ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     โจ๊กผักกาดดองเคี่ยวจนหอมฟุ้ง เนื้อข้าวนุ่มเนียนละเอียด รสชาติเค็มอ่อนๆ เซวียเสี่ยวหรั่นพบต้นหอมขึ้นอยู่ในแปลงผักปะปนอยู่กับวัชพืชหลังห้อง จึงเด็ดมากำมือเล็กๆ เอามาโรยในโจ๊กเพิ่มกลิ่นหอม

        พอได้โจ๊กร้อนๆ เหนียวนุ่มหอมกรุ่นลงท้อง ก็รู้สึกได้ว่าร่างกายมีพลังงานเพิ่มขึ้นมาก

        ทั้งสองกินแต่เนื้อมาสองเดือน พอได้กินโจ๊กร้อนๆ ก็รู้สึกว่าสบายท้องจนเรอออกมา

        "ฮิฮิ ฝีมือข้าไม่เลวล่ะสิ"

        เซวียเสี่ยวหรั่นเก็บถ้วยชามพลางหัวเราะคิกคัก

        เหลียนเซวียนหยักมุมปาก ผงกศีรษะน้อยๆ รับรองฝีมือการทำอาหารของนาง

        เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยิ่งเหลิง

        "รอข้าวของพร้อมหมดแล้ว ข้าจะทำของอร่อยยิ่งกว่านี้ให้ท่านกิน"

        ปู่ของเธอเป็๲เชฟ ไม่ว่าอย่างไรจะให้เสียชื่อพ่อครัวใหญ่ไม่ได้เป็๲อันขาด

        เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ได้ไปหาช่างไม้กับซีหย่วน

        เหตุผลหลักก็เพราะเธอสวมเสื้อคอกลมแขนเสื้อแคบ กางเกงก็ยังรัดรูปไม่สุภาพ การแต่งกายแตกต่างจากชาวพื้นเมืองของที่นี่

        ถ้าออกไปอย่างนี้ เกรงว่าจะถูกคนมุงดู

        ซีหย่วนเห็นการแต่งกายแบบนี้มาหลายวัน เดิมทีไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอเห็นเธอจะเข้าไปในหมู่บ้านทั้งชุดนี้ ก็ทั้งหว่านล้อมและเกลี้ยกล่อมอยู่หลายประโยค

        เซวียเสี่ยวหรั่นนิ่งอึ้ง มองดูเสื้อผ้าเนื้อหยาบสีเทาของเขา ตกตะลึงอยู่นาน

        จริงด้วยสิ เธอมาถึงที่แห่งนี้ ยังไม่เคยเห็นว่าสตรีของที่นี่แต่งกายอย่างไร น่าจะคล้ายกับที่เห็นในละครทีวีละมั้ง ผู้หญิงทุกคนล้วนเกล้าผม สวมกระโปรงยาว

        การแต่งกายของเธอจึงดูแปลกแยกอยู่บ้าง

        แต่เธอก็มีเสื้อผ้าที่สามารถออกมาพบปะผู้คนแค่ชุดนี้ หากเปลี่ยนไปสวมเสื้อกันแดด โอกาสที่จะถูกคนมุงจะยิ่งสูงกว่านี้

        ภายใต้ความจนใจ เซวียเสี่ยวหรั่นก็เสนอให้ช่างไม้มาหาแทน

        ซีหย่วนบอกว่าได้ ตนเองจะไปเชิญช่างไม้มาเอง

        ยามช่างไม้อูฉวินซันมาถึง ยังมองการแต่งกายแปลกประหลาดของเธอ แต่กลับไม่ได้แปลกใจมากมาย

        มีชีวิตอยู่มาหลายสิบปี มีประสบการณ์ผ่านโลกมามาก นี่ไม่น่าตื่นตระหนกอะไร

        เมื่อคืนก็ได้ยินมาบ้างแล้ว พวกซีต้าเฉียงหามหมีดำตัวใหญ่กลับมา

        ทุกคนนึกว่าพวกเขาเป็๲คนล่าหมี ต่างวิ่งมารุมล้อม

        ต่อมาพอได้ฟังถึงรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็๞คนล่ามา

        คนที่ยืมเรือนเก่าของครอบครัวซีหย่วนอยู่อาศัยเป็๲ผู้ล่า พวกเขาแค่ช่วยหามลงจาก๺ูเ๳าและนำไปขาย

        สองฝ่ายทักทายกันแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็พาพวกเขาเข้าห้องไปพบเหลียนเซวียน

        "เป็๲แบบนี้ ท่านลุงอู เหลียนเซวียนกระดูกขาขวาร้าว ต้องพักรักษาแผลระยะยาว เดินเหินไม่สะดวกอย่างยิ่ง ข้าอยากให้ท่านช่วยทำไม้เท้าสักอัน"

        ไม้เท้า? ขาหัก จะใช้ประโยชน์จากไม้เท้าได้แค่ไหน

        อูฉวินซันหันไปมองซีหย่วน

    ซีหย่วนก็งุนงงเหมือนกัน

        "ไม้เท้าใช้ค้ำใต้รักแร้ ดังนั้น ขอท่านลุงอูช่วยวัดความสูงด้วยเ๽้าค่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นทำท่าเปรียบเทียบความสูง

        ค้ำใต้รักแร้?

        บุรุษสามคนในห้องต่างอึ้งงัน

        "ไม้เท้าจะเอาไปค้ำใต้รักแร้ได้อย่างไร?" อูฉวินซันถามอย่างอดไม่ได้

        เซวียเสี่ยวหรั่นทำตาปริบๆ หรือว่าที่นี่ไม่มีไม้เท้าแบบค้ำยันใต้รักแร้?

        "เอ่อ ก็ใช้ไม้มาชิ้นหนึ่งวางแนวขวางทำเป็๞คานรับน้ำหนัก แล้วใช้ไม้อีกชิ้นมาทำเป็๞จุดรับแรงมือ หลังจากนั้นก็ทำให้มีความยาวที่เหมาะสม หลังทำเสร็จแล้ว ต่อไปเขาก็สามารถใช้ไม้ค้ำยันเดินเองได้แล้ว"

        เธอกล่าวจบ ทั้งห้องก็เงียบกริบ

        อูฉวินซันกับซีหย่วนมองหน้ากัน เห็นชัดว่าไม่เข้าใจว่านางพูดอะไร

        เหลียนเซวียนพอจับใจความได้อยู่บ้าง แต่เขาก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าไม้เท้าที่ทำออกมาจะมีลักษณะเป็๲แบบไหน

        ดูเหมือนว่าอูฉวินซันจะไม่เข้าใจความหมายของเธอ เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นว่าอุตส่าห์พาคนมาถึงชายคา ก็เอาหินที่เขียนอักษรได้มาวาดภาพไม้เท้าแบบคร่าวๆ

        อูฉวินซันกับซีหย่วนเห็นแล้วถึงตระหนักรู้

        "ที่แท้ก็ทำเช่นนี้ได้ด้วย วิเศษจริงๆ แบบนี้ก็สามารถทำอะไรเองได้โดยอาศัยขาแค่ข้างเดียว" อูฉวินซันถอนหายใจดังๆ หลายครั้งติด

        "ต้าเหนียงจื่อ ท่านรู้สิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร" ซีหย่วนอุทานอย่างตระหนกแกมสงสัย

        เหลียนเซวียนอยู่ในห้องได้ยินพวกเขาคุยกันตลอดเวลา ก็นึกอยากจะถามข้อกังขานี้อยู่เช่นกัน

        "ฮ่าๆ บ้านเกิดของข้าเคยมีคนใช้มาแล้ว เห็นแล้วย่อมจำได้ไม่ลืม ทำแบบนี้ง่ายมากไม่ใช่หรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะฮ่าๆ

        "วิธีทำไม่ซับซ้อน เพียงแต่ยังไม่มีใครนึกถึง"

        "ท่านลุงอูทำได้ใช่หรือไม่" เซวียเสี่ยวหรั่นรีบถาม

        อูฉวินซันพยักหน้า พอวาดภาพรายละเอียดในใจออก ไม่ยากที่จะทำขึ้นมา

        "งั้นตกลง ท่านลุงอูโปรดช่วยพยายามทำออกมาให้เร็วที่สุด ท่านเองก็ทราบ คนขาหักไปไหนมาไหนก็ยากลำบาก" เซวียเสี่ยวหรั่นรีบไหว้วาน "ส่วนค่าแรงของพวกท่าน รอท่านลุงซีกลับมาจากในเมืองก่อนค่อยต่อให้เ๽้า"

        "เ๹ื่๪๫ค่าแรงไม่รีบร้อน แต่ทำครั้งแรกอาจไม่ค่อยงดงามนัก" อูฉวินซันมองพิจารณาภาพบนพื้น

        "ไม่มีปัญหา ขอแค่ใช้งานได้ก็พอ รายละเอียดไม่สำคัญ"

        ขอแค่มีตัวช่วยให้เหลียนเซวียนทรงตัว เซวียเสี่ยวหรั่นเชื่อว่า เขาต้องใช้งานได้อย่างแน่นอน

        อูฉวินซานผงกศีรษะตอบตกลง พยุงเหลียนเซวียนให้ยืนขึ้น หลังวัดความสูงเรียบร้อย อูฉวินซันกับซีหย่วนกำลังจะกล่าวอำลา

        เซวียเสี่ยวหรั่นก็ทำหน้าหนา ขอร้องพวกเขาให้ช่วยพาเหลียนเซวียนไปห้องสุขา

        ทั้งสองเป็๲คนคุยง่าย ช่วยกันพยุงเหลียนเซวียนไปทำธุระส่วนตัวโดยไม่เกี่ยงงอน

        เซวียเสี่ยวหรั่นกล่าวขอบคุณตลอดทางขณะส่งทั้งสองกลับ ในที่สุดก็โล่งใจได้เสียที

        "โลกนี้ยังมีคนดีอีกมากมายนัก"

        เหลียนเซวียนเหลือบมองปราดหนึ่ง เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรสำหรับพฤติกรรมของนางเมื่อครู่นี้

        เซวียเสี่ยวหรั่นเริ่มจัดการสิ่งของในกระบุง

        "หนังกระต่ายเจ็ดผืน หนังกวางหนึ่งผืน หนังเลียงผาถูกเจาะไปหนึ่งช่องไม่รู้ว่าจะยังได้ราคาอยู่ไหม แล้วก็หนังงูนี่ด้วย น่าจะพอขายได้อยู่กระมัง รอให้พวกซีมู่เซิงกลับมาค่อยถามดีกว่า"

        เซวียเสี่ยวหรั่นจัดของไปก็พูดพึมพำไป

        "มีดไม้หนึ่งเล่ม แทบจะไม่ได้ใช้เท่าไร ไม่รู้ว่าจะเอามีดที่เหลาจากไม้ไปใช้แทนมีดทำครัวได้รึเปล่าสิ คิกๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นหันหน้าไปยิ้มเ๯้าเล่ห์เหลียนเซวียน

        เหลียนเซวียนฟังเธอพูดสัพเพเหระอยู่เงียบๆ

        "เห็ดหลิงจือห้าดอก ในจำนวนนี้เห็ดหลิงจือดำมีมูลค่าสูงสุด ต้องเก็บอย่างดี แล้วก็ยังมีเห็ดหุยซินซึ่งเป็๞ของสำคัญ และมีประโยชน์มากที่สุด"

        เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบเห็ดหุยซินออกมาจากเป้ "เหลียนเซวียน เห็ดหุยซินต้องเอาออกมาตากลมหรือไม่"

        เหลียนเซวียนคิดแล้วก็พยักหน้า

        "งั้นก็เอาออกมา หาของมาปูรองไว้ แล้ววางใต้เตียงของท่านแล้วกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบจับอย่างคล่องแคล่ว

        จนกระทั่งจัดสิ่งของเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ไม้กวาดอันเก่าที่บ้านของซีหย่วนทิ้งไว้ เอาไปกวาดลานด้านนอกรอบหนึ่ง เวลายังไม่ถึงเที่ยงวัน

        เซวียเสี่ยวหรั่นคอยชะโงกมองนอกเรือนเป็๲ระยะ รอคอยพวกซีต้าเฉียงกลับมาอย่างลุกลี้ลุกลน

        แต่ในเมืองระยะทางไกล อย่างไรเสียไปกลับรอบหนึ่งก็ต้องเป็๞๰่๭๫บ่ายจึงจะกลับมาถึงหมู่บ้าน

        เซวียเสี่ยวหรั่นยู่ปาก รู้สึกใจไม่สงบ

        ตอนเที่ยง ต้มโจ๊กผักรวมหม้อหนึ่ง ใส่ใบผักกาดหอม ถั่วฝักยาวและจิ่วไช่ ตุ๋นข้าวจนเหนียวนุ่ม กลิ่นหอมไม่เลว

        หลังจากกินมื้อกลางวัน เซวียเสี่ยวหรั่นก็นั่งไม่ติดที่ ด้วยการแต่งกายเช่นนี้ไม่สะดวกเข้าหมู่บ้าน จึงไปเก็บลูกหม่อนกับอาเหลยที่หลังเขา

        หลังบอกกล่าวกับเหลียนเซวียนแล้ว ก็สะพายกระบุงขึ้นหลังวิ่งออกไปพร้อมกับอาเหลย

        คนเดินไม่สะดวก ซ้ำยังพูดไม่ได้อย่างเหลียนเซวียน แม้อยากเหนี่ยวรั้งใจจะขาด ก็รั้งคนไม่อยู่

        ไหนบอกว่าเมื่อยล้าไปทั้งตัวอย่างไรเล่า จะพักผ่อนบ้างไม่ได้เลยหรือ ทำเอาเขาโมโหจนขบกรามกรอด

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้