ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ย่าครับ ย่ารดา”
น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูดังเรียกชื่อของหญิงชราที่กำลังนอนอยู่ภายในห้อง ทำให้คุณหญิงย่าของวังตื่นขึ้นมากลางดึก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วตั้งตัวลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงกับหัวนอน ั์ตาสวยของหญิงวัยเจ็ดสิบเหลือบมองนาฬิหาแขวนตรงผนังห้องที่บอกเวลาตีสอง พลันในหัวก็สงสัยว่าทำไมหลานชายของตนถึงมาเคาะประตูเรียกดึกดื่นป่านนี้
“ย่าครับ” คามินเรียกย่าของตนอีกครั้งเพราะยังไม่มีเสียงใดตอบกลับ
หญิงสูงวัยในห้องเลยเคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งบนวีลแชร์แล้วใช้พลังที่มีบังคับรถเข็นเปิดประตูออกมาที่หน้าห้อง
แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า…
แต่กระนั้นคนสูงวัยกลับไม่ได้รู้สึกใอะไร เธอเลือกที่จะใช้พลังของตนบังคับรถเข็นที่นั่งอยู่มุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่หน้าวัง คงเพราะรู้ดีว่าเวลานี้ไม่มีคนของวังอยู่แล้ว และเธอก็ได้กำชับคนงานทั้งหมดให้เปิดไฟให้สว่างจนทั่วก่อนเลิกงาน
บรรยากาศโดยรอบไม่ได้ดูน่ากลัวแต่ด้วยความเงียบงันเลยทำให้รู้สึกวังเวงอยู่ภายในใจไม่น้อย…มือเหี่ยวย่นขยับเพียงไม่นานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงโถงกลางของวังระหว่างบันไดทั้งสองข้างที่้าเคยเป็ห้องนอนของตนและอีกฟากหนึ่งที่เป็ห้องนอนของหลานชายในปัจจุบัน
แก๊ก แก๊ก แก๊ก ฟีดดดด
เสียงเหมือนคนกำลังหั่นอะไรสักอย่างดังขึ้นให้ได้ยินชัดเจน มือเหี่ยวๆ ไม่รอช้าบังคับทิศทางของรถตรงไปในห้องครัวของวังทันที ล้อที่หมุนแกว่งเป็วงกลมมาหยุดลงที่หน้าประตูทางเข้าครัวเพราะสายตาของหญิงชราปะทะเข้ากับร่างสูงของหลานชายตัวเองที่กำลังยืนหันหลังหั่นอะไรสักอย่างอยู่โดยมีหม้อต้มน้ำเดือดจัดอยู่ข้างตัวเขากับเสียงของไอน้ำพวยพุ่งจนฝาหม้อที่ปิดอยู่ขยับโยกไปมา
“คามิน ลงมาทำอะไรเวลานี้ลูก” ผู้เป็ย่าเอ่ยทักหลานชายของตัวเอง
“โอ๊ย!!!”
เสียงร้องของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้ย่ารดารีบตรงเข้าไปหาเขาทันทีโดยไม่ใส่ใจว่าชายหนุ่มจะหันกลับมาเห็นการใช้พลังแปลกๆ ของตัวเองหรือสงสัยว่าทำไมย่าของเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
“ไหน ให้ย่าดูหน่อย เจ็บมากไหม” มืออ้วนที่มีริ้วรอยตามอายุคว้าจับเข้าที่มือของหลานชาย
หลานของเธอโดนมีดบาดจนเือาบไปทั่วทั้งสามนิ้ว…นี่มันลึกเกินไปไหม?
“เจ็บมากไหมคามิน ไปโรงพยาบาลดีกว่า” เสียงของหญิงชราถามซ้ำแต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับจากหลานของตัวเอง เธอเลยเงยหน้าเพื่อมองเขา
“คะ…คามิน”
ดวงตาของย่ารดาเบิกโพลงเพราะตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเืจนมองไม่เห็นสีของผิวเนื้อ เสื้อที่เขาใส่อยู่ก็เปียกชุ่มจนแทบลืมว่าก่อนหน้ามันเป็สีอะไร
ทะ ทำไม…มันเหมือนครั้งนั้นที่เธอฝันเห็นคามินประสบอุบัติเหตุเลยล่ะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหญิงย่า…คุณหญิงย่าคะ ย่ารดา ได้ยินหนูไหมคะ”
เฮือก!!!
เสียงลมหายใจหอบหนักดังขึ้นพร้อมกับร่างกายของหญิงวัยเจ็ดสิบที่ลุกพรวดขึ้นนั่งทันทีหลังจากเหมือนถูกกระชากให้ตื่นขึ้นมา
“…ฉันแค่ฝันไปสินะ” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ย่ารดาคะ คุณหญิงย่า” เสียงของสาวใช้ในวังยังคงดังเรียกชื่อเธออยู่ที่หน้าห้อง
“เดี๋ยวฉันออกไป อีกสามสิบนาที” หญิงชราเค้นเสียงบอกให้ดังกว่าปกติ
“ได้ค่ะ หนูรออยู่หน้าห้องนะคะ”
“…”
คนสูงวัยไม่ได้ตอบอะไรอีก เธอนั่งนิ่งอยู่บนที่นอนแบบนั้นเพราะในหัวยังคาใจกับสิ่งที่ตนเองฝันไม่หาย แต่คงไม่มีอะไรหรอกอาจจะคิดมากไปอย่างที่คามินว่า อีกอย่างหลานฉันจะไปเข้าครัวทำกับข้าวแล้วโดนมีดบาดลึกอย่างนั้นหรอ…เป็ไปไม่ได้
สามสิบนาทีผ่านไป…
“คุณหญิงย่านอนดึกหรอคะหรือว่านอนไม่หลับ อยากให้คนครัวเตรียมอะไรเป็พิเศษไหมคะ”
เสียงของสาวใช้เอ่ยถามขึ้นเพราะวันนี้ผู้าุโของวังตื่นสายกว่าเวลาปกติไปมากโข เธอเลยอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ด้วยความเป็ห่วง
“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่นอนเพลินไปหน่อยน่ะ”
“อ๋อ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นไปตรงโถงหน้าวังเลยนะคะ”
“อืม”
พอได้รับคำตอบจากผู้มีอำนาจหญิงสาวด้านหลังก็เข็นรถพาหญิงชราสูงศักดิ์ไปที่ด้านหน้าของพระราชวังทันที ใช้เวลาไม่นานวีลแชร์ก็ถูกเคลื่อนมาใกล้จะถึงโถงเพดานสูงตรงกลางระหว่างบันได
“เอามีดกรีดแบบนี้หรอป้าช่อ แต่ต้องปอกเปลือกมันออกก่อนใช่ไหม”
“ใช่จ้ะ แบบนั้นแหละ”
เสียงของคนคุยกันดังให้ได้ยินั้แ่ที่ตัวของย่ารดายังไปไม่ถึงจุดหมาย
“นี่ รีบเข็นหน่อยสิ นั่นเสียงคามินใช่ไหม” ประโยคที่เพิ่งได้ยินทำให้ใจของคนมีอายุร้อนลนขึ้นมา
“ค่ะ คุณคามินลงมาแต่เช้า”
“มัวแต่พูดทำไม เข็นเร็วๆ หน่อย!” ย่ารดาเอ็ดสาวใช้ด้วยความใจร้อน
“ค่ะๆ คุณหญิงย่า”
“โอ๊ย!!!”
เสียงของชายหนุ่มร้องดังขึ้นในจังหวะเดียวกันกับที่รถเข็นของย่ารดามาหยุดอยู่ตรงกลางห้องโถงพอดี มือของหญิงชราที่กำลังง้างเพื่อจะใช้พลังของตนปัดมีดที่ชายหนุ่มถืออยู่ให้หลุดออกไปก็ต้องชะงักค้าง เพราะสายตาของผู้เป็ย่าเห็นร่างแบบบางของไมอายืนถือมีดปอกผลไม้ไว้ในมือแทน และหลานชายของเขาก็ไม่มีาแใดๆ
“นี่! คุณจับมีดแบบนั้นปอกผลไม้อะนะ เดี๋ยวนิ้วก็ได้ขาดกันพอดี ใครเขาสั่งเขาสอนให้ทำแบบนั้นกันนะ”
ไมอาลดมีดในมือแล้วหันปลายแหลมของมันทิ่มลงพื้นส่วนปากอวบอิ่มก็พูดบ่นไปด้วยอย่างลืมตัว
“แล้วอยู่ดีๆ มาแย่งมีดไปจากคนอื่นเนี่ยนะ ใครเขาสั่งเขาสอนให้ทำแบบนี้”
คามินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับสาวร่างเล็กที่สูงเพียงอกของเขาเท่านั้น
“นี่! เมื่อกี้ถ้าฉันไม่ดึงออกมาจากมือคุณ มีหวังมีดได้ปาดเข้าเนื้อนิ้วแหว่งไปแล้วมั้ง!” ั์ตาสวยจ้องเขม็งอย่างคนไม่ยอม
“เหอะ ใครขอล่ะ!” ตาคมจ้องกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“พอเลยๆ เถียงกันเป็เด็กๆ ไปได้” ผู้เป็ย่าเอ่ยขัดคนทั้งคู่แล้วก็แอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ คนเดียวอย่างโล่งอก เพราะเหตุการณ์ที่เธอฝันไม่เกิดขึ้นจริง
“สวัสดีค่ะคุณย่า…วันนี้หนูมีทาร์ตไข่สูตรหวานน้อยกับดอกกุหลาบมาฝากค่ะ”
แขนเล็กยกของในมือขึ้นเพื่ออวดหญิงผมขาวตรงหน้าเธออย่างภาคภูมิใจก่อนที่ป้าช่อและต้นอ้อจะมาเอาไปจัดใส่จาน และเอาดอกไม้ใส่แจกันให้
“ขอบคุณไมอานะลูก ที่ช่วยคามินไว้เมื่อกี้” มือของย่าเอื้อมมาคว้ามือเล็กๆ ของหญิงสาวใบหน้าสวยไปประคองไว้ทั้งสองมือ
“ไม่เห็นต้องขอบคุณไมอาเลยค่ะคุณย่า…”
“จริง ย่าไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ใครเขาขอให้ช่วย” เสียงทุ้มของคามินดังแทรกทำให้ไมอาหันหน้ากลับไปมองเขาตาขวางแบบไม่สนสายตาใคร
“…นี่เรามีแผลเป็ที่มือด้วยหรอ?”
หญิงสูงวัยจับมือข้างซ้ายของไมอาขึ้นมาแล้วลูบรอยแผลเป็รูปพระจันทร์เสี้ยวของเธอพลางจ้องมองมันอย่างพินิจ
“ค่ะ อุบัติเหตุทางรถยนต์สมัยเด็กที่พ่อกับแม่ของไมอาเสีย”
“อ่อ อย่างนั้นหรอ…” รดาวรรณพยักหน้าน้อยๆ
ถึงว่าล่ะ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนอีกแต่ไม่ใช่กับคามิน…เป็หนูไมอาเองสินะ