พรึ่บ!!
ฉันที่เพิ่งนึกได้ว่า ณ ตอนนี้ไม่สมควรที่จะมีใครโอบอุ้มร่างกายฉันได้อยู่ และเมื่อได้เบิกตาโพล่งขึ้นดูก็พบกับความจริงที่ว่าตอนนี้ฉันกำลังถูกคู่ขาของอดีตแม่เลี้ยงอุ้มอยู่ในท่าเ้าสาว
‘กรี๊ดดดดดดดดด ~~’
เสียงร้องออกด้วยความใ พร้อมกับร่างกายที่ออกแรงดิ้น
‘นะ...นี่แกเข้ามาได้ยังไงกัน...ปล่อยฉันนะ...กรี๊ดดดดด ปล่อยนะ ฉันบอกให้ปล่อย!!’ ฉันที่กรีดร้องออกมาสุดเสียง ก่อนจะพยายามดีดดิ้นออกจากอ้อมแขนของคนร่างโตที่มองฉันด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ
‘แหม...ทำไมล่ะจ๊ะ...พี่แค่เห็นน้องนอนหลับอยู่ที่พื้นก็กลัวว่าพื้นมันเย็นเดี๋ยวจะไม่สบายไปก็เลยมาช่วยอุ้มเพื่อจะเอาไปวางบนที่นอน จะได้ไปนอนบนที่นอนดี ๆ แค่นี้ทำไมต้องร้องเอะอะโวยวายด้วย...หืมมม...หึหึ’
ผู้ชายร่างสูงโปร่งหุ่นดีมีกล้ามแบบฉบับคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เอ่ยบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกะลิ้มกะเหลี่ยน่าขยะแขยง
‘ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ แล้วออกไปจากห้องฉันด้วย...’ ฉันที่ยังคงขัดขืนดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของคนที่กำลังอุ้มฉันอยู่ โดยที่มันเองก็ยิ่งออกแรงรัดตัวฉันมากยิ่งขึ้น จนหน้าเราสองคนยิ่งเข้าใกล้กัน แต่ทว่า...คนที่มันคิดไม่ดี ถ้ามันลองได้เข้ามาได้ถึงขนาดนี้แล้วล่ะก็ มันคงไม่ยอมที่จะละถอยไปได้ง่าย ๆ แน่
‘ฟืดดดดด ~~ กลิ่นตัวห๊อมมม...หอม แบบนี้มันน่า...’ ผู้ชายน่ารังเกียจที่อุ้มฉันอยู่ทำทีเป็สูดดมกลิ่นกายจนฉันยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียน
คู่ขาแม่เลี้ยงของฉันยังคงโอบอุ้มฉันไม่ยอมปล่อย ส่วนฉันที่ยิ่งออกแรงดิ้นก็เหมือนจะเสียแรงเปล่า
‘นี่...นายถ้ายังไม่ยอมปล่อยฉันลง ฉันจะะโเรียกให้อายุพินได้ยินเลยคอยดู’ ฉันที่ไม่ได้แค่ขู่ แต่สายตาก็ส่งบอกออกไปว่าฉันเอาจริง
‘หึหึ...ตอนนี้พี่ยุพินเขาไม่อยู่หรอกจ้ะน้อง เขาไปซื้อของกินน่ะ ไม่งั้นที่น้องแหกปากออกไปเมื่อกี้นี้ น้องคิดว่าพี่เขาจะไม่ได้ยินเหรอ...หืมมมมม ~~’ คนร่างโตเอ่ยเย้ยหยันฉันอย่างคนมีชัย ก่อนจะทำตัวชั่วร้ายต่อโดยการค่อย ๆ ก้มใบหน้าลงมาใกล้แก้มนวลของฉัน
และในจังหวะนั้นเองที่ฉันพยายามเบนหน้าหนี ฉันที่ได้เอามือยันไปที่ใบหน้าของเขาเพื่อเป็การป้องกันด่านสุดท้ายไม่ให้ริมฝีปากอันน่าขยะแขยงได้ลงมาจรดที่แก้มของฉันก็เป็จังหวะเดียวกันกับเสียงที่เป็ดั่งระฆังช่วยชีวิตฉันไว้ก็ได้ดังขึ้น...
‘หนูลินลูก!!...หนูลิน!!...ป้ามาชวนกินข้าว’ เสียงป้านีดังขึ้นอยู่ที่หัวบันไดชั้นล่างของบ้าน และเสียงนั้นก็ทำให้คู่ขาอดีตแม่เลี้ยงของฉันถึงกับรีบยอมปล่อยให้ฉันลงพื้น พร้อมกับรีบเดินออกไปจากห้องฉันทันที
ฟู่ววววว ~~
ฉันที่หน้าเสียใจสั่นนั่งทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก โดยที่หัวใจยังคงเต้นระรัวด้วยความกลัวกับอันตรายที่เพิ่งเจอสด ๆ ร้อน ๆ
และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสถานการณ์ที่ดูจะไม่ปลอดภัยสำหรับฉันในตอนนี้ ทำให้ฉันตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากป้านีโดยการไปขออาศัยอยู่บ้านป้าสักระยะก่อน รอให้กฎหมายเคลียร์เื่ทรัพย์สินทุกอย่างของพ่อของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้นไอ้อีผีเน่าโลงผุสองตัวนั้นคงจะยอมออกจากบ้านไปแต่โดยดี...
เมื่อฉันคิดทบทวนดีแล้ว ฉันก็รีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็บางส่วน ก่อนจะรีบลงไปด้านล่างเพื่อไปหาป้านีทันที
ส่วนป้านีที่เมื่อได้เห็นท่าทีดูรีบร้อนของฉันท่านก็พอจะเดาสถานการณ์ออกได้ว่าฉันน่าจะกำลังสุ่มเสี่ยงโดนทำมิดีมิร้ายอย่างแน่นอน ก่อนที่ผู้หญิงวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนจะเม้มปากเน้นด้วยความแค้น พร้อมกับนึกขอบใจตัวเองที่ได้ฉุกคิดเอาไว้ทันว่าเด็กสาวข้างบ้านที่ตนเอ็นดูเมื่อกลับบ้านมาจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน...เพียงแต่ว่าตนเองก็ไม่คาดคิดว่าไอ้หนุ่มที่เป็คู่รักใหม่ของอดีตแม่เลี้ยงเด็กสาวมันจะใจกล้าอาจหาญคิดจะทำร้ายหญิงสาวได้เร็วขนาดนี้
ป้านีมองหน้าเด็กสาวก่อนจะนึกย้อนไปหลังจากที่เด็กสาวตรงหน้าได้ขอตัวกลับไปยังบ้านของตัวเอง จากนั้นตนที่กำลังทำอาหารมื้อเย็นกินกับหลานชายอยู่ก็พานนึกอดเป็ห่วงเด็กสาวไม่ได้ เพราะว่าทำไมคนอย่างตนจะดูไม่ออกว่าไอ้หนุ่มคนใหม่ที่มาอยู่ด้วยกันกับแม่เลี้ยงของเด็กสาวนั่นช่างมีท่าทางไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
โดยเฉพาะเมื่อแกตัดสินใจแอบไปดูด้วยความเป็ห่วงแล้วพบว่าเมื่อทันทีที่แม่เลี้ยงของเด็กสาวไปออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของกิน จนทิ้งเพียงชู้รักหนุ่มที่เอาเข้าบ้านมาั้แ่ผัวเพิ่งตายให้อยู่เพียงลำพังกับลูกเลี้ยง และนั่นก็ยิ่งทำให้แกอดเป็ห่วงเด็กสาวไม่ได้
หลังจากกลับมาบอกหลานชายให้เตรียมตัวเอาไว้เพราะตนเองได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไปตามเด็กสาวที่บ้านหลังนั้น จากนั้นแกก็รีบเดินตรงไปยังบ้านของเด็กสาวทันทีด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม เท้าของหญิงวัยกลางคนที่ยิ่งรีบสาวก้าวอย่างไว แม้ว่าขาจะอ่อนแรงตามอายุจนเดินได้ไม่ทันใจ แต่สุดท้ายไอ้เท้าทั้งสองข้างก็ได้พาเข้าไปจนถึงข้างในบ้านได้ทันจนเผลอตัวลืมไปว่าตัวเองอาจจะถูกตั้งข้อหาบุกรุกเอาได้
แต่ไม่ว่ายังไงสุดท้ายแล้วสิ่งที่ตนเองตัดสินใจมันก็ถูกต้องที่สุด เมื่อทุกอย่างดันเป็ไปตามที่แกคาดการณ์เอาไว้ นั่นก็เพราะทันทีที่แกเข้ามาในบ้านแล้วพบว่าชั้นล่างไม่มีใครอยู่เลย แถมทีวีก็ยังถูกเปิดทิ้งไว้โดยที่ไม่มีใครนั่งดู ด้วยสถานการณ์ที่ดูน่าหวาดหวั่นนั้นยิ่งทำให้หัวใจของหญิงวัยกลางคนเริ่มเต้นไม่เป็จังหวะทันที
โดยเฉพาะ...เมื่อหูของแกได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนที่กำลังเป็ห่วงอยู่ ณ เวลานี้ดังมาจาก้าชั้นสอง...
‘นะ...นี่แกเข้ามาได้ยังไงกัน...ปล่อยฉันนะ...กรี๊ดดดดด ปล่อยนะ ฉันบอกให้ปล่อย!!’
เสียงของเด็กสาวที่ดังขึ้นยิ่งเร่งเร้าให้หญิงวัยกลางคนอยู่ไม่สุขจนเดินเป็หนูติดจั่น
‘ตายแล้ว ฉันจะทำยังไงดีเนี้ย ถ้าไปตามเ้ารามตอนนี้มันจะทันการณ์หรือเปล่านะ’ ป้านีที่เดินกระสับกระส่ายไปมาอย่างคนตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก พร้อมกับขบคิดอย่างหัวจะะเิว่าจะตัดสินใจทำอย่างไรดี เพราะเพียงลำพังตัวแกเองคงไม่มีแรงจะไปสู้กับคนหนุ่มแรงเยอะแบบนั้นได้อีกทั้งยังมีรูปร่างกำยำเพราะออกกำลังกายสม่ำเสมออีกด้วย
และในจังหวะที่ทุกอย่างดูจะจวนตัวไปเสียหมด แกที่ตัดสินใจ ณ เดี๋ยวนั้นว่าคงจะต้องเสี่ยงทำอะไรสักอย่างแล้วเพราะไม่อย่างนั้นเด็กสาวคงได้เสียทีให้กับคนชั่วอย่างแน่นอน
ทันทีที่สมองสั่งการออกมาแบบนั้น ก็ทำให้หญิงวัยกลางคนะโออกไปอย่างสุดเสียงอย่าง้าจะให้คนที่คิดทำมิดีมิร้ายกับเด็กสาวที่แกเอ็นดูใ...!!
‘หนูลินลูก!!...หนูลิน!!...ป้ามาชวนกินข้าว’
ตุบ...ตึงๆๆๆ
เสียงที่เหมือนกับของหล่นดังมาจาก้า พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เหมือนกับก้าวเท้าเร็ว ๆ ทำให้ป้านีลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อการกระทำของแกได้ผลเป็ไปอย่างที่แกคิดเอาไว้ อีกอย่างแกก็คิดว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันคงยังไม่กล้าทำอะไรเด็กสาวตอนนี้แน่ ๆ อย่างมากก็คงจะหยอกเย้าเอาพอหอมปากหอมคอเท่านั้น เพราะมันยัง้าเกาะยัยผู้หญิงที่เพิ่งได้สมบัติก่อน คงยังไม่พร้อมเสียแหล่งขุมทรัพย์ไปตอนนี้แน่ ๆ ถ้าหากมันทำบุ่มบ่ามโดยการปล้ำอดีตลูกเลี้ยงของบ่อเงินบ่อทองอย่างหญิงสาว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้