ก่อนที่เจียงหยุนจะพูดต่อ เย่เฉินก็รีบพูดแทรกทันที
"ข้าก็ขอโทษเ้าไปแล้วไง เ้า้าอะไรจากข้าอีก…."
ความเงียบอันอึมครึมเข้าปกคลุมทั่วสนามประลอง ทุกสายตาจับจ้องไปที่ เจียงหยุน และ เย่เฉิน
เจียงหยุนไม่ตอบทันที เขาขยับมือเรียกใช้พลัง สร้างรูปแบบปกปิด์ขึ้นทันใด พร้อมกับสร้างดาบน้ำแข็งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดาบนั้นวาววับด้วยพลังอันเย็นะเื ก่อนที่ใครจะทันได้คาดคิด เขาฟันดาบนั้นไปที่มือของเย่เฉินที่สวมแหวนไว้อยู่ ทำให้มือของเย่เฉินขาดออกมาในทันที เจียงหยุนไม่รอช้า แช่แข็งมือขาดนั้นทันทีด้วยน้ำแข็งจากพลังของเขาเอง
เสียงร้องโหยหวนของเย่เฉินดังขึ้นด้วยความเ็ป ใบหน้าของเขาซีดเผือด ทุกคนในสนามประลองต่างตกตะลึงกับการกระทำของเจียงหยุน หลินชิงอี้ ก็เช่นกัน นางใจนแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง แม้ว่านางจะสามารถหยุดเจียงหยุนได้ แต่นางกลับไม่ลงมือ เพราะเชื่อในตัวศิษย์ของตนว่าเขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็ไปตามที่นางคาดคิด มันทำให้นางยากที่จะเชื่อและโกรธจัดจนปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกไปที่เจียงหยุน
เจียงหยุนทรุดลงต่อหน้าแรงกดดันมหาศาลนั้น และ รูปแบบปกปิด์ก็พังทลายในทันที แต่ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉย หลินชิงอี้ถามด้วยความโกรธ
"เย่เฉินก็ขอโทษเ้าแล้ว ทำไมเ้ายังถึงต้องตัดมือของเขาอีก.."
เจียงหยุนเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสายตาที่สงบ ก่อนตอบเสียงเรียบเฉย
" ท่านบอกให้ข้าขออย่างอื่นแต่ข้าไม่เคยบอกเลยสักคำว่าจะไม่เอาแหวนของเย่เฉินนะ ผู้าุโสูงสุด "
หลินชิงอี้อึ้งไป ก่อนที่จะได้พูดอะไรเพิ่มเติม เจียงหยุนก็พูดต่อ "ถ้าการที่กล่าวคำขอโทษมันสามารถลบล้างทุกอย่างที่ได้ทำลงไป โลกนี้คงเป็์ที่ไม่มีน้ำตา แต่แท้จริงแล้วโลกใบนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างที่ท่านคิดนะ ในความคิดของข้าคำขอโทษเป็เพียงเครื่องมือหนึ่งที่เราใช้ในการสื่อสารความรู้สึกผิดและขอโอกาสในการแก้ไขต่อผู้ถูกกระทำและไม่ใช่เพียงแค่กล่าวขอโทษแล้วทุกอย่างที่เขาทำก็เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นงั้นเหรอท่านเห็นว่าข้าอายุ 10 ขวบหรือไง ท่านผู้าุโสูงสุด "
คำพูดของเจียงหยุนทำให้ หลิน ชิงอี้ นิ่งไป นางพยายามกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วกล่าวอย่างเ็า
" เ้ายกโทษให้เขาไม่ได้เลยหรือ? เขาพึ่งจะเคยผิดพลาดเอง "
เจียงหยุนตอบกลับทันที " สมมุติข้าตัดมือของเขาออกมาครั้งแรกแล้ว ข้าขอโทษเขา เื่นี้เขายกโทษให้ข้าได้หรือไม่? บางที่เขาอาจจะตอบว่า ได้ แต่ในใจเขากลับไม่คิดเช่นนั้นแน่นอน ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่เก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ? มันเลยจำเป็ต้องทิ้งอะไรบ้างอย่างไว้เตือนใจเขาเสมอ เมื่อการกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้อยู่แล้ว เมื่อถูกกระทำก็ต้องกระทำกลับ นั้นคือวิถีของข้า "
หลินชิงอี้เงียบ นางเข้าใจดีว่าความรู้สึกและความสัมพันธ์นั้นเป็สิ่งที่นางรู้เื่น้อยมาก นางเป็คนที่ค่อนข้างสันโดษ และโลกภายในใจของนางก็ไม่ได้ซับซ้อนมากเช่นเดียวกับเจียงหยุนและนางอายุยังไม่เกิน 30 ด้วยซ้ำ
พระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าเื่นี้เริ่มแล้วร้ายลงไปทุกเมื่อเขาได้ส่งเสียงภายในมาถึง หลินชิงอี้ พวกเขาคุยกันอยู่สักครู่ก่อนที่นางจะกล่าว "เ้าเอาแหวนไปได้ แต่เ้าต้องคืนมือให้เย่เฉิน"
เจียงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบตกลง "ได้ แต่เขาต้องก้มหัวคุกเข่าขอโทษข้า"
คำพูดนั้นทำให้ทุกคนในสนามตกตะลึง บางคนเต็มไปด้วยความโกรธ บางคนกลับเต็มไปด้วยความเคารพในใจ หลินชิงอี้มองเจียงหยุนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความโกรธและกล่าวว่า
"เ้ายังเห็นว่าข้าเป็อาจารย์อยู่หรือเปล่า?"
เจียงหยุนยิ้มเ็า ดึงแหวนออกจากนิ้วแล้วโยนมือที่แช่แข็งไปที่เย่เฉินทันที ทันใดนั้นจางซินเย่ก็ปรากฏตัวขึ้น นางรับมือขาดนั้นไว้และเริ่มใช้น้ำทำการรักษาเย่เฉินอย่างเร่งด่วน
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามที่เขาคาด และไม่เหลืออะไรให้เขาทำแล้ว เจียงหยุนจึงกล่าวคำอำลาแก่พระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์ของเขา และผู้าุโคนอื่น ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป มูชูหยวนเองก็หมดความสนใจ และเดินออกไปทันที
ขณะที่เขากำลังจะออกจากสนามประลอง หลินชิงอี้ ส่งเสียงภายในมาหาเขา
"หลังจากนี้ 3 วันจงมาหาข้าที่ยอดเขาผู้าุโสูงสุด "
เจียงหยุนหันมาทำความเคารพก่อนจากไปด้วยการเดินผ่าน เย่เฉินที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของพี่สาวของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ความอับอาย ความเ็ป เขาสูญเสียทั้งชื่อเสียง เกียรติ และอาจารย์ของเขา เขาคิดในใจอย่างเร่งด่วนว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้แหวนคืนมา เขาพยายาม ขอร้องให้ ศิษย์พี่ทั้ง 4 คน เอาแหวนคืนมาให้เขา พวกนางทั้งหมดเงียบ เย่เฉินเห็นแบบนั้นก็พ่นเืออกมาและสลบลงไป พวกนางเห็นแบบนั้นก็รีบพาเขาไปรักษาทันที
เมื่อเจียงหยุนจากไป ทุกคนต่างพูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย บางคนใ บางคนสงสาร บางคนชื่นชม บางคนโกรธ อารมณ์มากมาย เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เกิดความโกลาหลไปหมด
ขณะที่เจียงหยุนเดินออกมาจากสนามประลอง เขาสังเกตเห็นศิษย์หญิงคนหนึ่งปกปิดใบหน้าด้วยผมสีเขียวที่ยาวสลวย แต่รูปร่างที่ดีของนางไม่สามารถซ่อนความงดงามได้ นางคือ มู่ชูหยวน ศิษย์คนที่สามของหลินชิงอี้ และศิษย์น้องของเจียงหยุนนั้นเอง เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่นางมาหาเขา
มู่ชูหยวนถามด้วยน้ำเสียงสงสัย "ท่านทำเกินไปหรือเปล่า?"
เจียงหยุนได้ยินดังนั้นก็หันกลับไปมองนางและตอบด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวังเล็กน้อย "อะไรที่ทำเกินไป?"
จากนั้นเขาก็ลอยตัวแล้วบินจากไปโดยไม่สนใจนางแม้แต่น้อย
มู่ชูหยวนใมากเพราะปกติ เจียงหยุน ใจดีและพูดจาเป็มิตรเสมอกับนาง
"อะไรทำให้ศิษย์พี่ของข้าเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรือ?"
เจียงหยุนเปิดระบบขึ้นมา เสียงระบบดังขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ตัดมือของบุตรแห่งโชคชะตา เย่เฉินเสียค่าโชค 200,000 และโฮสต์ได้รับค่าวายร้าย 2,000,000 แต้ม ตอนนี้เย่เฉินเหลือค่าโชค 2,500,000 แต้ม]
เจียงหยุนถามระบบด้วยความสงสัย "แล้วแหวนที่ข้าแย่งมาละ?"
ระบบตอบ [มีโอกาสที่แหวนจะกลับไปหาบุตรแห่งโชคชะตาได้]
เจียงหยุนคิดอยู่สักพักก่อนที่จะวางแผนต่อไป ในขณะนั้นระบบก็ถามต่อ
"ทำไมโฮสต์ถึงคืนมือให้เขา ทำไมไม่ทำลายมือของเย่เฉินเสีย? ์ก็ไม่น่ายืนมือเข้ามายุ่งด้วย "
เจียงหยุนตอบด้วยรอยยิ้มเ็า " ข้าได้ทิ้งของขวัญสุดพิเศษไว้ในมือนั้นแล้ว "
ระบบถามต่อ [แล้วกระดูกศักดิ์สิทธิ์ของท่านละ]
เจียงหยุนตอบ " ข้าไม่สามารถเชื่อมต่อความรู้สึกกับกระดูกได้แม้แต่นิดเดียวแต่ข้าก็มีแผนสำหรับมันแล้วเมื่อถึงเวลานั้นข้าอาจจะมีกระดูกศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่จำกัดก็ได้ "
ระบบ [ (˶°ㅁ°) !!]
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้