“เอ๋? แน่นอนอยู่แล้ว แน่นอนอยู่แล้ว!”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มอย่างเก้อเขิน เสิ่นเสวียนกำลังเตือนเขา ทั้งยังทำให้เขาเข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยังไม่เชื่อใจเขาเต็มที่
“ทางนั้นมีคน”
เริ่นเสี้ยวเทียนเห็นพรมวิเศษสีแดงผืนหนึ่งเหาะมาทางด้านหน้า บนพรมมีคนอยู่สามคน เป็บุรุษหนึ่งคนและสตรีอีกสองคน ตอนนี้พวกเขากำลังเหาะมาทางนี้อย่างสบายๆ
บนพรมวิเศษมีอาหารหลากหลายอย่าง ทั้งสุรารสเลิศ แต่เพราะความไม่ธรรมดาจึงทำให้สุราไม่หกออกมาแม้แต่หยดเดียว
“หลีกไปๆ าามารตะวันตกมาแล้ว ยังไม่รีบหลบอีก”
พรมวิเศษเหาะเข้าใกล้พวกเสิ่นเสวียนแล้ว าามารตะวันตกผู้นั้นคุยกับพวกเขาทั้งสี่คนด้วยภาษาท้องถิ่นอย่างคล่องแคล่ว
พวกเสิ่นเสวียนหลีกทางให้ในทันที ไม่รบกวนการเดินทางของอีกฝ่าย
าามารตะวันตกผู้นั้นดูมีอายุประมาณสี่สิบกว่าปี มีหนวดเคราดกครึ้ม ผมกระเซิง คล้ายกับคนยุคเก่า ทว่าท่านลุงท่าทางมอมแมมผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ไอพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างเพียงเลือนรางอย่างน้อยๆ ก็ถึงขั้นราชันแล้ว
ในหุบเขาสุขาวดี คนที่มีพลังสูงส่งเช่นนี้โดนขวางทางแล้วยังกล่าวด้วยถ้อยคำที่สุภาพ แสดงว่าอีกฝ่ายไม่เลวเลยทีเดียว
“ท่านอ๋อง ข้ารินสุราให้”
สตรีสวมชุดค่อนข้างเปิดเผยคนหนึ่งยกจอกสุราขึ้นพลางกล่าวกับาามารตะวันตก
“โอ้ เยี่ยมเลย”
าามารตะวันตกรับจอกสุราไว้ แววตาที่มองจอกสุราค่อนข้างร้อนแรง จากนั้นเขาก็ดื่มเข้าไปจนหมด
เสพสุขจากหญิงงามและสุรา หาต้องกังวลเื่อาภรณ์และอาหารไม่
หากอยู่ในหุบเขาสุขาวดีแล้วมีพลัง จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขี
“เอ๋? ช้าก่อน”
าามารตะวันตกดื่มสุราหมดแล้วพลันััได้ถึงไอพลังของเริ่นเสี้ยวเทียนและเสิ่นเสวียนที่ต่างออกไป
เขาสั่งพรมวิเศษให้หยุดนิ่งลงแล้วหันมองเริ่นเสี้ยวเทียน
“เ้ามีพลังขั้นราชันอย่างนั้นหรือ”
การที่เริ่นเสี้ยวเทียนควบคุมพลังไว้นั้นสามารถปิดบังคนบางส่วนได้ แต่สำหรับยอดฝีมือที่แท้จริงแล้วมันไม่มีประโยชน์เลย าามารตะวันตกััได้ถึงบางอย่างที่ต่างออกไปจึงถามเริ่นเสี้ยวเทียน
“ขอรับ”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวพลางพยักหน้า เขาค่อนข้างประทับใจอ๋องซีหวังผู้เป็หนึ่งในตัวแทนสี่ทิศแห่งหุบเขาสุขาวดี สี่คนนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว และเขาไม่มีทางล่วงเกินคนทั้งสี่นี้เป็อันขาด
“เ้าชื่ออะไร”
าามารตะวันตกถามอย่างสนใจยิ่งนัก
“เป็เพียงคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งเท่านั้น”
การกระทำและสีหน้าของเริ่นเสี้ยวเทียนในตอนนี้ไม่เหมือนปกติเลย เห็นได้ชัดว่าเขาระแวดระวังมาก พวกเสิ่นเสวียนเห็นเต็มสองตา เสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนยิ่งสงสัยเพราะปกติแล้วเริ่นเสี้ยวเทียนไม่ได้เป็แบบนี้ มีเพียงเสิ่นเสวียนที่เข้าใจจิตใจของเริ่นเสี้ยวเทียน
“เ้าน่าสนใจมาก ข้าคือาามารตะวันตก เ้าน่าจะเคยได้ยินมาก่อน”
“อืม ข้าเคยได้ยินชื่อของาามารมาก่อน”
“ข้าอยากเป็สหายกับเ้า”
าามารตะวันตกกล่าวอย่างร่าเริง เขานั่งอยู่บนพรมวิเศษ สาวงามสองคนนั่งขนาบข้างคอยปรนนิบัติเหมือนว่าเขาเป็เ้านาย
“ข้าน้อยรู้สึกเป็เกียรติยิ่งนัก”
“ดีมาก ภายหน้าหากใครในหุบเขาสุขาวดีกล้ารังแกเ้าให้เอ่ยชื่อข้าออกไปได้โดยตรง ได้ผลดีเชียวล่ะ” าามารตะวันตกกล่าวด้วยความรู้สึกประสบความสำเร็จ
“ขอบคุณาามาร” เริ่นเสี้ยวเทียนยังคงก้มหน้าขณะที่กล่าว เขาไม่อยากล่วงเกินคนผู้นี้จริงๆ
“เอาล่ะ พวกเ้าเดินกันต่อเถอะ ข้าไปก่อน”
าามารตะวันตกหัวเราะเสียงดัง แล้วเขาก็ควบคุมพรมวิเศษให้เหาะต่อไป
แม้พรมวิเศษจะเหาะผ่านไปแล้ว แต่เสียงหัวเราะของาามารตะวันตกและสตรีสองคนนั้นยังคงดังอยู่
หลังจากอีกฝ่ายไปแล้ว เริ่นเสี้ยวเทียนจึงถอนหายใจก่อนจะหันมองเสิ่นเสวียน
“เ้าเป็ขั้นราชันจริงหรือเปล่า”
สิ่งที่เขาสงสัยคือทำไมอีกฝ่ายถึงไม่สังเกตเห็นเสิ่นเสวียนแต่กลับสังเกตเห็นเขา เขารู้ว่าพลังของเสิ่นเสวียนไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย อย่างน้อยก็ต้องถึงขั้นราชันแล้วเหมือนกัน
“เ้าคือขั้นราชัน แต่ข้าไม่ใช่” เสิ่นเสวียนส่ายหัวพลางกล่าว
“เฮ้อ! เ้านี่แปลกจริงๆ!”
เริ่นเสี้ยวเทียนถอนหายใจ เขามีพร์เหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกันมาั้แ่เด็ก เดิมทีเขาคิดว่าคนที่อยู่ในสายตาเขามีอยู่เพียงไม่กี่คน ตอนนี้เขาถึงได้พบว่าตนเองและเสิ่นเสวียนต่างกันไม่น้อย
หากต้องสู้กันจริงๆ เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะเสิ่นเสวียนได้
“คนเมื่อครู่นี้เป็ใครหรือ” เสิ่นเสวียนถามเริ่นเสี้ยวเทียน
“ในหุบเขาสุขาวดีมีผู้ยิ่งใหญ่อยู่หลายคนที่พวกเรายังมิอาจล่วงเกินได้ สี่ผู้ยิ่งใหญ่จากสี่ทิศ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ปกครองอาณาเขตทั้งสี่ทิศของหุบเขาสุขาวดี ไม่ได้เปลี่ยนผู้ครองตำแหน่งมากว่าสามสิบปีแล้ว” คนที่สามารถอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ยาวนานถึงสามสิบปีไม่ได้เป็ผู้อ่อนแออย่างแน่นอน
“และเขาคือาามารตะวันตก พลังของเขาถึงขั้นราชันระดับสูงสุดแล้ว เรียกได้ว่าขั้นกึ่งก้าวจักรพรรดิ” เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวด้วยแววตาหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
พลังเช่นนี้เพียงพอที่จะกวาดล้างทั่วทั้งทวีปหลิงโซ่ว
“ขั้นกึ่งก้าวจักรพรรดิ?”
เสิ่นเสวียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใเช่นกัน พลังเช่นนี้แม้แต่ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรยังนับเป็ผู้แข็งแกร่ง เป็ผู้บำเพ็ญเพียรขั้นเปิดทวารสามารถถอดิญญาออกมาสู้ได้ พบได้ในสำนักใหญ่ๆ บางแห่ง และต่างก็เป็ผู้าุโทั้งนั้น
“ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ!” อย่าได้ดูถูกหุบเขาสุขาวดีเป็อันขาด หุบเขาสุขาวดีตั้งอยู่ระหว่างูเาสองลูก เป็ภูมิประเทศที่ดีต่อการป้องกัน ยากที่จะโจมตีได้ และยังเป็อาณาเขตนอกเหนือกฎหมายของทวีปหลิงโซ่วอีกต่างหาก ภายในหุบเขาสุขาวดียังมีบุคคลที่น่ากลัวอย่างาามารทั้งสี่อีกด้วย เหลยป้าเทียนเลือกซ่อนตัวที่นี่อย่าหวังว่าจะหาตัวเขาเจอได้ง่ายๆ
เริ่นเสี้ยวเทียนดูออก แม้เสิ่นเสวียนจะมีพลังแข็งแกร่งแต่เหมือนจะไม่ได้รู้จักทวีปหลิงโซ่วมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่แปลกอะไร ทวีปหลิงโซ่วกว้างใหญ่มาก หลายคนใช้ชีวิตอยู่ภายในเมืองแห่งหนึ่งมาทั้งชีวิต โลกกว้างใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยััอาจเป็เพียงหนึ่งหรือสองเมือง หรือไม่ก็แค่แคว้นเดียวเท่านั้น
แต่ในความเป็จริง ทวีปหลิงโซ่วมีขนาดใหญ่มาก
เมื่อได้ยินคำของเริ่นเสี้ยวเทียน เสิ่นเสวียนรวมไปถึงเสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนจึงพยักหน้าเป็คำตอบ พวกเขาเองก็เหมือนกับเสิ่นเสวียน ไม่เคยได้ออกมาพบเจอโลกภายนอก เื่เหล่านี้เสิ่นเสวียนที่ใช้ชีวิตยาวนานกว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกับพวกเขาทั้งสองคน
ตูม!!!
ทันใดนั้นมีเสียงะเิดังขึ้น คลื่นพลังแข็งแกร่งทำให้พื้นดินที่พวกเสิ่นเสวียนยืนอยู่สั่นไหวอย่างรุนแรง
พวกเขาหันมองไปยังทิศทางที่าามารตะวันตกมุ่งหน้าไปทันที เพราะเสียงะเิดังมาจากทางนั้น
“มีเื่สนุกให้ดูแล้ว พวกเราไปดูกันไหม”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวกับทุกคน
“ไปสิ”
เื่ทะเลาะวิวาทเช่นนี้ จะขาดผู้ชมไปได้อย่างไร!
การต่อสู้ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เหตุผลส่วนใหญ่คือเพื่อ่ชิงสิ่งล้ำค่าที่ผู้คนต่างอยากได้ ขณะเดียวกันก็ดึงดูดผู้ชมเข้ามามากมาย หากเอาของล้ำค่าออกมาโดยไม่ทันได้ระวังตัว
“เสี่ยวเม่ย เสิ่นเลี่ยน พวกเ้าเข้าไปในมิติของข้าก่อน”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับทั้งสองคน
“อืม”
ทั้งสองคนพยักหน้า เมื่อเสิ่นเสวียนสะบัดมือออกไป พวกเขาก็หายตัวไปทันที
“สหายเสิ่น ให้ข้าเข้าไปด้วยเถอะ!”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวด้วยความสงสัย เขาอยากเห็นจริงๆ ว่ามิติที่คนเข้าไปอยู่ได้ของเสิ่นเสวียนคืออะไรกันแน่ แหวน ถุง หินมิติ และสิ่งของอย่างอื่นเขาเคยใช้มาหมดแล้ว พวกมันสามารถเปิดมิติเฉพาะตัวขนาดใหญ่ออกมาได้ แต่มิติทั้งหมดจะใส่ได้เพียงสิ่งไม่มีชีวิตเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดสามารถมีชีวิตอยู่ในนั้นได้
แต่มิติของเสิ่นเสวียนสามารถให้คนเข้าไปอยู่ได้ด้วย นับเป็ความรู้ใหม่ของเขา
“เ้าตัวใหญ่เกินไป เข้าไปไม่ได้ รีบไปกันเถอะ!”
เสิ่นเสวียนกลอกตามองเริ่นเสี้ยวเทียน จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปด้วยการแฝงกาย เขาส่งเสิ่นเสี่ยวเม่ยเข้าไปในมิติเพราะนางมีพลังค่อนข้างต่ำและอาจถูกพบเจอได้ง่าย แต่เริ่นเสี้ยวเทียนนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เริ่นเสี้ยวเทียนส่ายหัวพลางยิ้มแห้งๆ จากนั้นจึงตามเสิ่นเสวียนไปด้วยวิธีเดียวกัน
ณ อาณาเขตใจกลางหุบเขาสุขาวดีกำลังเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น