น้ำเสียงของฉีเทียนหย่วนสั่นสะท้าน ควบคุมตนเองไม่ได้ วังทั้งหลังก็แผ่ซ่านความโศกเศร้าตามเขาไปด้วย วังที่เงียบเหงาแห่งนี้มีความเศร้าเสียใจเพิ่มขึ้นหลายส่วน
“ผู้าุโฉี ผู้าุโฉินพูดกับข้าว่า ท่านรับใช้เขามาทั้งชีวิต ยอมเสียสละบุตรชายเพื่อปกป้ององค์ชายน้อยของแคว้นกู่ โดดเดี่ยวมาตลอด...” เซียวเฉินถอนหายใจและเอ่ยช้าๆ “ยอมเผากายเนื้อรั้งอยู่เฝ้าพิทักษ์แคว้นกู่มาหนึ่งพันเจ็ดร้อยปีเพื่อหาผู้สืบทอดแคว้นกู่...”
เวลานี้ พวกเขาสามคนขอบตาแดงก่ำ
นี่คือคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับใด จงรักภักดีถึงเพียงไหน! ถึงกับสละได้แม้กระทั่งเืเนื้อเชื้อไขของตนโดยไม่เสียดาย ทั้งยังกลายเป็ิญญาเฝ้าพิทักษ์แคว้นกู่มาเกือบสองพันปี ความสามารถเช่นนี้เรียกได้ว่าไร้ผู้เทียบเทียม
เสียสละบุตรชายแท้ๆ นี่คือปณิธานและความแน่วแน่มากเพียงใด ฉีเทียนหย่วนปวดใจหรือไม่? แน่นอน นั่นคือบุตรชายแท้ๆ เืเนื้อเชื้อไขของเขา จะไม่เ็ปได้อย่างไร ต้องเจ็บเหมือนโดนคว้านหัวใจแน่นอน แต่เขาไม่มีทางเลือก บ้านและแคว้นยากจะสมบูรณ์พร้อมทั้งสองทาง ไม่มีแคว้นไหนเลยจะมีบ้าน!
เขาได้แต่สละบุตรชายของตน
ทุกครั้งที่นึกถึง ฉีเทียนหย่วนจะดื่มสุราน้ำตารินเพียงลำพัง เ็ปจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
เพียงสองเื่นี้ก็สมควรได้รับการสรรเสริญไปชั่วกาลนาน
“นายท่านไม่ได้ลืมข้า...ไม่ได้ลืมข้า...” ฉีเทียนหย่วนร้องไห้โฮ ฉู่เยียนหรานที่อยู่ด้านข้างก็ร่ำไห้ดุจดอกสาลี่ต้องสายฝน ส่วนเซียวเฉินและฉู่หยวนก็น้ำตาคลอให้กับฉีเทียนหย่วน
จากนั้น ฉีเทียนหย่วนก็หัวเราะ
เสียงหัวเราะผ่อนคลายปานนั้น เขารู้สึกถึงความผ่อนคลายที่ไม่เคยมีมาก่อน แคว้นกู่มีทายาทสืบทอดแล้ว ภาระหน้าที่ของเขาจึงสิ้นสุดลง เขาสมควรพักผ่อนเสียที หนึ่งพันเจ็ดร้อยปีที่ผ่านมา เขาเหนื่อยมากพอแล้ว
เขาอยากไปโลกเบื้องล่าง อยู่เป็เพื่อนบุตรและภรรยาตน...
วิ้ง วิ้ง!
แคว้นกู่สั่นะเื ควันสีขาวสายหนึ่งล่องลอย บุรุษเส้นผมหงอกขาวทั่วศีรษะเดินออกมา ใบหน้าเด็ดเดี่ยว แต่เวลานี้มีคราบน้ำตาเต็มหน้า แววตาเหม่อลอยและคะนึงหา
เห็นแล้วทำให้คนรู้สึกเ็ป
ฉีเทียนหย่วนในเวลานี้คู่ควรที่จะทำให้คนปวดใจได้จริงๆ
ฉีเทียนหย่วนยิ้มให้พวกเซียวเฉิน “ฮ่าฮ่า แคว้นกู่มีทายาทสืบทอดแล้ว ข้าก็ไปอย่างวางใจได้เสียที ต่อไปขอฝากชะตาของแคว้นกู่ไว้กับพวกเ้า”
ว่าแล้ว ฉีเทียนหย่วนก็ลูบเส้นผมหงอกขาวเต็มศีรษะของตนและเอ่ยเรียบๆ “ข้าชรามากแล้ว เฝ้าต่อไปไม่ไหวและไม่คิดจะเฝ้าอีก หนึ่งพันเจ็ดร้อยปีแล้ว บุตรและภรรยายังรอข้าอยู่ ข้าต้องไปหาพวกเขา...”
คำพูดของฉีเทียนหย่วนทำให้คนโศกเศร้าและปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
เขามองเซียวเฉินด้วยสายตาคาดหวังและรอคอย จากนั้นเอ่ยอย่างขมขื่น “สหายน้อย ฝากเ้าบอกแทนข้าประโยคหนึ่ง”
เซียวเฉินใจกระตุก พยักหน้ารับ
“ผู้าุโโปรดสั่งมา”
ฉีเทียนหย่วนยิ้มกล่าว “ฝากเ้าบอกนายท่านว่า ไม่ต้องรู้สึกละอายใจต่อข้า ข้าไม่เคยคิดแค้นอะไรเลย ลูกผู้ชายสมควรเสียสละชีวิต เข้าสู่สนามรบเพื่อแว่นแคว้น ได้ติดตามนายท่าน ชีวิตนี้ข้าไม่เสียใจ! ข้าไปก่อนล่ะ ให้นายท่านถนอมตัวด้วย...”
จากนั้น ฉีเทียนหย่วนเดินจากไปไกล เงาร่างจางลงทุกที จนสุดท้ายก็หายลับ
“พี่น้องทั้งหลาย ภรรยารัก ลูกข้า พวกเ้าเดินช้าหน่อย ข้าแก่แล้ว เดินไม่ไหว พวกเ้ารอข้าก่อน...” คำพูดนี้ดังก้องในวังโบราณ สะท้านใจของคนทั้งสาม
คนทั้งสามยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังอยู่เนิ่นนาน
ต่อมา พวกเขาก็จากไป พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนอยู่ที่นี่ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาต้องจากไปแล้ว
ซ่า!
มีเงาร่างสามสายพุ่งออกมาจากผิวทะเลสาบ นั่นคือเซียวเฉิน ฉู่หยวน และฉู่เยียนหราน
เวลานี้ คนทั้งสามผ่านการสืบทอดแคว้นกู่แล้ว เรียกได้ว่าพวกเขามีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นแบบก้าวะโ ความสามารถรุดหน้า และยิ่งโดดเด่นมากขึ้น
“พวกเราจำเป็ต้องคิดบัญชีรายหนึ่งกันหน่อย” เซียวเฉินเอ่ยช้าๆ สายตาหยิ่งทะนง ตอนแรกพวกเขาถูกกองทัพขั้นเสวียนเต๋าบีบคั้นจนเกือบตาย เซียวเฉินจดจำบัญชีแค้นรายนี้ไว้แล้ว
บัดนี้ ได้เวลาคิดให้ชัดเจน
ตูม!
เซียวเฉินเห็นร้อยหลี่ตรงเบื้องหน้าในพริบตา จากนั้นใจสะท้าน กองทัพพวกนั้นไม่ได้จากไปแต่เฝ้าอยู่ริมทะเลสาบตลอดเวลา นี่คือกำลังรอพวกเขาสามคนหรือ?
จากนั้นก็ยิ้ม ไม่ต้องเสียเวลาไปหาพวกเขาพอดี
วินาทีถัดมา เื่ที่ทำให้พวกเขาสามคนใสุดขีด คือผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าทุกคนะโลงจากสัตว์ปิศาจ คุกเข่าข้างเดียวกับพื้น เคารพเซียวเฉินสุดขีดดุจขุนนางเจอผู้ปกครอง เื่นี้ทำให้เซียวเฉินใ
“ทัพชิงหลง คารวะนายท่าน!” ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าที่เป็หัวหน้ากล่าววาจา สายตาเคารพนบนอบ หลายสิบคนด้านหลังก็เอ่ยโดยพร้อมเพรียงเช่นกัน เสียงดังสะท้านฟ้า
“พวกเราคารวะนายท่าน!”
ไม่เพียงฉู่หยวนและฉู่เยียนหรานเท่านั้นที่รู้สึกใ แม้แต่เซียวเฉินเองก็ใเช่นกัน เห็นทุกคนคุกเข่าข้างเดียวก็อดสงสัยไม่ได้ “พวกเ้าเรียกข้าว่านายท่าน?”
“ท่านคือผู้สืบทอดของแคว้นกู่ พวกเราคือกองทัพองครักษ์ส่วนตัวของผู้ปกครองแคว้นกู่ ย่อมต้องเรียกท่านอย่างเคารพว่านายท่าน นับจากวันนี้ไป ท่านคือผู้ปกครองแคว้นกู่” ผู้เป็หัวหน้าเอ่ย
เซียวเฉินใสุดขีด
“พวกเ้า...”
หัวหน้าองครักษ์คนนั้นเอ่ยอย่างเคารพ “ข้าคือหัวหน้าทัพชิงหลง มีชื่อว่าหยางเยี่ยน หนึ่งร้อยยี่สิบคนที่อยู่ด้านหลังข้าคือคนส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ของทัพชิงหลง” เอ่ยถึงตรงนี้ เสียงของหยางเยี่ยนก็ทุ้มต่ำ
“ในอดีต แคว้นกู่เคยมีองครักษ์สี่ทิศ ตั้งชื่อตามสัตว์เทพทั้งสี่ ได้แก่ ชิงหลง ไป๋หู่ จูเชวี่ย และเสวียนอู่ ส่วนองครักษ์ทิศอื่นๆ ถูกทำลายหมดในยามที่แคว้นกู่ประสบภัย แม้ทัพชิงหลงเราจะไม่ได้ถูกทำลาย แต่กลับเหลืออยู่ไม่กี่คน และเฝ้าพิทักษ์แคว้นกู่ที่ตกต่ำมาหนึ่งพันเจ็ดร้อยปีแล้ว...”
คำพูดของหยางเยี่ยนทำให้คนทั้งสามะเืใจ
พวกเซียวเฉินค่อยๆ คลายความแค้น ทัพชิงหลงทำเพื่อเฝ้าพิทักษ์แคว้นกู่ มีความผิดอันใด? ส่วนพวกเขากลับเป็ฝ่ายไม่เคารพและบุกรุกเข้ามาแทน
ชั่วขณะ เซียวเฉินก็นับถือทุกคนที่อยู่เบื้องหน้า เพราะพวกเขาก็เฝ้าพิทักษ์แคว้นกู่มาหนึ่งพันเจ็ดร้อยปีเหมือนกับฉีเหล่า เป็วีรบุรุษโดยแท้จริง
คู่ควรที่จะได้รับความเคารพยกย่อง
“พี่ใหญ่หยาง สภาพการณ์ของทัพชิงหลงในปัจจุบันเป็อย่างไร?” เซียวเฉินถาม
หยางเยี่ยนยิ้มแบบละอายใจ “แคว้นกู่ประสบภัย พวกเราสู้รบอย่างดุเดือด แต่ในที่สุดก็ต้านทานกฎ์และการรุกรานของแคว้นอื่นไม่ได้ องครักษ์สี่ทิศสูญเสียผู้เข้มแข็งนับหมื่น ทัพชิงหลงสูญไปหนึ่งหมื่นกว่าคน ความสามารถของพวกเราก็ถูกทำลายไปหนึ่งขั้น ไม่กล้าแข็งเช่นในอดีต”
“ในอดีต พวกเราล้วนเป็ผู้เข้มแข็งขั้นยุทธ์์ ส่วนหัวหน้าองครักษ์สี่ทิศเป็ผู้เข้มแข็งขั้นยุทธ์์ระดับสูงสุด แต่ละคนในกองทัพองครักษ์ล้วนมีความสามารถขั้นยุทธ์์สามชั้นฟ้าขึ้นไป”
หยางเยี่ยนเอ่ยถึงตรงนี้ ดวงตาก็ฉายแววภาคภูมิ
“แต่ตอนนี้ความสามารถของพวกเราเสียหายหนัก บวกกับถูกวันเวลากัดกร่อน พวกเราทั้งหมดจึงถดถอยมาอยู่ขั้นเสวียนเต๋า ตอนนี้ข้าอยู่ขั้นเสวียนเต๋าระดับสูงสุด ส่วนบรรดาพี่น้องล้วนอยู่ประมาณขั้นเสวียนเต๋าห้าชั้นฟ้า”
ซี้ด!
คนทั้งสามสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
สีหน้าที่มองพวกหยางเยี่ยนมีแววใ นี่มิใช่บอกว่าในอดีตแคว้นกู่มีกองทัพองครักษ์ขั้นยุทธ์์ถึงสี่หมื่นกว่าคนหรือ! ต้องรู้ก่อนว่า ดินแดนเทียนเสวียนในปัจจุบันมีผู้เข้มแข็งขั้นยุทธ์์อยู่น้อยมาก ทว่าแคว้นกู่กลับมีนับหมื่นคน น่าตกตะลึงโดยแท้
ตอนนี้เหลือทัพชิงหลงอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบคน ความสามารถของทุกคนล้วนอยู่ขั้นเสวียนเต๋าขึ้นไป หากนำกองทัพอันไร้เทียมทานเช่นนี้ออกไปก็แทบกวาดล้างแว่นแคว้นได้ เป็การคงอยู่ที่ไร้เทียมทานโดยแท้!
สมเป็แคว้นกู่ มีรากฐานลึกล้ำขนาดนี้
“ต่อไปพวกเราจะร่วมรุกร่วมถอยกับนายท่าน เป็แนวหน้าจู่โจมศัตรู ทุ่มเทสุดชีวิตให้ภารกิจสำเร็จเพื่อนายท่าน” พวกหยางเยี่ยนกล่าวโดยพร้อมเพรียง ดวงตาฉายแววจงรักภักดี
เซียวเฉินยิ้ม
“แม้ข้าจะได้เป็ทายาทของผู้ปกครองแคว้นกู่ แต่พี่ใหญ่หยางและทุกคนต่างเป็พี่ใหญ่ ดังนั้น พวกท่านไม่ต้องเรียกข้าว่านายท่าน เรียกชื่อข้าตรงๆ ว่าเฉินเซียวก็พอ พวกท่านล้วนเป็ผู้าุโ ข้าจะเย่อหยิ่งได้อย่างไร” เซียวเฉินกล่าวอย่างจริงใจ
เื่นี้ทำให้พวกหยางเยี่ยนแสดงสายตาชื่นชม เวลานี้ พวกเขายอมรับเซียวเฉินอย่างแท้จริง เซียวเฉินในยามนี้เหมือนนายท่านในอดีตราวกับพิมพ์เดียวกัน รักผู้ใต้บังคับบัญชาดุจพี่น้อง
“ได้” หยางเยี่ยนตอบด้วยรอยยิ้ม