Chapter 24
หลังจากที่ชำระเงินค่าวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำอาหารที่ซื้อเรียบร้อยแล้ว ป๋ายก็เรียกรถกลับไปที่บ้านทันที พอได้ลองออกมาข้างนอกแล้วไม่มีอุปสรรค ป๋ายก็รู้สึกว่ามันเป็อะไรที่สนุกเอามาก ๆ ทั้งการเรียกรถเอง เดินทางคนเดียว และการไปเดินเลือกซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ คนเดียว ยิ่งเป็ใน่ปลายปีที่อากาศดี มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกดีมาก ๆ
ใช้เวลาไม่นาน รถที่เรียกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับมาที่บ้านก็จอดเทียบที่ประตูรั้วบ้านกรีน เมื่อคนขับกดปุ่มถึงที่หมายในแอพพลิเคชั่น ค่าใช้จ่ายในการเรียกรถก็ถูกตัดยอดไปจากบัตรของกรีนทันที
พอรถจอดสนิทดี ป๋ายก็กล่าวขอบคุณคนขับรถและหิ้วของลงมาจากรถ หลังจากที่รถขับออกไป สายตาของคนตัวเล็กก็ไปสะดุดกับคนพี่ที่มายืนรออยู่ที่หน้าบ้าน
"พี่กรีน"
"ไม่ต้องมาเรียกแบบนั้นเลย เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย"
"งั้นเค้าขอเยอะ ๆ เหมือนแมวเลีย"
กรีนส่ายหัวให้กับประโยคที่คนตัวเล็กพูดออกมา แม้ว่าในใจเขาอยากจะเอ็ดน้องแค่ไหนก็ตาม แต่พอได้เห็นสีหน้าท่าทางที่ดูมีความสุขของน้อง มันก็ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก แล้วจะรับรู้ไว้ว่าน้องสนุกกับมัน
"แล้วพี่กรีนออกมาทำไมเนี่ย หน้าผากหายเป็เตาผิงหรือยัง?"
"เข้าบ้านก่อนครับ ค่อยคุยกัน" กรีนเดินมารวบถุงผ้าที่อยู่ในมือของป๋ายและเดินนำเข้าบ้านไป
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้ครับ?"
"ไม่เยอะนะ นิดนึง" กรีนเริ่มสำรวจของภายในถุงที่คนตัวเล็กไปซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ
"ที่ออกไปซื้อคนเดียวนี่จุดประสงค์คืออะไรครับ?"
"เค้าจะทำอาหารให้พี่กรีนกิน!" ป๋ายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สดใส
"ไม่ใช่แล้วมั้งครับ พี่เห็นของที่จะเอามาทำอาหารนิดเดียว นอกนั้นเป็ขนมเธอหมดเลย"
"แหะ ๆ เค้าจะแบ่งกินน้า ไม่ได้กินทีเดียว" คนตัวเล็กเดินมาเกาะแขนกรีนและช้อนตาขึ้นมองอ้อน ๆ
"รับทราบแล้วครับเ้านาย ไม่ต้องอ้อน"
"โอ๊ะ พี่กรีน เค้าเป็เ้านาย"
"อยากเป็เหรอ?"
"เป็แล้วเค้าจะยิ่งใหญ่นะ"
"เ้านายไม่ได้แปลว่ายิ่งใหญ่ครับ แค่จะสามารถนำเราได้เฉย ๆ" ป๋ายเอียงหัวหลังจากได้ยินคำตอบ
"งั้นเค้าเป็ไม่ได้แล้ว เค้านำพี่กรีนไม่ได้นะ พี่กรีนต้องนำเค้า" กรีนหัวเราะในลำคอออกมาที่เห็นคนตัวเล็กพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแ่เบา ก่อนจะส่งมือไปลูบหัวเบา ๆ
"เธออยากทำอาหารให้พี่กินใช่ไหมครับวันนี้?"
"ใช่ ๆ เค้าเปิดครัวคุณเหมียว"
"โอเคครับ แต่ว่าต้องขึ้นไปนอนสัก 2 ชั่วโมงก่อนนะ ค่อยตื่นมา เดี๋ยวจะเหนื่อยไปมากกว่านี้"
"แต่มันจะช้าน้า พี่กรีนก็จะได้กินข้าวช้า"
"พี่ไม่เป็ไร เื่นี้พี่ไม่ให้ขัดนะครับ เป็สี่ขาแล้วไปพักผ่อนก่อน ค่อยตื่นมาทำ"
"ก็ได้"
ป๋ายตอบตกลงออกมา จากนั้นกรีนก็จูงมือป๋ายขึ้นไปส่งที่ห้องนอน คนตัวเล็กกลายร่างไปเป็เ้าสี่ขาและะโขึ้นเตียงไป กรีนกดเปิดเครื่องปรับอากาศ จากนั้นก็เดินไปลูบหัวเ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยเบา ๆ
"หลับสนิท ๆ นะครับ เดี๋ยวอีก 2 ชั่วโมงพี่มาปลุก"
"เหมียว~"
'รับทราบ'
เ้าเหมียวเหยียดตัวยืดยาว ก่อนจะหลับตาลงไป พอเห็นว่าเ้าแมวตัวน้อยหลับไปแล้ว กรีนก็ออกมาจัดการเื่ที่คิดจะทำทันที อันที่จริงอาการป่วยของเขายังไม่ได้ดีขึ้นขนาดนั้น แต่หลังจากที่ได้นอนพักผ่อนก็พอมีแรงลุกขึ้นมาทำอะไรได้บ้าง
หลังจากที่ส่งน้องเข้านอนเพื่อพักผ่อนเป็ที่เรียบร้อย กรีนก็ลงมาจัดการเอาของสดที่น้องซื้อมาเข้าตู้เย็น ส่วนของอื่น ๆ และขนมที่คนตัวเล็กซื้อมา ก็จัดมันให้เข้าที่เข้าทางจนเรียบร้อย
จุดประสงค์ที่อยากให้อีกคนขึ้นไปพักผ่อนก่อนไม่ใช่เพียงแค่กลัวเ้าเหมียวจะเหนื่อยเท่านั้น แต่กรีนมีสิ่งที่อยากจะเตรียมการเพื่อรออีกคนตื่น
นั่นก็คือจัดบ้านเซอร์ไพร์สป๋าย
นับย้อนไป 3 เดือนที่แล้ว เป็วันที่กรีนตัดสินใจพาป๋ายเข้ามาอยู่ด้วยอย่างเป็ทางการ ใน่ก่อนหน้านั้น แม้ว่าจะผ่านการตัดสินใจอะไรมามากมาย จนคิดว่าจะไปส่งเ้าตัวเล็กกลับบ้านบัตเลอร์ แต่ในการตัดสินใจ่นาทีสุดท้าย เขาก็พาอีกคนกลับมากับเขา
ยอมรับเลยว่าในวินาทีนั้นมันคือการตัดสินใจโดยที่ใช้ความรู้สึกล้วน ๆ แค่ความรู้สึกจริง ๆ ที่ทำให้ทุกวันนี้ป๋ายมาอยู่กับเขาในบ้านหลังนี้ จนมาถึงวินาทีนี้ กรีนก็ยังคงคิดว่าเขาตัดสินใจถูก เพราะทุกวันนี้กรีนมีความสุขมาก กับการมีน้องวนเวียนอยู่รอบตัว
ถึงแม้ว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่มันก็ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง การอยู่ร่วมกับเ้านาย ก็ถือเป็เื่ใหม่สำหรับป๋าย ส่วนการอยู่ร่วมกันกับครึ่งทาง ก็ถือเป็เื่ใหม่สำหรับกรีนเช่นกัน
กรีนไม่ได้สนใจว่าป๋ายจะจำได้หรือเปล่า เขาแค่อยากจะเฉลิมฉลองให้กับตัวน้องและตัวเขา ที่เป็ความสุขให้กันและกันมาได้ถึงสามเดือน ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แต่กรีนก็หวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
สำหรับการจัดบ้านเพื่อเซอร์ไพร์สน้องก็ไม่ได้มีอะไรมาก เขาแค่้ารวบรวมโมเมนต์ต่าง ๆ ที่ได้อยู่ด้วยกันในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา เลยปริ้นรูปขนาดเล็กมา และห้อยไว้ที่เชือก เปิดไฟตกแต่งเล็กน้อย รูปต่าง ๆ ที่เลือกมา ก็มีทั้งรูปคู่ แล้วก็รูปเดี่ยวของป๋าย ที่กรีนถ่ายไว้อยู่บ่อย ๆ ตอนที่น้องตั้งใจทำอะไรสักอย่าง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กรีนดีใจที่น้องได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ได้ไปในที่ที่อยากไปบ่อยขึ้น ได้ทำอะไรที่อยากทำ อย่างเช่นการทำอาหารวันนี้ เขาไม่คิดว่าน้องจะลุกขึ้นมาทำให้ และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่คิดว่าตัวป๋ายเองจะติดใจและชื่นชอบการทำอาหาร จนกล้าที่จะออกไปซื้อของคนเดียวแบบที่ทำวันนี้
กรีนรู้ดีว่าสำหรับป๋ายแล้ว การออกไปไหนมาไหนคนเดียวมันเป็เื่น่ากลัว เพราะที่ผ่านมากรีนก็เป็คนพาไปตลอด ในตอนแรกที่ไม่พอใจที่น้องออกไปคนเดียว แต่หลังจากที่ได้เห็นรอยยิ้ม แววตา สีหน้าที่ดูสนุก กรีนเองก็อยากลองเปิดใจให้น้องได้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง
ที่ผ่านมากรีนคอยช่วยตลอด แต่หลังจากนี้ก็คงเริ่มให้ป๋ายได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้างแล้ว ไม่ใช่เพื่อลดภาระหรืออยากดูแลน้อยลง แต่ทุกอย่างมีเวลาของมัน ถ้าเกิดตอนไหนที่ป๋ายนึกอยากจะทำอะไรขึ้นมา กรีนก็ไม่อยากให้ป๋ายมารอเขาอยู่ตลอด อยากให้ตอนที่เกิดความคิดที่อยากจะทำอะไร ป๋ายได้ทำมันทันที ไม่ว่าสิ่งที่ป๋ายอยากทำจะมีแรงบันดาลใจมาจากอะไร เขาก็อยากให้น้องได้ทำมัน เพราะแรงบันดาลใจมันไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ถ้าครั้งไหนที่ได้ลองทำแล้วป๋ายชอบมันมาก ๆ มันก็คุ้มสำหรับการเริ่มต้น
กรีนจัดการห้อยรูปความทรงจำต่าง ๆ ที่ผ่านมา ห้อยไว้บนเชือกตามแนวราวบันไดในบ้าน ในตอนแรกที่คิดอยากจะเซอร์ไพร์สป๋าย กรีนไม่คิดว่ารูปของตัวเองกับน้องจะเยอะขนาดนี้ แต่พอได้ย้อนไปดูรูปแต่ละรูปแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะใกล้หรือว่าจะไกล เขาทั้งคู่ได้ถ่ายรูปด้วยกันทุกสถานที่ แม้กระทั่งไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตแค่ 10 นาที เขาก็จะชวนน้องถ่ายรูปไว้ตลอด เป็อีกอย่างที่ตัวกรีนเองก็เพิ่งจะสังเกตมันตอนที่ได้ย้อนกลับไปดู
หลังจากที่จัดการรูปทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ขึ้นหยิบกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้ป๋าย ถึงแม้ว่าจะซื้อของขวัญให้น้องบ่อย แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อที่จะให้มันเลย ตามที่เขารู้สึก ป๋ายเป็คนที่แสดงปฏิกิริยาตอบรับกับคนที่พูดกับเขา ให้ของเขาดีมาก ๆ แล้วมันเป็อะไรที่บริสุทธิ์มากสำหรับกรีน เหมือนกับชื่อที่กรีนตั้งให้ ให้ความหมายว่าบริสุทธิ์ ที่เคยบอกว่าพอเห็นป๋ายแล้วนึกถึงคำว่าบริสุทธิ์ ตอนนี้มันก็ยังเป็แบบนั้นอยู่
พอจะเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ทำเพียงแค่รอเวลาที่ป๋ายจะตื่น กรีนตั้งเวลาไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อขึ้นไปปลุกคนตัวเล็ก้า เพราะเขาจะให้น้องเดินดูรูปั้แ่บันไดชั้นบนลงมาถึงชั้นล่าง
พอถึงเวลากรีนก็ปิดไฟที่ชั้นล่างทั้งหมด จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ห้องของป๋ายเพื่อปลุกน้อง กรีนค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน เดินไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียง และเอื้อมมือไปลูบหัวคนตัวเล็กเบา ๆ
"ตัวเล็กครับ ตื่นได้แล้วนะ แล้วทำไมมานอนเป็คนแบบนี้ล่ะ กลายร่างไปแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"อื้อ" ป๋ายสะลึมสะลือและส่งเสียงออกมา
"อยากตื่นหรือยังครับหรือว่าอยากนอนต่อ?"
"เค้าตื่นเลยก็ได้" ป๋ายขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะอ้าแขนให้คนพี่ช้อนตัวเขาขึ้น กรีนเห็นก็รวบตัวน้องให้นั่งทันที คนที่เพิ่งตื่นนอนก็ไม่ได้ลุกขึ้นดี ๆ ทำเพียงแค่ซบหัวลงที่บ่าของกรีนและพิงไว้อย่างนั้น คนโดนซบก็ทำได้แค่เอ็นดู
"อยากตื่นจริงหรือเปล่าเนี่ย หื้ม? จะนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ขึ้นมาปลุกอีกรอบ"
"ไม่เอา เดี๋ยวเค้าตื่นเลย มีภารกิจอันยิ่งใหญ่นะ" พอได้ยินคำตอบจากเสียงงัวเงียของอีกคน กรีนก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ
"มาครับ พี่พาลงไป"
กรีนดึงตัวน้องให้ลุกขึ้นจากเตียงมายืนที่พื้น จากนั้นก็คว้าข้อมือน้องและเดินนำหน้าไปที่หน้าประตูห้อง พอประตูห้องถูกเปิดออก สิ่งที่คนตัวเล็กััได้ก็มีเพียงความมืดเท่านั้น เลยทำให้เกาะแขนกรีนไว้ไม่ห่าง
"พี่กรีน มืดนะ"
"ไม่เป็ไรครับ"
กรีนกระชับแขนน้องที่เกาะอยู่ให้แน่นขึ้น กลัวว่าอีกคนจะกลัวมากจนเกินไป จากนั้นก็ล้วงกระเป๋ากางเกงและหยิบรีโมทที่ใช้บังคับไฟที่เขาติดไว้ขึ้นมาและกดปุ่มเปิด จากนั้นไฟก็สว่างขึ้นตามแนวเราบันได
"พี่กรีน" แขนที่กระชับแน่นอยู่ที่แขนกรีนค่อย ๆ คลายออก
"เดินไปดูสิครับ"
คนตัวเล็กพยักหน้ารัว ๆ ให้กรีน จากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวไปดูรูปตามราวบันไดทีละใบ กรีนไม่ได้ทำแค่ปริ้นมันมาห้อยไว้เท่านั้น แต่เขาเขียนกำกับไว้ใต้รูปด้วย ว่ารูปนั้นถูกถ่ายไว้วันที่เท่าไหร่ ส่วนด้านหลังรูปก็จะมีสถานที่เขียนไว้ว่ารูปนั้นถูกถ่ายไว้ที่ไหน
"พี่กรีนถ่ายเค้าเยอะจัง" คนตัวเล็กพูดขึ้นมาในขณะที่มองรูปไปด้วย
"ขอโทษนะครับที่ถ่ายแล้วไม่ถามก่อน"
"ไม่เป็ไรเลย เค้าชอบมาก เค้าไม่รู้เลยว่ามันรู้สึกดีขนาดนี้ เวลาที่กลับมามองรูปเก่า ๆ เค้าขอบคุณพี่กรีนที่ถ่ายไว้น้า"
"จำได้ไหมว่าแต่ละรูปคือที่ไหน?" กรีนถามขึ้นมาในขณะที่น้องกำลังตั้งใจไล่ดูรูป
"ไม่แน่ใจนะ"
"ไหนลองทายดูสิครับ รูปนี้" คนที่ชี้ไปที่รูปที่ 2 ที่ห้อยไว้
"อืม อ๋อ อันนี้วันที่เราไปซื้อของเข้าบ้านด้วยกันครั้งแรก ใช่ไหม ๆ" กรีนยิ้มก่อนที่จะตอบกลับออกมา
"ใช่ครับ จำได้ด้วย"
"ก็เค้ายืนงงอยู่ว่าของเล่นมันเล่นยังไง"
"เก่งมาก รูปนี้ล่ะ" กรีนชี้ไปที่รูปถัดมาที่ไม่มีรูปคนอยู่
"เค้ารู้! อันนี้ถ้วยข้าวอันแรกที่พี่กรีนซื้อให้เค้า มีชื่อเค้าอยู่ด้วยตรงถ้วย เค้าชอบมาก!"
"ใช่ครับ"
"รูปนี้ ๆ พี่กรีนจะซื้อผ้าห่มให้เค้า แต่ว่าไม่รู้จะเลือกสีอะไร พี่กรีนตั้งใจจะทักไปถามพี่บลู แต่ว่ากดผิดมาเป็ส่งหาเค้า เค้ารู้หมดเลย" ป๋ายจับรูปถ่ายของผ้าห่มและบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นด้วยรอยยิ้ม กรีนไม่ได้พูดอะไรออกมาปล่อยให้น้องทบทวนความทรงจำต่อไป
"อันนี้รูปที่คนนั้นถ่ายให้ที่ดูปลา เค้ายังจำสายตาที่คนนั้นมองพี่กรีนได้อยู่เลย หวานมาก! เค้าต้องมอง ๆ กลับให้รู้ว่าพี่กรีนของเค้า"
"โอ๊ะ อันนี้พี่กรีนถ่ายตอนไหนเนี่ย เค้าไม่รู้ตัวเลย" คนตัวเล็กหยิบรูปถ่ายของตัวเองที่น้ำตกขึ้นมาและอุทานด้วยความใ เพราะมันเป็รูปที่ป๋ายแทบจะหันหน้าเข้าหากล้อง แต่กลับไม่รู้ตัวเลยว่าถูกกรีนถ่ายรูปไว้
"เธอมัวแต่สนใจหินใต้น้ำ จะเห็นได้ยังไงครับ"
ทั้งคู่เดินดูรูปลงมาเรื่อย ๆ ทีละใบตามขั้นบันได กินเวลาไปพอสมควร เพราะคนน้องพูดบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามรูปด้วยความสนุกสนาน กรีนเองก็ไม่ได้ขัดอะไร มันยิ่งทำให้เขามีความสุขมากกว่า เดินลงมาจนถึงขั้นสุดท้าย และเห็นรูปที่ดูเด่นที่สุดสำหรับวันนี้ มันเป็รูปที่กรีนใช้กล้องโพลารอยด์ถ่ายออกมา
"ตอนนั้นพี่กรีนถือกล้องออกมาด้วยเหรอ?" คนน้องจับรูปใบนั้นค้างไว้และถามกรีนออกมา
มันคือรูปที่ถูกระบุวันที่เอาไว้เป็วันนี้ และสถานที่ที่บันทึกด้านหลังรูปก็เขียนว่า Home เป็รูปที่ป๋ายเดินถือของและลงจากรถที่เรียกกลับมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อเช้า กรีนถือกล้องโพลารอยด์ไปรอป๋ายที่หน้าบ้าน ในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังวุ่นวายกับของที่ซื้อมา กรีนก็ลั่นชัตเตอร์ออกมาหนึ่งครั้งและเก็บกล้องไป เพราะจังหวะนั้นจังหวะเดียว ที่ทำให้มีรูปให้ป๋ายยืนมองมันด้วยรอยยิ้มอยู่ตอนนี้
"ชื่อรูปว่าก้าวแรกของป๋ายป๋าย"
"น่ารักมาก ๆ เลยพี่กรีน"
กรีนตั้งชื่อรูปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็ชื่อที่โผล่เข้ามาในหัวเขาหลังจากที่กดชัตเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว ในความรู้สึกยังคงคิดอยู่เสมอว่าคงไม่มีประโยคไหนเหมาะกับรูปนี้ไปมากกว่านี้แล้ว
"มันคือก้าวแรกที่เธอกล้าก้าวออกไปคนเดียว ก้าวแรกที่เธอกล้าข้ามคอมฟอร์ทโซนออกไป พี่รู้ว่าเธอกลัวมาตลอด แต่เหตุผลที่เธอบอกก็คือเธอออกไปทำอะไรบางอย่างเพื่อพี่ พี่ขอบคุณมาก ๆ นะครับ" กรีนคว้ามือน้องมาจับทั้งสองข้างและพูดออกไป
"เค้าก็ขอบคุณพี่กรีนมาก ๆ นะ" คนตัวเล็กเข้าไปกอดพี่ไว้แน่น
"ไม่ถามพี่เหรอว่าวันนี้วันอะไร?" ป๋ายผละกอดออกและยิ้มกว้าง ๆ
"ตอนแรกเค้าคิดว่าเค้านับอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าพี่กรีนก็นับเหมือนกัน"
"หื้ม?"
กรีนเลิกคิ้วขึ้นเพราะไม่เข้าใจความหมายที่น้องพูดออกมา ส่วนเ้าของประโยคก่อนหน้าก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง เข้าไปได้สักพักก็วิ่งลงมา และยื่นกล่องให้กรีน
"อะไรครับ?" กรีนรับกล่องจากมือน้องมาและถามออกไป
"ก็ 3 เดือนที่เค้ามาอยู่กับพี่กรีนไง" กรีนฟังด้วยความใ เพราะไม่คิดว่าป๋ายรู้
"ไม่คิดว่าเธอจำได้"
"เค้าก็ไม่คิดว่าพี่กรีนจะจำได้"
"เขียนจดหมายให้พี่ด้วยเหรอ?"
"ใช่ ๆ อย่าอ่านออกเสียงนะ เค้าเขิน" กรีนหัวเราะในลำคอและสายหัวออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เริ่มอ่านจดหมายที่น้องเขียนให้
ถึง เ้านายพี่กรีน / พี่กรีนของป๋ายป๋าย
เค้าไม่รู้ว่าพี่กรีนจำได้ไหม ว่าวันนี้คือวันที่ครบ 3 เดือนที่เค้ามาอยู่กับพี่กรีน เค้าไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่าคำว่าขอบคุณ ขอบคุณที่วันนั้นพี่กรีนเรียกเค้ากลับมา ขอบคุณที่พี่กรีนดูแลเค้า เป็ห่วงเค้า เค้าสัญญากับตัวเองหลายรอบมากว่าจะเป็แมวที่ดีของพี่กรีน แต่ก็ดื้อให้พี่กรีนปวดหัวตลอด เค้าขอโทษมาก ๆ น้า
3 เดือนเป็เวลาที่ทั้งเยอะแล้วก็น้อยสำหรับเค้าเลย เพราะถ้าจะพูดว่ามันเยอะ มันก็ยังไม่เยอะเลย เพราะเค้ายังอยากอยู่กับพี่กรีนอีกนาน ๆ แต่ถ้าพูดว่ามันน้อย มันก็ไม่น่าจะน้อย เพราะเราได้ทำอะไรด้วยกันมาตั้งหลายอย่างแหนะ
ก่อนหน้านี้เค้ากังวลมาก ว่าเค้าจะถูกส่งกลับไปตอนไหน เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมันจะมีอีกเยอะหรือเปล่า แต่ตอนนี้เค้าคงเลือกปล่อยวางมันแล้วนะ อะไรจะเกิดขึ้นเค้าก็จะปล่อยให้มันเกิดไป เค้าเลือกที่จะสนใจพี่กรีนแค่คนเดียว
อย่างที่พี่กรีนเคยพูดกับเค้าอยู่บ่อย ๆ ว่าไม่ว่าในอนาคตเค้าจะไปเป็แมวของใคร อยู่บ้านหลังไหน ใกล้หรือว่าไกลพี่กรีน เค้าก็จะเป็เด็กดีของเ้านาย เค้าไม่รู้ว่าถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เค้ายังจะเป็แมวตัวโปรดของพี่กรีนหรือเปล่า เพราะเกรซสอนเค้าว่าถ้าเวลาผ่านไปความคิดของเราก็จะเปลี่ยนไป เค้าคงบังคับให้พี่กรีนชอบเค้าที่สุดตลอดไปไม่ได้
แต่สำหรับเค้า ตอนนี้เค้ามีความสุขมากจนไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีความสุขได้มากขนาดนี้อีกหรือเปล่า แล้วคนที่ทำให้เค้ามีความสุขก็คือพี่กรีน
เพราะฉะนั้นพี่กรีนจะเป็อันดับหนึ่งของเค้าตลอดไปเลยนะ!
3 เดือนกับเ้านาย
จาก ป๋ายป๋ายของพี่กรีน
"ทำไมหัดเขียนอะไรได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย หื้ม?"
"ตอนแรกเค้าจะเขียนคนเดียว ให้พี่กรีนอ่านคนแรก แต่เค้าไม่มั่นใจเลย เค้าเลยให้พี่ดีน่าช่วยดู พี่กรีนไม่โกรธเค้าใช่ไหม?"
"พี่จะเอาอะไรมาโกรธเธอครับ"
"ไม่โกรธก็กอด ๆ นะ" คนน้องอาแขนรอ กรีนก็ไม่รอช้าที่จะรวบตัวอีกคนมากอดไว้แน่น ๆ
"ป๋ายป๋าย พี่รักเธอนะ"
"เค้าก็รักพี่กรีน" ป๋ายผละกอดออกก่อนที่เขย่งเท้าขึ้นไปจรดริมฝีปากลงบนแก้มคนพี่
"ป๋าย ใครสอนให้ทำแบบนี้ หื้ม?"
"พี่ดีน่าสอนเค้า มันไม่ได้เหรอ?" ป๋ายหน้าหงอยลง
"เปล่าครับ"
"อ้าว งั้นก็แปลว่าทำได้นะ พี่บลูก็จุ๊บ ๆ แก้มพี่ดีน่าทุกวันเลย ก่อนออกไปทำงาน"
"ก็เขาเป็แฟนกัน"
"งั้นเราเป็แฟนกันไหมล่ะ?" คิ้วกรีนขมวดทันทีที่ได้ยิน
"ป๋ายป๋าย"
"ไม่รู้ ๆ ๆ"
"เดี๋ยวจะโดนตี"
"พี่กรีนเปิดของขวัญก่อนสิ" กรีนเกือบลืมไปเลยว่าน้องมีของขวัญให้
มือหนาค่อย ๆ คลายโบว์หน้ากล่องออก จากนั้นก็เปิดฝากล่อง สิ่งที่น้องเตรียมไว้ให้กรีนเป็ของขวัญ ทำให้กรีนยิ้มออกมาไม่หยุด
"ไปทำตอนไหนครับ?"
"นานมาก ๆ แล้ว เค้าถามพี่บลูไป ว่าพี่กรีนชอบใส่อะไรที่สุด แล้วพี่บลูก็บอกว่ากำไลข้อมือ เค้าเลยสั่งทำกำไลข้อมือให้พี่กรีน แต่ว่าเป็กำไลข้อมือที่มีชื่อเขา เป็ตั้งกำไลข้อมือที่พี่กรีนชอบแล้วยังมีชื่อเค้าอีก แปลว่าพี่กรีนจะต้องชอบมันมาก ๆ เลยนะ"
นี่เป็สิ่งที่ทำให้กรีนยิ้มได้มากที่สุดของวัน ไม่รู้ประโยคพวกนี้คนตัวเล็กไปเรียนรู้มาจากไหน แต่เขาชอบใจเอามาก ๆ ที่น้องพูดมันออกมา กำไลข้อมือสีเงินที่มีจี้รูปแมวและจี้ตัวอักษรตัว B เล็ก ๆ เพื่อแสดงความเป็เ้าของ
"อันนี้คืออะไรเนี่ย?" กรีนพลิกเข้าไปที่ด้านในของกำไล ซึ่งมีข้อความสลักไว้ และก็ถามน้องออกมา
"ก็พี่กรีนยังทำเลย เค้าก็ทำบ้าง"
กรีนระบายยิ้มกว้าง ๆ ออกมาอีกครั้ง หลังจากที่เห็นด้านในของกำไลข้อมือสลักไว้ว่า กรีน โนเวล เ้านายของป๋ายป๋าย และมีช่องทางการติดต่อเป็เบอร์ของตัวเอง เหมือนกับที่กรีนสลักไว้ที่ปลอกคอป๋ายว่าป๋ายป๋ายเป็แมวของกรีน
"เธอคงน่ารักไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละป๋ายป๋าย เพราะตอนนี้ก็น่ารักจนไม่รู้จะน่ารักยังไงแล้ว"
คงไม่ต้องทำอาหารให้พี่กินละมั้งครับ
แค่นี้พี่ก็อิ่มความสุขจนไม่รู้จะอิ่มยังไงแล้ว