ณ ท่าเรือหลงหยา ผู้คนเดินพลุกพล่านไปมา
ฮวาเซ้าอวี่ในตอนนี้รู้สึกอับอายมาก ด้วยสถานะเ้านิกายน้อยแห่งนิกายไท่เซวียน เขาจะเคยถูกสตรีดุด่าได้อย่างไร? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกด่าต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้
เป็เพราะเขาชอบสตรีที่นิสัยเ็า เพราะยิ่งเป็เช่นนี้ตอนปราบได้ก็ยิ่งน่าสนใจ เขาจึงจงใจสะกดความโกรธไว้และพยายามรักษาท่าทีเอาไว้
“คุณหนูกำลังจะไปทะเลล่วนซิงหรือ? ข้าน้อยมีเรือมุ่งหน้าไปทางนั้นพอดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ไม่ทราบว่า...”
ฮวาเซ้าอวี่ยังพูดไม่จบ กลับพบว่าสตรีสวมผ้าคลุมหน้าเดินไปทางท่าเรือแล้ว
“เ้านิกายน้อย สตรีนางนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พวกเรา...”
คนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเ้านายถูกคนทำให้อับอาย ใบหน้าก็เผยความดุร้ายออกมา
ฮวาเซ้าอวี่กลับอดทนเอาไว้ เขาโบกมือพลางกล่าวว่า “อย่าทำเื่โง่เง่า ที่นี่คือท่าเรือหลงหยา จะให้ข้าจับตัวสตรีต่อหน้าผู้คนมากมายกลางวันแสกๆ หรือ? ถ้ามีคนโง่ะโออกมาเล่นบทวีรบุรุษช่วยสาวงามจะทำอย่างไร แบบนี้ไม่เรียกหาเื่ใส่ตัวหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายมีท่าทางไม่ธรรมดา แค่มองก็รู้ว่าเป็คนมีภูมิหลัง หากบอกสถานะของตัวเองแล้ว ยังกดดันอีกฝ่ายมิได้ เช่นนี้ไม่เรียกว่าขายหน้าหรอกหรือ?”
คนรับใช้มีท่าทางไม่ยินยอม “แล้วจะปล่อยไปเช่นนี้หรือ? ยังไม่เคยมีผู้ใดทำกับเ้านิกายน้อยเช่นนี้มาก่อน! ต่อให้เป็อัจฉริยะทั้งสิบจากห้าแคว้นก็ยังไม่กล้าหยิ่งผยองเช่นนี้!”
นิกายไท่เซวียนเป็ถึงผู้นำของสี่นิกายใหญ่ อยู่เหนือผู้คนมากมาย มีแนวโน้มว่าจะอยู่เหนือโลกทั้งใบ แล้วหากมองจากอีกมุมหนึ่ง เ้านิกายน้อยของนิกายแห่งหนึ่ง ยังสูงส่งยิ่งกว่าฮ่องเต้หนึ่งแคว้นเสียอีก จะปล่อยให้สตรีมาดูถูกได้อย่างไร
“ปล่อยหรือ? จะปล่อยไปได้อย่างไร?”
ฮวาเซ้าอวี่หัวเราะอย่างชั่วร้าย “ในเมื่อที่นี่คือท่าเรือหลงหยา เช่นนั้นพวกเราก็เล่นตามกฎของท่าเรือหลงหยา เ้าทำตามนี้...”
จากนั้นฮวาเซ้าอวี่ออกคำสั่งคนรับใช้ สายตาแฝงไปด้วยความเ้าเล่ห์
หลังจากคนรับใช้ฟังจบก็กล่าวชื่นชมอย่างอดมิได้ “เ้านิกายน้อยฉลาดยิ่งนัก!”
ฮวาเซ้าอวี่ทั้งว่าทั้งยิ้ม “ข้าฉลาดอยู่แล้ว ยังต้องให้เ้ามาเยินยอด้วยหรือ? รีบไปเตรียมการเสีย หากสำเร็จข้าจะตกรางวัลให้เ้า”
“ทราบแล้ว ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
คนรับใช้พยักหน้าตอบรับ
……
“คุณหนู้านั่งเรือหรือ? เรือของเราไปทะเลล่วนซิง ทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย!”
“คุณหนู ้าคนนำทางหรือไม่? ข้าคุ้นเคยกับทะเลล่วนซิงมาก ขนาดหลับตายังรู้ว่าอยู่ที่ใด”
“คุณหนูเลือกข้าเถอะ ข้าอยู่ท่าเรือหลงหยามาสิบปีแล้ว ไม่มีใครรู้จักทะเลล่วนซิงดีกว่าข้าแล้ว!”
……
สตรีสวมผ้าคลุมหน้าเพิ่งมาถึงท่าเรือก็มีคนสวมชุดขาดๆ ล้อมวงเข้ามา บ้างเป็คนเดินเรือ บ้างเสนอตัวเป็คนนำทาง แม้แต่คนกอดเด็กขายตัวเป็ทาสก็ยังมี
ทว่าสตรีสวมผ้าคลุมหน้าราวกับคุ้นเคยความทุกข์ยากในโลกมนุษย์ดี สายตาที่เ็าไม่แสดงอารมณ์ออกมาแม้แต่น้อย
และในเวลานี้เองมีบุรุษคนหนึ่งเบียดฝูงชนเข้ามา เขาถือมีดสั้นพุ่งไปทางสตรีสวมผ้าคลุมหน้า!
“หืม?”
ขณะที่ทุกคนกำลังมึนงง สตรีสวมผ้าคลุมหน้าลงมือแล้ว เพียงสะบัดแขนเสื้อก็ซัดคนร้ายร่วงลงกับพื้นจนกระอักเืไม่หยุด
“ฆ่าแล้ว! ฆ่าคนแล้ว!”
ไม่รู้ว่าในฝูงชนใครเป็คนะโ แต่มีสายตรวจวิ่งเข้ามาล้อมสตรีสวมผ้าคลุมหน้าเอาไว้ทันที
ผู้คนที่มุงดูวิ่งหนีกระเจิง เพราะกลัวว่าจะติดร่างแหไปด้วย
“เป็ใครมาจากไหน ถึงกล้าสังหารคนในท่าเรือหลงหยา!”
หัวหน้าหน่วยสายตรวจก้าวออกมากล่าวหา ไม่แม้แต่จะถามสาเหตุ ถึงแม้สตรีสวมผ้าคลุมหน้าจะมีหน้าตางดงามมาก แต่หลังจากที่เขาตะลึงแล้วก็กลับมาทำท่าทางจริงจัง
“รำคาญ!”
สตรีสวมผ้าคลุมหน้าี้เีอธิบายจึงสะบัดมือเบาๆ ผลักสายตรวจรอบด้านล้มระเนระนาด
เมื่อเห็นภาพนี้ผู้คนไม่น้อยต่างปาดเหงื่อ ไม่มีใจรอดูเื่สนุกอีกต่อไป ที่นี่คือท่าเรือหลงหยา ฐานที่มั่นของขั้วอำนาจทั้งห้าแคว้น! อีกฝ่ายถึงกับกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ ต้องเจอเื่ยุ่งยากแน่!
ฮว่าเซ้าอวี่พาคนรับใช้ซ่อนอยู่ในฝูงชนด้วยท่าทางสนุกสนาน
คนรับใช้กล่าวอย่างสะใจ “เ้านิกายน้อยคาดการณ์ได้แม่นยำนัก ถึงรู้ว่าสตรีนางนี้มีนิสัยดุร้าย แต่นางค่อนข้างน่าสนใจ ไม่เพียงกล้าลงมือในท่าเรือหลงหยา ยังกล้าทำร้ายทหารยามของท่าเรือหลงหยาด้วย ดูท่าแล้วคงมิใช่เพราะนางมีภูมิหลัง แต่เป็เพียงลูกไก่ที่เพิ่งฟักออกจากไข่เท่านั้น”
“เป็เช่นนี้ก็ดีแล้ว ข้าจะได้ลดเื่ยุ่งยากไปเยอะ”
ฮวาเซ้าอวี่โบกพัดเบาๆ ด้วยท่าทางมั่นใจ “น่าเสียดายนางเพียงแค่ทำร้ายคนมิได้สังหารคน เห็นได้ชัดว่านางยังกังวลขั้วอำนาจของห้าแคว้น ต่อให้ภูมิหลังจะยิ่งใหญ่แต่ก็มิได้ใหญ่เท่าไรนัก”
“ใช่แล้วขอรับ ขั้วอำนาจห้าแคว้นมิใช่คนที่ใครๆ ก็ไปหาเื่ได้”
คนรับใช้รีบพยักหน้าเห็นพ้อง ฮวาเซ้าอวี่หัวเราะเงียบๆ
……
“ใครกล้าทำตัวหยิ่งผยองที่นี่!”
เสียงะโกึกก้อง มีเงาร่อนลงจากฟ้ามาขวางทางสตรีสวมผ้าคลุมหน้าเอาไว้
ั้แ่สามปีก่อนหลังจากจั๋วอวิ๋นเซียนก่อเื่ที่เท่าเรือหลงหยา ขั้วอำนาจห้าแคว้นได้หารือกันแล้ว ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์แบบไหน ในท่าเรือหลงหยาต้องมีผู้บำเพ็ญเซียนระดับกำเนิดปราณคอยรักษาความเรียบร้อย มิเช่นนั้นขั้วอำนาจห้าแคว้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?
ส่วนผู้ที่มาครั้งนี้ก็คือยอดฝีมือระดับกำเนิดปราณ เ้าสำนักเซวียนสุ่ยแห่งต้าซ่ง...เซวียนสุ่ยอี
สตรีสวมผ้าคลุมหน้าี้เีพูด นางก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ทันใดนั้นเซวียนสุ่ยอีกลับล้มลงไปคุกเข่าที่พื้นดัง ‘โครม’ ไม่มีแรงต่อต้านแม้แต่น้อย
“บะ...บัดซบ! เป็ไปได้อย่างไร?”
เซวียนสุ่ยอีทั้งใและโมโห ในใจของเขายังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ั้แ่เขาทะลวงระดับกำเนิดปราณมา นี่เป็ครั้งแรกที่ถูกคนบดขยี้เช่นนี้ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็มิอาจลุกขึ้นยืนได้ แม้แต่พลังิญญาก็มิอาจโคจรได้ ราวกับถูกผนึกพลังอย่างไรอย่างนั้น
ทวีปไท่เซวียนปรากฏคนน่ากลัวเช่นนี้ั้แ่เมื่อใดกัน?
“……”
ผู้คนเงียบกริบ ทุกคนล้วนมองภาพนี้ด้วยความตกตะลึง
เพียงก้าวเดียวก็สะกดยอดฝีมือระดับกำเนิดปราณราวกับสุนัข นี่...เป็พลังแบบใดกันแน่? สัตว์ประหลาดชัดๆ!
“คนผู้นี้มิอาจหาเื่ด้วยได้! หนี! รีบหนีเร็ว!”
สายตาของฮวาเซ้าอวี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จิตใจหนาวสั่น แต่ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวหนี สายตาของสตรีสวมผ้าคลุมหน้ากลับหันมาที่เขา
“เ้า...เ้าคิดจะทำอะไร? อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!”
ฮวาเซ้าอวี่กับคนรับใช้ถูกสายตาของสตรีสวมผ้าคลุมหน้าจ้องมองจนต้องหยุดอยู่กับที่ พวกเขาพบว่าร่างกายของตัวเองเหมือนมิอาจควบคุมได้แล้ว แม้แต่นิ้วก็มิอาจขยับได้
สตรีสวมผ้าคลุมหน้ามองทั้งสองคนอย่างเ็าพลางกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไม่มีผู้ใดที่วางแผนใส่ข้าแล้วไม่ต้องชดใช้! พวกเ้า...สมควรตาย!”
เสียงยังไม่ทันหยุดลง สายตาของสตรีเปลี่ยนเป็ความเยือกเย็น!
ทุกคนเห็นฮวาเซ้าอวี่กับคนรับใช้กระอักเืล้มลงที่พื้นอย่างหมดแรง ไม่เหลือท่าทางสง่างามแม้แต่น้อย
“หยุดนะ...”
สตรีสวมผ้าคลุมหน้ายังไม่ทันลงมือ ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวข้างกายฮวาเซ้าอวี่ ดูจากเครื่องแต่งกายแล้ว เขาคือยอดฝีมือของนิกายไท่เซวียน
เมื่อเห็นว่ามีคนมาช่วย ฮวาเซ้าอวี่ดีใจมากจนเผยใบหน้าบิดเบี้ยวชั่วร้ายออกมา “ผู้าุโเติ้ง จับสตรีสารเลวนี่มาให้ข้า ข้าจะทรมานสตรีสารเลวนี่จนตาย! ทรมานมันจนตาย!”
ฮวาเซ้าอวี่ราวกับโดนดูถูกเหยียดหยาม หากเขาไม่ะโออกมาคงมิอาจปลดปล่อยความโกรธในใจออกมาได้
