ในโถงพระราชวัง ความเงียบที่น่าสะพรึงกลัวปกคลุมไปทั่ว พลังแห่งความกลัวลอยอยู่ในอากาศ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงหรือแม้แต่ขยับตัว พระมเหสีที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างกลับไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ดวงตาของนางยังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง นางหันไปมองหน่วยเงาทมิฬที่ยืนรอบตัวนาง ก่อนจะส่งเสียงเย้ยหยันออกมา
“พวกเ้ามาเข้าร่วมกับข้าสิ ข้าสามารถทำให้พวกเ้าแข็งแกร่งขึ้น หรือมีอำนาจมากกว่าไอ้จักรพรรดิไร้ประโยชน์นี้แน่นอน!”
สิ้นคำพูดของพระมเหสี รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความท้าทายยังคงอยู่บนใบหน้าของนาง แต่ทันใดนั้น นางก็พ่นเืออกมาอย่างกะทันหัน สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็ความตกตะลึง
"เ้า... เ้า... กล้าดียังไงกัน!"
นางพูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน ก่อนที่ร่างของนางจะถูกหน่วยลับเงาทมิฬคนหนึ่งโจมตีอย่างรวดเร็ว ดาบคมกริบแทงเข้าที่ร่างของนางโดยไม่ลังเล หน่วยเงาทมิฬดึงผมของนางขึ้นและลากร่างของพระมเหสีด้วยความโเี้ และนางก็ถูกลากมาคุกเข่าลงที่หน้าบัลลังก์ที่หลี่หวงนั่งอยู่
แม้จะตกอยู่ในสภาพนั้น นางยังไม่ยอมแพ้ พระมเหสียังคงะโออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยหยิ่งผยองและความมั่นใจ
"คนของนิกายปีศาจหยินหยางอยู่ที่ไหน! ออกมาช่วยข้าเดี๋ยวนี้!"
ทว่า ไม่มีใครตอบรับคำขอร้องของนาง ความเงียบกลับปกคลุมห้องโถงต่อไป ทุกคนต่างจับจ้องมองเหตุการณ์ด้วยความหวาดกลัว บรรยากาศเยือกเย็นและน่าสยดสยอง
หลี่หวงยิ้มอย่างเยือกเย็น "เ้าหมายถึงพวกมันงั้นหรือ?"
ทันทีที่หลี่หวงพูดจบ หัวของคนหลายคนถูกโยนลงมาต่อหน้าพระมเหสี หัวเ่าั้ล้วนเป็ของคนที่มาจากนิกายปีศาจหยินหยาง ร่างของพระมเหสีสั่นสะท้านด้วยความใ นางพยายามถอยหนี แต่ขณะที่นางกำลังจะหนี หน่วยเงาทมิฬคนหนึ่งแทงดาบใส่นางอีกครั้ง เสียงกรีดร้องด้วยความเ็ปของพระมเหสีดังลั่นไปทั่วห้องโถง จนนางไม่สามารถขยับตัวได้อีก และเสียงเตือนก็ดังขึ้นมาในใจของหลี่หวง
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 3 ได้รับ 3,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 4 ได้รับ 4,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 4 ได้รับ 4,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 7 ได้รับ 7,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 8 ได้รับ 8,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 8 ได้รับ 8,000 แต้มสังหาร]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สังหารผู้ฝึกตนขั้นทะเลิญญาระดับ 9 ได้รับ 9,000 แต้มสังหาร]
[แต้มสังหารทั้งหมด: 43,230 แต้ม]
หน่วยเงาทมิฬคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหลี่หวง ก่อนจะยื่นคัมภีร์บางอย่างให้เขา หลี่หวงรับมันมาแล้วเปิดอ่านอย่างสงบ ดวงตาสีแดงสดของเขาส่องประกายราวกับสามารถมองทะลุทุกสิ่ง
บรรยากาศในโถงพระราชวังเงียบงันอย่างน่าสยดสยอง ขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่หลี่หวง แต่ไม่มีใครกล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ขุนนางคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ที่มุมห้องพยายามจะส่งเสียงภายในไปหาใครสักคน แต่ก่อนที่เขาจะได้สื่อสาร เสียง ฉึก! ดังขึ้น หัวของเขาหลุดจากบ่าทันที หน่วยลับเงาทมิฬสังหารเขาอย่างไร้ปรานี
ผู้ที่ได้รับเสียงภายในจากขุนนางคนนั้นก็ไม่รอด เขาถูกสังหารโดยเงาทมิฬอีกคนเช่นกัน สายตาหลายคู่เหลือบมองไปยังร่างไร้ิญญาที่กองอยู่กับพื้น แต่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงหรือแม้แต่ขยับตัว
หลี่หวงนั่งนิ่งมองภาพทั้งหมดด้วยความเยือกเย็น ก่อนจะโยนม้วนคัมภีร์ไปตรงหน้าพระมเหสีที่ยังคุกเข่าอยู่ เขาถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "จิ้งอี๋ นิกายหยินหยาง คนที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายเ้ามีระดับการบ่มเพาะพลังถึงขั้นใด?"
พระมเหสี อยู่ในอาการใไม่ได้ตอบอะไร ร่างกายของนางสั่นสะท้านด้วยความกลัว แต่ยังคงนิ่งเงียบ ความเงียบของนางไม่ได้นำพาความเมตตามาให้ ในพริบตา หน่วยเงาทมิฬที่ยืนอยู่ข้างนางคว้าดาบออกมาและฟาดลงตัดนิ้วของนางทันที เสียงกรีดร้องของนางดังลั่นห้องโถงด้วยความเ็ป
อาจารย์ประจำชาติที่ถูกดาบหลายเล่มปักอยู่ในร่าง พยายามจะขยับตัวเพื่อช่วยนาง แต่ก่อนที่เขาจะได้ขยับ หน่วยเงาทมิฬอีกคนแทงดาบใส่เขาอีกครั้งอย่างไม่ปรานี ทำให้ร่างของอาจารย์ประจำชาติทรุดลงไปกองกับพื้น เืไหลออกจากาแรุนแรง แต่เขายังคงจ้องมองด้วยแววตาที่เ็ปและไร้หนทาง
หลี่หวงมองด้วยสายตาที่เยือกเย็น เขาเบือนสายตาไปทางหน่วยเงาทมิฬ ก่อนจะพูดขึ้น
"ค้นหาความทรงจำพวกมันซะ "
หน่วยเงาทมิฬทำความเคารพอย่างเงียบงัน พวกเขาเริ่มการค้นหาความทรงจำจากทั้งพระมเหสีและอาจารย์ประจำชาติทันที ขณะที่การค้นหาดำเนินไป หลี่หวงนั่งนิ่งและครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
หน่วยลับเงาทมิฬเคยจับตัวคนจากนิกายปีศาจหยินหยางมาได้ก่อนหน้านี้และทำการค้นหาิญญาเพื่อหาข้อมูลต่างๆ แต่พวกมันกลับไม่รู้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแผนการของนิกายปีศาจหยินหยางเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่พวกมันรู้เพียงอย่างเดียวคือ พระมเหสีมีชื่อว่า จิ้งอี๋ เป็ลูกสาวของหัวหน้านิกายปีศาจหยินหยาง และพวกเขามีหน้าที่เพียงมาช่วยเหลือนางเท่านั้น ไม่มีข้อมูลอื่นใดที่เป็ประโยชน์นอกจากนี้
หลี่หวงนั่งอย่างสง่างามบนบัลลังก์ สายตาของเขากวาดมองเหล่าข้าราชการ นายพล องค์ชาย และขุนนางที่เหลืออยู่ในห้องโถง ทุกคนที่ยังคงยืนอยู่ที่นี่หลายคนมีการบ่มเพาะพลังอยู่ที่ระดับการสร้างรากฐานขั้นที่ 9 แม้จะเป็ระดับที่ไม่เล็กน้อย แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ต่อเขาเช่นกันหากนำไปใช้เอง
หลี่หวงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “สถานการณ์ในราชวงศ์เพลิง์เป็อย่างไร?”
แม้ว่าคำพูดของเขาจะดังชัดเจน แต่กลับไม่มีใครกล้าตอบคำถาม ทุกคนในห้องโถงต่างนิ่งเงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับหลี่หวง ความหวาดกลัวฉายชัดในแววตาของพวกเขา
หลี่หวงยิ้มเย็นก่อนจะเริ่มนับ “3... 2...”
ทันใดนั้น รัฐมนตรีคนหนึ่งก็ะโออกมาด้วยความตื่นตระหนก "ฝ่าา! ตอนนี้ราชวงศ์เพลิง์ของเราอยู่ในสภาวะล่มสลาย! นอกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองอื่นๆ ทั่วทั้งอาณาจักรต่างประสบปัญหา ทั้งความอดอยาก การทุจริต และบางเมืองเริ่มเตรียมตัวก่อฏ ขณะเดียวกัน ราชวงศ์และนิกายรอบข้างก็กำลังเตรียมโจมตีราชวงศ์เพลิง์ทุกเมื่อ!"
เขาหยุดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่น "พระคลังของเราว่างเปล่า ไม่มีหินิญญาเหลือแม้แต่น้อย ส่วนทางภาคเหนือ พวกสัตว์อสูรจากป่าิญญากำลังเตรียมโจมตีเรา ขณะเดียวกัน แม่ทัพหลายคนที่เฝ้าชายแดนก็พร้อมจะทรยศทุกเมื่อขอรับฝ่าา!"
คำพูดของรัฐมนตรีทำให้บรรยากาศภายในห้องโถงหนักอึ้ง หลายคนเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นไม่ใช่เพราะรับรู้ถึงสภาพวิกฤติของอาณาจักรแต่เป็เพราะตอนนี้หลี่หวงกลับยิ้มออกมาอย่างเ็า
"ดี... แล้วคนอื่นล่ะ มีอะไรจะแจ้งอีกไหม?"
ทุกคนยังคงเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร หลี่หวงพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความพอใจ "ดี... ถ้าเช่นนั้น ในเมื่อไม่มีอะไรที่พวกเ้าจะแก้ตัวแล้ว พวกเ้าออกไปได้ ไปนำทรัพย์สินของพวกเ้ามาบริจาคให้กับราชวงศ์ซะ"
คำสั่งของหลี่หวงทำให้หลายคนตกอยู่ในความมึนงง แต่ก็มีบางคนที่ฉลาด พวกเขารีบทำความเคารพหลี่หวงและรีบออกจากห้องโถงไปทันทีเพื่อทำตามคำสั่ง กลัวว่าหากช้าเกินไป พวกเขาอาจต้องพบกับจุดจบเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ถูกสังหาร
ไม่นานนัก ห้องโถงพระราชวังก็เหลือเพียงพระมเหสี จิ้งอี๋ และอาจารย์ประจำชาติที่ยังคงถูกค้นหาความทรงจำโดยหน่วยเงาทมิฬ หลี่หวงนั่งนิ่งและมองเหตุการณ์ด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
...
ฉากตัดไปที่บ้านขุนนางคนหนึ่ง หลังจากที่เขารีบกลับบ้าน ขุนนางผู้นั้นเริ่มเก็บข้าวของและเรียกภรรยาและลูกๆ มารวมตัวกัน
"สามี เราจะไปไหนกัน?" ภรรยาของเขาถามด้วยความงุนงง
ขุนนางคนนั้นตอบด้วยเสียงสั่น "เราจะหนีออกจากที่นี่... ไปให้ไกล"
ทว่า ก่อนที่เขาจะพูดจบ หัวของเขาก็หลุดจากร่าง ราวกับถูกตัดโดยดาบที่มองไม่เห็น ร่างของขุนนางล้มลงกับพื้น และฉากก็ถูกกลืนด้วยความมืด และมีเพียงแค่เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาเท่านั้น
เสียงกรีดร้องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่บ้านของขุนนางผู้นี้ แต่ยังเกิดขึ้นกับขุนนางอีกหลายคนที่พยายามหลบหนีและไม่ยอมทำตามคำสั่งของหลี่หวง แต่ต่อให้ทำตามขุนนางและนายพลทั้งหมดก็ถูกสังหารอยู่ดี และองค์ชายบางคนที่พยายามคิดหนีหายไปในความมืด ก็ถูกสังหารอย่างรวดเร็วโดยหน่วยลับเงาทมิฬที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดทั่วทั้งอาณาจักร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้