บ้านข้างๆ ของจวินจิ่วเฉินไม่ได้มีเพียงกูเฟยเยี่ยน แต่ยังมีเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นที่กำลังตามจับเขาอยู่
จวินฮั่นหยิ่นกับเฉิงอี้เฟยไปค้นหาด้วยตนเอง เมื่อหาไม่เจอจึงย้อนกลับมาก่อน
สวนทั้งหมดถูกล้อมรอบไว้อย่างแ่าแล้ว เฉิงอี้เฟยเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่านักฆ่าชุดดำยังคงซ่อนตัวอยู่ภายในสวน แต่สวนที่ใหญ่เพียงนี้ไม่ง่ายต่อการค้นหา วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ไหวพริบ หาก้าใช้ไหวพริบแน่นอนว่าต้องให้กูเฟยเยี่ยนที่รู้จักนักฆ่าดีที่สุดคิดหาวิธี
แม้กระทั่งเื่การวางยาพิษ กูเฟยเยี่ยนก็พูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกมา นางจะไปคิดหาวิธีให้พวกเขาได้อย่างไรกัน! นางทำได้เพียงพูดสุ่มสี่สุ่มห้าต่อไป
จวินจิ่วเฉินเอนหลังพิงกำแพงพลางตั้งใจฟัง
เดิมทีเขาไม่เข้าใจว่ากูเฟยเยี่ยนพูดถึงเื่อะไร แต่เมื่อได้ยินเสียงของเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่น เขาก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
ชายหนุ่มก้มหน้านิ่งเงียบ ไม่ช้ามุมปากก็ค่อยๆ ยกยิ้มบางเบาราวกับจำใจและเยาะเย้ยตนเอง เขาเป็คนเ็ามาโดยตลอด เมื่อเงียบลงต่อให้เป็รอยยิ้มบางเบาก็ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกห่างเหินประหนึ่งว่าสร้างโลกอีกใบด้วยตนเองและปฏิเสธผู้คนทั้งโลก
“แอด…”
ประตูถูกเปิดออก ผู้ที่เข้ามาคือเ้าของหมู่บ้านบุปผา
จวินจิ่วเฉินเหลือบมองแวบหนึ่งโดยที่ยังคงก้มหน้าก้มตา และรอยยิ้มได้จางหายไประยะเวลาหนึ่งแล้ว
เ้าของหมู่บ้านบุปผาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกระซิบแ่เบา “เตี้ยนเซี่ยเพคะ จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเพคะ เสด็จเถอะ”
เฉิงอี้เฟยเก่งกาจในเื่ของการวางกำลังทหารเพื่อปราบล้อม ทั่วทั้งสวนถูกล้อมรอบไว้อย่างแ่าจริงๆ แต่ถึงอย่างไรสวนแห่งนี้ก็เป็ของจวินจิ่วเฉิน หากเขา้ามาหรือ้าไป ใครจะหยุดเขาได้?
เสียงพูดคุยของบ้านพักด้านข้างยังคงดังต่อไป ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นเดินตามเ้าของหมู่บ้านบุปผาออกไป
ถึงอย่างไรเ้าของหมู่บ้านบุปผาก็เป็คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน นางทอดถอนหายใจออกมา เตี้ยนเซี่ยปฏิบัติต่อทุกคนอย่างห่างเหินแต่อาลัยอาวรณ์แพทย์หญิงกู หมางจ้งพูดถูกว่าแพทย์หญิงกูคนนั้นจะต้องเป็คนที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจของเตี้ยนเซี่ยได้แน่ๆ
เพียงแต่ว่าเตี้ยนเซี่ยทรงสนใจแต่แพทย์หญิงกู แต่แพทย์หญิงกูดูเหมือนจะไม่มีใจให้นี่นา! หากว่าผู้คนบนโลกรับรู้จะไม่ใจนอ้าปากค้างหรือ?
เ้าของหมู่บ้านบุปผาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเตือนสติ “เตี้ยนเซี่ยเพคะ ระยะเวลาสามเดือนใกล้เข้ามาแล้ว ไม่สามารถให้แพทย์หญิงกูอยู่ต่อได้นะเพคะ มิฉะนั้นแล้วฝ่าาจะต้องหวาดระแวงแน่! มันจะเป็อันตรายต่อพวกเราและแพทย์หญิงกู”
จวินจิ่วเฉินไม่พูดไม่จา ก้มหน้าเดินไปอย่างเงียบเชียบ
เ้าของหมู่บ้านบุปผามองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ นางกลัวว่าเขาจะหุนหันพลันแล่นแล้วให้แพทย์หญิงกูอยู่ที่จวนต่อ เ้าของหมู่บ้านบุปผาโน้มน้าวอีกครั้ง “หากเตี้ยนเซี่ยมีใจจริงๆ วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล” ทันทีที่เ้าของหมู่บ้านบุปผาเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา จวินจิ่วเฉินก็เร่งฝีเท้าขึ้นราวกับหงุดหงิดและไม่เป็ตัวของตัวเอง
เ้าของหมู่บ้านบุปผาไล่ตามมาเพื่อจะเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง แต่จวินจิ่วเฉินกลับพูดอย่างเ็า “ไม่จำเป็ต้องส่งแล้ว ดูนางไว้ให้ดีแล้วส่งกลับไปในคืนนี้! ”
เ้าของหมู่บ้านบุปผาหยุดชะงักด้วยความตกตะลึง
ดูนางไว้ให้ดี นางทำได้แน่นอน
ทว่าส่งกลับไปภายในคืนนี้? นี่จะไม่ลำบากนางไปหน่อยหรือ?
จากท่าทีของท่านแม่ทัพเฉิงกับองค์ชายแปดแล้ว หากจับกุมไม่ได้จะไม่ยอมถอยแน่ ไม่ว่าอย่างไรกูเฟยเยี่ยนก็ต้องอยู่ต่อรอกลับวันพรุ่งนี้สิ?
อีกทั้งในเวลานี้กูเฟยเยี่ยนเองก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะกลับไปก่อน นางที่เป็เ้าของหมู่บ้านจะไปพูดอย่างไรดี? เ้าของหมู่บ้านบุปผามองแผ่นหลังเ้านายของตนเองที่ห่างไกลออกไป นี่เป็ครั้งแรกที่เกิดความรู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก นางทำได้เพียงไปหาหมางจ้งเพื่อคิดหาวิธี หลังจากที่หมางจ้งจัดการให้สายลับสองคนนั้นออกไปแล้วก็ตกตะลึงทันทีที่ได้ทราบเื่นี้ เขาไม่แม้แต่จะกล้าปรากฏตัวให้เห็น
เขาจะไปมีความคิดได้อย่างไร?
เฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นออกค้นหาทั้งคืน กูเฟยเยี่ยนเจรจาขอห้องพักกับเ้าของหมู่บ้านบุปผาเพื่อพักผ่อน
หมางจ้งกับเ้าของหมู่บ้านบุปผาเตรียมใจที่จะถูกลงโทษ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านก็ปรากฏตัวขึ้นมา!
ทันทีที่หมางจ้งเห็นเซี่ยเสี่ยวหม่าน เขาก็รู้สึกเหมือนว่าเห็นผู้ช่วยชีวิต เขากำลังจะอธิบายแต่เซี่ยเสี่ยวหม่านโบกมืออย่างไร้ความอดทน “พอแล้วๆ ข้ารู้หมดแล้ว! นางล่ะ? ”
อันที่จริงแล้วเซี่ยเสี่ยวหม่านเป็กังวลมากกว่าหมางจ้งกับเ้าของหมู่บ้านบุปผาเสียอีก เป็เพราะครั้งที่แล้วที่กูเฟยเยี่ยนไม่ได้กลับไปที่จวนตลอดทั้งคืน เขาถูกลงโทษจนหวาดกลัวไปหมดแล้ว
ดังนั้นกูเฟยเยี่ยนที่กำลังจะนอน จึงถูกเซี่ยเสี่ยวหม่านบีบบังคับให้ขึ้นไปบนรถม้า
ต่อหน้าทหารองครักษ์ เ้าของหมู่บ้านบุปผาแสร้งทำเป็เอ่ยถามด้วยความสุภาพ “หม่านกงกง การที่ท่านทำเช่นนี้จะทำให้ข้าน้อยลำบากนะ! ท่านรอก่อน ข้าน้อยจะไปตามท่านแม่ทัพเฉิงกับองค์ชายแปดมาแล้วท่านทักทายพวกเขาเอง”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไอค่อกแค่กเบาๆ พลันตอบไป “ที่จวนมีเื่เร่งด่วน ไม่อาจรอช้าได้”
บนรถม้า กูเฟยเยี่ยนที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือทำหน้าบูดบึ้ง แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้นางก็ตื่นทันที
ทันทีที่รถม้าจากไปหญิงสาวก็รีบเอ่ยถาม “เซี่ยเสี่ยวหม่าน ที่จวนเกิดเื่อะไรขึ้น? เตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับมาหรือยัง? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่มีเหตุผลที่จะตอบจึงทำได้เพียงปิดปากเงียบ เขากลัดกลุ้มมาก เดิมทีคิดว่าการที่กูเฟยเยี่ยนกับเฉิงอี้เฟยออกมาเที่ยวจะเป็เื่ดี แต่ใครจะไปทราบว่าเตี้ยนเซี่ยจะแทรกเข้ามา?
กูเฟยเยี่ยนโผล่ศีรษะออกมาถามอีกครั้ง “มีเื่เร่งด่วนอะไรกัน? เ้าพูดออกมาสิ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านตอบไม่ได้จริงๆ เขาจ้องมองนางโดยที่ไม่เอ่ยอะไรออกมา กูเฟยเยี่ยนจึงไม่ถามต่อ นางกังวลมาตลอดทางจนถึงจิ้งหวางฝู่ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างในจิ้งหวางฝู่ปลอดภัย นางก็รู้สึกประหลาดใจมากเหลือเกิน
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านมักจะทำเื่ให้นางประหลาดใจไม่น้อย กูเฟยเยี่ยนจึงคุ้นชินไปแล้ว นางี้เีจะถามจึงไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
สามวันต่อมาเฉิงอี้เฟยกับจวินฮั่นหยิ่นกลับมายังตัวเมืองโดยไม่พบอะไรเลย
ทันทีที่เฉิงอี้เฟยกลับเข้ามาในตัวเมืองก็มาหากูเฟยเยี่ยนและถูกปฏิเสธอยู่นอกประตูอีกเช่นเคย ทางด้านของจวินฮั่นหยิ่นนั้นรีบร้อนที่จะเข้าไปในพระราชวัง เขาเก็บข้าวของแล้วก็เข้าไปพบเทียนอู่ฮ่องเต้
ที่หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ในวันนั้นมีนักท่องเที่ยวใกลัวไม่น้อยเลย บวกกับผู้ที่ถูกลักพาตัวไปคือกูเฟยเยี่ยน ผู้ที่กลับเข้าเมืองในวันนั้นจึงวิพากษ์วิจารณ์กัน ระยะเวลาสามวันเื่นี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองจิ้นหยางและภายในพระราชวังแล้ว
เทียนอู่ฮ่องเต้รับรู้เื่นี้เพียงแต่เขาทำเป็ไม่ทราบเื่ราวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่พอใจที่องค์ชายแปดไปสนิทสนมกับกูเฟยเยี่ยนอยู่ดี
เขาเรียงหมากรุกแล้วเรียกจวินฮั่นหยิ่นเข้ามา “บังเอิญมาพอดี มาเล่นเป็เพื่อนฟู่หวงสักตา”
“พ่ะย่ะค่ะ ฟู่หวง! ”
จวินฮั่นหยิ่นไม่โง่ เขาเล่นหมากรุกพลางเอ่ยถึงเื่ราวของหมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เอ่ยถึงเื่ที่กูเฟยเยี่ยนชื่นชอบตัวเขา
เขาถอนหายใจออกมา “เดิมทีเอ๋อร์เฉินไม่อยากไป แต่แม่ทัพเฉิงเชิญให้ไปให้ได้ เฮ้อ ผิดที่เอ๋อร์เฉินไม่เก่งวิทยายุทธจึงจับนักฆ่าคนนั้นไม่ได้”
เทียนอู่ฮ่องเต้จดจ่ออยู่ที่กระดานหมากรุกด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยใส่ใจเื่นี้นัก เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเมื่อวางหมากลงจึงซักถามว่า “นักฆ่าคนนั้นสามารถลักพาตัวคนต่อหน้าเ้าได้ ดูท่าว่าจะไม่อาจดูถูกได้”
จวินฮั่นหยิ่นพยักหน้าเห็นด้วย “เอ๋อร์เฉินก็คิดเช่นนี้เช่นกัน ไม่รู้ว่าเขาลักพาตัวแพทย์หญิงกูไปทำไมกัน? ”
ดวงตาของเทียนอู่ฮ่องเต้ทอประกายความซับซ้อนขึ้นมาพลางเอ่ยหยั่งเชิง “เหอะๆ แพทย์หญิงกูเป็ผู้ที่ชอบสร้างปัญหาจริงๆ เื่ที่เกิดขึ้นมาหลายครั้งล้วนเป็เพราะนางใช่หรือไม่? ”
จวินฮั่นหยิ่นรีบตอบกลับไป “เอ๋อร์เฉินเพิ่งจะกลับมา ได้ยินมาบ้างแต่ไม่ค่อยเข้าใจอย่างถ่องแท้นัก ทว่าเ้าเฉิงอี้เฟย…เหอะๆ เขาสนใจในตัวนาง หญิงสาวคนนั้นต้องมีอะไรบางอย่างที่พิเศษแน่ๆ ”
เทียนอู่ฮ่องเต้ค่อนข้างพอใจกับคำตอบของจวินฮั่นหยิ่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดคุยถึงเื่นี้ต่อ แต่เมื่อเล่นหมากรุกจบแล้วจวินฮั่นหยิ่นก็ได้สั่งให้คนรับใช้นำใบผีผามา
“ฟู่หวง ก่อนหน้านี้เอ๋อร์เฉินอยู่ด้านนอกมาโดยตลอด ไม่รับรู้แม้แต่อาการประชวรของฟู่หวง เอ๋อร์เฉินรู้สึกผิดที่ไม่ได้กตัญญูต่อฟู่หวง เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ยินแพทย์หญิงกูบอกว่าฟู่หวงทรงประชวรอีกแล้ว เอ๋อร์เฉินจึงตั้งใจให้คนไปหาใบผีผานี้มา…”
จวินฮั่นหยิ่นนำคำพูดของกูเฟยเยี่ยนที่เกี่ยวกับการคัดเลือกใบผีผามาพูดอีกครั้ง ในตอนนี้สีหน้าของเทียนอู่ฮ่องเต้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด…