อันหยางลงมือฆ่า ‘อาหาว’ เขตเฉิงซีด้วยตัวเอง และที่สำคัญอันหยางยังใช้เลื่อยไฟฟ้า แยกร่างของอาหาวต่อหน้าพวกพ้องของอาหาวเลยด้วย! แก๊งเล็กๆในเขตเฉิงซีกับเขตเฉิงเป่ย ต่างก็ยอมสวามิภักดิ์เพราะกลัวความโเี้ อำมหิตของอันหยาง!”
“อืม เป็ตัวโหดจริงๆ ด้วย!” ฉินหลางพูดอย่างเฉยเมย “เ้าอันหยางก็แซ่อันเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามันเป็อะไรกับอันเต๋อเซิ่งรึเปล่า?”
“อันนี้…ไม่ชัดเจนครับ” กระทิงพูดพร้อมกับส่ายหน้า
“ไม่ชัดเจน งั้นก็รีบไปสืบสิ” ฉินหลางพูดกับกระทิงและฮานซานฉาง “จริงอยู่ ฉันให้พวกนายค่อยๆ เดินอย่างมั่นคง ไม่ต้องรีบขยายอาณาเขตมากนัก แต่ว่าไม่ได้ให้พวกนายรักตัวกลัวตาย พวกนายลืมเป้าหมายของตัวเองไปแล้วเหรอ แค่เขตเฉิงหนานกับเขตเฉิงตงของเมืองเซี่ยหยางพวกนายก็พอแล้วเหรอ?”
ฮานซานฉางกับกระทิงฟังออกว่าฉินหลางไม่ค่อยสบอารมณ์ ทำเอาหลังของทั้งคู่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ั้แ่ฉินหลางบุกเดี่ยวไปจัดการอันเต๋อเซิ่งแล้ว ฮานซานฉางกับกระทิงก็ยิ่งเกรงกลัวฉินหลางมากขึ้น เพียงแต่หลังจากที่ทั้งคู่ยึดพื้นที่ของซางคุนได้มาแล้ว ฮานซานฉางกับกระทิงก็ชะล่าใจ รู้ว่าฉินหลางเริ่มไม่สบอารมณ์แล้วทั้งคู่ก็ยังจะอธิบายอยู่ แต่ฉินหลางกลับไม่เปิดโอกาสให้พวกเขา “สืบประวัติของอันหยางมาให้ชัดเจน แล้วรีบเอามาให้ฉัน!”
จากนั้น ฉินหลางก็ออกจากร้านเหล้า กลับไปที่โรงเรียน
เมื่อฉินหลางกลับมาถึงหอพัก จ้าวเหว่ยก็รีบเข้าไปหาฉินหลางทันที พร้อมกับถามว่าอ่านแผนธุรกิจฉบับนั้นหรือยัง
ดูออกว่าจ้าวเหว่ยมีความกระตือรือร้นมาก
“ดูแล้ว” ฉินหลางพยักหน้า จากนั้นก็บอกจ้าวเหว่ยเหมือนที่รั่วปินได้แสดงความคิดเห็นเอาไว้
จ้าวเหว่ยฟังความคิดเห็นของฉินหลางแล้ว พูดด้วยท่าทีเขินอาย “รูปแบบของแผนธุรกิจ ฉันลอกมาจากในอินเทอร์เน็ตจริงๆ แต่ฉันก็ทำการบ้านมาเยอะเหมือนกันนะ และยังปรึกษาพ่อฉันด้วย”
“ฉันไม่ได้บอกว่าแผนธุรกิจของนายไม่ดี” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงแต่มันยังไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง ดังนั้นฉันเลยหาคนช่วยแก้ให้สมบูรณ์แบบแล้ว”
“ใคร?”
“รั่วปิน”
“อะไรนะ? เธอเป็เด็กเรียนดี จะทำอะไรพวกนี้เป็เหรอ” เหมือนจ้าวเหว่ยจะไม่ค่อยเชื่อว่าคนอย่างรั่วปินก็มีความรู้นอกตำราเรียนด้วย
“ฮึ…ความคิดเห็นที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ความจริงแล้วมันเป็ความคิดเห็นของรั่วปิน” พูดจบฉินหลางก็กระตุกยิ้ม
จ้าวเหว่ยพูดไม่ออกในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้