เ้าเมืองที่ซ่งอวินพูดถึง ก็คือนายหญิงแห่งเมืองใต้ดินหวังเฉิง จี้หงหลิง
วันนั้นหลังจากที่จี้หงหลิงเห็นิอวี่แสดงความสามารถออกมาแล้ว นางก็ตัดสินใจจะพบกับเขา หากสามารถเชื่อมสัมพันธภาพที่ดีกับคนที่มีความสามารถจากในราชสำนักได้ นางจะได้ประโยชน์อย่างมาก
เมื่ออาทิตย์ก่อน จี้หงหลิงมาหาิอวี่แล้วแต่เขาเก็บตัวฝึกวิชาอยู่ นางก็เลยแอบกลับไป จากนั้นนางก็ไม่สะดวกที่จะมาด้วยตัวเองอีกเลยส่งซ่งอวินมา
ขอแค่ิอวี่เลิกฝึกเมื่อไหร่ก็ให้เรียนเชิญเขามาทันที
ดังนั้น ซ่งอวินจึงมาหาที่นี่หกวันเต็ม ทุกครั้งที่มาก็จะนำเอาของขวัญมามอบให้กับหยางเสวี่ยหรงด้วย ทำให้หยางเสวี่ยหรงรู้สึกเกรงใจ
“อวี่เอ๋อร์ เ้าไปหน่อยเถอะนะ รีบไปรีบกลับ กลับมาแม่จะต้มซุปรากบัวไก่ให้เ้ากิน” รับของขวัญมาหกวันเต็ม หยางเสวี่ยหรงรับรู้ได้ถึงความจริงใจของผู้ดูแลซ่งก็เลยแนะนำให้ิอวี่ไป
ิอวี่เห็นหยางเสวี่ยหรงยิ้มอย่างมีความสุข แสดงว่าทางเมืองใต้ดินหวังเฉิงน่าจะลงทุนลงแรงเอาอกเอาใจนางเต็มที่เหมือนกัน เห็นแก่ท่านแม่ ไปก็ได้
อีกอย่าง ในเมื่อทางนั้นก็รู้แล้วว่าเขาคือองค์ชายสิบเจ็ด คิดว่าไม่น่าจะกล้าทำอะไรเขา
ิอวี่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการประลองยุทธ์ ใน่นี้ไม่มีใครกล้าลอบสังหารเขาแน่นอน ส่วนของขวัญลึกลับที่ซ่งอวินพูดถึง ิอวี่ไม่ได้คิดถึงเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าเ้าเมืองที่ซ่งอวินพูดถึงจะเป็ผู้หญิง เขาคิดแค่ว่ามันคือสิ่งของ
แต่ในความเป็จริงแล้ว ของขวัญพิเศษลึกลับที่ซ่งอวินพูดถึงนั้น มันไม่ได้ธรรมดาแบบนั้น ...
“ก็ได้ เ้านำทางเถอะ”
ระหว่างที่พูด ิอวี่ก็เดินออกจากตำหนักลั่วฮวาไป ส่วนผู้ดูแลซ่งที่อยู่ด้านหลังเขาก็พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อิอวี่ขึ้นรถม้าไปแล้วเขาถึงบังคับรถม้าให้ตรงไปยังเมืองใต้ดินหวังเฉิงอย่างรวดเร็ว
ตลอดการเดินทาง ิอวี่ทบทวนฝ่ามือปลิดิญญาชุ่ยอวี้อยู่ตลอดเวลา จนเข้าไปสู่ห้วงความคิดโดยไม่รู้ตัว
จนกระทั่งเขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง รถม้าก็หยุด
ซ่งอวินเปิดม่านรถม้าออกอย่างนอบน้อม แล้วทำท่าเชิญิอวี่ลงจากรถ “องค์ชายสิบเจ็ด ถึงแล้วพะยะค่ะ”
ิอวี่เดินลงจากรถม้า ซ่งอวินก็พาเขาเดินเข้าไปในเมืองใต้ดินหวังเฉิง เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่มาที่นี่เขามาคนเดียว แต่ตอนนี้กลับมีซ่งอวินมารับรองและนำทางเขาเข้าไป
เมืองใต้ดินหวังเฉิงยังคงมีเสียงเอะอะโวยวายเหมือนเดิม การประลองก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีเสียงปะทะดังสนั่นจนิอวี่ต้องเลี้ยวหลังมอง
เมื่อสามเดือนก่อน เขาเคยยืนอยู่บนลานประลองนั้น แต่ในวันนี้ เ้าเมืองใต้ดินหวังเฉิงกลับเชิญเขามาพบ ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด
สรรพสิ่งยังเหมือนเดิม แต่คนเปลี่ยนไปจริงๆ
เพราะมีซ่งอวินนำทางทำให้เป็ที่สะดุดตาของใครหลายคน เมื่อเห็นว่าคนที่นำทางนั้นคือผู้ดูแลซ่งก็อดใกันไม่ได้
ซ่งอวินมีความสามารถขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง เป็ผู้มีประสบการณ์และบารมีอย่างมากในเมืองใต้ดินหวังเฉิง ปกติเดินตัวยืดตรงตลอด แทบไม่ยิ้มแย้มกับใครเลย แต่วันนี้เขากลับเดินโค้งตัวเล็กน้อยและยิ้มแย้มอยู่ข้างกายของชายหนุ่ม
ที่เกินไปกว่านั้นก็คือชายหนุ่มคนนั้นเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรผู้ดูแลซ่งเท่าไรเลยด้วย ...
“เขาเป็ใครกัน?”
“อ๋อ! ข้ารู้แล้ว เขา ... เขาคือิอวี่องค์ชายคนที่เอาชนะเยี่ยซีได้ในงานประลองยุทธ์ของราชสำนักเมื่อหลายวันก่อนไง!”
“เขาเองหรือ?” มีคนร้องะโด้วยความใ “พวกเ้ารีบดูเร็ว ผู้ดูแลซ่งพาเขาไปยังทางใต้ดิน นั่น ... นั่นมันสถานที่พักของท่านเ้าเมืองไม่ใช่หรือ?”
มีคนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “นั่นมันห้องนอนของท่านเ้าเมืองที่อยู่ใต้สุดของเมืองใต้ดินหวังเฉิง ... พวกเ้าว่า ท่านเ้าเมืองให้เขาเข้าไปทำอะไร ...”
“นั่นมันห้องนอนของท่านเ้าเมือง เ้าคิดว่าท่านเ้าเมืองจะให้เขาเข้าไปทำอะไรล่ะ เ้าเลิกพูดได้แล้ว” มีอีกคนพูดขึ้นมาด้วยความอิจฉา
“ ... ”
เสียงซุบซิบนินทาถึงแม้จะเบามาก แต่ิอวี่มีประสาทััทั้งห้าดีมาก เขาอดยิ้มไม่ได้ ก็แค่ไปเจอคนๆ หนึ่ง ทำไมจะต้องใแตกตื่นกันขนาดนั้นด้วย
ซ่งอวินพาิอวี่เดินลงทางใต้ดินไป เมื่อเดินยิ่งลึกไปเรื่อยๆ เสียงเ่าั้ก็หายไป เหลือแค่แสงไฟสองข้างทางและทางเดินแคบๆ เท่านั้น
ในที่สุด ิอวี่ก็เดินมาสุดทางเดิน เห็นประตูใหญ่สีแดงบานหนึ่ง ประตูสีแดงบานนั้นทำจากไม้อวินมู่ ขอบประตูมีสลักลายดอกไม้สีทอง ส่วนตรงกลางประตูมีตัวอักษรสีดำคำว่า “หลิง” ตัวอักษรธรรมดาแต่ดูมีชีวิต
ผู้ดูแลซ่งเคาะประตูอยู่ด้านหน้าสามที แล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “ท่านเ้าเมือง องค์ชายสิบเจ็ดมาถึงแล้วขอรับ”
“รู้แล้ว ออกไปก่อนเถอะ”
เสียงใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นมา ผู้ดูแลซ่งตอบรับว่า “ขอรับ” จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดประตูใหญ่สีแดงออก แล้วทำท่า “เชิญ” ิอวี่เข้าไป จนกระทั่งเห็นิอวี่เดินเข้าไปด้านในแล้ว เขาถึงได้ปิดประตูแล้วถอยกลับออกมา
ที่แท้เ้าเมืองก็เป็ผู้หญิงหรอกหรือนี่?
ิอวี่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย หลังจากเข้ามาในห้องก็ได้กลิ่นหอมโชยมาแตะจมูก มันเป็กลิ่นที่หวานมาก แล้วยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ด้วย เพียงสูดดมก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอารมณ์มาก
ในห้องไม่ได้กว้างมาก เป็ห้องธรรมดาห้องหนึ่ง แต่กลับตกแต่งได้อย่างประณีต
ในห้องรับแขกใช้สีแดงและดำเป็หลัก มีโต๊ะทรงกลมที่มีกล่องเครื่องแป้งวางอยู่ แล้วยังมีกระจกขอบแดงอยู่ด้วย
แสดงว่านางต้องเป็ผู้หญิงรักสวยรักงามมาก แต่ทำไมต้องพาข้ามาที่ห้องของนางด้วย? ิอวี่คิด
“องค์ชายสิบเจ็ด นั่งพักที่ห้องรับแขกก่อนนะเ้าคะ ข้ากำลังอาบน้ำอยู่ สักครู่จะออกไป” เสียงของนางดังขึ้นอีกครั้ง มันไม่ได้ฟังดูสดใสแต่กลับดูนุ่มนวล รื่นหูอย่างมาก
ิอวี่ได้ยินเสียงน้ำมาจากห้องอาบน้ำที่ดังทะลุม่านมาถึงห้องรับแขก ซึ่งตรงนั้นก็สามารถมองเห็นห้องอาบน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
หน้าต่างห้องอาบน้ำมีผ้าสีแดงบางๆ ปิดอยู่ เงาของหญิงสาวที่รูปร่างอ่อนช้อยคนหนึ่งสาดส่องอยู่้า ดูเย้ายวนใจมาก
ิอวี่กวาดสายตาไปแค่ครู่เดียวก็รีบเก็บสายตากลับมา เขารู้สึกว่าเื่นี้มันไม่ค่อยปกติเท่าไร
ขณะที่เขากำลังคิด ปลายตาก็ดันหันไปเห็นเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ถูกโยนบนที่นั่ง ราวกับว่านางรีบเก็บข้าวของแต่ไม่ทันเลยทำตกเอาไว้ ...
นี่มันเื่อะไรกันเนี่ย?
ิอวี่ปลายคิ้วกระตุก เขาเดาเป้าหมายของผู้หญิงคนนั้นจนสับสนวุ่นวายไปหมด
ในเวลานี้เอง ผู้หญิงหลังผ้าม่านสีแดงก็ลุกขึ้นยืน หลังจากเช็ดตัวไปเล็กน้อยก็เริ่มสวมชุดสีแดงหลวมๆ ปิดหน้าด้วยผ้าสีแดงบางๆ แล้วก็เดินออกมา
นางยังไม่ทันเช็ดผมให้แห้ง ทำให้มีกลิ่นหอมคละคลุ้งอ่อนๆ โชยมา ผิวพรรณของนางขาวเนียน บวกกับเสื้อผ้าสีแดงและท่าทางสบายอารมณ์ อีกทั้งรูปร่างที่ดูสมส่วน ยิ่งทำให้ไม่อาจละสายตาจากนางไปได้
“คิดไม่ถึงเลยว่าท่านเ้าเมืองจะมีอารมณ์สุนทรีย์มากขนาดนี้ ปิดหน้าปิดตาให้ดูลึกลับแบบนี้ด้วย” ิอวี่ยิ้มแล้วพูด
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มมุมปาก แล้วพูดขึ้นมาว่า “ข้าแค่เกรงว่าหลังจากที่องค์ชายเห็นใบหน้าข้าแล้วจะทนไม่ไหว”
หากจำเป็นางก็ไม่ได้รังเกียจที่จะให้ิอวี่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง เพราะวินาทีที่ิอวี่ได้เห็นใบหน้าของนางก็จะถูกสยบทันที แต่ว่านางไม่อยากรีบ นาง้าให้ิอวี่ค่อยๆ ซึมซับความอ่อนโยนของนางไปทีละน้อย จนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น
“ฟังดูร้ายจัง” ิอวี่ไม่รู้แผนการในใจของนางเลย ยังหยอกล้อกลับไปด้วย
“อิอิ ...”
หญิงสาวหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “องค์ชายสิบเจ็ด หม่อมฉันจี้หงหลิงนายหญิงแห่งเมืองใต้ดินหวังเฉิง วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้พบองค์ชายนะเ้าคะ แต่ว่าเพราะไม่ทันได้เตรียมตัวเลยไม่ได้จัดห้อง ขายหน้าท่านจริงๆ ”
จี้หงหลิงยื่นมือขวาขาวๆ ออกไปเพื่อจับมือกับิอวี่
ิอวี่ยื่นมือออกไปจับเช่นกัน เขาััได้ถึงความนุ่มนวลและเรียบเนียน แต่เขาจับไม่นานก็รีบปล่อย จากนั้นก็พูดว่า “ไม่ทราบนายหญิงจี้้าพบข้า มีเื่อันใด?”
ั้แ่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ จี้หงหลิงไม่ได้แสดงเจตนาให้เขาได้เห็นเลย ิอวี่เชื่อว่าจี้หงหลิงคงไม่ได้เชิญเขามาดูนางเริงระบำให้ดูแน่
“อิอิ วันนี้ที่เชิญองค์ชายมา เพราะ้าแสดงให้ทรงเห็นว่าหม่อมฉันชื่นชอบในตัวองค์ชายมาก”
จี้หงหลิงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ั้แ่ได้เห็นองค์ชายที่งานประลองยุทธ์ของราชสำนัก หม่อมฉันก็รู้สึกว่าองค์ชายนั้นมีเสน่ห์มาก ดังนั้นหม่อมฉันถึงได้เตรียมของขวัญพิเศษให้องค์ชายสามอย่าง หวังว่าองค์ชายจะไม่รังเกียจ”
ระหว่างที่พูดนางก็พลิกฝ่ามือ ของสีดำชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนมือของนางทันที
“ของขวัญชิ้นแรก มีชื่อว่าเกราะแขนเฮยจิน ท่านอย่าได้ทรงดูถูกมันนะ”
จี้หงหลิงพูดแนะนำต่อว่า “เกราะแขนชิ้นนี้ทำมาจากทองคำสีดำ มีน้ำหนักสูงมาก แต่ก็มีความเหนียวทนทานมากเช่นกัน ไม่เพียงสามารถปกป้องคุ้มกันแขนและมือ มันยังสามารถเก็บสิ่งของได้อีกด้วย”
จี้หงหลิงสวมเกราะแขนลงบนที่แขนของตัวเอง เกราะนั้นรัดแขนของนางในทันที ด้านหลังของเกราะแขนนั้นมีตัวล็อคสีดำรูปดาว เป็จุดที่สามารถเก็บของเอาไว้ได้
“องค์ชายอย่าได้ดูถูกว่ามันเล็กนะ เพราะว่ามันมีพื้นที่เก็บของถึงหนึ่งร้อยตารางเมตร และพื้นที่ปิดผนึกมีความเสถียรอย่างยิ่ง เป็สมบัติที่หาได้ยากยิ่งนักเชียว”
จี้หงหลิงพูดต่อ จากนั้นก็ถอดเกราะแขนเฮยจินออกแล้วยื่นให้กับิอวี่
ิอวี่หยิบเกราะแขนเฮยจินคิดมาดู ก็พบว่าที่จี้หงหลิงพูดนั้นเป็เื่จริง
ถุงเก็บของสามารถเก็บสิ่งของได้เป็จำนวนมาก อีกทั้งมีมิติพื้นที่ภายในที่มีความเสถียรสูง ถือเป็ของที่หาได้ยากยิ่ง ต้องใช้เงินอย่างน้อยหนึ่งร้อยกว่าล้านเหรียญหยกดำถึงจะสามารถซื้อได้!
จากนั้นจี้หงหลิงก็พูดต่อว่า “ของขวัญชิ้นต่อไป ก็คือสิ่งนี้”
ระหว่างที่พูดจี้หงหลิงก็หยิบมีดบินออกมาเล่มหนึ่ง เมื่อวางข้างโต๊ะมีดบินนั้นก็แยกออกเป็อีกเก้าเล่ม!
“มีดบินนี่มีชื่อว่าปี้ลั่ว มีทั้งหมดเก้าเล่ม ทำจากเหล็กดำชั้นดี ตัวมีดบางเบา ตัดเหล็กและดินโคลนให้ขาดได้ ข้าจะมอบวิธีการควบคุมของมันให้องค์ชายด้วย ขอแค่ทรงท่องคาถาควบคุม ต่อไปก็สามารถควบคุมและใช้งานมันได้ไม่ยาก”
ิอวี่มองไปที่มีดบินนี้อย่างละเอียด มันเป็มีดบินที่แวววาวมาก มีลวดลายสลักที่ประณีต แล้วในตัวมีดก็ยังมีลวดลายที่ดูจากภายนอกก็ยังมองไม่เห็นอีกด้วย
ลวดลายที่ว่านี้ดูพิถีพิถัน ต้องใช้การเพ่งจิตสำนึกในการควบคุม ถึงจะสามารถควบคุมการใช้งานของมันได้ ดังนั้น นอกจากตัวผู้ควบคุมเองแล้ว คนอื่นก็ไม่สามารถควบคุมมีดบินนี้ได้
อีกอย่าง มีดบินนี้ยังดูเบาราวกับมีชีวิตทั้งที่จริงแล้วมันมีน้ำหนักมาก ต่อให้จี้หงหลิงจะมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง ก็ยังไม่สามารถควบคุมมีดบินปี้ลั่วนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่มอบมันให้กับิอวี่เป็แน่
เพราะมีดบินปี้ลั่วเป็ศาสตราวุธระดับเก้า!
ิอวี่พูดด้วยเจตนาที่ชัดเจนว่า “ถ้าอย่างนั้นของขวัญชิ้นสุดท้ายของนายหญิงจี้ คืออะไรล่ะ?”
จี้หงหลิงยิ้ม “องค์ชายอย่างเพิ่งใจร้อนสิ ข้าจะแนะนำของอย่างสุดท้ายเดี๋ยวนี้เลย”
พูดจบนางก็พลิกข้อมืออีกครั้ง แล้วหยิบกระดาษหนังแกะสีเหลืองออกมาจากถุงเก็บของ แล้วกางออกบนโต๊ะของิอวี่
“นี่มัน ... ”
“มันคือแผนที่ของดินแดนอสูรว่านโซ่ว”
ิอวี่สะดุ้ง ทำไมจี้หงหลิงถึงรู้เื่ของดินแดนอสูรว่านโซ่วด้วย? หรือว่านางรู้เจตนาของิอ๋อง?
ที่จริงิอวี่คิดมากเกินไป จี้หงหลิงไม่รู้ว่าเขาจะไปดินแดนอสูรว่านโซ่ว แต่เพราะในแผนที่ดินแดนอสูรว่านโซ่วนั้น มันมีสุดยอดกระบี่ซ่อนอยู่!
เล็บสีแดงของจี้หงหลิงชี้ไปที่ด้านมุมซ้ายของแผนที่ แล้วค่อยๆ พูดว่า “ถึงแม้จะได้ยินมาว่าดินแดนอสูรว่านโซ่วนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต และนี่ก็เป็แผนที่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าในนี้มันมีบันทึกที่ซ่อนกระบี่ล้ำค่าอยู่”
“เมื่อห้าปีก่อน ท่านลุงของข้าฝ่าด่านออกมาจากดินแดนอสูรว่านโซ่ว แต่ก็ได้รับาเ็สาหัส อยู่ไม่ถึงครึ่งปีเขาก็ตาย”
จี้หงหลิงพูดว่า “ก่อนตาย เขามอบมีดบินปี้ลั่วให้ข้า แล้วบอกว่ามีดบินปี้ลั่วนั้นเป็เปรียบเสมือนตัวช่วย สิ่งที่สำคัญมันคือกระบี่ที่อยู่บนแผนที่”
สายตาของจี้หงหลิงหนักแน่นมาก นางพูดว่า “ได้ยินมาว่า มันเป็กระบี่เทวะที่บรรพบุรุษสร้างเอาไว้ เพราะสังหารคนชั่วร้ายมานับไม่ถ้วน เลยถือเป็กระบี่ผดุงคุณธรรมเล่มหนึ่ง แต่ก็เพราะเปื้อนเืมามากมาย จึงเต็มไปด้วยพลังิญญาของคนตายจำนวนมาก มันคือกระบี่แห่งความตาย”
ท่าทางของิอวี่นิ่งไป “ดังนั้น ตำแหน่งที่อยู่ในแผนที่ ก็คือที่อยู่ของกระบี่เล่มนั้นใช่ไหม?”
“ถูกต้อง กระบี่เล่มนี้นี่แหละ มันมีชื่อว่า กระบี่มรณะหวงฉวน”