บางทีค่าโชคที่สูงถึง 17 หน่วยของเย่เทียนเซี่ยอาจจะส่งผลมาถึงเฉินซิน ใช้เวลาไม่นานไอเทมทองทั้งสามชิ้นก็ถูกเธอประเมินออกมาจนหมด เธอแอบถอนหายใจเบาๆ แก้มของเธอเองก็เป็สีชมพูบางๆ “ได้แล้ว” เธอพูดออกมาเบาๆแล้วส่งไอเทมทองสามชิ้นคืนให้เย่เทียนเซี่ยและรับเงิน 90 เหรียญทองมาพร้อมกัน
90 เหรียญทอง 90เหรียญหัวเซี่ย เท่ากับค่าเช่าบ้านหนึ่งเดือน เธอสามารถนำเงินเหล่านี้ไปซื้อของบำรุงร่ายกายให้น้องสาวของเธอได้ และยังสามารถหาซื้อกระดาษหลากสีมากมายไปให้น้องสาวของเธอใช้วาดรูปในแบบที่น้องของเธอชอบอีกด้วย
ธนูทองคำ : ไอเทมระดับทอง
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักธนูเลเวล 15, คุณสมบัติพละกำลังมากกว่า 20 หน่วยขึ้นไป
ธนูที่สร้างขึ้นมาจากทองคำ มีรูปลักษณ์สวยงามและมีคุณสมบัติไม่ธรรมดา
คุณสมบัติ : พลังโจมตี+55, ความคล่องตัว+10, การสร้างความเสียหาย+5, ระยะการยิง+3, เมื่อโจมตีจะมีความเป็ไปได้3% ที่จะทำให้มอนสเตอร์ถูกผลักออกไป
ไม้เท้าทองคำ : ไอเทมระดับทอง
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักบวชหรือนักเวทย์เลเวล 15, คุณสมบัติจิติญญามากกว่า 60 หน่วยขึ้นไป
ไม้เท้าที่สร้างขึ้นมาจากทองคำ มันคือไม้เท้าเวทมนต์ที่แฝงพลังเวทย์อันลึกลับเอาไว้
คุณสมบัติ : พลังโจมตีด้วยเวทมนต์+70, จิติญญา+15, ฟื้นฟูพลังเวทย์+2, ผลของเวทมนต์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2%, เมื่อใช้ทักษะเวทมนต์จะลดการใช้พลังเวทย์ไป 15%
เสื้อคลุมลายทองคำ : ไอเทมระดับทอง
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักนักเวทย์ นักบวช ผู้อัญเชิญ เพศชายเลเวล 15
เสื้อคลุมที่มีลวดลายสีทองงดงาม มีพลังอันลึกลับแฝงอยู่
คุณสมบัติ : พลังป้องกัน+55, ความต้านทานธาตุสายฟ้า+8%, จิติญญา+8, ความแข็งแกร่ง+7, เมื่อถูกโจมตีจะมีความเป็ไปได้ 3% ที่จะปลดปล่อย “ร่างเกราะทองคำ” ออกมาทำให้พลังป้องกันของร่างกายเพิ่มขึ้น 20% ภายในระยะเวลา 10 วินาที
ธนูทองคำและไม้เท้าทองคำมีเ้าของแน่นอนแล้ว แต่เสื้อคลุมทองคำ......... อาชีพัปีศาจพิชิตฟ้าอนุญาตให้เขาสวมใส่ไอเทมของอาชีพใดก็ได้ แม้ว่าเขาจะสามารถสวมใส่มันได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะสวมมันลงไปบนร่างกาย สำหรับคุณสมบัติในตัวเขานั้นเสื้อคลุมลายทองคำดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย แต่อีกคน้าใช้มันยิ่งกว่า
ต่อจากไอเทมทองสามชิ้นก็คือไอเทมทองที่ทำให้ดวงตาของเฉินซินเบิกโตด้วยความใอีกสามชิ้นที่ปรากฏออกมาในมือของเย่เทียนเซี่ย เขาแย้มยิ้มเล็กน้อยแล้วส่งมันให้เฉินซิน “ยังมีอีกสามชิ้น รบกวนเธอด้วย”
แต่ครั้งนี้มันคือไอเทมระดับสูงสามชิ้นที่อยู่ในเลเวล 25 และพวกมันคือไอเทมทองสามชิ้นที่ได้มาจากสิงโตดาบทอง
“ไอเทมทองเลเวล 25 สามชิ้น ทั้งหมดคิดเป็ 170 เหรียญทองนะ” มันยากมากกว่าเฉินซินจะสงบจิตสงบใจลงได้ เธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของผู้ชายตรงหน้านี้มากยิ่งขึ้นแล้ว และยิ่งรู้ว่าไอเทมเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาลแค่ไหนใน่เวลานี้
ไอเทมทองสามชิ้นถูกประเมินจนสำเร็จอีกครั้ง ใบหน้าของเฉินซินแสดงออกถึงรอยยิ้มพอใจอีกครั้ง รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนชวนให้หวั่นไหว และมันก็ทำให้หัวใจของเย่เทียนเซี่ยอบอุ่นขึ้นมา........ เขาเหมือนได้มองเห็นตัวเองในตอนนั้นที่ยิ้มออกมาจากใจเมื่อสามารถหาของกินได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่แทบจะสิ้นหวัง
สร้อยข้อมือลายสิงโต : ไอเทมระดับทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพต่อสู้ระยะประชิดเลเวล 25, ค่าพละกำลังมากกว่า 100
สร้อยข้อมือที่สร้างขึ้นมาจากหนังของาาสิงโต ้าเต็มไปด้วยลวดลายเรียงร้อยกันอย่างเป็ระเบียบ พลังของาาสิงโตที่ตกค้างทำให้คนที่สวมใส่มันะเิการโจมตีออกไปได้อย่างง่ายดาย
คุณสมบัติ : พลังป้องกัน+30, พละกำลัง+15, การสร้างความเสียหาย+10, อัตราการโจมตี+3%, เมื่อโจมตีจะมีความเป็ไปได้ 3% ที่จะแสดงผล “ิญญาราชสีห์” ทำให้พลังโจมตีและอัตราการโจมตีของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 8% เป็เวลา 10 วินาที
ดาบชั้นเลิศ (ดาบมือเดียว) : ไอเทมทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพนักรบหรือผู้พิทักษ์เลเวล 25
ดาบเมือเดียวที่สร้างขึ้นมาจากเหล็กกล้า มีความคมมากและมีพลังที่ไม่ธรรมดา
คุณสมบัติ : พลังโจมตี+110, พละกำลัง+10, ความเร็วในการโจมตี+12, เมื่อถูกโจมตีจะมีความเป็ไปได้ 3% ที่จะบล็อคการโจมตีทั้งหมด
ธนูชั้นเลิศ : ไอเทมทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพนักธนูเลเวล 25
ธนูยาวที่ทำมาจากเหล็กกล้า ดูเหมือนจะมีการใส่พลังงานแปลกประหลาดอะไรบางอย่างเข้าไปทำให้ธนูมีความเบามาก
คุณสมบัติ : พลังโจมตี +140, ความคล่องตัว+20, การสร้างความเสียหาย+20, ระยะการยิง+5, ความเร็วในการเคลื่อนที่+15, เมื่อโจมตีจะมีความเป็ไปได้ 10% ที่จะปลดปล่อยผล “ทะลุผ่าน” ออกมาทำให้ขณะโจมตีถูกศัตรูคนแรกจะโจมตีถูกศัตรูที่อยู่ด้านหลังในแนวเดียวกันด้วย
สมกับที่เป็คุณสมบัติของไอเทมระดับทอง ทุกชิ้นล้วนไม่ธรรมดา ถ้าหากถึงเลเวล 25 แล้วยังไม่มีไอเทมที่ดีกว่าดาบชั้นเลิศและธนูชั้นเลิศคงจะถูกมอบให้จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิงสุ่ยอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อประเมินไอเทมทองทั้งหกเรียบร้อยเย่เทียนเซี่ยก็ยังไม่ได้จากไปแต่เขากลับถามคำถามที่ทำให้เฉินซินตกตะลึง “เธอสามารถประเมินไอเทมระดับเซียนได้ไหม?”
คำถามของเย่เทียนเซี่ยทำให้เฉินซินอึ้งไปพักใหญ่ หากเขาสามารถถามคำถามนี้ออกมาได้ หรือว่าเขาจะมี.......ไอเทมระดับเซียนอยู่กับตัว
“ฉัน.......... ทักษะประเมินของฉันในตอนนี้ยังอยู่ในขั้นต่ำสุด ดูเหมือนจะไม่สามารถประเมินไอเทมระดับเซียนได้........ ปรมาจารย์เปลี่ยนอาชีพบอกว่าทักษะประเมินขั้นต่ำสุดมีความเป็ไปได้ที่จะประเมินไอเทมระดับเซียนสำเร็จแค่ 0.01% เท่านั้น ขอโทษด้วยนะ.........” เฉินซินพูดออกไปตามความจริง ตบท้ายด้วยการขอโทษเสียงสั่น
0.01% ............. อัตราความเป็ไปได้หนึ่งในหมื่น
อัตราความเป็ไปได้หนึ่งในหมื่นเป็อัตราที่น้อยมากๆ แต่นั่นหมายความว่าไม่ใช่ว่ามันจะเป็ไปไม่ได้เลย........ แบบนี้ไม่ใช่ว่ามันมีอัตราความเป็ไปได้ตั้งหนึ่งในหมื่นหรอกเหรอ?
เย่เทียนเซี่ยหยิบดาบสังหารอเมทิสต์ที่ดรอปออกมาจากมอนสเตอร์ชั้นเซียนออกมาจากในกระเป๋าแล้วส่งให้เฉินซิน เมื่อมองเห็นคุณสมบัติของดาบมือคู่อย่างชัดเจนเฉินซินก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัดจนพูดไม่ออกทันที
ไม่ใช่แค่เธอ ใน่เวลาที่น่ากลัวเช่นนี้หากมีผู้เล่นคนใดได้ไอเทมระดับเซียนที่ไม่ควรจะปรากฏขึ้นมามาอยู่ในมืออย่างกะทันหันเช่นนี้ก็คงมีปฏิกิริยาเหมือนกันกับเธออย่างแน่นอน ไอเทมระดับเซียนมีมูลค่ามหาศาลจนประเมินค่ามิได้ และไอเทมระดับเซียน...........เดิมที่แล้วก็เป็ไอเทมในฝันที่ใช้ทรัพย์สินมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถหาซื้อได้
“รบกวนเธอช่วยประเมินดาบระดับเซียนเล่มนี้หน่อยนะ” เย่เทียนเซี่ยพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆทำให้เธอตื่นจากความตกตะลึง
มือของเฉินซินสั่นระริก เธอยากที่จะทำใจให้สงบลงได้จากนั้นก็ส่ายหัวออกมาพร้อมกับพูดด้วยความเสียใจ “ขอโทษนะ........ ด้วยความสามารถของฉันในตอนนี้ ไม่มีทางที่จะประเมินไอเทมระดับเซียนได้หรอก...... ขอโทษจริงๆนะ”
เธอเอ่ยคำขอโทษอย่างระวังและหวาดกลัว ดูเหมือนเธอจะกลัวว่าเย่เทียนเซี่ยอาจจะโกรธหรือไม่พอใจ สีหน้าและน้ำเสียงของเธอทำให้เย่เทียนเซี่ยรู้สึกเหมือนหัวใจถูกกระชากหนักๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เธอระวังและหวาดกลัวทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ตัวเขาในตอนแรกใช้ไหล่เล็กๆแบกรับทุกอย่างเอาไว้ แล้วเธอล่ะ...............เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง
“มีความเป็ไปได้ตั้ง0.01% ทำไมถึงพูดว่าเป็ไปไม่ได้ล่ะ?” เย่เทียนเซี่ยส่ายหน้าเบาๆ ใบหน้าของเขายังคงไว้ซึ่งรอยยิ้ม เขาทำน้ำเสียงผ่อนคลายและพยายามจะพูดออกไปอย่างอบอุ่น “เพียงแค่มีความหวัง ต่อให้มีเพียงเล็กน้อยก็อย่าได้ถอดใจเด็ดขาด ถ้าแม้แต่จะลองทำก็ยังไม่กล้าและยอมแพ้ นั่นแหละคือความสิ้นหวังที่แท้จริง..........”
เฉินซินอึ้งค้างอยู่ตรงนั้น เธอจ้องมองไปที่เย่เทียนเซี่ย
“มา ลองสักหน่อย ไม่ว่าความหวังจะริบหรี่แค่ไหนก็ต้องเชื่อในปาฏิหาริย์ ขอแค่มีใจสู้จริงๆ ปาฏิหาริย์ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมหรอก มันก็เหมือนกับต้นกล้าในฤดูหนาวนั่นแหละ ถ้ามันยอมแพ้ต่อชีวิตภายใต้ความสิ้นหวังอันหนาวเหน็บ มันคงถูกฝังกลบอยู่ใต้พื้นหิมะอันหนาวเย็น แต่ถ้ามันยังคงมีความหวัง ใช้หัวใจที่แข็งแกร่งต้านทานความสิ้นหวังอันหนาวเหน็บ สิ่งที่มันจะได้รับก็คือฤดูใบไม่ผลิอันงดงามไงล่ะ พยายามลองดูสักหน่อยดีไหม? อย่าลืมว่าต่อให้ล้มเหลวความหวังก็ไม่ได้สลายไปจริงๆซะหน่อย ข้างหลังของเธอยังมีร้านประเมินที่เป็กาวสมานความสิ้นหวังที่แตกสลายไปได้นะ ถ้าคนๆหนึ่งยังมีความหวัง ต่อให้หัวใจของเธอถูกทำลายจากความเป็จริงอันโหดร้าย แต่ยังไงมันก็ต้องมีสักวันที่มันจะรักษาตัวกลับมาดีเหมือนเดิม”
ถ้าคนอื่นได้ยินประโยคนี้บางทีพวกเขาอาจจะย่นจมูกออกมาแล้วแสร้งทำเป็ซาบซึ้งถึงที่สุดก็ได้........... แต่เมื่อเย่เทียนเซี่ยพูดประโยคสุดท้ายจบลงไป น้ำตาของเฉินซินก็ราวกับจะร่วงลงมาเหมือนหยาดฝน
เธอก้มหน้าลงแล้วกัดฟันเบาๆไม่ให้เขาเห็นว่าดวงตาของเธอถูกปกคลุมไปด้วยหยาดน้ำตา............หัวใจที่แตกสลาย ทำไมถึงเรียกว่าหัวใจที่แตกสลาย นั่นก็เพราะในใจของเธอถูกความเป็จริงอันสิ้นหวังทำลายจนแหลกสลายไปหมดแล้ว..........
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้าแรงๆแล้วใช้ใบหน้าอาบน้ำตาจ้องมองไปที่เย่เทียนเซี่ยที่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ถ้าก่อนหน้านี้ความประทับใจที่เธอมีต่อเย่เทียนเซี่ยมีอยู่ที่ดวงตา เวลานี้มันค่อยๆซึมลึกไปถึงหัวใจของเธอแล้ว
เขาคือคนหนึ่งไม่อาจลืมเลือนคนที่ใช้วิธีใดก็ไม่ทราบได้ััไปถึงหัวใจของเขา
เธอไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมาแต่กลับพยายามผ่อนคลายท่าทางและอารมณ์ของตัวเองแล้วหลับตาลงเบาๆ ใช้ท่าทีที่อ่อนโยนที่สุดปลดปล่อย “ทักษะประเมิน” ซึ่งเป็ทักษะเดียวที่เธอสามารถใช้ได้ออกไป
ครั้งแรก การประเมินล้มเหลว
ครั้งที่สอง การประเมินล้มเหลว
ครั้งที่สาม การประเมินล้มเหลว
จมูกเล็กๆของเฉินซินมีเหงื่อผุดพรายขึ้นมาเต็มไปหมด ในใจของเย่เทียนเซี่ยเองก็กังวลขึ้นมา ท่าทีของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างปลอบโยน “ไม่เป็ไร ไม่ต้องกังวล ข้างหลังเธอยังมีร้านประเมินอยู่นะ”
ติ๊ง!.......................
แล้วทันใดนั้นแสงสีขาวอบอุ่นก็ส่องสว่างออกมาจากดาบสังหารอเมทิสต์ เฉินซินเบิกตาโต แสงสว่างนั้นสาดแสงออกมาราวกับดวงดาวที่เปล่งแสงเจิดจ้าท่ามกลางดวงตาทั้งคู่ และแล้วหยดน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของเธออีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง
เธอทำสำเร็จแล้ว
และในขณะเดียวกันนั้นแสงของการเลื่อนระดับก็ส่องสว่างขึ้นมาบนหัวของเธอ เธอสามารถประเมินไอเทมระดับเซียนได้ด้วยความสามารถของนักประเมินขั้นต้น เธอได้รับค่าประสบการณ์มากมายราวกับได้สังหารมอนสเตอร์เลเวล 10 ไปหนึ่งตัว บางทีแม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้ว่าเธอเป็นักประเมินคนแรกในเขตหัวเซี่ยที่มาถึงระดับกลาง
น้ำตาแห่งความตื่นเต้นของเธอไหลออกมาอย่างอดไม่อยู่ไม่ใช่เพราะการเพิ่มระดับที่สูงขึ้นของอาชีพตัวเอง แต่เป็เพราะความสำเร็จที่ราวกับปาฏิหาริย์และนำมาซึ่งความตื่นเต้น............ ความสำเร็จครั้งนี้สำคัญต่อเธอมาก เพราะมันเหมือนกับรุ่งอรุณในฤดูหนาวที่แผ่ความอบอุ่นมาสู่ร่างกายและหัวใจอันหนาวเหน็บของเธอ...........
อย่าได้ยอมแพ้ต่อความหวัง..............
อย่ายอมแพ้เด็ดขาด...............
พอเพียงมีใจสู้ ปาฏิหาริย์ก็ไม่ไกลเกินกว่าเราจะเอื้อมถึง.............
คำพูดของเขาวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหูและในใจของเธอ ทำให้น้ำตาของเธอไม่ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ไม่อาจห้ามไม่ให้มันไหลรินออกมาได้ เย่เทียนเซี่ยถอนหายใจเบาๆ รอยยิ้มของเขาดูอบอุ่นยิ่งขึ้น.......... อัตราความเป็ไปได้หนึ่งในหมื่นได้ปรากฏขึ้นมาแล้วจริงๆ มันช่างเป็บทสรุปที่งดงามจริงๆ เพราะสิ่งนี้สามารถทำให้หัวใจที่แตกสลายของหญิงสาวที่น่าสงสารค่อยๆสมานตัวกันอย่างช้าๆท่ามกลางการเฝ้ารอความหวัง................
