แสงแดดยามเช้าทอผ่านผนังโลหะของค่ายฝึก อาเธอร์ ไคล์ นั่งอยู่ในแถวกับเพื่อนร่วมค่าย ท่ามกลางเสียงประกาศหน้าที่ในวันนี้ ครูฝึกเดินผ่านแถวด้วยท่าทางเ็า สายตาของเขาไล่ตรวจดูเด็กหนุ่มสาวแต่ละคนก่อนหยุดที่อาเธอร์
“ไคล์ วันนี้แกไปทำความสะอาดโรงเก็บอุปกรณ์!” เสียงคำสั่งดังขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ จากบางคนในแถวที่รับรู้ว่าเป็หน้าที่สำหรับ “ตัวไร้ค่า”
อาเธอร์ลุกขึ้นและเดินออกไปเงียบๆ เขาไม่ได้แปลกใจ เพราะในค่ายนี้เผ่าอสูรอย่างเขาไม่เคยได้รับโอกาสทำสิ่งที่สำคัญกว่านี้อยู่แล้ว
โรงเก็บอุปกรณ์ ตั้งอยู่ปลายสุดของค่ายฝึก เป็อาคารเล็กๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยหญ้าขึ้นรกและความเงียบสงัด อาเธอร์ผลักประตูเก่าที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออก ก่อนจะพบว่าภายในเต็มไปด้วยอาวุธเก่า หุ่นฝึกซ้อมแตกหัก และกล่องอุปกรณ์ที่ไม่มีใครแตะต้องมาหลายปี
เขาหยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดพื้น ฝุ่นลอยคลุ้งไปทั่วจนต้องเบือนหน้า แต่ในขณะเดียวกัน สายตาของเขาก็สะดุดกับกล่องไม้เก่าที่วางซ้อนอยู่มุมหนึ่ง
“นั่นอะไร...” เขาพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เดินเข้าไปเปิดฝากล่อง
ภายในกล่องมี คริสตัลขนาดเล็ก รูปร่างเหมือนทรงกลมที่มีรอยร้าวปรากฏอยู่บนพื้นผิว สีของมันหม่นหมองเหมือนของที่ไร้ค่า แต่เมื่ออาเธอร์หยิบมันขึ้นมา คริสตัลกลับเริ่มเปล่งแสงจางๆ
อาเธอร์ชะงัก สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและประหลาดใจ แสงที่เปล่งออกมานั้นเบาบาง แต่ชัดเจนพอที่จะทำให้เขารู้ว่ามันกำลังตอบสนองต่อการััของเขา
ในชั่วพริบตา เขารู้สึกเหมือนมีภาพบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว ราวกับเห็น สนามรบที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง ทหารในชุดเกราะโบราณ และเงาของสิ่งมีชีวิตมหึมาที่เขาไม่สามารถอธิบายได้
เสียงในหัวดังขึ้นเบาๆ “ความจริงอยู่ในเงามืด... เผ่าพันธุ์ของเ้าไม่เคยถูกลืม...”
อาเธอร์สะดุดลมหายใจ สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะเก็บคริสตัลกลับ เสียงประตูโรงเก็บก็เปิดออกอย่างแรง
“แกทำอะไรอยู่ ไคล์?”
เสียงของ วิคเตอร์ ทหารรุ่นพี่ดังขึ้น พร้อมเงาของเขาที่ทอดยาวเข้ามาในโรงเก็บ
อาเธอร์รีบเก็บคริสตัลไว้ในกระเป๋า แต่สายตาของวิคเตอร์ไวพอที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ “แกซ่อนอะไรอยู่?” เขาเดินเข้ามาใกล้
“มันไม่เกี่ยวกับนาย” อาเธอร์ตอบพยายามกดเสียงให้นิ่งที่สุด
วิคเตอร์หัวเราะหยันก่อนจะก้าวเข้าไปประชิด “ฉันว่ามันเกี่ยว ถ้าแกคิดจะเล่นเป็นักเวท หรืออยากจะเป็ฮีโร่ ฉันว่าคงต้องทำให้แกเข้าใจอะไรบางอย่าง”
พูดจบ วิคเตอร์ผลักอาเธอร์อย่างแรงจนเขาล้มลงกับพื้น ก่อนจะเตะไปที่ซี่โครงของเขาอย่างจัง ความเจ็บแปลบพุ่งไปทั่วร่าง
“อย่าคิดว่าเผ่าอสูรอย่างแกจะได้อะไรไปมากกว่าความอัปยศ จำไว้ ไคล์”
อาเธอร์พยายามลุกขึ้น มือของเขายังคงกดคริสตัลที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อแน่น วิคเตอร์เห็นดังนั้นยิ่งรู้สึกหงุดหงิด “แกยังกล้าเก็บมันไว้อีกเหรอ?” เขายกเท้าขึ้นหมายจะเตะซ้ำ
ก่อนที่วิคเตอร์จะลงมืออีกครั้ง อาเธอร์เบี่ยงตัวหลบพร้อมดึงเศษไม้ที่วางอยู่ข้างๆ มาใช้เป็อาวุธป้องกันตัว ถึงแม้จะไม่ได้ตอบโต้ด้วยความรุนแรงเต็มที่ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้วิคเตอร์หยุดชั่วคราว
“แกอยากสู้เหรอ ไคล์?” วิคเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ขณะที่จับจ้องอาเธอร์ด้วยสายตาดูถูก
“ฉันไม่อยากสู้กับนาย แต่ฉันจะไม่ยอมให้โดนซ้อมโดยไม่มีเหตุผล” อาเธอร์ตอบด้วยเสียงกร้าว
วิคเตอร์ยิ้มเยาะ “แกมันแค่สามดาว แกไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้น”
หลังคำพูดสุดท้าย วิคเตอร์เดินออกไป ทิ้งไว้เพียงความโกรธและความสับสนในใจของอาเธอร์
หลังจากเหตุการณ์นั้น อาเธอร์กลับไปที่ลานฝึก ร่างของเขาเต็มไปด้วยาแจากการปะทะกับวิคเตอร์ เขานั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ หายใจลึกเพื่อระงับความเจ็บ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้ๆ ก่อนที่ ไลซ่า เด็กสาวเผ่าอสูรที่ถูกเกณฑ์มาพร้อมเขาจะเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับแก?” ไลซ่าถาม น้ำเสียงแฝงด้วยความเป็ห่วง ขณะที่มองรอยช้ำบนใบหน้าและแขนของเขา
อาเธอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเบาๆ “ไม่มีอะไร แค่บทเรียนอีกบทจากวิคเตอร์”
ไลซ่าส่ายหัวเบาๆ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “มันไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น... แต่ฉันก็เดาได้ว่าครูฝึกคงไม่สนใจ”
“บางครั้งฉันก็สงสัยนะ...” เธอเอ่ยเบาๆ “พวกเราถูกสอนให้คิดว่าทุกอย่างในชีวิตวัดได้จากพลังหรือระดับดาว... แต่มันจะจริงเหรอ?”
คำพูดนั้นทำให้อาเธอร์เงยหน้าขึ้นมองเธอ เขาไม่ตอบอะไร แต่ความสงสัยในคำพูดนั้นเริ่มก่อตัวในใจเขา
คืนนั้น อาเธอร์นั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ มือหนึ่งแตะกระเป๋าเสื้อที่ซ่อนคริสตัลไว้ เสียงของไลซ่ายังคงดังก้องในหัว
“ถ้ามีบางอย่างที่สำคัญกว่าพลังในคริสตัลล่ะ?”
เขามองคริสตัลในมือด้วยความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับคำถามในใจที่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้