ในความเป็จริงต้วนชิงิพูดไปตามมารยาทเท่านั้นเพราะนางรู้ว่าหลิวยวนจะไม่ยอมให้ใครช่วยในเื่นี้
หลิวยวนตามหาท่านพ่อในครั้งนี้เพราะได้รับคำสั่งจากท่านแม่ซึ่งเป็คนตระกูลหลงต้วนชิงิเคยได้ยินมาบ้าง นางเคยเป็หญิงงามที่ได้รับการอบรมสั่งสอนเป็อย่างดีให้เขาตามหาท่านพ่ออย่างเงียบๆ่นี้ชื่อเสียงของเสนาบดีหลิวจื๋อนับวันยิ่งกว้างขวาง เกรงว่าหลิวยวนรู้ไม่มากก็น้อยว่าพ่อของเขานั้นไม่ใช่คนธรรมดาดังนั้นจะไม่ยืมมือคนอื่นมาช่วย
เป็ดังที่คิดไว้! เมื่อหลิวยวนได้ยินคำพูดของต้วนชิงิถึงกับเงียบครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงส่ายหัวช้าๆ
“ไม่จำเป็ต้องลำบากนายท่านต้วนหลิวยวนได้รับปากท่านแม่ว่าจะต้องหาคนผู้นั้นให้เจอ จากนั้นให้เขาไปอธิบายต่อท่านแม่”
ที่แท้คำพูดของหลิวยวนบอกต้วนชิงิเป็นัยว่าการตามหาท่านพ่อไม่อยากให้ใครเข้ามาช่วยเพราะเขาจะต้องไปอธิบายกับท่านแม่และเขาให้กระจ่างเมื่อได้ฟังดังนั้นต้วนชิงิก็ไม่ฝืนความ้า ได้แต่ยิ้มน้อยๆ พลางเปลี่ยนไปพูดเื่ที่น่าสนใจต่างๆในบ้านเกิดหลิวยวนแทนเมื่อได้ยินนางก็มีสีหน้าที่อิจฉาออกมาให้เห็น
ผ่านไป่หนึ่งแม่นมหนิงก็โผล่หน้ามาตรงประตู ทำให้ต้วนชิงิรู้ว่านางจะต้องไปแล้ว
ดังนั้นจึงคุยเล่นอีกครู่ต้วนชิงิถามหลิวยวนเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ พร้อมกำชับต้วนอวี้อีกสองสามเื่จากนั้นจึงขอตัวกลับ
ต้วนอวี้อยู่ติดกับหลิวยวนตลอดเมื่อพี่สาวไปแล้วมักจะให้เขาเล่าเื่ต่างๆ ให้ฟัง หลิวยวนนิสัยดีมากไม่ว่าต้วนอวี้้าอะไรเขาจะช่วยทำให้ด้วยความเต็มใจไม่นานต้วนอวี้จึงตัวติดอยู่กับหลิวยวน
หลิวยวนก้มหน้ามองดูาแบนร่างกายที่ยังไม่หายดีเขาจึงพักเื่การตามหาท่านพ่อและอาศัยที่จวนต้วนไปก่อนทุกวันหลิวยวนจะสอนให้ต้วนอวี้รู้จักตัวอักษรอย่างง่ายสอนมารยาทพื้นฐานรวมถึงศึกษาหาความรู้จากหนังสือราวกับว่าการเป็ซูถงได้เริ่มขึ้นแล้ว
วันต่อมาขณะที่ต้วนชิงิกำลังไปทำความเคารพต่อผู้เป็บิดาเช่นทุกวันมีบ่าวได้ยื่นจดหมายให้กับต้วนเจิ้งเขาส่งสัญญาณให้ต้วนชิงินั่งลงพลางเปิดจดหมายออกอ่านเพียงชั่วครู่ก็หัวเราะออกมา “ฮ่าๆ”
“ไม่รู้ว่าเื่อะไรที่ทำให้ท่านพ่อดีใจเช่นนี้ท่านพ่อพูดออกมาให้ทุกคนฟังหน่อยได้ไหมเ้าคะ” ต้วนชิงิยิ้มออกมาทำท่าออดอ้อน
ต้วนเจิ้งส่งจดหมายไปให้ต้วนชิงิพลางหัวเราะไม่หยุด
“หย่วนฮ่าวจะมาเมืองหลวงเพื่อตามหาญาติและจะมาพักที่จวนสักระยะหนึ่ง”
ไป๋หย่วนฮ่าวหรือ? เพียงแค่ได้ยินชื่อนางก็เืขึ้นหน้า นางจึงรีบก้มหน้าทำทีเป็ดื่มน้ำชากดเก็บความแค้นที่มีลงไป
สยาเอ๋อร์ที่เสียไปทั้งยังมีลูกชายที่พึ่งเกิด ไป๋หยวนฮ่าวรู้หรือไม่ว่าสูญเสียอะไรไปบ้าง?
“ไปหย่วนฮ่าวคือใครหรือเ้าคะ?”
ต้วนอวี้หรานที่นั่งด้านข้างถามขึ้นถามด้วยความสงสัยวันนี้ต้วนอวี้หรานใส่ชุดแขนสั้นสีแดงเข้ม ด้านล่างใส่กระโปรงจีบสีเดียวกันชายเสื้อปักรูปดอกไม้สีอ่อน เสียบปิ่นปักผมโล่วค่งเฟยเฟิ้งจินปู้เหยา[1]แลดูเป็สาวน้อยอ่อนหวาน หน้าผากคาดด้วยอัญมณีสีแดง แสดงถึงความสวยงามอรชรทั้งยังช่วยขับเสื้อผ้าของนางให้โดดเด่นสะดุดตา
“อวี้หรานอย่าเอะอะรบกวนท่านพ่อ” หลิวหรงที่อยู่ด้านข้างมองไปยังต้วนชิงิด้วยสายตาเลศนัย
“ไป๋หย่วนฮ่าวเป็คุณชายใหญ่ของจวนซุ่นอานไป๋ใช่ไหมเ้าคะ?” พูดไปพลางก็ยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะ
ต้วนชิงิเข้าใจความหมายที่หลิวหรงหัวเราะออกมายามนั้นตระกูลต้วนและตระกูลไป๋มีสัญญาหมั้นหมายระหว่างกัน แต่คาดไม่ถึงว่าปีนั้นไป๋หย่วนฮ่าวจู่ๆก็ล้มป่วยลงจึงได้พักเื่หมั้นหมายไว้ก่อน ทว่าตอนนี้ไป๋หย่วนฮ่าวอายุสิบสองปีส่วนต้วนชิงิก็อายุเก้าปีแล้ว ควรจะได้พบกันเสียหน่อยจากนั้นค่อยกำหนดเื่หมั้นหมายของสองคนนี้
แต่หลิวหรงจะไม่ยอมให้ต้วนชิงิสมปรารถนาเื่หมั้นหมายกับจวนซุ่นอานไป๋ต้องเก็บไว้ให้กับต้วนอวี้หรานถึงแม้ว่าตอนนี้ต้วนอวี้หรานยังไม่ใช่ลูกสาวคนโตของจวนต้วนแต่ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเป็อย่างแน่นอน...
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลิวหรงต้วนอวี้หรานก็ยกมือมาป้องปากหัวเราะตาม “ในจวนคนยิ่งเยอะก็ยิ่งคึกคักท่านพ่อ ไป๋หย่วนฮ่าวจะมาถึงเมื่อไรหรือเ้าคะ?”
ต้วนเจิ้งยิ้มด้วยความดีใจ “น่าจะอีกเจ็ดวัน” ฮูหยินติงโหรวแห่งจวนต้วนกับฮูหยินจวนไป๋ต่างถูกคอกันตอนนั้นยังไม่ทันได้หมั้นหมายบุตรชายและบุตรสาวกลายเป็เื่ที่น่าเสียดายของทั้งสองตระกูล ทว่าตอนนี้จวนไป๋พูดขึ้นมาให้ต้วนเจิ้งช่วยอบรมแนะนำความหมายนี้ก็ชัดเจนในตัวของมันแล้ว
ต้วนเจิ้งจ้องมองไปที่ชิงิที่กำลังก้มหน้าดื่มน้ำชาอยู่พลางถอนหายใจว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินราวกับว่าฮูหยินทั้งสองยังพูดเล่นกันเื่แต่งงานของลูกเมื่อครู่นี้เอง!
พอมองย้อนไปชิงิกลายเป็หญิงสาวแล้ว
ต้วนเจิ้งมองทอดสายตาไปยังบุตรสาวคนโตในใจของหลิวหรงกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ ผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือถูกบิดเป็เกลียวนั่นทำให้หลิวหรงยืนหยัดที่จะไม่ให้การหมั้นหมายนี้สำเร็จ ต้วนชิงิเ้าถือดีอะไรที่จะได้หมั้นหมายกับคนที่ดีกว่าต้วนอวี้หราน!
“ถ้าเช่นนั้น ปี้เซี่ย[2]จะต้องเตรียมเรือนรับรองให้องค์ชายไป๋”หลิวหรงส่งสายตาให้ต้วนอวี้หรานให้ออกไปพร้อมกัน
ต้วนอวี้หรานขอตัวลาต้วนเจิ้งอย่างน่าเอ็นดูตามหลิวหรงออกไปเมื่อพ้นประตู ต้วนอวี้หรานเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ท่านแม่ ไป๋หย่วนฮ่าวคนนั้นเป็คนยังไง? ทำไมท่านพ่อพูดถึงเขาแล้วดูมีความสุขขนาดนั้นเล่าเ้าคะ?”
หลิวหรงมองไปยังดอกไม้จำนวนมากที่อยู่เบื้องหน้ามากรอยยิ้มบนหน้าค่อยๆ หายไป “ไป๋หย่วนฮ่าวเป็บุตรชายคนโตของหัวหน้าเมืองซุ่นอานได้ยินมาว่าเฉลียวฉลาดมาก การมาจวนเราในครั้งนี้ก็เพื่อหมั้นหมาย”
“หมั้นหมาย?” ต้วนอวี้หรานร้องออกมาด้วยความดีใจ“ท่านแม่ พวกเขามาเพื่อข้าใช่หรือไม่?”
นางรู้ว่าท่านพ่อรักนางท่านแม่ยิ่งมองนางเป็ของล้ำค่าที่สุด มีชายหนุ่มมาจะต้องเพื่อนางเป็แน่หลิวหรงส่ายหน้า แสงแดดสว่างจ้าทำให้ปิ่นจินปู้เหยาบนผมกระทบแสงแดดส่องระยิบระยับออกมาราวกับเต้นระบำ
“ครั้งนี้พวกเขา้าให้หมั้นหมายกับต้วนชิงิ” ชื่อ‘ต้วนชิงิ’ ไม่กี่คำทว่าต้องกัดฟันกว่าจะพูดออกมาได้ สีหน้าของหลิวหรงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเหมือนคลื่นที่ถาโถมมาอย่างบ้าคลั่งทำไมของดีทั้งหมดจะต้องเป็แม่ลูกนั้นที่ได้ไปแต่นางและลูกสาวกลับทำได้เพียงมองดูอยู่เฉยๆ
ต้วนอวี้หรานเมื่อได้ฟังก็ไม่พอใจ “ทำไมต้องเป็แบบนี้” ใช่แล้วทำไมต้องเป็ต้วนชิงิ!
ข้าสวยกว่านางอะไรๆ ก็ดีกว่า ทำไมบุตรสาวคนโตต้องเป็นาง ไม่ใช่ข้า? ต้วนชิงิถือว่าเป็ลูกสาวคนโตอย่างนั้นหรือ หลิวหรงไม่พูดอะไรอีกได้แต่ปลอบใจบุตรสาว
“อวี้หราน พอได้แล้ว เ้าไม่ต้องคิดอะไรมากรอไป๋หย่วนฮ่าวคนนั้นมาถึงแล้วเ้าค่อยมัดใจเขาก็พอที่เหลือปล่อยให้เป็หน้าที่แม่เอง” ขอเพียงอวี้หรานมัดใจไป๋หย่วนฮ่าวได้ที่เหลือนางจะหาวิธีช่วย
หลิวหรงลูบท้องน้อยๆของนางอีกทั้งยังเสาะหายาดีมาดื่มเพราะอยากตั้งท้องลูกชายก่อนที่ต้วนเจิ้งจะไม่อยู่นางไม่เชื่อว่าถ้านางคลอดลูกชายให้ต้วนเจิ้ง เขาจะไม่แต่งตั้งให้นางเป็ภรรยาเอกถึงตอนนั้นเื่ทั้งหมดก็จะแก้ไขได้ไม่ยาก
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหรงแววตาของต้วนอวี้หรานก็ทอประกายแห่งความหวังออกมา
“ท่านแม่วางใจได้ ข้าจะต้องมัดใจไป๋หย่วนฮ่าวให้เขาลุ่มหลงข้าถึงตอนนั้นข้าจะขอให้ท่านแม่ช่วย” ต้วนอวี้หรานคิดไปพลางพยักหน้าอย่างมั่นใจ
ตอนที่หลิวหรงปรึกษาหารือต้วนอวี้หรานเื่มัดใจไป๋หย่วนฮ่าวในห้องหนิงซูเยี่ยน แม่นมหนิงก็เอาแต่พูดด้านดีของไป๋หย่วนฮ่าวให้ต้วนชิงิฟัง
“คุณหนู งานหมั้นหมายกับจวนไป๋เป็เื่ดีการได้ดองกับจวนไป๋เป็ความปรารถนาในชีวิตของฮูหยินด้วยนะเ้าคะ ท่านลองคิดดูเถิดแม่ลูกคู่นั้นได้ยินชื่อคุณชายไป๋ก็รีบร้อนจัดแจง คุณหนูจะไม่เตรียมตัวอะไรสักหน่อยหรือเ้าคะ”
…...
[1]โล่วค่งเฟยเฟิ้งจินปู้เหยา คือชื่อปิ่นปักผมที่เป็รูปดอกไม้และมีชายห้อยลงมาสองเส้น
[2]ปี้เชี่ย คือ สรรพนามที่อนุภรรยา เรียกแทนตนเอง