"คราวนี้ การผงาดขึ้นของตระกูลหลินเป็สิ่งที่กำหนดไว้แล้ว แม้ว่าข้าจะคาดการณ์ไว้นานแล้ว แต่ก็ไม่คิดเลยว่าตระกูลหลินจะได้รับข่าวดีถึงสองเื่พร้อมกัน!"
"ถูกต้องแล้ว อัจฉริยะได้ถือกำเนิดขึ้นในตระกูลหลิน และบรรพบุรุษของพวกเขาก็กำลังจะทะลวงขีดจำกัดอีกครั้ง"
"เขากำลังจะทะลวงขีดจำกัดอีกครั้งภายในเวลาเพียงสามปี แบบนี้มันต่างอะไรกับการทะลวงขีดจำกัดในตอนนี้กันเล่า?"
"ข้ายังไม่อยากเชื่อเลย ม่านพลังสีม่วงพาดผ่านฟ้าถึง 30,000 ลี้? นี่เป็อัจฉริยะเยาวชนประเภทไหนกัน? มันเกินไปแล้ว!"
"หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ข้าไม่มีทางเชื่อว่าสิ่งนี้เป็ความจริงแน่นอน!"
หลังจากงานเลี้ยงจบลง บรรดาผู้าุโจากตระกูลต่าง ๆ ก็พากันเดินทางกลับทันที แต่ละคนล้วนมีโทสะจากสิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลหลินทำให้พวกเขาอับอาย
พวกเขาไม่ได้เผชิญกับความอัปยศเช่นนี้มานานหลายปี ดังนั้น เมื่อกลับไป พวกเขาต่างวางแผนในใจว่าจะต้องฝึกฝนเหล่าผู้น้อยในตระกูลให้หนักขึ้น และทำให้พวกเขาทำงานหนักกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ผู้นำของหลายฝ่ายเริ่มสังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติ พวกเขารู้สึกว่าอัจฉริยะของตระกูลหลินนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะแม้แต่ในตระกูลของพวกเขาเองก็มีอัจฉริยะที่เกิดมาพร้อมปรากฏการณ์แปลกประหลาด
แต่ไม่มีผู้ใดที่สามารถทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญรอบข้างได้รับพรเช่นนี้ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ผู้นำของหลายตระกูลจึงเริ่มจับตาดูตระกูลหลินอย่างลับ ๆ และให้ความสนใจมากขึ้น
...
ค่ำคืนมืดสนิทดังหมึก และงานเลี้ยงภายนอกก็ค่อย ๆ สลายตัวไปแล้ว ภายในห้อง หลินเสวียนหดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเสวียนอวี่และบ่มเพาะพลังอย่างเงียบ ๆ
หากมีผู้ใดสังเกตอย่างละเอียด จะพบว่า พลังปราณสีม่วงอันเข้มข้นรอบกายของหลินเสวียนลดลงจากปกติ และร่างกายของเขาค่อย ๆ กลายเป็โปร่งแสงมากขึ้น
'พลังของข้าในตอนนี้อยู่ประมาณขั้นแรกของการหลอมร่างกาย แค่นี้ไม่ต่ำเกินไปหน่อยหรือ?' หลินเสวียนครุ่นคิดเงียบ ๆ ขณะบ่มเพาะพลัง
หากผู้อื่นได้ยินความคิดนี้ คงต้องตกตะลึงแน่นอน
ในวันแรกของการเกิดมา เด็กทารกส่วนใหญ่ยังไม่มีสติสัมปชัญญะที่ชัดเจน และยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบ่มเพาะพลังเลย
เสียงกระซิบและเสียงหัวเราะอย่างยินดีดังมาจากนอกหน้าต่าง ส่วนใหญ่เป็ศิษย์ของตระกูลหลิน
ก่อนหน้านี้ ขณะหลินเสวียนทะลวงระดับ พลังเืลมของเขาพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ก่อให้เกิดภาพนิมิตผิดปกติมากมาย ศิษย์รอบ ๆ คล้ายจะััได้ถึงสิ่งนี้ จึงค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา
แต่หลินเสวียนหาได้สนใจไม่ เขาไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ในเมื่อยังขยับร่างกายไม่ได้ ก็ทำได้แค่บ่มเพาะพลังต่อไป
ตามการคำนวณของเขา หากสามารถดูดซับเสียงเต๋าและพลังปราณสีม่วงเหล่านี้ทั้งหมด ก็น่าจะสามารถทะลวงถึงระดับที่ห้าของการหลอมร่างกายได้
"ข้าไม่รู้เลยว่า นอกจาก [ลมหายใจแรก] และ [เสียงร้องแรก] แล้ว ข้าจะได้รับความสำเร็จอื่น ๆ อะไรอีกบ้าง..."
หลินเสวียนครุ่นคิดเงียบ ๆ พลางตั้งใจบ่มเพาะพลัง แต่หลังจากบ่มเพาะไปได้ครู่หนึ่ง เขากลับรู้สึกถึงความผิดปกติ
จิตััของเขาพลันแผ่ออกไปสำรวจโดยรอบ และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้ใจของเขาต้องกระตุกอย่างรุนแรง!
"แม่?!"
บนเตียง เสวียนอวี่พิงกำแพงอย่างอ่อนแรง ใบหน้าซีดเซียว ลมหายใจแ่เบา คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น หน้าผากเรียบเนียนเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ!
เกิดอะไรขึ้นกัน?! จิตััของหลินเสวียนพลันตึงเครียดถึงขีดสุด! มารดาของเขาเป็อะไรไป?!
เสวียนอวี่เอนตัวพิงกำแพงอย่างอ่อนล้า ก่อนที่ร่างของนางจะค่อย ๆ ล้มลงนอนบนเตียง
ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างผิดธรรมชาติ ทว่ากระนั้น นางก็ยังคงโอบอุ้มหลินเสวียนที่อยู่ในห่อผ้าแน่นไม่ยอมปล่อย นางถูกพิษหรือ? หรือว่านางใช้พลังมากเกินไป?
หลินเสวียนตอบสนองในทันที เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะใช้พลังทั้งหมดควบคุมปราณสีม่วงก้อนหนึ่งให้กระแทกไปที่ข้างเตียง
เพล้ง!
ปัง!
ชามและตะเกียบที่ใส่ยาสมุนไพรตกกระทบพื้น แม้จะไม่แตก แต่ก็เพียงพอจะดึงดูดความสนใจของผู้คนภายนอกได้!
ในฐานะบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหลิน ย่อมต้องมีองครักษ์คอยคุ้มกันตลอดเวลา!
แทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงของตกพื้น ร่างหลายสายก็ปรากฏขึ้นที่หน้าห้องทันที!
"ฮูหยิน?!"
"เกิดอะไรขึ้น?!"
ภายในห้องเงียบสนิท ไม่มีเสียงตอบกลับแม้แต่น้อย
โดยไม่มีความลังเลแม้แต่นิดเดียว องครักษ์ทั้งสี่ที่ปลอมตัวเป็สาวใช้รีบทะลวงเข้ามาภายในห้องทันที!
"ฮูหยิน!"
เมื่อทั้งสี่เห็นเสวียนอวี่นอนหมดสติอยู่บนเตียง พวกนางรีบพุ่งตัวเข้าไปทันที คนหนึ่งอุ้มหลินเสวียนไว้ อีกคนหยิบยาออกมา ส่วนอีกคนตรวจจับชีพจรของเสวียนอวี่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ขณะที่อีกคนหนึ่งหายตัวออกจากห้องในพริบตา พุ่งไปแจ้งข่าวแก่หลินฮ่าว!
เพียงไม่กี่ลมหายใจต่อมา กระแสลมกรรโชกแรงก็พัดกระหน่ำมาจากนอกคฤหาสน์!
ตูม! เสียงดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า!
ร่างของหลินฮ่าวปรากฏขึ้นแทบจะทันที!
เขาผลักองครักษ์ในชุดดำที่คุกเข่าอยู่หน้าประตูออกไปอย่างแรง แล้วพุ่งตรงมาที่เตียงในทันที!
"อาอวี่! เสวียนเอ๋อร์!"
เมื่อสองสาวใช้เห็นดังนั้น พวกนางก็หันไปมองกันด้วยสีหน้าซีดเซียว ก่อนจะคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งและตอบกลับด้วยเสียงสั่นเครือ
"นายท่าน นายน้อยปลอดภัยดี แต่ฮูหยิน... อาการของนางไม่สู้ดีนัก!"
"ดูเหมือนว่าฮูหยินจะถูกพิษ... พิษนี้ซับซ้อนเป็อย่างมาก อีกทั้งยังตกค้างอยู่ในร่างของนางมาเป็เวลานานอย่างยิ่ง!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไปทันที!
ขณะที่หลินเสวียน ซึ่งยังคงถูกห่ออยู่ในผ้าอ้อม ได้ยินเช่นนี้ ความคิดของเขาก็แล่นไปอย่างรวดเร็ว
พิษ? นางจะถูกพิษได้อย่างไร?
ตลอดเวลาที่ผ่านมา หลินเสวียนอยู่กับเสวียนอวี่มาโดยตลอด จึงเป็ไปไม่ได้ที่ใครจะลอบวางยานางได้!
อีกทั้งพิษนี้ตกค้างอยู่เป็เวลานาน?
หรือว่านางถูกพิษั้แ่ก่อนที่เขาจะเกิด?
หรือว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้นางตั้งครรภ์มานานกว่าร้อยปี?!