ูเี่อันหน้าแดงเป็ลูกตำลึงเธอรีบเก็บมือตัวเองกลับมา แกล้งทำเป็ไม่รู้เื่ และตั้งหน้าตั้งตาดูหนังต่อไป
ผ่านไปสักพักหลังจากคิดดีแล้ว เธอก็แย่งถังป๊อปคอร์นกลับมาถือ และดูหนังของเธอต่ออย่างพยายามไม่สนใจ
ตอนนี้เธอไม่กล้าหันไปมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอีกแล้ว
หนึ่งชั่วโมงกว่าให้หลังหนังก็จบลงผู้ชมทั้งหลายพากันพูดคุยถึงเื่ราวในหนังก่อนจะเดินออกจากโรงกันไปในขณะที่ลู่เป๋าเหยียนเพิ่งจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋า
ูเี่อันตั้งใจดูหนังั้แ่ต้นจนจบเหมือนคอหนังทั่วๆไป จึงไม่ได้สนใจลู่เป๋าเหยียน คนที่ก้มหน้าดูมือถืออยู่ตลอดเวลาที่หนังฉาย
เธอนิ่งไปก่อนถามเขา“นายไม่ชอบดูหนังงั้นเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“ขึ้นอยู่กับว่ามาดูกับใคร”
มากับเธอเขาแทบจะไม่มองจอเลยก็หมายความว่า...เขาไม่ชอบมาดูหนังกับเธอใช่ไหม?
ูเี่อันเบือนสายตามองไปทางอื่น
“ลู่เป๋าเหยียนนายจะพูดให้นุ่มนวลกว่านี้ไม่ได้หรือไง”
ลู่เป๋าเหยียนมองท่าทางไม่พอใจของเธอก่อนจะลูบศีรษะเธอเบาๆ
“เด็กโง่ถ้าฉันไม่อยากมาดูหนังกับเธอ ก็คงไม่ตามมาจนถึงที่นี่คงคิดว่าฉันไม่ได้ดูหนังเมื่อกี้เลยล่ะสิ”
ูเี่อันหันไปมองเขา“ก็นายไม่ได้ดูเลยจริงๆ นี่ ฉันไม่ได้จะหาเื่นายนะ แค่อยากจะบอกว่าถ้านายไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนใจมาเป็เพื่อนฉันหรอก ฉันแค่มาดูหนังแก้เบื่อเท่านั้น”
ลู่เป๋าเหยียนถอนหายใจเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองดูอยู่ เขาจึงร่ายเนื้อเื่ย่อ ก่อนจะท่องบทพูดของตัวละครได้ทุกคำบทสรุปของทุกตัวละครเขาก็เล่าได้ไม่ผิดเพี้ยน
ูเี่อันช็อกไป“นายเคยดูมาก่อนแล้วเหรอ”
“หนังเพิ่งเข้าโรงเมื่อเสาร์ที่แล้วหลายวันมานี้เราก็อยู่ด้วยกันตลอด เธอคิดว่าฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปดูหนัง?” ลู่เป๋าเหยียนกล่าว “เจี่ยนอันไม่ใชทุกคนที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบถึงจะดูหนังรู้เื่”
เขาทำสองอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
ูเี่อันชักรู้สึกนับถือลู่เป๋าเหยียนขึ้นมานิดๆ
บนหน้าจอยังคงขึ้น End Credit เธอพูดขึ้นว่า
“ไม่รู้ว่าจะมีภาคต่อไหมเนอะ”
“ภาคต่อจะเปิดกล้องถ่ายทำใน่ครึ่งปีหลังนักแสดงชุดเดิม” ลู่เป๋าเหยียนตอบ
“เอ๋?”ูเี่อันหันมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างประหลาดใจปนตื่นเต้น “ทำไมนายรู้ดีจังทางผู้สร้างยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็ทางการเลยนี่”
ลู่เป๋าเหยียนยื่นมือถือใหู้เี่อันดูอีเมลที่เขาเพิ่งได้รับเป็ข้อความภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า
“เป็เกียรติอย่างยิ่งที่คุณลู่และภรรยาชื่นชอบผลงานของพวกเราภาคต่อจะเริ่มถ่ายทำใน่ครึ่งปีหลัง นักแสดงยังคงเป็ชุดเดิมครับเนื้อเื่จะเข้มข้นขึ้น การถ่ายทำก็จะประณีตมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ขอให้การร่วมมือของเราเป็ไปด้วยดี”
อีเมลฉบับนี้ลงท้ายด้วยชื่อภาษาอังกฤษที่แสนคุ้นตา
ูเี่อันลองนึกดูก็พบว่านี่มันชื่อของผู้อำนวยการสร้างหนังเื่นี้นี่นา!
อีเมลก่อนหน้านั้นเป็อีเมลที่พวกเขาคุยกันเื่โปรเจคที่จะร่วมทุนกันอีกฝ่ายพูดถึงภาพยนตร์เื่นี้ ลู่เป๋าเหยียนจึงตอบไปว่าเขากำลังดูภาพยนตร์เื่ที่ว่ากับภรรยาอยู่พอดี และเธอชอบมันมาก
ถ้าเป็สถานการณ์ทั่วไปูเี่อันคงซาบซึ้งไปกับข้อความที่เขาพิมพ์ แต่เวลานี้ เธอรู้สึกช็อกมากกว่าลู่เป๋าเหยียนเจ๋งขนาดได้ร่วมงานกับบริษัทสร้างหนังั์ใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!หนังทุกเื่ของบริษัทนี้สร้างรายได้ที่เป็ตำนานในทุกๆ ปีเลยนะ!
เธอปิดปากอย่างตกตะลึงไปสักพักก่อนจะคว้าแขนเขา
“นายรู้จักกับคนสร้างงั้นเหรองั้นนายช่วยขอลายเซ็นวัตสันให้ฉันหน่อยได้หรือเปล่า!”
“พระเอก?”ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปากก่อนจะตอบชัดถ้อยชัดคำ “เลิกคิดไปได้เลย”
พูดจบเขาก็คว้าแขนเธอเดินเข้าลิฟต์ลงไปที่ชั้นล่าง
ูเี่อันไม่ใช่คนบ้าดาราแต่เธอชอบพระเอกคนนี้มานานมากแล้วเธอคล้องแขนออดอ้อนให้เขาช่วยขอลายเซ็นมาให้ก็แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับปาก
จนเธอต้องงัดไม้เด็ดออกมา
“จะให้ฉันทำอะไรก็ได้เอางี้ ฉันทำมื้อเช้าให้นายฟรีๆ เลยสามเดือนโอเคไหม”
“เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพ่อครัวที่บ้านเป็มืออาชีพ”ลู่เป๋าเหยียนไม่คล้อยตาม
“คงไม่ต้องรบกวนเธอหรอกเธอดูแลแค่มื้อเย็นก็พอ”
ูเี่อันเบะปาก“คนใจแคบ”
เมื่อถึงหน้าประตูห้างมือถือของลู่เป๋าเหยียนก็สั่นขึ้น ูเี่อันบังเอิญเหลือบไปเห็นชื่อของคนโทรเข้าพอดี
‘หานรั่วซี’
หัวใจเธอเหมือนถูกบีบรัดไปชั่วขณะเธอยิ้มแล้วชี้ไปที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง
“นายรับโทรศัพท์ไปก่อนนะฉันขอไปดูตรงนั้นนิดหนึ่ง”
ลู่เป๋าเหยียนจับมือเธอไว้ไม่ให้ไปไหนก่อนจะรับสาย
ในห้างที่คนพลุกพล่านแบบนี้ทำใหู้เี่อันไม่ได้ยินสิ่งที่หานรั่วซีพูดกับลู่เป๋าเหยียนเธอได้ยินแต่สิ่งที่ลู่เป๋าเหยียนพูดตอบกลับไป
คนพูดน้อยอย่างเขาตอบกลับไปแค่คำว่า “อืม” “ได้” “ลองปรึกษาผู้จัดการเธอดู”ไม่ถึงสองนาทีเขาก็วางสาย
ถ้าไม่ใช้เพราะโทรศัพท์สายนี้เธอคงลืมผู้หญิงที่ชื่อหานรั่วซี และเื่ข่าวฉาวของพวกเขาไปแล้ว
ความจริงใน่นี้หานรั่วซีแค่ไปถ่ายหนังที่ต่างประเทศเท่านั้นเธอไม่ได้หายไปจากชีวิตของลู่เป๋าเหยียนสักหน่อย และในตอนนี้เธอก็ใกล้จะกลับมาแล้ว
“เธอแค่บอกว่าจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงครบรอบบริษัท”ลู่เป๋าเหยียนมองหน้าูเี่อันก่อนตอบ
“เธอคิดอะไรอยู่”
ูเี่อันทำหน้าจริงจัง“ฉันกำลังคิดว่า จะลองเปลี่ยนไปใช้มาสก์ยี่ห้ออื่นดีไหม...”
“…”
ูเี่อันดึงมือเขาให้เดินไปยังที่จอดรถ
“ช่างเถอะเรากลับบ้านกันเถอะ”
ที่จริงไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากรู้ว่าหานรั่วซีโทรหาเขาทำไมแต่ในเมื่อลู่เป๋าเหยียนกล้ารับสายต่อหน้าเธอ แล้วเธอยังจะซักไซ้เขาไปทำไมอีกล่ะ
กว่าจะกลับถึงบ้านกินมื้อเย็นเรียบร้อยก็เกือบสี่ทุ่มูเี่อันยังไม่ง่วง แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดีจึงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขก จัดข้าวของย้ายที่ไปมาจนกระทั่งลู่เป๋าเหยียนโผล่มา
ลุงสวีกับคนรับใช้เข้านอนกันหมดแล้วเวลานี้จึงมีแคู่เี่อันที่เดินล่องลอยอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาเธอก็ยิ้มทักทาย
“นายไม่ยุ่งงั้นเหรอ”
“ไม่ยุ่ง”ลู่เป๋าเหยียนถาม “มีอะไรหรือเปล่า”
“มี!”ูเี่อันจับมือเขาพลางส่งสายตาคาดหวัง
“นายทำอะไรเป็เพื่อนฉันหน่อยสิฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากยิ้มบาง
“เื่ที่พอจะทำได้ในเวลานี้มีไม่มากเธออยากจะให้ฉันทำอะไรกับเธอล่ะ หืม?”
คำว่า ‘ทำอะไร’ของเขาทำเอาูเี่อันคิดเชื่อมโยงไปถึงเื่อื่น เธอกระแอมก่อนจะตอบเขา
“นายอย่ามาทำเ้าเล่ห์ตอนนี้นะ!”
ว่าแล้วเธอก็นึกอะไรขึ้นได้“จริงสิ ในหนังที่เราดูเมื่อกี้ พระเอกเองก็เต้นวอลซ์เหมือนกันนะแต่ทำไมเขาไม่เห็นเต้นเหมือนที่นายสอนฉันเลย มันดูยากกว่า และน่าสนุกมาก”
ลู่เป๋าเหยียนมองเวลาก่อนเอ่ย“จะให้ฉันสอนตอนนี้?”
ูเี่อันคิดก่อนตอบ“ก็ดีนะ”
ลู่เป๋าเหยียนจับมือเธอขึ้นมาตั้งท่าเตรียมเต้นรำเขาสอนสเต็ปการเต้นต่อจากท่าเมื่อวาน
ตอนแรกเขากลัวว่าูเี่อันจะรับไม่ไหวเลยกะว่าจะค่อยๆ สอนเธออย่างช้าๆ แต่เธอเป็คนเรียนรู้ไว ไม่นานก็เต้นได้เขาสอนแค่รอบเดียวเธอก็ทำตามได้ทันที
หลังฝึกซ้อมอยู่หลายครั้งเธอก็สามารถเต้นรำได้อย่างสง่างาม คนที่รูปร่างดีอย่างูเี่อันเวลาเต้นวอลซ์แล้วยิ่งดูสวยงามน่ามองเข้าไปใหญ่
ที่จริงแล้วลู่เป๋าเหยียนอยากให้เธอฉลาดน้อยกว่านี้หน่อยเรียนรู้ช้ากว่านี้อีกนิด อยากให้เธอลืมสเต็ปต่างๆ บ้าง แล้วทำหน้ารู้สึกผิดกับเขาหรือไม่ก็เผลอเหยียบเท้าเขาสักที แบบนั้นเขาจะได้มีโอกาสแกล้งเธอทำให้เธอต้องทำดีกับเขายิ่งกว่าเดิม
แต่ตอนนี้ทั้งสเต็ปเดินหน้าถอยหลัง หมุนตัวต่างๆ ูเี่อันทำได้อย่างไร้ที่ติเธอเต้นเข้ากับเขาได้เป็อย่างดีพลางส่งรอยยิ้มอันแสนสดใสอย่างพึงพอใจ
เมื่อเขามองเธอเขากลับคิดว่าเป็แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ขอแค่เธอดีใจก็พอ
ในห้องรับแขกมีเครื่องเสียงชั้นหนึ่งตั้งอยู่ลู่เป๋าเหยียนเปิดเพลงขึ้น ก่อนจะเต้นรำกับูเี่อันั้แ่ท่าเบสิคใหม่อีกครั้งตอนนี้พวกเขาสองคนเต้นได้เข้าคู่กันอย่างมาก ทำให้ต่างคนต่างเพลิดเพลินไปกับมัน
“เธอเรียนได้เร็วกว่าเมื่อวานเสียอีก”ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยคำชมที่หาได้ยาก
“ก็เพราะอาจารย์ลู่สอนได้ดียิ่งกว่าเมื่อวานอีกไงคะ”ูเี่อันหมุนตัวไปพร้อมกับเขาพลางตอบ
“อาจารย์ลู่เคยมีลูกศิษย์มาแล้วกี่คนเหรอคะ”
“เธอคือคนแรก”
ูเี่อันยิ้ม“ฉันโชคดีจัง”
นาฬิกาติดผนังชี้บอกเวลาห้าทุ่มยี่สิบนาทีูเี่อันเริ่มเหนื่อย จึงปล่อยมือจากเขา
“เราเลิกเรียนกันเถอะค่ะอาจารย์”
แต่ลู่เป๋าเหยียนยังคงกุมมือขวาของเธอไว้
“เธอลืมกฎไปแล้วเหรอว่าก่อนเลิกเรียนจะต้องทำอะไร”
กฎ?
ูเี่อันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเธอจูบเขาไปทีหนึ่งตาบ้านี่!
เธอยิ้มบางก่อนจะจ้องมองริมฝีปากของเขาและเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อย เธอยัดแบงก์ร้อยที่ได้มาจากเขาเมื่อเช้าใส่เข้ามือเขาไปก่อนจะผละตัวออกมา
“ค่าเรียนค่ะอาจารย์ลู่ราตรีสวัสดิ์นะคะ”
เธอวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็วลู่เป๋าเหยียนมองตามหลังเธอไป และก้มลงมองธนบัตรในมือพลางยิ้มบาง
ขณะที่เขากำลังจะเดินขึ้นห้องโทรศัพท์จากเลขาก็ดังขึ้น
“ชุดที่ท่านผอ.สั่งตัดไว้ถูกส่งมาเรียบร้อยแล้วค่ะไม่ทราบว่าจะให้คุณนายลองสวมดูก่อนไหมคะ”
“ไม่ต้อง”ลู่เป๋าเหยียนตอบ “เก็บไว้ในตู้เซฟที่บริษัท พรุ่งนี้ฉันค่อยเข้าไปเอา”
“รับทราบค่ะ”
หลังวางสายลู่เป๋าเหยียนก็รู้สึกตั้งตารอคอยงานเลี้ยงครบรอบของบริษัทในครั้งนี้เป็พิเศษ
เขาคือคนที่เฝ้ามองเธอเติบโตเป็ผู้ใหญ่และรู้ดีว่าเธอเป็คนสวยแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขาอยากทำให้คนทั้งโลกต้องตะลึงกับความงามของเธอแต่ขณะเดียวกันเขาก็อยากเก็บเธอเอาไว้ชื่นชมเพียงคนเดียว
เมื่อเทียบกันแล้วการออกงานในครั้งนี้คงมีเพียงแตู่เี่อันที่รู้สึกไม่คุ้นชิน
น้อยครั้งที่เธอจะเข้าร่วมงานเลี้ยงลักษณะนี้ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็คนติดดินอะไร แต่เป็เพราะเธอไม่ชอบบรรยากาศในงานอีกทั้งยังไม่ค่อยเข้าใจมารยาทต่างๆ ในการออกงานสังคมอีกด้วยที่จริงเมื่อก่อนเธอก็เคยถูกพี่ชายหรือไม่ก็ลั่วเสี่ยวซีบังคับให้ไปงานแบบนี้อยู่บ้างซึ่งตอนนี้เธอเริ่มเสียใจเล็กๆ รู้อย่างนี้เมื่อก่อนเธอน่าจะไปออกงานกับพวกเขามากกว่านี้สักหน่อย
ถ้าเป็แบบนั้นตอนนี้เธอจะได้พอปลอบใจตัวเองได้ว่างานเลี้ยงครบรอบของเครือลู่ในครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับงานเลี้ยงทั่วๆ ไป เธอเอามันอยู่แน่
แต่ว่าถ้าเธอไม่ไหวจริงๆก็ยังมีลู่เป๋าเหยียนอยู่นี่นา
ถ้ามีลู่เป๋าเหยียนอยู่ข้างกายเธอก็ไม่จำเป็ต้องกลัวอะไรอีกแล้วจริงไหม
เธอคิดอยากจะพึ่งพาเขาแต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะเป็เหมือนคุณนายคนอื่นๆ ที่วางตัวได้อย่างเหมาะสมเชิดหน้าชูตาให้กับลู่เป๋าเหยียน
ย้อนแย้งชะมัดเลย...
ท้ายที่สุดูเี่อันก็มุดหน้าซุกลงกับหมอนพลางคิด
‘ช่างเถอะไว้ค่อยปรับตัวไปตามสถานการณ์แล้วกัน!’
