ทั้งสามอารมณ์ดีเป็อย่างมากต่างพากันยิ้มแย้มออกมา ระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์กับระดับขอบเขตนักรบถือว่าเป็เส้นแบ่งเขตของความแตกต่าง ผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่ไม่ขยันหมั่นเพียรและสติปัญญาไม่เฉลียวฉลาดพอต่างติดอยู่ในระดับขอบเขตนี้ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ เย่ชิงหานอายุยังไม่ถึงสิบหกปีดีแต่มีพลังฝีมือขนาดนี้ ในตระกูลเย่นอกจากเย่ชิงอวี่แล้วก็มีแค่พวกเขาที่ถือว่าเป็กลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับเย่ชิงหานมากที่สุด ต่อไปหากเย่ชิงหานได้เป็ใหญ่พวกเขาก็จะพลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย
“โชคดีทะลวงผ่านได้สำเร็จ หลายวันมานี้ลำบากพวกเ้าแล้ว!” เย่ชิงหานก็อารมณ์ดีเช่นเดียวกัน รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงปรากฏเด่นอยู่เช่นเดิม
“อืม...นายน้อยหาน ข้ามีความสงสัยไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง?” เย่สือซานนิ่งเงียบไปสักพัก จากนั้นถามความสงสัยที่อยู่ภายในใจของพวกเขาทั้งสามออกมา “พลังฝีมือของท่านเพิ่มพูนอย่างก้าวะโถึงเพียงนี้ เป็เพราะดูดซับพลังจากผลึกัใช่หรือไม่?”
“ผลึกั?” เย่ชิงหานสะดุ้งใ นึกถึงพลังงานบริสุทธิ์ที่พรั่งพรูออกมาภายในทรวงอก ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพยักหน้าพูดขึ้น “น่าจะใช่ผลึกั!”
“ผลึกัไม่ใช่ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยปีสองปีถึงจะหลอมเอาพลังออกมาใช้ได้? แล้วทำไมแค่ไม่กี่วันท่านก็หลอมได้สำเร็จแล้วเล่า?” เย่สือซานเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
เย่ชิงหานเกาหัวแกรกๆ แล้วพูดขึ้น “เหตุผลโดยละเอียดข้าก็ไม่ทราบชัดเจน ข้าไม่ได้หลอมผลึกัเอง เป็เสี่ยวเฮยที่หลอม พลังงานมันไหลพรั่งพรูออกมาจากภายในมิติสัตว์อสูร”
“ฮะ...!” เย่สือซานและเย่สือชีมองตากันอย่างประหลาดใจ ยังคงมีอาการงุนงงไม่เข้าใจ เอ่ยถามขึ้นต่อ “แล้วเสี่ยวเฮยเล่า ตอนนี้พลังฝีมือของมันอยู่ในระดับใดแล้ว? แล้วหลังจากรวมร่างสัตว์อสูรท่านจะสามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือในระดับใดได้?”
“ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เสี่ยวเฮยกำลังหลับลึกอยู่คิดว่าคงเป็เพราะเพิ่งจะหลอมผลึกัเสร็จสิ้น ตอนนี้คงกำลังปรับพลังให้มั่นคงแข็งแรงอยู่ ต้องรอให้มันตื่นขึ้นมาก่อนถึงจะรู้ น่าจะประมาณอีกสักหนึ่งวัน!” เย่ชิงหานส่ายหัวพูดออกมา “พลังฝีมือน่ะรึ? ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ข้าคิดว่าถ้าสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นแรกขอบเขตจ้าวนักรบไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!”
เอ่ออ...! ทั้งสามมองตากัน ภายในใจปรากฏคำสามคำลอยขึ้นมา
“สัตว์ประหลาด!”
“เ้าหนูหาน ตอนนี้เ้าเก่งกว่าพี่สาวคนนี้แล้ว ต่อไปเ้าต้องปกป้องพี่สาวคนนี้ให้ดีๆ ล่ะ!” เย่ชิงอู่ยิ้มพรายออกมา หันหน้ามาพูดกับเย่ชิงหานด้วยปากน้อยๆ น่ารักบนใบหน้าที่สวยซื่อบริสุทธิ์ของนาง
“อืม!” เย่ชิงหานตะลึงไปชั่วครู่ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ว่าพลังฝีมือโดยรวมของตนเองในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเย่ชิงอู่ที่ได้ชื่อว่าเป็ผู้มีพร์อันดับหนึ่งในการฝึกยุทธ์ของตระกูลเย่แล้ว ดังนั้นจึงเกาหัวพูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วนว่า “พี่สาวอู่วางใจได้ ขอเพียงข้ามีความสามารถพอ ข้าจะปกป้องท่านไปทั้งชีวิต!”
“ทั้งชีวิตแน่นะ...” ได้ยินคำพูดที่เย่ชิงหานพูดออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจ ดวงตาทั้งคู่ของเย่ชิงอู่ยิ้มจนโค้งกลายเป็รูปจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากแดงชมพูเม้มเข้าหากันแล้วยิ้มออกมา “ตกลง คำพูดนี้เ้าพูดเองนะ ถึงเวลาจริงๆ อย่าบิดพลิ้วไม่ยอมรับเล่า...”
เด็กอายุสิบหกสามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นแรกขอบเขตจ้าวนักรบได้ ประโยคนี้หากพูดออกไปให้ใครฟังเขาคงคิดว่ากำลังพูดจาเลอะเลือนอยู่เป็แน่ แต่พวกเย่ชิงอู่ทั้งสามรู้ดีว่าเย่ชิงหานไม่ได้พูดจาเลอะเลือน มีสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง บวกกับมีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่ยอดเยี่ยมและพลังฝีมือระดับขอบเขตนักรบ แน่นอนว่าเย่ชิงหานสามารถทำอย่างที่พูดได้อย่างง่ายดาย ส่วนจะมีอะไรที่พิเศษน่าใยิ่งกว่านี้หรือไม่ คงต้องรอให้เสี่ยวเฮยตื่นขึ้นมาก่อนถึงจะรู้...
.................................
“ฆ่า!”
เป็เวลาเช้าตรู่ของอีกวัน เป็เช้าที่เต็มไปด้วยไอหมอกหนาทึบ ยอดเขาขาดกำลังเกิดการบุกโจมตีที่ดุดันรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งขึ้น
ในตอนเช้าของวันนี้ หลงไซ้หนานได้บอกกับนักรบระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาทั้งหมดว่า การบุกโจมตีครั้งนี้จะเป็ครั้งสุดท้าย เพราะในสถานที่ห่างออกไปจากที่แห่งนี้ไม่มากมีกองกำลังของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนกำลังรวมตัวกันมุ่งหน้ามาที่นี่ ถ้าหากวันนี้พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถบุกโจมตียอดเขาขาดให้แตกได้ จุดจบที่รอพวกเขาอยู่คือการถูกไล่ล่าสังหารที่ไม่จบไม่สิ้นของกองกำลังเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน วันนี้ทุกคนจะต้องแลกชีวิต หากไม่ชนะก็คือตายคาสนามรบ!”
“บุกโจมตีเข้าไป! บุกโจมตีเข้าไป!”
นักรบระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาระลอกแล้วระลอกเล่าบุกโจมตีเข้าใส่ยอดเขาขาด ศพจำนวนมากถูกโยนลงมา คนเจ็บจำนวนมากถูกหามกลับมา เืสาดกระจายไปทั่วหญ้าสีเขียวที่อยู่บนเขาถูกย้อมจนกลายเป็สีแดง สายธารเืไหลลงมาเป็ทางอีกครั้งจากถนนทางเดินคดเคี้ยวที่อยู่บนเขา...
“ยอดฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบทั้งหมดหยุดพักใน่เช้า ่บ่ายเตรียมตัวบุกโจมตียอดเขาขาดพร้อมกับข้าให้ราบเป็หน้ากลอง!” หลงไซ้หนานหันหน้ากลับมา ไม่อยากที่จะมองสภาพที่น่าอนาถบนยอดเขาขาดอีก นางนั่งขัดสมาธิลงกับที่เริ่มฝึกฝนเพื่อฟื้นฟูกำลังเตรียมตัวบุกโจมตีขึ้นไปอีกครั้งพร้อมกันกับนักรบระดับขอบเขตจ้าวนักรบที่เหลือใน่บ่าย
อืม!
นักรบระดับขอบเขตจ้าวนักรบทั้งหมดไม่ได้ให้ความสนใจต่อสถานการณ์บนยอดเขาขาดอีก ต่างพากันนั่งลงพักฟื้นฟูกำลังกายและกำลังิญญาไว้เพื่อการบุกโจมตีครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นใน่บ่าย
ครั้นแล้วอำนาจในการออกคำสั่งการสู้รบบนยอดเขาถูกถ่ายโอนมาให้เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และเยว่ชิงเฉิง จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้ออกคำสั่งมากมาย เพียงแค่ดูแลให้แต่ละกลุ่มบุกโจมตีขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกลุ่มที่ส่งออกไปเจ็บตายลงก็สั่งกลุ่มที่เตรียมรออยู่บุกขึ้นไปเสริมทดแทน
ถนนเส้นเล็กๆ ที่คับแคบบนยอดเขาแห่งนี้กลายเป็เครื่องบดเนื้อไปในทันที เนื่องจากการสู้รบติดต่อกันหลายวัน นักรบของทั้งสองฝ่ายตายไปเกือบจะสามพันคนแล้ว เพียงแต่ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ดีว่าถนนเส้นเล็กๆ คับแคบเส้นนี้คือจุดยุทธศาสตร์ที่จะต้องต่อสู้แย่งชิงเพื่อยึดกุมไว้ให้ได้ ฝ่ายใดที่สามารถยึดครองถนนเล็กๆ คับแคบเส้นนี้ได้ ฝ่ายนั้นก็จะสามารถได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้
เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน้าที่จะอาศัยถนนเส้นเล็กๆ คับแคบเส้นนี้ในการสกัดกั้นถ่วงเวลาการบุกโจมตีของนักรบเขตปกครองเทพาไว้ เพื่อรอให้ทัพเสริมมาถึงและสุดท้ายบดขยี้นักรบเขตปกครองเทพาทั้งหมดไม่ให้เหลือ ส่วนนักรบเขตปกครองเทพา้าที่จะบุกโจมตีแนวป้องกันด่านหน้าบนยอดเขาขาดให้แตกให้ได้ก่อนที่ทัพเสริมของทั้งสองเผ่าจะมาถึง ต้องจัดการพวกนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่บนยอดเขาทั้งหมดให้ได้ก่อน จากนั้นการรับมือกับทัพเสริมของทั้งสองเผ่าที่อยู่ด้านหลังจึงจะมีความได้เปรียบขึ้นมาบ้าง
.................................
พระอาทิตย์เริ่มค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปทางทิศตะวันตก เืบนยอดเขาขาดยังคงไหลนองอยู่ไม่ขาด แนวป้องกันของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนยังคงแ่าไม่สามารถตีให้แตกได้ ดูราวกับมีนักรบคนเถื่อนระดับราชันย์คนเถื่อนมายืนขวางกั้นไว้ด้วยตนเอง
หลงไซ้หนานที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นพลันลืมตาขึ้น คิ้วกระบี่ทั้งสองข้างกระตุกขึ้นในทันที ใบหน้าที่องอาจห้าวหาญปรากฏรังสีสังหารที่เย็นเฉียบขึ้น ยอดฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบสิบกว่าคนที่นั่งอยู่โดยรอบััได้ถึงรังสีแห่งการฆ่าฟันรุนแรงที่แผ่พุ่งออกมา จึงต่างพากันลืมตาขึ้นมาพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยรังสีสังหารจับจ้องขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนั้น ทันใดนั้นบรรยากาศภายในบริเวณนั้นคล้ายกับว่าถูกหยุดลงและเย็นะเืขึ้นมาทันที
เช้ง!
หลงไซ้หนานลุกยืนขึ้นอย่างช้าๆ มือค่อยๆ ชักกระบี่ัคำรามออกมาจากฝัก ดวงตากวาดมองยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายที่อยู่ด้านหลัง มองเห็นพวกเขาล้วนเตรียมพร้อมกันทั้งหมดแล้ว กระบี่ัคำรามในมือชูสูงขึ้น จากนั้นฟันลงไปยังทิศทางที่ยอดเขาอยู่พร้อมกับร้องคำรามออกมา
“ฆ่า!”
ไม่มีคำพูดใดๆ มากมาย นักรบระดับขอบเขตจ้าวนักรบสิบกว่าคนด้านหลัง ะเิรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างบ้าคลั่ง พุ่งทะยานติดตามหลงไซ้หนานขึ้นไปบนยอดเขา
พวกเฟิงจื่อทั้งสามที่อยู่ตีนเขา มองเห็นหลงไซ้หนานนำกองกำลังบุกโจมตีออกไปเป็ครั้งสุดท้าย พวกเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก เริ่มจัดเตรียมกองกำลังติดตามออกไป เท้าเหยียบลงไปยังถนนบนเขาที่ละเลงอาบไปด้วยเืเหนียวข้น จากนั้นจึงต่างพากันพุ่งติดตามออกไป
“นักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนทั้งหมดต้านทานไว้ให้ได้ ขอเพียงพวกเ้าต้านทานการบุกโจมตีระลอกนี้ได้ชัยชนะก็จะเป็ของพวกเรา!” เยาขาข่าที่อยู่บนสุดของยอดเขายืนมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านล่างตีนเขาอยู่ตลอด ตอนนี้มองเห็นหลงไซ้หนานนำกำลังบุกโจมตีออกมาอีกครั้งจึงรู้ได้ทันทีว่านี่เป็การโจมตีระลอกสุดท้าย และเป็การโจมตีที่ดุดันรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง เขายิ้มออกมาจางๆ เริ่มสั่งการจัดเตรียมขบวนเพื่อตั้งรับ ในขณะเดียวกันก็ล้วงมือเข้าไปหยิบตัวส่งสัญญาณภายในทรวงอกออกมาไว้ในมือ รอจนกระทั่งพวกหลงไซ้หนานบุกโจมตีขึ้นมาบนเขาถึงได้บีบทำลายตัวส่งสัญญาณออกไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้