เสวียนเทียนใจกล้าด้วยเพราะมีฝีมือดีร่างพลันพุ่งทะยานไปทางยอดเขาลูกนั้นราวกับเสือชีตาห์
สมุนไพรทิพย์แตกต่างจากสมุนไพรธรรมดา ไม่ต้องนำมาหลอมเป็ยาพลังปราณก็สามารถใช้ได้เลย สมุนไพรทิพย์ทุกชนิดล้วนแต่มีสรรพคุณมหาศาล
ถ้าหากเป็สมุนไพรทิพย์ที่โตเต็มที่ต้นหนึ่งเช่นนั้นเสวียนเทียนย่อมได้กำไรมหาศาลสมุนไพรทิพย์ที่โตเต็มที่มีค่าอย่างน้อยก็สิบหมื่นตำลึงเงินขึ้นไป
ถ้าหากเป็สัตว์อสูรที่กำลังวิวัฒนาการ เสวียนเทียนก็ไม่มีอะไรให้กลัวขนาดวัวอสูรเกราะเหล็ก สัตว์อสูรขั้นสามที่ดุร้ายขนาดนั้น เสวียนเทียนยังหนีมาได้เวลานี้ร่างของเสวียนเทียนอัดแน่นด้วยพลัง ต่อให้เจอเข้ากับสัตว์อสูรขั้นสามอีกครั้งก็หนีได้สบายๆ
ไม่นานเสวียนเทียนก็มาถึงบนยอดเขาลูกดังกล่าว
ยิ่งเข้าใกล้ยอดเขาเสวียนเทียนก็ยิ่งััได้ถึงปราณธรรมชาติของดินฟ้าที่เข้มข้นขึ้น อีกทั้งยังรวมกันอยู่ที่เดียว
“เป็สมุนไพรทิพย์ที่กำลังโตเต็มที่!” เสวียนเทียนได้กลิ่นหอมพิสุทธิ์มาในอากาศ ในใจลิงโลด
หากได้สมุนไพรทิพย์มาสักต้นมูลค่าของมันเทียบเท่าได้กับเงินที่เขาหาได้จากการล่าสัตว์อสูรทั้งเดือน
นี่คือในกรณีที่เสวียนเทียนฆ่าสัตว์อสูรต่อเนื่องไม่หยุดถ้าหากเป็ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาพลังชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ด แปด เก้าออกล่าเอาเป็เอาตายในเทือกเขาเร้นลมหนึ่งปีเต็มก็ไม่แน่ว่าจะหาเงินได้เท่ากับราคาของสมุนไพรทิพย์ต้นหนึ่ง
เดินข้างแม่น้ำบ่อยเข้า มีหรือรองเท้าไม่เปียก?
เดินมากเข้า ย่อมมีเวลาที่เท้าเจ็บไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนไหนกล้าฝึกฝนเก็บประสบการณ์ในเทือกเขาเร้นลมนานๆ หรอก
สังหารสัตว์อสูรมากเข้า บนร่างจะแปดเปื้อนกลิ่นอายอย่างหนึ่งกลิ่นอายชนิดนี้จะดึงดูดสัตว์อสูรที่ร้ายกาจมา อันตรายเป็อย่างยิ่งดังนั้น ผู้ฝึกยุทธ์จะมาฝึกฝนที่เทือกเขาเร้นลมมากที่สุดก็ครึ่งปี จากนั้นจะต้องออกไปสักระยะหนึ่งโดยส่วนมากเข้ามาในเทือกเขาเร้นลมได้เดือนสองเดือนก็ต้องออกไปผ่านไปหนึ่งถึงสองเดือนรอกลิ่นอายความตายของสัตว์อสูรที่ติดมากับร่างจางไปเสียก่อนจึงกลับเข้ามาอีกครั้ง
เมื่อเป็เช่นนี้ รายได้ที่ผู้ฝึกยุทธ์หาได้จากเทือกเขาเร้นลมจึงต้องมีหักลบในเวลาหนึ่งปีไม่มีทางหาเงินได้เท่ากับราคาของสมุนไพรทิพย์ที่ราคาถูกที่สุดต้นหนึ่ง
นอกจากนั้น ในเทือกเขาเร้นลมอันตรายตามติดทุกนาทีไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนไหนกล้ารับประกันชีวิตตนเองว่าจะปลอดภัยเต็มร้อย
ดังนั้น สมุนไพรทิพย์ต้นหนึ่งมูลค่าจึงสูงพอให้ผู้ฝึกยุทธ์อยากได้จนคลั่งได้
เสวียนเทียนแม้จะไม่ถึงกับคลั่งแต่ก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเก็บสมุนไพรทิพย์ต้นนี้ให้ได้
ไม่นานเสวียนเทียนก็หาจุดศูนย์กลางที่ปราณธรรมชาติของฟ้าดินมารวมกันจนเจอ
เป็ถ้ำแห่งหนึ่ง ในถ้ำมีปราณธรรมชาติของฟ้าดินอัดแน่นจนเข้มข้นเป็อย่างมากควบแน่นจนแทบจะกลายเป็สายหมอก
ปราณธรรมชาติฟ้าดินที่เข้มข้นขนาดนี้ผู้ฝึกยุทธ์มาฝึกฝนที่นี่ได้ผลมากเสียยิ่งกว่ากินยาพลังปราณ
ผู้ที่อดใจไม่ไหว เมื่อมาถึงนอกถ้ำเกรงว่าคงจะไม่คิดสิ่งใดทั้งสิ้น แล้วพุ่งเข้าไปในถ้ำอย่างไม่รีรอ
แต่เสวียนเทียนฉลาดกว่าคนธรรมดา สมองเขาสงบเยือกเย็นไม่ได้ใจร้อนพุ่งเข้าไปในถ้ำโดยไม่มีการป้องกันข้างหน้าเขารู้สึกได้ถึงปราณธรรมชาติฟ้าดินอันเข้มข้นจนทำให้รูขุมขนทั้งร่างของเขารู้สึกปลอดโปร่งแทบจะอยากผ่อนคลายร่างกาย ซึมซับให้สาแก่ใจ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันตราย
ขนาดสมุนไพรธรรมดาที่อายุเก่าแก่ข้างเคียงล้วนมีสัตว์อสูรเฝ้ารักษายิ่งไม่ต้องพูดถึงสมุนไพรทิพย์ที่มีสรรพคุณมหาศาล
เทือกเขาเร้นลมเป็ดินแดนของสัตว์อสูร มีสมุนไพรทิพย์อะไรผู้ที่พบก่อนคนแรกย่อมเป็สัตว์อสูรไม่ใช่มนุษย์ สมุนไพรทิพย์ที่ยังไม่โตเต็มที่สัตว์อสูรจะเฝ้าปกป้องรอจนสมุนไพรโตเต็มที่ค่อยกินมันเข้าไป
เสวียนเทียนแน่ใจว่าในถ้ำมีสัตว์อสูรอยู่ แค่ไม่รู้ว่าเป็สัตว์อสูรระดับไหน
หากเป็สัตว์อสูรขั้นสอง ต่อให้เป็ระดับาาเสวียนเทียนรุกล่อเสียหน่อยก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสแย่งสมุนไพรทิพย์ หากเป็สัตว์อสูรขั้นสามแล้วคิดจะแย่งสมุนไพรทิพย์ นั่นเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้ อีกทั้ง ถ้าเข้าไปในถ้ำคงจะตกอยู่ในอันตรายเป็แน่
เข้า! หรือว่าไม่เข้า?
เสวียนเทียนในใจลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังเข้ามาในถ้ำ
กระบี่ ตัวแทนของความเที่ยงตรง เฉียบคม ไม่ยอมหักไม่ยอมงอหาญกล้าก้าวไปข้างหน้า
ในฐานะผู้ฝึกกระบี่คนหนึ่ง ควรจะมีจิตใจประหนึ่งกระบี่จิตใจกับกระบี่ประสานเป็หนึ่ง ถึงจะแสดงพลังสูงสุดของกระบี่ออกมาได้
ดังนั้น การถอยหลัง ไม่ใช่สิ่งที่จิตใจของผู้ฝึกกระบี่ควรมี
ผู้ฝึกกระบี่เมื่อในใจมีเงาดำของความหวาดกลัวและการก้าวถอยหลังเมื่อนั้นความสำเร็จในวิถีกระบี่ของเขาก็ถูกกั้นขวางหาญกล้าก้าวไปข้างหน้าไม่ไช่สิ่งเดียวกับบ้าบิ่นมุทะลุ ต้องมีทั้งความกล้าทั้งขบคิดอย่างถี่ถ้วน
ในใจของเสวียนเทียนเพิ่มระดับความระแวดระวังแม้ว่าในถ้ำปราณธรรมชาติของฟ้าดินจะอัดแน่นจนแทบจะกลายเป็สายหมอกทำให้การมองเห็นมีอุปสรรค แต่หูของเขาฟังรอบด้าน ตั้งใจฟังความเคลื่อนไหวทั้งหมดรอบตัวขนอ่อนทั้งร่างลุกชัน รู้สึกได้ถึงอากาศที่ไหลเวียนอยู่รอบนอกร่างกาย
ถ้ำแห่งนี้ไม่ลึกเลย
เพิ่งเข้ามาได้ประมาณสิบจ้าง ก็พลันได้ยินเสียง “ฟู่...” เงาดำสองสายพลันพุ่งออกมาจากด้านข้างของถ้ำ พุ่งดิ่งเข้ามาหาเสวียนเทียน
ชี่ๆ...
เสียงสองเสียงที่ชวนให้เส้นขนในร่างลุกชันดังขึ้น
เงาสีแดงสองสายรวดเร็วดุจสายฟ้าดีดตัวจากเงาดำสองสายเบื้องหน้าพุ่งเข้ามาหาเสวียนเทียน
“สัตว์อสูรขั้นสอง งูลายดำสองหัว พลังเข้มแข็งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าต่ำกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบในหมู่สัตว์อสูรขั้นสองเป็รองแค่สัตว์อสูรขั้นสองระดับาาที่อยู่บนสุดของขั้นเท่านั้นความเร็วไวว่อง ปากมีพิษร้าย” เมื่อเห็นเงาดำ และได้ยินเสียง“ชี่ๆ...”ทั้งสองในใจเสวียนเทียนก็นึกข้อมูลของสัตว์อสูรตัวนี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วเงาสีแดงสองสายนั่นก็คือลิ้นสีแดงของงูลายดำสองหัวซึ่งมีพิษร้ายแรงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นต่ำกว่าชั้นเบิกฟ้าโดนเข้ามีแต่ต้องตายแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบก็ไม่กล้าแตะขอบคมของมันเมื่อเผชิญหน้ากับลิ้นแดงของงูลายดำสองหัวเป็ต้องถอยให้เก้าสิบลี้
งูลายดำสองหัวอาศัยพิษของมันยึดครองถ้ำที่เป็ที่กำเนิดสมุนไพรทิพย์แห่งนี้ให้สัตว์อสูรขั้นสองแม้แต่ระดับาาไม่อาจเข้ามา
ภายในถ้ำแห่งนี้เป็ทรงกลมกว้างประมาณยี่สิบเมตร งูลายดำสองหัวที่โตเต็มที่ร่างยาวถึงสิบห้าเมตรบวกกับลิ้นงู ถ้ำทั้งหมดก็ตกอยู่ในระยะโจมตีของงูลายดำสองหัวผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้ามาในถ้ำนอกจากสังหารงูลายดำสองหัวก็เหลืออีกทางเดียวนั่นคือหนีออกนอกถ้ำ
หากเป็ตอนที่เสวียนเทียนเพิ่งเข้ามาในเทือกเขาเร้นลม แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่คู่มือของงูลายดำสองหัวแน่
แต่วันนี้ เวลานี้เสวียนเทียนผ่านการฝึกฝนฝีมือล่าสังหารสัตว์อสูรในเทือกเขาเร้นลมมาแล้วหนึ่งเดือนเต็มพลังความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งบรรลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดอยู่มากไม่ว่าจะเป็วิชาตัวเบาหรือวิชากระบี่ ล้วนแต่ได้ฝึกฝนมามากมายจนพลิกแพลงเหนือขอบเขต ใช้ออกมาได้ดั่งใจ
ตึงๆ...
พอเท้าของเสวียนเทียนขยับเดิน ร่างกายก็ว่องไวประดุจอสรพิษไม่ช้าก็หลบลิ้นแดงของงูลายดำสองหัวได้
ฟึบ...
เสียงตัดผ่านอากาศเสียงหนึ่งดังขึ้น ปราณธรรมชาติที่เหมือนกับหมอกเหนือน้ำแหวกออกสองข้างเงาดำสายหนึ่งตวัดกวาดมาถึง เป็หางของงูลายดำสองหัวนั่นเอง
งูลายดำสองหัวมีเกล็ดงูแข็งแกร่งเป็อย่างมากอาวุธของชั้นทองขั้นสูงยังยากจะตัดทะลุผ่านการป้องกันของเกล็ดงูได้ แรงหางของมันเทียบเท่าได้กับการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบ มีพลังมหาศาลผู้ฝึกยุทธ์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าล้วนไม่กล้าเข้าปะทะตรงๆ
ตึงๆ...
เสวียนเทียนขยับเท้า เงาร่างก็ขยับพลิกดั่งอสรพิษอีกครั้งฉีกหลบไปด้านข้าง หลบหางที่กวาดมาของงูลายดำสองหัว
ชี่ๆ...
เสียงสองเสียงที่ชวนให้คนขนหัวลุกดังขึ้นมาอีกครั้งเสวียนเทียนเพิ่งหลบหางของมันมาหัวทั้งคู่ของงูลายดำสองหัวก็อ้าปากกัดมาทางเสวียนเทียนลิ้นแดงสีสดทั้งสองเส้นพุ่งเร็วดุจสายฟ้าเข้าใส่เสวียนเทียน
“รวดเร็วจริงๆ เกรงว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าเข้ามาในถ้ำคงต้องฝังร่างไว้ใต้เงื้อมมือของสัตว์ร้ายตัวนี้เป็แน่”
เสวียนเทียนอุทานอยู่ในใจ!
ศาสตร์เงาพยัคฆ์!
ความเร็วของเสวียนเทียนเพิ่มขึ้นฉับพลัน ร่างทิ้งเงาติดตาไว้สายหนึ่งพริบตาทะยานไปข้างหน้ายี่สิบกว่าก้าว เสวียนเทียนเพิ่งร่อนลงที่ทิศทางหน้าปากถ้ำขยับไปทางด้านนอกถ้ำจนมีพื้นที่ให้ถอยหลัง
วิชาตัวเบาของชั้นทองขั้นสูงขั้นบรรลุส่วนใหญ่ ความเร็วไม่ธรรมดาจริงๆลิ้นแดงของงูลายดำสองหัวพลาดเป้า
เวลานี้เองแสงสว่างจ้าสายหนึ่งก็ฉายวาบ
เช้ง...
กระบี่ในมือเสวียนเทียนออกจากฝักจุดที่ปราณกระบี่ไปถึงปราณธรรมชาติแหวกออกเป็สอง
ออกจากฝักได้ กระบี่ก็ฟาดฟันในพริบตา
ปราณกระบี่บาดตาสายหนึ่งดั่งจันทร์เสี้ยวตกลงมายังโลกมนุษย์ พริบตาพุ่งออกไปสี่สิบกว่าก้าวแทบจะตัดทะลุไปถึงสุดถ้ำ
เสวียนเทียนใช้ศาสตร์เงาพยัคฆ์พุ่งออกไปทางนอกถ้ำยี่สิบกว่าก้าวเมื่อครู่ไม่ใช่จะวิ่งหนีแต่เป็การดึงระยะห่างเตรียมพร้อมก่อนโต้กลับ
เร็ว! กระบี่นี้ เร็วเป็ที่สุด
ปราณกระบี่ตัดผ่าน เงาสีแดงสองสายพลันหดเล็ก แล้วตกลงบนพื้นลิ้นทั้งสองของงูลายดำสองหัวถูกเสวียนเทียนตัดขาด
กี๊ซ...
กี๊ซ...
หัวทั้งสองของงูลายดำสองหัวต่างส่งเสียงกรีดเสียงร้องด้วยความเ็ปพลันล้มลงไปกองกับพื้นดินความเ็ปแสนสาหัสทำให้งูลายดำสองหัวดิ้นทุรนทุรายสุดกำลัง พลิกบิดตัวไปมา
ลิ้นแดงสองเส้นเปี่ยมพิษร้ายเป็อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของงูลายดำสองหัวแต่ก็เป็จุดอ่อนที่สุดเช่นกันหนึ่งกระบี่ของเสวียนเทียนส่งปราณกระบี่ตัดผ่านระยะสี่สิบก้าวแม้กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าก็ยากจะทำได้เกือบเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบ พลังโจมตีแข็งแกร่งถึงขีดสุดความรวดเร็วทะลุจุดสุดยอด หนึ่งกระบี่ทำร้ายงูลายดำสองหัวาเ็สาหัส
แสงกระบี่ขยับ ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไปอีกครั้งฟันเข้าที่จุดเจ็ดนิ้วของงูลายดำสองหัว
แม้ว่าจะเสียลิ้นพิษไปแต่งูลายดำสองหัวยังมีเขี้ยวพิษ ยังไม่อาจวางใจได้ สัตว์อสูรจำพวกงูมีพลังชีวิตแข็งแกร่งต่อให้ถูกตัดเป็สองส่วนก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อีกพักใหญ่เพียงแค่ตัดลิ้นพิษทั้งสองขาด งูลายดำสองหัวก็ยังคงอันตรายอยู่มากเหมือนเดิม
เสวียนเทียนฟันกระบี่ออกไปอีกครั้งและอีกครั้งปราณกระบี่ทุกสายกวาดออกไปไกลถึงสี่สิบก้าวเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบฟาดฟันสิบกระบี่ต่อเนื่อง ทุกกระบี่ฟันเข้าที่จุดเจ็ดนิ้วของงูลายดำสองหัวจุดเจ็ดนิ้วเป็จุดอ่อนของงูหลังถูกฟันเข้าไปสิบกว่ากระบี่หัวงูทั้งสองหัวก็ถูกเสวียนเทียนฟันขาดลง
แม้หัวงูถูกบั่น แต่ร่างของงูลายดำสองหัวยังคงดิ้นพล่าน
เสวียนเทียนเพิ่มความระแวดระวังร่างขยับหลบผ่านด้านข้างร่างของงูลายดำสองหัวเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง
เขากดลมปราณลงไปที่จุดตันเถียน สูดหายใจลึกยาว อ้าปากพ่นลมหายใจออกลมหายใจยาวเป่าออกมา ปราณธรรมชาติเบื้องหน้าก็โดนเป่ากระจายออกเล็กน้อยสภาพภายในถ้ำปรากฏสู่สายตาของเสวียนเทียน
บนพื้นมีศพของมนุษย์สองร่างนอนอยู่ ดูเหมือนคงจะมีผู้ฝึกยุทธ์บุกเข้ามาในถ้ำและตายอยู่ใต้เขี้ยวของงูลายดำสองหัวมาก่อนแล้ว
สายตาของเสวียนเทียนเพียงมองร่างของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองผ่านไปทีหนึ่ง ไม่ทันไรก็ไปหยุดที่ใต้ผนังถ้ำในจุดที่ลึกที่สุด
ตรงนั้นมีพืชสีเหลืองอ่อนต้นหนึ่งงอกขึ้นมา พืชต้นนี้มีใบห้าใบทุกใบกว้างเท่าฝ่ามือ ยาวสองฝ่ามือ ส่องแสงลางๆปราณธรรมชาติของฟ้าดินประมาณมิได้ไหลปรี่เข้ามาที่พืชต้นนี้
“หญ้าฉีหวง?” เสวียนเทียนพลั้งปากเรียกด้วยความคิดไม่ถึงในใจยินดียิ่ง “นี่มันสมุนไพรทิพย์ที่หายากมากอย่างหนึ่งสัตว์อสูรกินเข้าไปจะเลื่อนชั้นหนึ่งขั้น ทั้งยังอาจพัฒนาเป็สัตว์เทพผู้ฝึกยุทธ์ชั้นต่ำกว่าชั้นเบิกนภากินเข้าไปหนึ่งใบมีโอกาสอย่างน้อยเจ็ดส่วนที่พลังวัตรจะเลื่อนขึ้นหนึ่งระดับชั้นหญ้าฉีหวงนี่โตเต็มที่แล้ว หนึ่งใบมีค่าถึงสิบหมื่นตำลึงเงิน”