แม้รัตติกาลจะมาเยือน ศิษย์จากสำนักต่างๆ ในหลุมั์ก็ไม่ได้ตระหนักถึงเื่นี้เลย
ภายในเตาหลอม หยวนซิวจำนวนมากกำลังนั่งขัดสมาธิ ผู้มีรากอสูรชนิดพิเศษก็สามารถใช้พลังแห่งเปลวเพลิงเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกของตนได้เช่นกัน
“มองข้างบนสิ นั่นอะไรน่ะ?”
หนิงเทียนไม่ใช่คนเดียวที่ค้นพบไหใบนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้คนจำนวนมากก็เห็นไห้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีบางคนที่รีบพุ่งตรงเข้าหาไหใบนั้น
หนิงเทียนเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง ก่อนจะพบว่าไหใบนี้เติบโตบนเถาวัลย์ั์สองต้น ซึ่งเถาวัลย์ขนาดั์นี้ก็มีเถาวัลย์อีกเก้าเส้นคดเคี้ยวไปมา จะเป็ไปได้หรือไม่ที่มันจะอยู่บนเถาวัลย์ทุกเส้น?
ในขณะที่ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง ยอดฝีมือหยวนซิวที่รีบพุ่งเข้าหาไหใบนั้นก็เข้าไปข้างในแล้ว ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ห้วงอากาศสั่นะเื
ไหสั่นไหว ลวดลายลึกลับบนพื้นผิวเปล่งประกายแวววาว ทั้งยังปล่อยคลื่นผันผวนอันทรงพลังออกมาไม่หยุด
“ไม่ต้องลังเลแล้ว!” มีเสียงะโพร้อมร่างที่กระโจนขึ้นจากพื้นเตาหลอม
ผู้คนจำนวนมากบนพื้นดินที่ทนความร้อนในเตาหลอมไม่ได้ ตอนนี้พวกเขารู้ว่ามีไหอยู่้า ผู้ใดก็ตามที่มีอาวุธิญญาล้วนเรียกใช้พวกมัน แล้วจับกลุ่มสามคน ห้าคน ไปจนถึงสิบคน จากนั้นก็พากันเร่งรีบขึ้นไปด้วยพลังทั้งหมด
เมื่อศิษย์จากกลุ่มต่างๆ เข้ามาในไหมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงกรีดร้องและเสียงคำรามทุกชนิดก็มาพร้อมกับจุดจบของชีวิต การโจมตีรอบใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ไหสีเขียวหยกแตกต่างจากเตาหลอม ไม่มีจักรวาลใดอยู่ในไห ทว่ามีพลังงานหยินหยางที่ซ่อนความลึกลับของชีวิตและความตาย ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างอย่างรุนแรง
เมื่อเข้าไปด้านในไหสีหยก หนิงเทียนก็พบว่าภายในไหไร้ขอบเขตและแตกต่างจากพื้นที่ภายในเตาหลอมอย่างสิ้นเชิง
ร่องรอยแห่งชีวิตพัฒนาเป็แผนภาพหยินหยาง หมอกสีขาวอมเทาและหมอกสีดำเข้มสอดประสานรวมกัน ราวกับความโกลาหลที่ไม่อาจแยกออกได้ ทั้งยังมีอันตรายที่ไม่อาจคาดเดา
หนิงเทียนสังเกตการณ์อย่างเงียบงัน เขาพบว่าไหสีหยกนั้นกลืนกินชีวิตไม่ต่างกัน นอกจากนี้ยังจำเป็ต้องเปิดใช้งานด้วยโลหิต
เมื่อร่องรอยแห่งชีวิตทั้งเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าดวงรวมเข้ากับแผนภาพหยินหยาง ความสับสนวุ่นวายในไหก็เริ่มคลี่คลายลง ก่อนที่ฉากแปลกประหลาดของการแยกฟ้าดินครั้งแรกจะปรากฏขึ้นในดวงตาของหนิงเทียน
ในยามนั้น กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตเริ่มแกว่งไกวและสั่นไหว แผนที่จิติญญาและแผนภาพกระบี่ในเส้นลมปราณล้วนตื่นตัว พวกมันจับความลึกลับสูงสุดภายในไหสีหยกได้ และเริ่มวิเคราะห์กฎเกณฑ์
กระบวนการนี้กินเวลาค่อนข้างนาน เมื่อหนิงเทียนเข้าใจอย่างถ่องแท้ ภายในไหก็เกิดเสียงคำรามแห่งเต๋า เบิกฟ้าดินราวกับเวลาและสถานที่ได้เปลี่ยนแปลงไป
รอยประทับสองรอยปรากฏขึ้นในเส้นลมปราณที่สี่ในร่างของหนิงเทียน พวกมันเชื่อมโยงกันและปล่อยคลื่นประหลาดออกมา
ภายในไหสีหยกมีิญญาอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจคาดเดา แสงและเงากระบี่กันราวกับบทเพลง ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนให้เริ่มทำความเข้าใจ
หนิงเทียนร่อนออกไปจากไหสีหยกแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า ในสายหมอกสูงร้อยจั้งมีเถาวัลย์ก่อตัวเป็อ่างน้ำที่สูงประมาณห้าสิบจั้ง ปากอ่างมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งร้อยจั้ง และมีแสงไฟหลากสีสันส่องมาจากด้านใน
นี่คืออ่างมหาสมบัติใช่หรือไม่?
หนิงเทียนคิดกับตัวเองและกำลังจะพุ่งไปข้างหน้า คาดไม่ถึงว่าจะมีคนนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว
“หลินหวาจากสำนักร้อยอสูร!” หนิงเทียนแปลกใจเล็กน้อย ไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็ผู้นำเข้าไปคนแรก
หลังจากนั้นก็มีอีกเจ็ดแปดร่างกระโจนออกมา คนเหล่านี้ล้วนได้รับการปกป้องจากอาวุธิญญา และไม่เกรงกลัวพลังอัสนีบนใบเถาวัลย์
หนิงเทียนตามหลังมาอย่างใกล้ชิด และรีบดำดิ่งลงสู่อ่างนั้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เหนือศีรษะมีน้ำเต้าเจ็ดสีอยู่เคียงข้าง
ภายในอ่างมีสีสันหลากหลาย ซึ่งล้วนเป็อาวุธและเครื่องมือิญญามากมาย ทำให้เกิดการ่ชิงกันจากทุกผู้ที่เข้ามา
หนิงเทียนไม่รีบร้อนลงมือ นั่นเพราะเขาพบว่าอาวุธิญญาส่วนใหญ่ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับจื๋อซิว
“อ่างมหาสมบัติ! ทุกคนรีบมาเร็วเข้า!”
เหล่าหยวนซิวะโลั่น ซึ่งเป็การกระตุ้นอารมณ์อย่างแท้จริง
เมื่อศิษย์ของแต่ละสำนักได้ยินคำว่าอ่างมหาสมบัติ พวกเขาก็บ้าคลั่งและรีบรุดไปเป็หมู่คณะ
หนิงเทียนส่ายหัวอย่างหมดหวัง เตาหลอม ไหสีหยก และอ่างมหาสมบัติที่เกิดจากเถาวัลย์ั์นี้ล้วนเป็สิ่งที่อันตรายมาก
ภายในอ่างมหาสมบัติมีสมบัติแปดสิบเอ็ดชิ้น ซึ่งเป็อาวุธิญญาที่เหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญซิงซิว หยวนซิว และจื๋อซิว ทว่าอ่างมหาสมบัติยังไม่ได้เปิดใช้งาน และยามนี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถนำสมบัติที่อยู่ภายในออกไปได้
ครึ่งชั่วยามต่อมา ธารโลหิตหลั่งรินในอ่างมหาสมบัติ มันกลืนกินเพิ่มอีกเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าชีวิต อาวุธิญญาแปดสิบเอ็ดชิ้นที่ถูกคุมขังลอยสูงขึ้นสู่ท้องนภา แล้วพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันลึกลับ ซึ่งดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนให้ทำความเข้าใจ
“นี่คือทักษะต่อสู้หรือ?”
“ดูเหมือนจะใช่”
“ไม่แน่ว่าเราต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงก่อน เมื่อนั้นจึงจะได้รับสมบัติที่เกี่ยวข้อง”
ทุกคนกำลังคาดเดาไปต่างๆ นานา และไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้แน่ชัด ซึ่งมุมมองของหนิงเทียนนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่อาวุธิญญา แต่เป็กฎลึกลับในอ่างมหาสมบัติ
ั้แ่เตาหลอมไปจนถึงไหสีหยก ลามมายังอ่างมหาสมบัติ เถาวัลย์ั์กลืนกินไปแล้วอย่างน้อยสองพันชีวิต และข่าวนี้คงแพร่กระจายออกไปเรียบร้อยแล้ว
ศิษย์หลักหลายคนในเขตแรกย่อมต้องได้ยินเื่หลุมั์แห่งนี้ประกอบด้วยโชคลาภอันยิ่งใหญ่ และพวกเขาก็จะแห่กันมาที่นี่ รวมถึงศิษย์ฝ่ายในจากขอบเขตจิตหยั่งลึกก็คงมาที่นี่เพื่อคว้าโอกาสเช่นกัน
...
ขณะนี้เข้าสู่วันที่สามของการชุมนุมล่าสัตว์ฤดูเหมันต์แล้ว
ภายนอกพื้นที่สาธารณะ ปรมาจารย์จากสำนัก์และสำนักวั่นจื๋อกำลังฟังผู้าุโของสำนักร้อยอสูรรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดใกล้หลุมั์
“ดูเหมือนซิงซิวจะยังมีประโยชน์อยู่บ้าง”
“ในยามนี้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดของแต่ละฝ่ายมีเกินสี่พันรายแล้ว นับเป็ความสูญเสียครั้งใหญ่มาก”
“นี่ยังเป็ไปตามที่คาดไว้ ติดตามความคืบหน้าต่อไปเถิด”
ส่วนเยี่ยหลิงหลานและชวีจงจื๋อไม่ได้เอ่ยแสดงความคิดเห็น ทั้งสองคนเพียงฟังอย่างเงียบๆ
พื้นที่สาธารณะมีทะเลสาบหนึ่งแห่งและหลุมอีกสองหลุม ยามนี้มีเพียงหลุมั์เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ หลุมลึกยังคงเป็สถานที่ลึกลับ และทะเลสาบก็สังหารยอดฝีมือไปหลายคนแล้ว
สำหรับสิ่งที่อยู่ในพื้นที่เขตหนึ่งและสอง สำนัก์ก็ไม่เคยพูดอะไรมากเกี่ยวกับเื่นี้
ในอ่างมหาสมบัติ ศิษย์ที่โดดเด่นจากสำนักต่างๆ ล้วนรวมตัวกันที่นี่ และศิษย์ซิงซิวสองสามคนก็เป็ที่สะดุดตาอย่างยิ่ง
จำนวนผู้บำเพ็ญซิงซิวทั้งหมดมีเพียงหนึ่งโหลเท่านั้น ทั้งยังมีถึงหกคนที่มาถึงอ่างมหาสมบัติ หนึ่งในนั้นคือชายสวมชุดสีเงินในวัยยี่สิบต้นๆ ซึ่งดูไม่ธรรมดา เขามีนามว่าจี้ชิว เป็ศิษย์จากสำนักดาราทมิฬ
ก่อนหน้านี้ก็เป็เขาที่ชี้นำให้สหายร่วมสำนักระดมกระจกสมบัติ์ห้าดาราจำลองเพื่อแก้ไขกลไกอันแปลกประหลาดของหลุมั์ และทำให้ทุกคนสามารถเข้าไปได้
หลินหวาจากสำนักร้อยอสูรจ้องมองจี้ชิว ก่อนร่องรอยความกลัวจะปรากฏขึ้นในดวงตาเ็าของเขา
แม้ศิษย์ซิงซิวจะห่างเหินและหยิ่งผยอง แต่พวกเขาก็มีความชำนาญด้านดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ รวมถึงการก่อตัวทางโหราศาสตร์ ซึ่งนับว่าแข็งแกร่งกว่าจื๋อซิวมาก
แม้พลังการต่อสู้ระยะประชิดของพวกเขาอาจไม่ดีเท่าหยวนซิว แต่ในแง่ของกลเม็ด หยวนซิวไม่สามารถเทียบซิงซิวได้เลย
หลังจากนี้หากเกิดการแย่งชิงอาวุธและสมบัติิญญาขึ้น หลินหวาก็ย่อมไม่อยากขัดแย้งกับจี้ชิว
ในส่วนของหยวนซิว สำนักหานเทียนและโถงเพลิงทมิฬนับว่าแข็งแกร่งที่สุด แต่กลับมีเพียงสี่ห้าคนเท่านั้นที่สามารถดึงดูดสายตาของหลินหวาได้
ในหมู่พวกเขา เหมยเอ้าซงแห่งสำนักหานเทียนและเหยียนเริ่นเฟิงแห่งโถงเพลิงทมิฬต่างอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตผนึกดาราขั้นเก้า ซึ่งพลังสายเืของพวกเขาแข็งแกร่งมาก ราวกับสัตว์ร้ายโบราณที่ทำให้ผู้คนหวาดหวั่น
หลินหวาเพ่งเล็งปลอกเล็บซึ่งทำจากกรงเล็บอันแหลมคมของอสูรระดับสี่ มันเหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญสายรากอสูรเป็อย่างมาก ทั้งยังสอดคล้องกับรากบ่มเพาะของเขาอีกด้วย
นี่ถือเป็อาวุธิญญาระดับกลาง หลินหวาจึงไม่ใช่คนเดียวที่เล็งปลอกเล็บนี้
...
ทางด้านหนิงเทียน เขากำลังนั่งสมาธิเพื่อทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของอาวุธิญญาแปดสิบเอ็ดชิ้น
ทันใดนั้น อ่างมหาสมบัติก็ถูกกระตุ้น อาวุธิญญาต้องห้ามล้วนมีท่าทีราวม้าป่าพยายามหลบหนีจากที่แห่งนี้
ศิษย์ของแต่ละฝ่ายต่างสู้สุดใจ มีอาวุธิญญาที่เหมาะกับหยวนซิวมากมาย และมีอาวุธประมาณยี่สิบชิ้นเท่านั้นที่เหมาะสำหรับจื๋อซิว
ยอดฝีมือหลายร้อยคนจากกลุ่มต่างๆ มารวมตัวกันที่นี่ ทั้งยังมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด
หนิงเทียนสนใจตราหยกห้าทิศ แต่จี้ชิว เหมยเอ้าซง และเหยียนเริ่นเฟิงต่างก็พยายามแย่งชิงกันอยู่
แค่สิ่งนี้ชิ้นเดียวก็มียอดฝีมือขอบเขตผนึกดาราขั้นเก้าสนใจกว่าร้อยคน หลังจากหนิงเทียนขบคิดแล้ว เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า
ที่ความสูงหลายร้อยจั้ง มีเถาวัลย์โค้งงอและหย่อนคล้อย ก่อนจะกลายเป็ระฆังขนาดใหญ่ ซึ่งสูงประมาณร้อยจั้ง มีสีน้ำตาลแกมเขียว พร้อมสลักเส้นต่างๆ ทั้งด้านในและด้านนอก ดูไม่เป็ธรรมชาติแม้แต่น้อย
ปากระฆังคว่ำลงเหมือนดอกเชียนหนิวั์ และค้อนระฆังก็ดูคล้ายกรงเล็บัที่เติบโตบนเถาวัลย์
หนิงเทียนทะยานขึ้นฟ้า เขาละทิ้งการต่อสู้เพื่ออาวุธิญญาในอ่างมหาสมบัติ แล้วพุ่งเข้าไปในระฆังั์ทันที
ระฆังอันไพเราะส่งเสียงดังราวเสียงเรียกปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ก่อให้เกิดระลอกคลื่นในห้วงอากาศและปล่อยรูปแบบทางจิติญญาแผ่กระจายไปในความว่างเปล่า ฟ้าดินสั่นะเื เสียงเต๋าใสกังวานให้ความรู้สึกสงบ ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่แห่งการรู้แจ้ง
เมื่อเห็นว่าไม่มีความหวังที่จะคว้าอาวุธิญญาได้ ศิษย์หลักจำนวนมากในอ่างมหาสมบัติก็รีบพุ่งไปยังระฆังั์เช่นกัน
คลื่นเสียงในนั้นสามารถช่วยให้ผู้คนเกิดความรู้แจ้ง ทว่าสิ่งนี้ก็ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน บางคนเห็นการล่าสัตว์แล้วจิตใจเบิกบาน[1] จึงไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา และคลื่นเสียงก็พุ่งทะลุสมองจนเสียชีวิตทันที
หนิงเทียนเห็นแถบลายเส้นปรากฏขึ้นบนผนังด้านใน แต่ละแถบแสดงถึงชีวิต และวิธีการเปิดใช้งานนั้นน่าทึ่งมาก
“เหตุใดถึงเป็เช่นนี้?”
หนิงเทียนค่อนข้างสับสน เถาวัลย์ั์นี้ไม่เพียงแต่แปลกเท่านั้น ยังมีใบเถาพลังแห่งอัสนี และรูปแบบการผนึกน่าประหลาดที่สร้างจากยอดหินสามสิบหกยอด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
การต่อสู้ในอ่างมหาสมบัติ มีผู้คนหลายร้อยชีวิตพยายามแย่งชิงอาวุธิญญาทั้งแปดสิบเอ็ดชิ้น แต่จำนวนอาวุธิญญาที่มีเ้าของนั้นกลับน้อยกว่ายี่สิบชิ้น
“ดูเหมือนอาวุธิญญาเหล่านี้จะกำหนดผู้ไว้แล้ว”
เมื่อเข้าใจความจริงข้อนี้ชัดเจนแล้ว หลายคนก็เร่งรีบไปยังระฆังั์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตภายในระฆังเพิ่มขึ้น และถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว
พลังลึกลับของคลื่นเสียงทะลุผ่านความว่างเปล่าแห่งกาลเวลา ซึ่งประกอบด้วยกฎสูงสุดที่ดึงดูดให้หนิงเทียนนั่งสมาธิทำความเข้าใจอีกครั้ง
ศิษย์หยวนซิว ซิงซิว และจื๋อซิวต่างตระหนักดีว่าเสียงระฆังสามารถชำระล้างจิติญญา และทำให้เข้าสู่สภาวะที่ไร้ตัวตนได้อย่างรวดเร็ว
แผนที่จิติญญาในร่างกายของหนิงเทียนตื่นตัว รอยประทับทั้งสามในเส้นลมปราณที่สี่เกี่ยวพันและหมุนไปมาเหมือนสัญญาณนำทาง ช่วยให้เขาเข้าใจกฎเกณฑ์จากคลื่นเสียงที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เหนือระฆังั์ขึ้นไปร้อยจั้ง มีขาตั้งขนาดมหึมาเติบโตบนเถาวัลย์ ซึ่งมีรูปลักษณ์เป็ทรงสี่เหลี่ยมและถูกระงับการใช้งานมายาวนาน และเหนือขาตั้งไปอีกร้อยจั้งก็มีเถาวัลย์งอกขึ้นมาเป็อาคารลอยฟ้า คล้ายที่พำนักของเทพเซียนอันเป็ที่น่าอิจฉาของผู้คน
เหนืออาคารท่ามกลางเมฆหมอก มีแจกันที่กลืนแสงแห่งความโกลาหล ทั้งยังเต็มไปด้วยคลื่นผันผวนอันน่าพรั่นพรึง และเหนือแจกันก็ยังมีร่มคลุมนภาที่บดบังท้องฟ้ากางอยู่
ณ จุดสูงสุดของเถาวัลย์ั์ มีหอคอยซึ่งแต่ละชั้นล้วนมีสีแตกต่างกัน พร้อมหันเผชิญหน้ากับภูผาธาราอย่างหยิ่งผยอง
เถาวัลย์ั์นี้มีทั้งหมดเก้าเส้น แต่ละเส้นล้วนมีสิ่งมหัศจรรย์ของ์และโลกที่แตกต่างกันเก้าประการงอกขึ้นมา ทั้งเตาหลอม ไห อ่าง ระฆัง ขาตั้งั์ อาคาร แจกัน ร่ม และหอคอยล้วนไร้ผู้เทียมทานมาเป็เวลานาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็บ่อนทำลายความเข้าใจของมนุษย์เกี่ยวกับิญญาปีศาจ
ทุกสิ่งที่หายากเหล่านี้ย่อมมีเจตนาสังหารซ่อนเร้น แต่มันก็เต็มไปด้วยความเย้ายวนใจที่ดึงดูดศิษย์จากทุกสำนักให้ต่อสู้เพื่อแย่งชิง
หลุมั์แห่งนี้กลายเป็หลุมฝังศพลูกศิษย์จากสำนักต่างๆ เมื่อหนิงเทียนปีนขึ้นไปบนไหั์ของเถาวัลย์เส้นที่ห้า ยามนี้มันก็กลืนกินเหล่าผู้บำเพ็ญไปมากกว่าสามพันชีวิตแล้ว
นี่คือการคัดสรรโดยธรรมชาติ และกฎแห่งเต๋าเป็สิ่งที่โหดร้ายเสมอ
เถาวัลย์ั์ซ่อนความลับไว้มากมาย ทั้งหยวนซิวและจื๋อซิวต่าง้าตรวจสอบเื่นี้ให้กระจ่างแจ้ง ดังนั้น ทุกคนจึงรีบเร่งขึ้นไป้าอีกครั้ง
นี่เป็พื้นฐานสำหรับการเข้าถึงสภาวะรู้แจ้งของหนิงเทียน เขาเข้าใจกฎทุกอย่างมาโดยตลอด และควบแน่นรอยประทับในเส้นลมปราณที่สี่ รวมถึงพัฒนาแผนที่จิติญญาขึ้นมาใหม่
---------------------------------------
[1] เห็นการล่าสัตว์แล้วจิตใจเบิกบาน (见猎心喜) หมายถึง นิสัยและความเคยชินเดิมๆ นั้นยากที่จะลืมเลือน เมื่อพบแรงกระตุ้นก็มักจะอดใจไม่ไหว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้