“หลิวฉิน นี่เป็เื่ระหว่างข้าและหลินฟู่อิน เ้าสอดมือเข้ามายุ่งเพื่ออะไร?” ยิ่งคิดผู้ดูแลฮวาก็ยิ่งกลัว มองหลิวฉินด้วยสายตาโกรธเคือง
หลิวฉินเลิกคิ้วดูร้ายกาจ “หากคุณชายใหญ่หลิวผู้นี้ชอบปราบอธรรม ท่านจะทำอะไรได้?”
ผู้ดูแลฮวาโกรธจนผงะ ยกมือขึ้นทาบอกลูบขึ้นลงไปมาเพื่อปลอบ กระทั่งจะสบถสักคำก็เค้นไม่ออก
เมื่อเห็นว่าเขาโกรธมากเพียงใด หลินฟู่อินก็มีความสุขทวีคูณ ในที่สุดนางก็จะได้จัดการสุนัขตาขาวนี่เสียที!
นางเลิกคิ้วอย่างร้ายกาจและมองดูผู้ดูแลฮวา เอ่ยเสียงใส “ผู้ดูแลฮวา ครั้งนี้มิใช่ท่านเพียงจ่ายเงินตำลึงจ้างนักเลงมาจัดการข้า แต่ยังเคยร่วมมือกับคุณชายสามบ้านรองเ้าเมืองสกุลเจียงในชิงเหลียน ้าให้ท่านนั้นมาทำลายชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของข้า ลืมไปแล้วหรือ?”
“อะไรนะ? สมรู้ร่วมคิดกับคุณชายสามตระกูลเจียงเพื่อทำลายความบริสุทธิ์เ้า?” หลิวฉินร้องลั่น เหตุใดหลินฟู่อินไม่บอกเื่นี้แก่เขา?
คนอื่นจะคิดอย่างไรก็ช่างมันแล้ว หลิวฉินตาแข็งกระโจนเข้าไปตบหน้าผู้ดูแลฮวาอย่างแรง เพราะไม่มีใครช่วย คนจึงถูกตบจนปลิวไปกระแทกโต๊ะอาหาร
“โอ๊ย!” ผู้ดูแลฮวาโอดครวญ จับมุมโต๊ะพยุงร่างขึ้นมาก่อนจะเอามือแตะหน้าผาก เมื่อััได้ถึงเืที่ไหลออกมาก็โมโหจนชี้หน้าหลิวฉิน ดวงตาแดงก่ำ “เ้ามันตัวดีอะไร? กล้าดีอย่างไรมาตีข้าเป็หมูเป็หมา?”
“เฮอะ! ไอ้สารเลวไร้การศึกษาเช่นเ้า ตบตีไปแล้วจะผิดตรงไหนกัน? ครั้งนั้นร่วมมือกับคุณชายสามเจียงหวังทำลายชื่อเสียงสตรี ครั้งนี้ใช้งานนักเลง กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เ้าจะโหดร้ายไปถึงไหน?” หลิวฉินนึกถึงสิ่งที่หลินฟู่อินเจอก็ยิ่งอยากกัดกระชากคนสกุลฮวาเข้าท้องจนไม่สนอะไรไปครู่หนึ่ง
รอบกายของเขาปล่อยบรรยากาศของคนที่พร้อมจะเสี่ยงทุกสิ่งเพื่อออกหน้าแทนหลินฟู่อิน
ฟังหลินฟู่อินพูดถึงเื่นี้สีหน้าของผู้ดูแลฮวาก็เปลี่ยนไป ยังมีหลิวฉินที่ะโลั่นทุบตีเขา ยามนี้ยิ่งมีผู้คนมารับชมความสนุกมากขึ้น ทำให้เขาไม่มีหน้าจะยืนอยู่แล้ว
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ใบหน้าอวบอ้วนมองหลินฟู่อินด้วยความหวาดหวั่น นาง… นางรู้เื่นั้นได้อย่างไร?
เขาคิดว่าปิดบังเื่นั้นเอาไว้ได้เป็อย่างดี ให้มันเน่าสลายไปในท้องเขาแล้ว เหตุใดจึงกลายเป็เข่นนี้ไปได้? ทั้งยังถูกหลินฟู่อินเปิดเผยออกมาตอนนี้ จะเป็เื่ดีได้อย่างไร?
ดูสีหน้าลูกค้าที่มองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม ผู้ดูแลฮวายิ่งคิดอยากขุดรูฝังกลบหน้าตัวเองเสียเหลือเกิน!
ขณะเดียวกัน ลูกค้าในชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มคนหนึ่งได้ยินคำพูดของหลินฟู่อินก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ พูดด้วยเสียงกระซิบ “โอ จำได้แล้ว! เมื่อหลายเดือนก่อนคุณชายสามเจียงถูกคนทุบตี เนื้อหนังถูกกรีดเหวอะหวะ ที่แท้ผู้ดูแลฮวาเป็คนเริ่มหรอกหรือ?”
“อะไรกัน? เื่คุณชายสามเจียงถูกคนทุบตี ถูกแส้เฆี่ยนจนหนังเปิดเป็แผลสาหัสต้องนอนติดเตียงเื่นี้ข้าก็ได้ยินมา ทำไมกัน? เื่นี้เกี่ยวข้องกับผู้ดูแลฮวาได้อย่างไร?” เมื่อได้ยินเื่ที่หลินฟู่อินพูดถึงเื่ซุบซิบนี้ขึ้นมา บรรดาลูกค้าที่ได้ยินก็พากันตื่นเต้นยกใหญ่
รองเ้าเมืองเจียงเป็รองเ้าเมืองแบบไหนกันเล่า?
เป็โจรเฒ่าจอมละโมบ พ่อค้าคนใดบ้างไม่โดนเขาขูดเืขูดเนื้อ? เงินตำลึงถูกส่งไปให้เป็จำนวนมากมาย หากส่งน้อยลง เช่นนี้ก็ไม่ต้องร่วมงานกันแล้ว และอย่าหวังว่าเขาจะยอมใส่ใจ…
แม้พ่อค้าทุกชีวิตในชิงเหลียนต่างก็ต้องยกยอปอปั้นเขาจนสูงเสียดฟ้าแทบตาย แต่แน่นอนว่าก็เกลียดเขาแทบตายเช่นกัน
ยามนี้เมื่อได้ข่าวว่าบุตรชายของเขาถูกเฆี่ยนตีเพราะผู้ดูแลฮวาไปหลอกล่อ ทุกคนก็พากันคิดในใจว่า ‘สมน้ำหน้า! ทำได้ดี!’
หลินฟู่อินใช้โอกาสนี้พูดว่า “จริงแท้เ้าค่ะ วันนั้นคุณชายสามเจียงถูกผู้ดูแลฮวาเกลี้ยกล่อมให้มาขวางข้า พูดจาแทะโลมไม่น้อย พอดีมีบุรุษตัวโตๆ ที่เห็นความอยุติธรรมแล้วทนไม่ได้จึงได้รีบลากตัวคุณชายสามเจียงนั่นออกไป ตัวข้าตอนนั้นก็หวาดกลัวมากจึงได้หนีออกมา ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นแล้ว”
“เื่นี้ข้ารู้ ตอนนั้นก็มีเื่นี้จริงๆ พอคุณชายสามเจียงไปขวางแม่นางน้อยคนหนึ่งแล้ว อยู่ๆ ก็มีบ่าวรับใช้สวมชุดดำของบ้านใดสักบ้านเข้ามารุมล้อมไว้ ยังไม่ทันกล่าวอะไรแต่เหมือนจะไปล้ำเส้นคนใหญ่คนโตเข้า คุณชายสามเจียงถูกจับพาดบ่าเอาตัวออกไป แม่นางน้อยหวาดกลัวก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไป… แม่นางน้อยในตอนนั้นเป็เ้าเองหรอกหรือ? คาดไม่ถึงจริงๆ”
หลินฟู่อินพยักหน้า ท่าทางจนใจ “หรือมิใช่ล่ะเ้าคะ?”
คนที่มุงดูอยู่ล้วนแต่มองหลินฟู่อินด้วยความเห็นอกเห็นใจ แม่นางน้อยตัวแค่นี้ก็ถูกคนสกุลฮวาหมายหัวเสียแล้ว โชคร้ายจริงๆ!
แต่เ้าคนสกุลฮวาผู้นี้ก็ทำเกินไปจริงๆ กระทั่งเด็กยังไม่โตเต็มวัยยังไม่ละเว้น หาทางบีบคั้นใส่ร้ายผู้อื่นครั้งแล้วครั้งเล่า จิตใจต่ำทรามยิ่งนัก!
“ไร้สาระ! เด็กบ้านนอกเช่นเ้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ขวางเ้าคือคุณชายสามสกุลเจียง? เ้ายังมาใส่ความว่าเป็ผู้สกุลฮวายั่วยุคุณชายสามเจียงทำลายชื่อเสียงสตรีของเ้าได้อีก?” ผู้ดูแลฮวาจ้องหลินฟู่อินคล้ายกับจะเจาะรูบนหน้านางเสียให้ได้
เมื่อหลินฟู่อินเห็นว่าเขายังกัดไม่ปล่อย ไม่ยอมรับสักที นางจึงมองเขาด้วยสายตาเสียดสี “บังเอิญยิ่งนัก ข้าเพิ่งไปชิงเหลียนเพื่อรักษาสตรีที่เจ็บป่วยผู้หนึ่ง ตอนนั้นจึงได้ยินข่าวลือแว่วมา มิใช่ว่าเป็เื่จริงหรืออย่างไร?” นางยกยิ้มเสียดสียิ่งกว่าเดิม “อ้อ ใช่ ยังได้ยินจากคนในชิงเหลียนกล่าวกันว่าอย่างไรนะ ดูเหมือนอนุภรรยาผู้หนึ่งของผู้ดูแลฮวาจะเป็ญาติกับสาวใช้ของนายหญิงใหญ่สกุลเจียง?”
“ฟู่อินไปชิงเหลียนกับฮูหยินของข้า เื่นี้ผู้สกุลหลี่เป็พยานได้” หมอหลี่ออกตัว พอคิดๆ อีกสักหน่อยก็กล่าว “ท่านมีอนุภรรยากับคนรู้จักทางฝั่งสกุลเจียงจริงๆ ไม่ใช่หรือผู้ดูแลฮวา”
ผู้ดูแลฮวาแสร้งทำเป็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่กล่าวคำใดออกมา
ที่หมอหลี่กล่าวเป็การให้เหตุผลที่ตนทราบเื่นี้ จริงๆ เดิมทีก็เป็คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผนวกกับข่าวลือที่ได้ยินมา รวมทั้งการพูดคุยกับผู้อื่น ทำให้พอจะเดาออกมาได้
“ผู้ดูแลฮวา ท่านปองร้ายข้ามากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ข้ายังบอกได้อีกว่าท่านสกปรกเพียงใด หากยังไม่ยอมรับก็ไปยังที่ว่าการแล้วฟ้องร้องเอาว่าข้าทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง” หลินฟู่อินหัวเราะ
กฎหมายต้าเว่ยไม่มีเื่การทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง มีแต่เื่การใส่ความเท็จ หลินฟู่อินจึงพูดถากถางอีกฝ่าย
ตัวนางไม่จำเป็ต้องฟ้องร้องเื่ที่คนสกุลฮวาทำร้ายนางแม้แต่น้อย ขอเพียงเ้าคนโสโครกสกุลฮวายังอยู่ ต่อให้อยากอยู่ในชิงหยางทำภัตตาคารเยว่เค่อต่อ งูดินเ้าถิ่นอย่างเถ้าแก่หลิวย่อมไม่มีวันปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างเป็สุขปลอดภัยอีก
หลังจากนี้หลินฟู่อินไม่จำเป็ต้องกังวลแล้ว
เื่สำคัญคือบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของรองเ้าเมืองเจียงและภรรยาที่ถูกผู้ดูแลฮวาลากเข้ามาเกี่ยวข้องจนเกือบตาย ถูกทุบตีทำร้ายผ่านมาแล้วสามเดือนยังลุกจากเตียงไม่ได้ รองเ้าเมืองเจียงย่อมไม่มีทางปล่อยให้ผู้ดูแลฮวาลอยตัวแน่
ผู้ดูแลฮวาคล้ายรู้ชะตาตัวเอง เขาทรุดลงกับพื้น สายตาหลุดลอย ไร้ซึ่งร่องรอยชีวิต
“เฮ้ย ไอ้ผู้ดูแลฮวานั่น ทำเื่โสโครกลงไปจนถูกเปิดเผยเช่นนี้จะมาแกล้งตายไม่ได้!” ในเวลานี้เอง คนไข้ที่เป็โรคนิ่วในถุงน้ำดีก็ฝ่าฝูงชนสาวเท้าเข้ามา กระชากเสื้อผู้ดูแลฮวาให้ลุกขึ้นแล้วตวาด “เ้าต้องชดใช้ให้ข้า!”
ผู้ดูแลฮวามองอีกฝ่ายด้วยสายตาว่างเปล่า มุมปากขยับ “ท่าน้าค่าชดเชยเท่าไร? หากข้าชดเชยให้ท่าน ท่านจะไม่ก่อปัญหาให้ข้าอีกใช่หรือไม่?”
“เพ้ย! ถึงข้าไม่ก่อปัญหา ไอ้หน้าเหม็นเช่นเ้าก็มีปัญหาอยู่แล้ว! รีบชดเชยให้ข้ามาสองร้อยตำลึงเงิน รวมค่าจับชีพจร ค่ายา ยังมีค่าทำขวัญข้า…” พอผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีสกุลเจียงร่ายรายการค่าชดเชยออกมา ผู้ดูแลฮวาก็ยิ่งมีสีหน้าน่าเกลียดขึ้นทุกที
“เ้าทนไม่ได้หรือ? เ้าสั่งคนไปทำร้ายแม่นางหลิน ยังคิดจะโยนความผิดนี้ใส่หัวข้า ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีเ้าเื่นี้! เ้ายังต้องชดเชยเงินให้แม่นางหลินด้วยเช่นกัน!” คนไข้สกุลเจียงเห็นสีหน้าผู้ดูแลฮวาก็โมโหขึ้นมา
“ตกลง ข้าจะจ่ายให้ ในเมื่อเื่นี้เป็ความผิดของภัตตาคารเยว่เค่อ ข้าจะจ่ายให้เท่าที่จะทำได้” ทันใดนั้นน้ำเสียงกระจ่างใสชัดเจนของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังมาจากฝูงชน
จากนั้นบุรุษเจ็ดแปดคนในชุดสีดำก็แหวกทางฝ่าฝูงชน และเปิดทางให้บุรุษหนุ่มท่าทางอ้อนแอ้นในชุดสีแดงเข้ม
หลินฟู่อินมองขนจิ้งจอกดำบนคอเสื้อคลุมของเขา ชุดตัวในเป็สีน้ำเงินสดคู่กับรองเท้าหุ้มขนจิ้งจอกสีดำ เขากำลังก้าวเข้ามา
เมื่อมองดูรูปร่างหน้าตาของเขาอีกครั้ง คิ้วของชายหนุ่มเฉียงขึ้นไปยังกระหม่อม ดวงตาหงส์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สันจมูกโด่ง ริมฝีปากบางยิ้มจางๆ ใบหน้าขาวสะอาด
ใบหน้าดูติดจะงดงามคล้ายสตรีทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าหาได้ยาก แน่นอนว่าเขาเป็หนึ่งในชนชั้นสูงที่ผู้คนธรรมดายากจะเข้าใกล้จริงๆ
หลินฟู่อินขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟังคำพูดที่บุรุษรูปงามเพิ่งกล่าว บุรุษผู้นี้น่าจะเป็หนึ่งในผู้คุมบังเหียนของภัตตาคารเยว่เค่อ ทว่าไม่รู้จะสูงส่งเพียงใด
ในเวลานี้ เมื่อผู้ดูแลฮวาเห็นบุรุษหนุ่มรูปงามผู้เป็เ้านายเดินเข้ามา ดวงตาก็เบิกกว้างราวกับเห็นผี
เหล่าชิงหยางมุงพากันมองเขาด้วยสายตาสับสน คาดเดาที่มาของอีกฝ่ายอยู่ในใจ
“เถ้า… เถ้าแก่?” ในที่สุด ผู้ดูแลฮวาก็ส่งเสียงออกมาจนได้ คนทำได้เพียงคุกเข่าดัง ‘พลั่ก’ รีบร้อนคลานเข้าไปแทบเท้าบุรุษรูปงาม ร้องห่มร้องไห้ “เถ้าแก่ ข้าน้อยขอร้องท่าน…”
ดวงตาของหลินฟู่อินทอวาบ ที่แท้เขาก็เป็เถ้าแก่ ไม่คิดว่าจะยังอ่อนเยาว์เพียงนี้…
พอได้ยินผู้ดูแลฮวาเรียกอีกฝ่ายว่าเถ้าแก่ก็พากันใ หันไปมองบุรุษหนุ่มรูปงามผู้นั้น
ทุกคนพากันทอดถอนใจ ที่แท้เถ้าแก่ผู้ลึกลับของภัตตาคารเยว่เค่อก็ยังเด็กเพียงนี้!
อยู่ๆ ผู้ดูแลฮวาก็ร้องห่มร้องไห้ราวกับสตรี มีทั้งน้ำมูกน้ำตายิ่งทำให้ผู้คนตกตะลึง
แน่นอน ผู้ดูแลฮวาไม่ได้ร้องไห้เพราะสำนึกผิด แต่เป็การปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอะไร
เขาร้องห่มร้องไห้จนแทบหมดสภาพ กล่าวว่าถูกเถ้าแก่หลิวใส่ความ หลิวฉินกับหลินฟู่อินร่วมมือกันทำร้ายเขา
หลินฟู่อินยิ้มอย่างเ็ามองการแสดงของเขา ขณะที่ใบหน้าของเถ้าแก่หลิวและหลิวฉินดูมืดมนไปแล้ว
พวกเขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าคนสกุลฮวาจะไร้ยางอายได้เพียงนี้
คนที่ผ่านไปผ่านมา ลูกค้าที่มากินข้าว ทุกคนต่างก็มองละครฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มรูปงามยิ้มขณะฟังคำพูดของผู้ดูแลฮวา ก่อนจะกระซิบ "เ้าลุกขึ้นก่อน ไปหาผ้าสะอาดมาให้ข้า"
เมื่อผู้ดูแลฮวาเห็นว่าน้ำเสียงของเถ้าแก่เป็ปกติก็ดีอกดีใจยิ่งนัก รีบพยักหน้าเอ่ยปะเหลาะ “ได้ขอรับ บ่าวจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้”
หลินฟู่อินมองเขาวิ่งเหยาะๆ ไปที่โต๊ะเก็บเงิน หยิบผ้าเช็ดมือที่ทำจากผ้าไหมชั้นดีออกมาหลายผืน
“เช็ดเสีย” เห็นผู้ดูแลฮวากลับมาพร้อมผ้าเช็ดมือ เขามองผ้าอยู่สักครู่ก็พยักหน้า ก่อนจะยื่นเท้าข้างหนึ่งออกมาตรงหน้าผู้ดูแลฮวาแล้วพูด “รองเท้าข้าที่เ้าจับตอนนี้เปื้อนทั้งน้ำมูก น้ำตา น้ำลายเ้าไปหมดแล้ว”
“โอ บ่าวสมควรตาย บ่าวสมควรตาย บ่าวจะทำความสะอาดให้ประเดี๋ยวนี้ขอรับ!” ผู้ดูแลฮวาไม่สนใจสายตาของผู้คน เขาคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้เถ้าแก่ของตนอย่างจริงจัง ท่าทางราวกับอยากเลียรองเท้าคู่นั้นให้สะอาดอย่างไรอย่างนั้น
ท่าทีราวกับบ่าวไพร่ชั้นล่างเช่นนี้ชวนให้ผู้คนคลื่นไส้ยิ่งนัก
กระทั่งในที่ลับ บ่าวไพร่ก็ยังไม่พูดจาเช่นนี้ต่อหน้าผู้เป็นาย แต่ดูคนผู้นี้ต่อหน้าฝูงชนเถอะ…
ผู้ดูแลฮวานี่หนอ ต้องมีหน้าแบบใดจึงจะเป็คนเช่นนี้เล่า
“เ้านี่หนอ ใจแคบจนเกินไป หากใช้จิตใจไปทุ่มเทดูแลลูกค้า ร้านที่เ้าดูอยู่คงดีกว่านี้หลายเท่าแล้ว” ผู้ดูแลฮวาเช็ดรองเท้าจนสะอาดสะอ้านดี ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็เถ้าแก่ก็ทอดถอนใจน้อยๆ ก่อนจะมองหน้าผู้ดูแลฮวา “เ้าไปก่อน เื่นี้ให้คุณชายผู้นี้จัดการเองเถอะ”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทว่าก็เต็มไปด้วยพลังที่ทำให้ไม่อาจต่อต้าน
หลินฟู่อินถึงกับตกตะลึง
อย่าดูถูกบุรุษผู้นี้ที่ดูแล้วอายุเพียงยี่สิบปี พลังอำนาจการควบคุมผู้คนของเขาช่างน่ากลัวจริงๆ
“นี่คือแม่นางหลิน?” บุรุษหนุ่มรูปงามมองหลินฟู่อินด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า ก่อนจะโค้งศีรษะลง “ข้ามีนามว่าเมิ่งจวิ้น คิดว่าแม่นางคงพอจะเดาตัวตนของข้าได้แล้ว ขอไม่อธิบายต่อ”
หลินฟู่อินเห็นเขาสุภาพต่อนางที่เป็เพียงเด็กสาวชาวบ้านก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดกว่าเดิม แต่สีหน้านางยังไม่เปลี่ยนแปลง นางค้อมหัวเล็กน้อย เอ่ยทักทายด้วยความสุภาพ “สายัณห์สวัสดิ์เ้าค่ะเถ้าแก่เมิ่ง”
“ดีๆ” เถ้าแก่เมิ่งยิ้มและพยักหน้า คิดว่าคำทักทายของแม่นางน้อยผู้นี้น่าสนใจยิ่งนัก ปกติยามสตรีเอ่ยปากทักทายมิใช่จะกล่าวว่าคารวะใต้เท้าหรืออะไรทำนองนั้นหรือ?
ช่างน่าสนใจนัก
ดวงตาหงส์ของเขาจับจ้องหลินฟู่อิน ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ “ข้าทราบมาว่าผู้ดูแลฮวาทำผิดต่อแม่นางหลิน ข้าย่อมต้องมีคำอธิบายให้ท่านพึงพอใจ หวังว่าแม่นางหลินจะไม่รำคาญ คุณชายผู้นี้สั่งสอนบ่าวไม่ดี อย่าได้โกรธเคืองภัตตาคารเยว่เค่อเพราะเื่นี้เลย ถึงอย่างไรก็ใช่ว่าภัตตาคารเยว่เค่อจะเป็เช่นนี้ไปทุกแห่ง ท่านว่าหรือไม่?”
หลินฟู่อินขมวดคิ้วเล็กน้อย เมิ่งจวิ้นผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ เขาเป็คนที่โหดร้ายยิ่งนัก!
ในสายตาผู้อื่น นางเป็เพียงเด็กสาวชาวบ้านไร้อำนาจใด ส่วนเขาเป็ถึงเถ้าแก่ภัตตาคารเยว่เค่อ ออกหน้ามาให้คำอธิบายต่อนางให้นางพอใจ หากนางยังดึงดันต่อ เช่นนี้ก็กลายเป็ความผิดนางแล้ว
มุมปากนางยกขึ้นกลายเป็รอยยิ้ม “นายท่านสกุลเมิ่งผู้นี้ล้อเล่นแล้วเ้าค่ะ ฟู่อินไม่มีความคิดเป็อื่น ท่านจะหาคำอธิบายมาให้ฟู่อินย่อมต้องรอ”
ฟังคำตอบของนาง ดวงตาเมิ่งจวิ้นก็เบิกกว้างขึ้น คำตอบนี้ไหลลื่นเสียจนไม่น่าเชื่อว่าแม่นางน้อยตรงหน้าจะเป็เพียงเด็กสาวชาวบ้านคนหนึ่ง
เพราะเช่นนี้เอง เมิ่งจวิ้นจึงได้พิจารณาหลินฟู่อินอย่างจริงจัง ทันใดนั้นความคิดแปลกประหลาดก็แวบเข้ามาในหัว รู้สึกราวกับเคยเห็นเด็กคนนี้ที่ไหนมาก่อนสักแห่ง…
แต่แล้วชายหนุ่มก็นึกขบขันตนเองในใจ คนที่เขาพบเจอล้วนมีแต่คนร่ำรวยเป็ผู้ดี แล้วเด็กน้อยตรงหน้านี่เถอะ… โอ จะเป็ไปได้อย่างไรกัน?
หางตาของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย เมิ่งจวิ้นยิ้ม “ตกลง แม่นางหลินรอสักครู่” จากนั้นดวงตาหงส์กลับกลายเป็เ็า ทั้งที่รอยยิ้มบนใบหน้ายังไม่จางหาย “ผู้ดูแลฮวา เื่ที่เ้าทำลงไป คุณชายผู้นี้ทราบหมดแล้ว ทั้งยังแจ้งแก่ท่านปู่แล้ว นับแต่วันนี้เป็ต้นไป เ้าจะไม่ใช่ผู้ดูแลภัตตาคารเยว่เค่ออีก พวกเ้าทั้งบ้านจะถูกนำตัวไปยังเหมืองเหล็กเหมยซาน”
“อ๊า ไม่นะ!” ทันทีที่ได้ยินคำว่าเหมืองเหล็กเหมยซาน ผู้ดูแลฮวาก็กรีดร้องลั่น ใบหน้าอ้วนซีดเผือด เข่าอ่อนทรุดลงไปบนพื้นก่อนจะคลานไปแทบเท้าเมิ่งจวิ้นอีกครั้งแล้วอ้อนวอน “นายท่าน ได้โปรดเถิดขอรับ บ่าวไปเหมืองเหล็กเหมยซานไม่ได้ หากบ่าวไปแล้วจะทิ้งร้านเอาไว้เช่นนี้หรือขอรับ? เถ้าแก่ ท่านก็ทราบ นอกจากบ่าวแล้วก็ไม่มีผู้ดูแลคนใดสามารถเปิดภัตตาคารเยว่เค่อในชิงหยางได้อีก มีแต่บ่าว มีแต่บ่าวเท่านั้น!”
ณ เวลานี้ ผู้ดูแลฮวาสำนึกเสียใจแล้วจริงๆ ที่ไปล่วงเกินหลินฟู่อิน แม้นางจะไม่มีความสามารถในการจัดการเขา แต่นางก็เป็ตัวการ!
นับั้แ่ได้พบนาง รู้ว่านางมีตำรับอาหารนั่น เขาก็ถลำลึกเข้าไปทุกที ถลำไปทีละก้าวจนมาถึงจุดอันสิ้นหวังนี้…
เหมืองเหล็กเหมยซานหรือ? ตั้งอยู่ที่ใดกันเล่า?
มันคือที่ที่คนกินคนไม่คายกระดูก เมื่อเข้าไปในเหมืองเหล็กเหมยซานแล้วก็ได้แต่ต้องขุดเหล็กยาวนานหลายปี หากไม่ตายเพราะขาดการพักผ่อน ก็ถูกเหมืองถล่มทับจนตาย…
ผู้ดูแลฮวาไม่กล้าคิดเื่นี้อีกต่อไป ทำเพียงอ้อนวอนอย่างหนัก
เมิ่งจวิ้นเพิกเฉยต่อคำวิงวอนของเขา ทว่ากลับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ผู้ดูแลฮวา เ้าเคยดูแลภัตตาคารเยว่เค่อในชิงหยางได้เป็อย่างดี เ้าเป็คนทำให้ร้านนี้ประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็คนทำให้ล้มเหลวเช่นกัน ภัตตาคารต้องเสียชื่อเสียง ภัตตาคารเยว่เค่อในชิงหยางนับจากนี้ไม่สามารถเปิดได้อีกแล้ว เ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?”
ได้ยินคำพูดของผู้เป็นาย ผู้ดูแลฮวาก็ได้รู้ว่าครั้งนี้เขาหมดสิ้นหนทางแล้วจริงๆ…
แต่เขาไม่เต็มใจ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองเมิ่งจวิ้นด้วยดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง “นายท่าน ท่านส่งบ่าวไปเหมืองเหล็กเหมยซานไม่ได้ ท่านย่าของบ่าวเป็แม่นมของนายท่านผู้เฒ่า นายท่านผู้เฒ่ายังฝากฝังให้นายท่านดูแลครอบครัวบ่าวให้ดี…”
ได้ยินอีกฝ่ายกล้ากระทั่งเอ่ยชื่อนายท่านผู้เฒ่า ดวงตาหงส์ของเมิ่งจวิ้นลุกโชนวูบหนึ่งก่อนจะหายไป เหลือเพียงรอยยิ้มอ่อนโยน “แต่สิ่งที่เ้าทำลงไปยามนี้ทำให้นายท่านผู้เฒ่าเสื่อมเสีย นายท่านผู้เฒ่าปกป้องเ้าไม่ได้ ทั้งยังไม่คิดจะปกป้องเ้าด้วย”
เมื่อผู้ดูแลฮวาได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็นิ่งสนิท ดวงตาหม่นแสงราวกับคนตาย
เมิ่งจวิ้นเอื้อมมือไปตบไหล่ผู้เป็บ่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ทว่ากลับเอ่ยถ้อยคำโเี้ “ผู้ดูแลฮวา เ้าควรชดใช้สิ่งที่ติดค้างแม่นางหลิน ดังนั้นไปหลังร้าน รับโทษโบยห้าสิบไม้”
ห้าสิบไม้? มิใช่ถึงชีวิตเลยหรือ?
“ไม่ต้องห่วงไป ข้าไม่ปล่อยเ้าตายหรอก เ้ายังต้องไปเหมืองเหล็กเหมยซานอยู่ จะตายได้อย่างไร” เมิ่งจวิ้นยกยิ้ม จากนั้นก็โบกมือให้บรรดาผู้ติดตามในชุดสีดำ “เ้านำตัวผู้ดูแลฮวาไปที่หลังร้านด้วยตัวเองเพื่อทำการลงโทษ”
ชายหนุ่มคนนั้นยกมือคารวะด้วยความเคารพ ก่อนจะลากตัวผู้ดูแลฮวาที่กรีดร้องไม่หยุดไปยังหลังร้านราวกับหมูตัวหนึ่ง
สักพัก เสียงของผู้ดูแลฮวาก็โหยหวนดังออกมาเหมือนหมูถูกเชือด
เสียงกรีดร้องดังขนาดนี้ ในฐานะคนที่เรียนสายการแพทย์มา หลินฟู่อินรู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่การเสแสร้ง แต่เป็เสียงกรีดร้องของคนที่โดนฟาดจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังได้ยินเสียงของแผ่นไม้หนักๆ กระทบกับเนื้อหนังอีกด้วย
“แม่นางหลิน” เมิ่งจวิ้นหันหน้ามาทางหลินฟู่อิน มองนางพร้อมรอยยิ้มไม่คลาย
“เถ้าแก่เมิ่ง” หลินฟู่อินพยักหน้าสบตาเขา
“ท่านพอใจกับคำอธิบายที่คุณชายผู้นี้มอบให้หรือไม่?” รอยยิ้มของเมิ่งจวิ้นไม่หายไปเลย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้