นาเซียเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เมื่อได้ยินเสียงดังจากอีกฝั่งของปราสาท ห้องทำงานดยุกกาบริเอลถูกปิดสนิท แต่เสียงด้านในกลับเล็ดลอดออกมา นาเซียร้อนรนเธอบอกไม่ถูกว่าควรจะเริ่มจัดการอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ ในตอนนี้คือเธอจะต้องทำให้อานิชโตสงบสติอารมณ์ เพราะเธอรู้ดีว่านอกจากจักรพรรดิแคลบอร์นแล้ว ทุกคนล้วนไม่กล้าต่อกรกับเขาได้
“ท่านดยุกคงยังไม่รู้ว่าหากคนในครอบครัวไม่อนุญาต น้องสาวของข้าก็ไม่สามารถที่จะแต่งงานตามอำเภอใจได้” อานิชโตเอ่ยเสียงดัง นาเซียหยุดยืนด้านหน้าประตูก่อนที่ดยุกกาบริเอลจะหันไปคว้าเอกสารที่มีตราประทับสำนักราชวังจากลอร์ดเฮนรี่
“แล้วหากเป็การประทานงานแต่งงานจากจักรพรรดิแคลบอร์นละ ลอร์ดว่าตระกูลดาร์เรลควรปฏิเธอหรือไม่” ดยุกกาบริเอลยื่นชูเอกสารขึ้น ในนั้นมีชื่อดาร์เรล นาเซีย และลูเซียง มิกาเอล เขียนไว้อย่างชัดเจน นาเซียมองชื่อตัวเองในหนังสือนั่นที่มีตราประทับของจักรพรรดิแคลบอร์น ดยุกกาบริเอลทำอะไรมักจะรอบคอบเสมอ รวมทั้งเื่เช่นนี้ด้วย อานิชโตเงียบเสียงดูเหมือนเขาไม่สามารถโต้เถียงถึงอำนาจคำสั่งจักรพรรดิแคลบอร์นได้ นาเซียยื่นขวางระหว่างคนทั้งสองก่อนเอ่ยขึ้น
“หากข้าแต่งงานกับท่านดยุกแล้ว ท่านจะต้องอนุญาตให้ข้ากลับไปยังคฤหาสน์ดาร์เรลทุกสัปดาห์” นาเซียจ้องมองอย่างจดจ่อ
“แน่นอน หากเ้า้า” มิกาเอลกล่าวอย่างไม่ร้อนร้น อานิชโตกำมือแน่ก่อนจะสะบัดตัวหันหลังกลับออกไป
“เซีย...ข้าเตือนเ้าแล้วนะ” ยังไม่ทันที่อานิชโตจะพ้นประตู เขาหันกลับมาบอกเธอ นาเซียอยากจะถอนหายใจออกมาเสียเดียวนั้น
การแต่งงานไม่ใช่ว่าจะเริ่มได้อย่างง่ายนัก เธอจะต้องเดินทางไปยังวิหารคาธาลิน่าเทวสถานศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรแคลบอร์น
มิกาเอลสั่งให้เฮนรี่จัดเตรียมชุดส่งมาให้ยังที่พักของเธอ ชุดแต่งงานสีขาวประดับหินอัญมณีเล็ก ๆ นาเซียมองตัวเองในกระจก หญิงสาวที่เพียงวางสีหน้าเรียบเฉยก็ดูน่าหวั่นเกรงได้ ไม่แปลกที่ผู้คนจะกล่าวว่าท่าทางเธอดูยิ่งยโส อันสวมสร้อยคออัญมณีสีเขียวเข้มลับกับสีนัยต์ตาของเธอ นาเซียถูกนำพาไปยังรถม้าที่เตรียมไว้ มิกาเอลยืนรออยู่ด้านข้างทางขึ้นรถม้า เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคลุมทับด้วยสูทสีน้ำเงินเข้ม
นาเซียส่งยื่นมือให้มิกาเอลคิ้วหนาขมวดเล็กน้อย แววตาดูเรียบเฉยไม่บ่งบอกว่าตื่นเต้นยินดีสักนิด แม้จะไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นเขายิ้มยินดี แต่ภายในใจกลับรู้สึกอึดอัด การเดินทางไม่ต่างกลับตอนที่เดินทางมาที่ปราสาทแห่งนี้นัก นาเซียยืนนิ่งเพียงครู่เมื่อก้าวขาลงจากรถม้า เธอทำตัวให้คุ้นชินไม่ได้ เขาหันมองมาที่เธอเล็กน้อยก่อนจะคว้าตัวเธออุ้มลอย
“ดะ..เดี๋ยวค่ะท่านดยุก” นาเซียร้องออกมาด้วยความใ ที่อยู่ ๆ เขาก็อุ้มเธอขึ้น
“อดทนไม่นานพิธีไม่มากนัก” เขาเอ่ยเพียงเล็กน้อย ก่อนจะวางเธอด้านหน้าประตูทางเข้าโบสถ์ พิธีไม่นานเหมือนที่เขากล่าว เพียงไม่นานทั้งเธอ และดยุกกาบริเอลก็ต้องมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิ และราชินีแห่งแคลบอร์น โดยมีลาฟาซนั่งอยู่ด้านข้าง สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยพอใจนัก
“เซีย...ข้าเสียดายเ้านัก ไม่คิดว่าเ้าจะแต่งงานกับดยุกกาบริเอลได้ แต่ข้าก็ยินดีกับพวกเ้าทั้งสองเช่นกัน” ราชินีมาเรน่าเอ่ย ใบหน้านางไม่ได้ดูเกรี้ยวโกรธใด ๆ อีกทั้งยังมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้แก่เธอ
“เ้าคงเบื่อที่จะตามบุตรชายของข้าแล้วซินะ” จักรพรรดิพุชคาเรนกล่าวทีเล่นทีจริง นาเซียยกมุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อยพลางหันมองไปที่ลาฟาซ เขาขยับลุกก่อนเอ่ยขอตัวออกไป
มิกาเอลไม่รีรอแม้ราชีนีจะกล่าวจัดเตรียมที่พักในราชวังไว้ให้ แต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะกลับกาบริเอลทันที นาเซียทำสีหน้าย่นยู้ไม่พอใจ แต่อยู่แล้วจะได้อะไรเล่า ในเมื่อสิ่งที่เธอตามหานั้นอยู่ในเขตกาบริเอล ทันทีที่มิกาเอลกลับถึงปราสาทบ่าวรับใช้ในปราสาททั้งหมดต่างยืนเรียงรายรอต้อนรับ นาเซียรู้สึกประหม่าเมื่อสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอ
“ต่อไปนี้นางคือดัชเชสแห่งกาบริเอล หากผู้ใดปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ให้เกียรติ ข้าจะถือว่ามันผู้นั้นไม่ให้เกียรติแก่ข้าเช่นกัน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยดังอย่างวางท่าเคร่งขรึม มิกาเอลยกมือโอบประคองแผ่นหลังของเธอให้เดินตามก่อนจะมีชายแก่ที่เขาเรียกว่าบัตเลอร์ ยืนโค้งตัวงออยู่ตรงหน้า
“รายการบัญชีทั้งหมด เ้าสามารถขอดูได้จากลอร์ดเควิน” เขาหันใบหน้ามาบอก ก่อนจะพาเดินตรงมายังชั้นสอง
“ต่อไปเ้าใช้ห้องนี้ได้ตามสบาย” นาเซียใหันใบหน้ามองเขา มันคือห้องนอนที่เขาใช้อยู่ประจำ แต่เหตุใดถึงให้เธอใช้กัน นาเซียยืนมองเธอไม่คิดว่าดยุกกาบริเอลจะอนุญาตให้เธอใช้ห้องนี้ได้
“แต่นี่เป็ห้องของท่าน...” นาเซียเอ่ยย้ำ
“เ้าคือภรรยาข้า สมควรที่จะได้รับ” เธอไม่ได้หมายถึงสิ่งสมควร แต่เธอต้องใช้ห้องนอนเดียวกับเขา นาเซียมองอันที่กำลังสั่งให้คนงานขนกล่องเสื้อผ้าของเธอ และเครื่องประดับมายังห้องของเขา ในเมื่อสัญญาคือการที่จะช่วยเหลือให้เขาหายจากอาการป่วยนอนไม่หลับได้ เธอก็ควรจะต้องอยู่ร่วมกับเขาในยามค่ำคืน นาเซียผ่อนลมหายใจอย่างเบา ๆ ก่อนที่เขาจะผละตัวออกไปที่ห้องทำงาน นั่นทำให้เธอพอได้ผ่อนคลายความประหม่าไปได้บ้าง อันนำชุดไปจัดไว้อีกห้องถัดไปก่อนจะเดินกลับมาพร้อมชุดสำหรับใส่ในยามค่ำคืน ผ้าไหมเนื้อบางที่มีลูกไม้ประดับดูแตกต่างจากชุดนอนที่เธอเคยสวมใส่ดั่งเช่นทุกครั้ง นาเซียจับยกมองดูก่อนจะโยนทิ้งไปบนเตียง
“เ้าไม่มีชุดอื่นให้ข้าแล้วหรือยังไงกัน” นาเซียหันมาถามอัน สาวใช้ส่ายหน้า ก่อนจะสั่งให้สาวใช้อีกสี่ห้าคนเข้ามาดูแลเื่ความงามก่อนค่ำคืนแรกสำหรับเขาและเธอ
นาเซียนั่งรออยู่ที่เตียงอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะที่ประตูจะเปิดออก มิกาเอลเดินเข้ามาพร้อมกับขวดไวท์ในมือ
“เ้าจะดื่มด้วยกันไหม” เขาถามในขณะที่วางแก้วสองใบลงที่โต๊ะกลมด้านข้างเตียงใหญ่ของเขา นาเซียไม่กล้าที่จะเอาตัวเองออกจากผ้าห่มนั่นจนเขาหันมามองอีกครั้งถึงความไม่ปกติของเธอ
“ห้องนี้ยังอบอุ่นไม่เพียงพออีกหรือ” มิกาเอลเอ่ยอย่างสงสัย เพราะเธอเอาแต่ขลุกตัวไว้ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
“ไม่...ข้าเพียงชอบห่มมันไว้ เพราะคุ้นชินต่างหาก” เธออายเกินกว่าที่จะให้เขาเห็นยามที่เธอสวมชุดนอนนั่นได้ แต่ดูเขาก็ไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็อย่างไร มิกาเอลรินไวท์ลงในแก้วตัวเองก่อนที่เขาจะกระดกรวดเดียวหมด แล้วหันมาที่เธอก่อนเอ่ยขึ้น
“คืนนี้เ้าก็นอนพักผ่อนก่อนเถิด หากเกิดอะไรขึ้นให้สั่นกระดิ่งเรียกบ่าวรับใช้ ข้าจะไปพักที่ห้องทำงาน” กล่าวจบมิกาเอลก็ลุกออกจากห้องไป ปล่อยให้เธองุนงงสงสัย แต่อย่างน้อยเธอก็โล่งใจที่ไม่ต้องทนร่วมเตียงกับเขา จริง ๆ นาเซียถอนหายใจแรงก่อนจะซุกตัวลงนอน อย่างน้อย ๆ ที่นอนของเขาก็นุ่มกว่าที่นอนเธอหลายเท่า นาเซียกลิ้งตัวพลิกไปมา