ทันทีที่ป้าหลิวออกจากบ้านสกุลสวี่ เธอก็ป่าวประกาศไปทั่วเขตบ้านพักว่าอาหารกลางวันของบ้านสกุลสวี่มีแต่ผักล้วน ๆ แถมยังใส่ซีอิ๊วในกับข้าวทุกจานอีกด้วย
ทำให้เพื่อนบ้านต่างพากันซุบซิบนินทา บอกว่าสามีภรรยาสกุลสวี่ช่างใจร้ายกับสวี่ฮุ่ยเสียจริง
ลูกสาวคนโตอย่างสวี่ฮุ่ยเสียเืไปมากมาย ไม่ทำอาหารบำรุงให้ก็แล้วไปเถอะ ยังใส่ซีอิ๊วในทุกจานอีก นี่มันจงใจกลั่นแกล้งกันชัด ๆ
...
ไม่รู้ว่าเป็เพราะเป็ห่วงสวี่ฮุ่ยหรือเปล่า ทั้งที่ลู่ฉี่เสียนง่วงมาก แต่เขานอนหลับไม่สนิทเลยสักนิด
ฝืนนอนไปได้สักสองชั่วโมง เขาก็ลุกขึ้นจากเตียง ขับรถไปที่ตำบลเถาฮวา
แต่เขาไม่ได้ตรงไปที่บ้านสวี่ฮุ่ยทันที เขาแวะไปที่สถานีตำรวจตำบลแล้วตามตัวหลี่ไห่มาก่อน
ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเป็ตำรวจเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยของตำบลเถาฮวา
หากเขาไปบังคับใช้กฎหมายที่บ้านสวี่ฮุ่ย จะเป็การกระทำเกินอำนาจหน้าที่ ดังนั้นจึงต้องให้หลี่ไห่มาด้วย
ลู่ฉี่เสียนจอดรถจี๊ปไว้ที่หน้าสถานีตำรวจตำบลเถาฮวา จากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของตำรวจไปบ้านสวี่ฮุ่ยกับหลี่ไห่
ระหว่างทาง ลู่ฉี่เสียนบอกจุดประสงค์ที่เรียกหลี่ไห่มาด้วยกับหลี่ไห่
หลี่ไห่ขมวดคิ้ว “ชีวิตสวี่ฮุ่ยลำบากขนาดนี้เชียวเหรอ อาเสียน นายคบกับเธอไปเลยสิ”
“นายเป็ตำรวจ ถ้าเป็แฟนสวี่ฮุ่ย ดูสิว่าแม่กับน้องสาวของเธอยังกล้ารังแกเธออีกไหม!”
ลู่ฉี่เสียนส่ายหน้า “ฉันกับเธอเป็ไปไม่ได้!”
เมื่อรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างสีขาวของตำรวจปรากฏตัวในเขตบ้านพักโรงงานผลิตอาหาร ก็ดึงดูดความสนใจจากเพื่อนบ้านทันที
รถตำรวจมา ก็มักจะมีการจับกุมผู้กระทำความผิดเสมอ
ทุกคนต่างพากันคาดเดาอย่างใคร่รู้ว่าใครในบ้านพักทำผิดจนถึงขั้นเรียกรถตำรวจมา?
ทุกคนจ้องมองรถตำรวจด้วยความสงสัย เพื่อดูว่าจะขับไปที่ไหน สุดท้ายก็จอดลงหน้าบ้านสวี่ต้าซาน!
ตอนนั้นครอบครัวสวี่ต้าซานเพิ่งกินข้าวเที่ยงเสร็จ พอเห็นรถตำรวจจอดอยู่หน้าบ้าน ต่างพากันตกตะลึง
สวี่ฮุ่ยเห็นลู่ฉี่เสียนกับหลี่ไห่นั่งอยู่บนรถตำรวจ เธอก็รีบวิ่งออกไปต้อนรับ ถามด้วยความดีใจ “พี่ลู่ พี่หลี่ พวกพี่มาได้ยังไงคะ?”
ตอนนี้ลู่ฉี่เสียนกับหลี่ไห่ลงจากรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างแล้ว
ทั้งสองคนมองผ้าพันแผลที่พันรอบหน้าผากของสวี่ฮุ่ย แล้วถามด้วยความใเป็เสียงเดียวกันว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ใบหน้าของกู่ซิ่วซีดเซียวลงฉับพลัน รีบเปลี่ยนเื่แล้วพูดกับพวกลู่ฉี่เสียนอย่างกระตือรือร้น “คุณตำรวจลู่ คุณตำรวจหลี่ เชิญเข้าบ้านก่อนค่ะ”
“พวกคุณยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหมคะมากินที่บ้านฉันก่อน เดี๋ยวฉันจะไปซื้อหมูสามชั้นที่ตลาดมาผัดให้กิน” พูดจบก็ทำท่าจะหนี
ลู่ฉี่เสียนขวางเธอไว้ “ไม่ต้องยุ่งยากหรอก พวกเราไม่ได้จะกินข้าวที่บ้านคุณ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่ซิ่วแข็งค้าง
ลู่ฉี่เสียนจ้องผ้าพันแผลบนหน้าผากของสวี่ฮุ่ยเขม็ง แล้วถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
สวี่ต้าซานเอ่ยพลางถูมือไปมา “เื่เล็กน้อยครับ คุณตำรวจลู่ไม่จำเป็ต้องรู้หรอก”
ก่อนหน้านี้ลู่ฉี่เสียนเคยเตือนสวี่ต้าซานแล้วว่า ถ้ายังบีบให้สวี่ฮุ่ยฆ่าตัวตายอีก เขาจะไม่ปล่อยพวกเขาไว้
สวี่ต้าซานไม่อยากให้กู่ซิ่วเป็อะไรไปจนถูกเพื่อนบ้านหัวเราะเยาะ จึงพยายามขัดขวาง
สวี่ฮุ่ยมองสวี่ต้าซานด้วยสายตาเ็า “แม่กับน้องสาวบีบให้หนูโขกกำแพงฆ่าตัวตาย นี่เรียกว่าเื่เล็กน้อยเหรอคะ?”
“งั้นหนูขอถามพ่อหน่อย ถ้าแม่กับน้องสาวบีบคั้นให้หนูตาย จะเรียกว่าเื่ใหญ่ได้หรือยังคะ!”
สวี่ต้าซานพูดไม่ออก
สีหน้าของลู่ฉี่เสียนมืดครึ้มลงทันที หันไปพูดกับหลี่ไห่ “ทั้งบังคับคลุมถุงชน ทั้งบีบให้ฆ่าตัวตาย แบบนี้ต้องกักขังกี่วัน?”
หลี่ไห่กล่าว “สองข้อหา กักขังข้อหาละอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์”
พวกสวี่ต้าซานต่างหวาดผวาจนหน้าเปลี่ยนสี ยกเว้นสวี่ฮุ่ย
หลี่ไห่หยิบกุญแจมือออกมาจะใส่กุญแจมือกู่ซิ่ว “ไปกันเถอะ ไปรับการอบรมทางกฎหมายที่สถานีตำรวจ”
กู่ซิ่วดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนก “ฉันไปคลุมถุงชนใครตอนไหน? ฉันแค่พูดกับบ้านสกุลฉินว่าอยากเป็ทองแผ่นเดียวกันเท่านั้น!”
หลี่ไห่บังคับใส่กุญแจมือกู่ซิ่ว หยิบเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กดปุ่มเล่น
เมื่อเสียงบันทึกเล่นถึงตอนที่กู่ซิ่วพูดว่า “แกไม่เห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วย!” หลี่ไห่ก็ตวาดถามว่า “นี่ไม่ใช่การคลุมถุงชนแล้วคืออะไร?”
กู่ซิ่วกลับเถียงข้าง ๆ คู ๆ “ยังไม่สำเร็จสักหน่อย จะจับฉันไปขังคุกได้ยังไง?”
ลู่ฉี่เสียนหรี่ตามองอย่างเ็า “ถ้าทำสำเร็จ พวกเราคงไม่ใช่แค่จับคุณไปอบรมที่สถานีตำรวจ แต่มันจะกลายเป็ส่งคุณให้ศาลตัดสินจำคุกสามถึงห้าปี!”