บทที่ 90 คำขอของอู๋ฮ่าวอวี่
เสียงหัวเราะของหลินหรูดึงความสนใจของทุกคนไปได้ไม่น้อย
เมื่อเห็นเย่จื่อเฉินที่อยู่ตรงกลางระหว่างไป๋หยางกับซูเหยียน ทุกคนจึงเข้าใจทันที
ความในใจของไป๋หยางที่มีต่อซูเหยียนตอนเรียนมัธยมปลายนั้น ทุกคนต่างก็รู้กันหมด แต่ครั้งนี้ซูเหยียนกลับพาผู้ชายอื่นมาด้วย เห็นท่าทางที่สนิทสนมนั่นก็พอจะรู้ได้ว่าเป็แฟนกัน
ถ้าคุณชายไป๋คนนี้อารมณ์ดีก็แปลกแล้ว
หลายคนเข้ามามุงดูเหตุการณ์ ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจที่เย่จื่อเฉินช่างไม่รู้ฐานะของตัวเองเอาเสียเลย
คุณชายไป๋คนนั้นเป็ใคร เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนร่างกายแทบจะซื้อตัวเย่จื่อเฉินได้เลยนะ
ท่าทางยาจกแบบนี้ ไม่โดนคุณชายไป๋เล่นงานจนตายก็นับว่าอายุยืนมากแล้ว
แต่ทว่า…
ดูเหมือนสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็เย่จื่อเฉินกำลังเล่นงานไป๋หยางมากกว่า
เย่จื่อเฉินแสร้งทำหน้าตามึนงง มองดูหลินหรูที่หัวเราะร่วนอยู่ด้านข้าง โดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองเป็ผู้หญิงเลย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างใสซื่อ
“อะไรเหรอ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลินหรูหัวเราะอย่างกับคนไปแตะโดนจุดขำ ไม่ว่าจะทำยังไงก็หยุดไม่ได้ เย่จื่อเฉินยังคงทำหน้าไร้เดียงสา ก่อนผายมือออกพร้อมกับพูดขึ้น
“สรุปว่าเป็อะไรเนี่ย ในสังคมคนรวยอย่างพวกเธอใช้ราศีแนะนำตัวเองกัน ฉันก็บอกราศีไปแล้วไง ทำไมถึงยังหัวเราะอยู่อีก ฉันพูดผิดตรงไหนเหรอ บอกฉันมาสิ ฉันเพิ่งเข้ามาในสังคมแบบนี้เป็ครั้งแรก ยังไม่รู้กฎเกณฑ์อะไร ขอโทษด้วยนะ”
ในขณะที่พูดอยู่ เย่จื่อเฉินก็ยังยกมือขึ้นมาแสดงท่าทางบอกว่าขอโทษอีกด้วย หลินหรูที่กว่าจะกลั้นหัวเราะได้จากการช่วยเหลือของอู๋ฮ่าวอวี่ พอได้เห็นแบบนั้นก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ซูซู แฟนเธอนี่ขี้เล่นชะมัดเลย”
ถ้าที่พื้นมีเตียง บางทีหลินหรูอาจจะลงไปนอนเกลือกกลิ้งก็เป็ได้
ครั้งนี้ กลายเป็เย่จื่อเฉินที่พูดไม่ออก
ถึงขั้นหัวเราะขนาดนี้ได้ มุกเมื่อครู่นี้มันตลกมากเลยเหรอ?
ไป๋หยางก็มองเย่จื่อเฉินที่ทำหน้าตาใสซื่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เ้าหมอนี่ตั้งใจแน่ๆ
ไป๋หยางแอบด่าอยู่ในใจ
“คุณชายไป๋ อย่าไปสนใจเ้าตัวตลกนี่เลย ลดฐานะตัวเองเปล่าๆ”
เด็กหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาเดินออกมาจากทางด้านข้าง แล้วดึงไป๋หยางเล็กน้อย เย่จื่อเฉินที่ได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดกลั้วหัวเราะ
“นายว่าฉันเป็ตัวตลกเหรอ?”
“ว่านายแล้วจะทำไม? กลับไปส่องกระจกดูซะบ้าง ไม่เจียมตัวแล้วยังจะเล่นลูกไม้กับคุณชายไป๋อีก”
ผู้ชายคนนั้นตัดสินใจอาศัยเหตุการณ์นี้ตีสนิทกับคุณชายไป๋ พอเขาพูดขึ้นมาหลายคนที่อยู่รอบๆ ก็ตีอกชกหัวกันพัลวัน แอบพูดกับตัวเองในใจว่าทำไมไม่คว้าโอกาสนั้นไว้
“นายเพิ่งกินใบกระเทียมมาหรือเปล่าเพื่อน?”
เย่จื่อเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผู้ชายคนนั้นอึ้งไป
ก่อนที่จะมาเขากินซาลาเปาไส้ใบกระเทียมมาจริงๆ แต่เ้าหมอนี่รู้ได้ยังไง?
“นายจะมายุ่งอะไรกับฉัน?”
“ฉันก็แค่อยากเตือนนายด้วยความหวังดีน่ะ ใบกระเทียมนั่นมันติดฟันนายอยู่”
พรูดดด!
ทุกคนที่อยู่รอบๆ หัวเราะดังลั่นโถง เด็กหนุ่มที่มีใบผักติดฟันอยู่ก็หน้าแดงก่ำ ก่อนจะรีบผละตัวออกไปจากกลุ่มคน
ดูท่าว่าจะไปจัดการเอาผักนั่นออกที่ห้องน้ำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
คนอื่นหัวเราะก็หัวเราะกันแค่แป๊บเดียว แต่หลินหรูกลับหัวเราะไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับเอาแว่นขยายมาซูมเข้าซูมออก
เย่จื่อเฉินมองหลินหรูด้วยสีหน้าเป็ห่วง ก่อนจะพูดกับอู๋ฮ่าวอวี่
“เธอไม่ได้เป็อะไรใช่ไหมเพื่อน”
“เย่จื่อเฉิน ทำไมนายถึงตลกขนาดนี้ นายเป็นักแสดงตลกใช่ไหม?”
หลินหรูหัวเราะจนน้ำตาแทบไหล เย่จื่อเฉินมุมปากกระตุกค้าง
ถ้าเกณฑ์มาตรฐานของตลกจะต่ำขนาดนี้ คนทั้งโลกก็เป็นักแสดงตลกกันได้หมดแล้วล่ะ
แต่ในตอนที่หลินหรูได้หลุดปากพูดชื่อเย่จื่อเฉินออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันกลับไปเข้าหูของไป๋หยาง
“นายทำยังไงเหรอเพื่อน ถึงได้ตามจีบดาวโรงเรียนของพวกฉันได้”
“ก็อยู่ที่มหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงนี่แหละ เป็ไง มหาลัยชั้นนำเลยนะ อย่าอิจฉาฉันล่ะ”
เป็อีกครั้งที่เย่จื่อเฉินตอบไม่ตรงคำถาม ทางฝั่งหลินหรูจึงได้ะเิหัวเราะลั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะสุดจะอัศจรรย์
“มหาลัยชั้นนำ มหาลัยชั้นนำ”
ไป๋หยางที่เห็นว่าเย่จื่อเฉินไม่ได้ตกหลุมพรางตามที่คิดเอาไว้ จึงเลิกคิ้วขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ
“เชิญพวกนายตามสบายเลยนะ ฉันจะไปดูทางนั้นหน่อย”
“อ้าว นายราศีเมษ นายยังไม่ได้บอกชื่อนายกับฉันเลยนะ”
พรืด!
ไป๋หยางเกือบลื่นเสียหลักล้มไปกองกับพื้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะของหลินหรูเรียกได้ว่าประหลาด เย่จื่อเฉินเริ่มจะรับไม่ได้กับเสียงหัวเราะที่น่าอายของเธอ ถึงยกมือขึ้นจิ้มไปที่ตัวเธอเล็กน้อย
ทันใดนั้น หลินหรูก็หัวเราะไม่ออกทันที
“เธอหยุดหัวเราะแบบนี้ได้แล้ว การหัวเราะเป็เื่ดีก็จริง แต่หัวแบบนี้มันไม่ได้ดีต่อร่างกายนะ”
หลินหรูลูบตรงตำแหน่งที่เย่จื่อเฉินเพิ่งกดนิ้วลงไปอย่างตกตะลึง เพียงครู่เดียวเธอก็ถลึงตามองเย่จื่อเฉิน
“ไอ้คนลามก นายลวนลามฉัน อู๋ฮ่าว ซูซู พวกเธอสองคนไม่ว่าอะไรเลยหรือไง”
โวยวายอยู่นาน หลินหรูถึงได้สงบลง
เย่จื่อเฉินถึงกับเหงื่อตก ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุเท่ากับซูเหยียน ไอคิวไม่ได้แตกต่างจากเด็กสิบกว่าขวบเลยด้วยซ้ำ
“เย่จื่อเฉิน นายอย่าถือสาเลยนะ หลินหรูก็นิสัยเหมือนเด็กแบบนี้แหละ”
อู๋ฮ่าวอวี่เอ่ยขอโทษแทนหลินหรูด้วยท่าทางซื่อๆ เย่จื่อเฉินหัวเราะ ก่อนจะหยิบเอาบุหรี่ออกมาจากกล่องสองมวน ก่อนจะส่งให้เขาไปหนึ่งมวน
“ฉันไม่ใช่คนใจคอคับแคบขนาดนั้นนะ เมื่อกี้ฉันหวังดีกับเธอจริงๆ”
“นายเป็หมอเหรอ?”
อู๋ฮ่าวอวี่จุดบุหรี่ แล้วเอ่ยถามลองเชิงดู
“ก็ถือว่าใช่แหละ”
เย่จื่อเฉินตอบคลุมเครือ อู๋ฮ่าวอวี่ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเบาๆ
“นายไม่ต้องถ่อมตัวหรอก สามารถหาจุดฝังเข็มในร่างกายคนได้รวดเร็วและแม่นยำขนาดนั้น แบบนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ”
“งั้นเหรอ”
สำหรับเย่จื่อเฉินที่ได้รับตำราการแพทย์ของไท่ซางเหล่าจวินมา การหาจุดฝังเข็มบนร่างกายมันก็เป็แค่เื่เล็กเท่านั้น
“เย่จื่อ ฉันขอถามเื่ส่วนตัวหน่อยได้ไหม”
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนซื่อของอู๋ฮ่าวอวี่ เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วมุ่น แล้วจึงพยักหน้าตอบรับ
“ว่ามาสิ”
“ตอนที่นายกดจุดให้หลินหรูเมื่อกี้นี้ นายใช้พลังหรือเปล่า…”
“...”
เย่จื่อเฉินเงียบไป
พอเห็นสีหน้าที่แปลกไปของเย่จื่อเฉิน อู๋ฮ่าวอวี่จึงรีบอธิบาย
“นายอย่าคิดมากนะ คือปู่ฉันสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีน่ะ ไปหาทั้งหมอจีนหมอแผนปัจจุบันมาไม่น้อย แต่อาการป่วยกลับไม่ดีขึ้นเลย ก่อนหน้านี้มีอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าจะรักษาอาการป่วยของปู่ จะต้องเป็อาจารย์ที่สามารถถ่ายทอดพลังลมปราณถึงจะรักษาได้ถูกจุด ฉันถึง…”
บนใบหน้าของอู๋ฮ่าวอวี่ประดับไว้ด้วยความรู้สึกผิดก่อนจะพูดขึ้น
“เมื่อกี้ฉันวู่วามไปหน่อย ฉันขอโทษนายด้วยนะ”
เมื่อเห็นท่าทางที่จริงใจนั้นของอู๋ฮ่าวอวี่ เย่จื่อเฉินก็นึกถอนหายใจ
่นี้ดูเหมือนว่าเขาความรู้สึกไวไปหน่อย แค่ลมพัดต้นหญ้าปลิวนิดหน่อยก็ตื่นตัวแล้ว
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้ว พร้อมกับโบกมือปฏิเสธ “ฉันใช้พลังก็จริง แต่ฉันไม่ใช่อาจารย์ถ่ายทอดพลังลมปราณอะไรนั่นหรอกนะ ไม่รู้ว่าจะช่วยปู่นายได้หรือเปล่า”
แผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล ผู้มากความสามารถมีอยู่มากมาย
เย่จื่อเฉินไม่คิดว่าเขาจะถูกขนานนามว่าอาจารย์ถ่ายทอดพลังลมปราณ เพียงเพราะการเรียนรู้เพียงตื้นเขินของเขาหรอก
อู๋ฮ่าวอวี่ที่ได้ยินก็ตาลุกวาว ก่อนจะพูดขึ้น “ไม่เป็ไร แค่นายลองลงมือดูก็ดีแล้ว แต่ว่า่นี้ปู่ฉันไม่ได้อยู่ที่ปิงเฉิง ไม่รู้ว่า…”
เย่จื่อเฉินพยักหน้ายิ้มรับพร้อมพูดขึ้น “ปู่นายกลับมาเมื่อไร ค่อยบอกฉันก็ได้”
ตึกตึก…
เสียงฝีเท้าดังขึ้นตามทางเดินมาห้องน้ำ จากเสียงฝีเท้าก็บ่งบอกได้แล้วว่ามากันหลายคน
ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเย่จื่อเฉินกับอู๋ฮ่าวอวี่
คนที่อยู่ข้างหน้าสุดก็คือไป๋หยาง
“โอ๊ะ! มาเข้าห้องน้ำก็ต้องเอาพรรคพวกมาด้วยเหรอ? ว้าว สังคมคนรวยนี่สุดยอดจริงๆ”
เย่จื่อเฉินส่ายหน้าถอนหายใจ แล้วจึงทิ้งบุหรี่ลงพื้นก่อนจะเหยียบให้ดับ ก่อนจะพาอู๋ฮ่าวอวี่เดินออกไปข้างนอก
แต่ไป๋หยางที่ยืนอยู่ด้านหน้ากลับยื่นมือออกมาขวางพวกเขาเอาไว้
“อะไร จะให้ฉันไปกับนายด้วยเหรอ? ฉันกลัวว่าฉันจะใหญ่เกินไปน่ะสิ เดี๋ยวจะไปแย่งซีนบารมีของนายเอาได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้