เ้าอันธพาลฟันเหยินผู้นั้นใครๆต่างก็รู้จักกันดี จิ๊กโก๋ตัวจ้อยในแก๊งเสือดำ เดิมเป็พวกทำโน่นนี่หลอกกินไปวันๆในเวทีมวย ั้แ่เขาเข้าแก๊งเสือดำมาก็ทำตัววางก้ามในฐานะที่ตัวเองเป็สมาชิกคนหนึ่งของแก๊งเสือดำ จึงปลุกปั่นนักเลงโตหลายคนให้เริ่มปล้นธุรกิจโดยรอบ
เพราะทุกการโจรกรรมเ้าฟันเหยินก็ส่งส่วย80%ให้แก่เสือดำ ดังนั้นเื่สกปรกภายในแก๊งเช่นนี้เสือดำจึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
หนนี้เขาเพ่งเล็งไปที่สเต๊กเนื้อของเสิ่นิและเงินออมของชายขายบริการ เขารู้สึกขัดหูขัดตากับ “ความอวดดี” ของเสิ่นิและนั่นก็เป็ชนวนให้ก่อเหตุ
อันธพาลสี่คนถือแท่งเหล็กเปื้อนเืก้าวเข้าหาเสิ่นิพวกเขาดูท่าจะไม่เบา ซ้ำยังทำเงินได้มากมายจากการปล้น ทุกคนเลยมีรองเท้าสวมใส่
ในฐานะผู้อยู่อาศัยในแดนชีวิตสัตว์ทุกคนเคยชินกับเื่ราวเช่นนี้แล้ว ทางหนึ่งควรหลีกเลี่ยงการไปไหนมาไหนคนเดียวและต้องไม่ให้คนไล่ต้อนไปอยู่ในมุมอับอันล่อแหลมต่อการก่ออาชญากรรมภายใต้กล้องวงจรปิดพฤติกรรมการต่อสู้อันไร้เหตุผลของผู้อยู่อาศัยยังคงได้รับการจัดการ อย่างไรเสียผู้อยู่อาศัยก็คือลูกค้าตลอดชีพ ต้องทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะอยู่รอดจนแก่ตายไปตามธรรมชาติ
ดังนั้นถ้ารักษาตัวเองให้อยู่ในรัศมีของกล้องวงจรปิดได้อย่างมากก็แค่โดนไม่กี่หมัด ไม่หนักขนาดน่วมไปทั้งตัว
และแม้ว่าจะถูกปิดล้อมแต่ในความเป็จริงก็พอจะต่อรองกับ “โจรชิงทรัพย์” ได้ โดยการถามราคาค่าตัวนั่งลงและชำระเงินให้ จ่ายครึ่งราคาสำหรับสินค้าที่ไม่ได้ใช้ โค้งคำนับให้สักหน่อยโดยทั่วไปแล้วก็แสร้งทำเป็ชีวิตลำบากและให้ไปสิบกว่าเคอลา เพื่อให้รอดตัวไปได้คงไม่ใช่เื่ใหญ่โตที่จะอดกินมันฝรั่งต้มหนึ่งวันและถือเป็การลดน้ำหนักไปในตัว
แต่การที่เสิ่นิทานสเต๊กทุกวันทำให้ความมั่งคั่งของชางหลานเป็ที่ประจักษ์ว่านี่ต้องเป็ “ธุรกรรมก้อนโต” แน่ จะจ่ายด้วยมือข้างหนึ่ง หรือว่าหนึ่งร้อยเคอลาพวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็คนชำระเงินหรือใครจะชำระด้วย “มือ”
ผู้คนจำนวนมากถอยหลีกทางให้เืจะได้ไม่สาดโดนตนเอง รู้ไหมว่าแม้แต่ค่าผงซักฟอกก็แพงมากในแดนชีวิตสัตว์!
การฝึกซ้อมร่างกายใน่บ่ายเปลี่ยนมาเป็การซ้อมต่อสู้เสิ่นิที่มีแขนข้างเดียวแต่กลับว่องไวกว่าคนร้ายเ่าั้เขาพุ่งตัวขึ้นไปข้างหน้า
เ้าพวกนี้กินจนกล้ามเนื้อแน่นปั๋งเบ่งกล้ามขึ้นมาทีก็ใหญ่กว่ากล้ามของเสิ่นิเสียอีกแต่สิ่งที่เสิ่นิกำหนดกติกากับตัวเองก็คือ เขาจะไม่ใช้มือแต่จะใช้ท่อนขาเพียงอย่างเดียวในการจัดการกับพวกมัน!คิดเสียว่านี่เป็การเพิ่มระดับความยากในการซ้อมต่อสู้
หลายคนในบรรดาผู้ชมซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญในด้านศิลปะการต่อสู้เกิดมาเป็นักฆ่า าาแห่งทหาร คนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็ผู้น่ายำเกรง มียศมีอย่างก็สามารถมองทะลุปรุโปร่งได้ภายในไม่กี่วินาที
เสิ่นิไร้กระบวนท่าไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ยกเท้าเตะปัดป้องศีรษะ ลอยตัวขึ้นบนผนังโลหะข้างกายจากนั้นเท้าของเขาก็ไม่แตะพื้นอีกเลยใน 10 วินาทีให้หลังหนุ่มแขนเดียวล่องไปมาบนกำแพงเหนือศีรษะคู่ต่อสู้ หมุนเตะควงท่อเหล็กในมือของพวกนักเลงกระแทกเข้ากับคางของพวกมันเอง
วายร้ายจอมเผด็จการทั้ง4คน หมอบราบในเวลา 10 วินาทีเ้าตัวหัวโจกถูกเตะหมุนปลิวไป 3 เมตรกระแทกเข้ากับผนังเหล็กก่อนจะเด้งฟาดลงกับพื้น
์ที่สาบสูญอุดมไปด้วยคนมีวิชาแต่เสิ่นิผู้นี้ถือเป็ยอดฝีมือ
“10 วินาที...ช้าลงมาก...” เสิ่นิเชื่อว่าถ้ามีครบทั้งสองมือเขาต้องจัดการกับเ้าพวกที่ชอบรังแกคนอื่นได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที
บางทีพวกเขาอาจเคยเป็ยอดฝีมือมาก่อนแต่พอหยุดฝึกฝน วันๆ เอาแต่ลอยชาย รังแกผู้อ่อนแอสิ่งเดียวที่เหลือในชีวิตก็คือการพูดติดอ่าง ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็จิ๊กโก๋ข้างถนนโดยปริยาย
เสิ่นิให้ความรู้แก่ผู้ชมด้วยการปฏิบัติให้เห็นจริงพวกนักเลงซึ่งเคยเป็ผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากล้มเลิกความหวังที่จะจากไปจากที่นี่แล้วก็กลายเป็วายร้ายที่อ่อนแอและเปราะบางภายใต้ฝ่าเท้าของเสิ่นิ...
จากวันนี้ไปผู้ที่กลับมาฝึกฝนตนเองในแดนชีวิตสัตว์จะเพิ่มขึ้นเป็ทวีคูณไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อตามหาตัวตนที่หายไปของตนเองกลับคืนมา
นักเลงฟันเหยินเพิ่งจะทานสเต๊กคำสุดท้ายหมดเสิ่นิก็ยุติการต่อสู้ ภาพอันน่าสะพรึงนั้นเกือบทำเอาเขาสำลักชิ้นเนื้อจนตาย
เมื่อเขาทุบหน้าอกตัวเองเพื่อไม่ให้ตัวเองสำลักเสิ่นิก็ก้าวขึ้นไปหาเขา และใช้นิ้วขูดซอสพริกไทยดำออกจากมุมปากก่อนจะจิ้มนิ้วเข้าไปในปากของตัวเองเพื่อลิ้มรสของมัน มันยังอุ่นๆ อยู่เลย
“แกกินสเต๊กของฉัน...”
“เหอๆ พี่ชาย! ฉันแค่หยอกเล่นเท่านั้นเอง! ฉันจะซื้อสเต๊กให้พี่ใหม่อีกชุด!ไม่สิ! ซื้อให้ 2 ชุดเลย! ถ้าเราไม่ได้ประมือก็คงไม่รู้ใจกันความจริงแล้วฉันมาจากแก๊งเสือดำ ฉันช่วยแนะนำให้พี่ได้นะ แข็งแกร่งอย่างพี่ได้กินดีอยู่ดีแน่นอน!” นักเลงฟันเหยินกลัวมากจนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นเหงื่อเย็นปกคลุมไปทั่วหน้าผากของเขา
“แกกินสเต๊กของฉันไป คืนสเต๊กมา อย่าตุกติก?” เสิ่นิพูดโดยไม่เว้นวรรค
“ใช่แล้ว! ช่างสมเหตุสมผล! ฉันจะไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย!”เมื่อนักเลงฟันเหยินเห็นว่าสมานฉันท์กันแล้ว จึงยิ้มปรี่คิดจะหันกายจากไปรอออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ ไปซื้อสเต๊กเนื้อเหรอ? เขาจะพาสมาชิกแก๊งมาอัดเ้าเด็กคนนี้ให้เป็สเต๊กเนื้อต่างหากล่ะ
“ไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก คืนที่นี่เลยดีกว่า” จู่ๆเสิ่นิก็อ้าปากและกัดลงไปบนไหล่ของนักเลงฟันเหยิน เืกระเซ็นติดผนังเหล็ก
ผู้ชมหลายคนแทบกรีดร้องเสิ่นิฉีกเนื้อนักเลงฟันเหยิน ก่อนจะเคี้ยวและกลืนลงท้องไปต่อหน้าเ้าของไหล่
คำเดียวไม่พอเขายังกัดไปอีกคำ ทานจนอิ่มท้อง คนชั่วช้าเมื่อครู่ตอนนี้กลับกลายเป็คนที่น่าเห็นใจมากที่สุดมันนอนกองหมดสติอยู่บนพื้นเนื่องด้วยความเ็ปาแที่ไหล่ลึกกระทั่งเห็นกระดูก
“เสิ่นิ...” ชางหลานที่เห็นเสิ่นิเืกบเต็มปากพ่อหนุ่มสำอางแตกตื่นจนพูดอะไรไม่ออก
“เนื้อคนชั่วกลิ่นเหม็นมาก แต่ก็พอแก้ขัดได้” เสิ่นิเคี้ยวไปบ่นไป
“สหาย ลงมือโหดเกินไปหรือเปล่า มีมนุษยธรรมกันบ้างไหม?” มนุษย์ลุงผู้หนึ่งยืนขึ้นทวงถาม “ความยุติธรรม”
“นี่มันที่ไหน? ไม่ใช่นรกของมนุษย์หรือยังไง?”เสิ่นิเช็ดเืออกจากปากแล้วถามด้วยความสับสน “อยู่ในนรกยังพูดถึงมนุษยธรรมหาอะไร?ถ้าไม่อวตารร่างเป็ปีศาจ แล้วจะออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ได้ยังไง?ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นเกมวันโลกาวินาศกับแก เพื่อที่จะกลับบ้านฉันทำได้ทุกอย่าง กินเนื้อคนแล้วยังไง?”
รังสีอาฆาตของเสิ่นิทำให้ทุกคนหวาดกลัวแต่ความจริงแล้ว ที่เขาพูดออกมานั้นทำให้ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก ใช่ที่แดนชีวิตสัตว์ ธรรมชาติของมนุษย์ควรจะได้อยู่ดีกินดี เหมือนเช่นสเต๊กชิ้นนั้น
เมื่อบริเวณโดยรอบเงียบสงบลงเสียงะุปืนที่ทำให้ทุกคนใก็ดังขึ้นผู้คนจำนวนมากพากันหลบและเปิดทางเดินให้โดยอัตโนมัติ ก่อนจะพากันคุกเข่าลงและโค้งคำนับ
ชายชราหน้าตาอัปลักษณ์บุคคลผู้มีท้องกลมโต มาพร้อมกับโครงกระดูกภายนอกเครื่องจักรต่อสู้นั้นดูเหมือนจะช่วยพยุงร่างอวบอ้วนของเขาให้สามารถเดินเหินได้
ในมือเขาถือปืนพกP220ปากกระบอกปืนยังมีควันอันบางเบา ด้านหลังของเขามีทหารติดอาวุธหนักอยู่8 นาย ในมือกำปืนไรเฟิลจู่โจม HK417 ไว้ประหนึ่งเป็บอดี้การ์ดเพื่อนร่วมสายงานของเขาซึ่งสีหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใด
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็เสือดำที่อยู่ข้างกายเ้าอ้วนและยังมีชอปเปอร์ผู้ยืนจังก้าอยู่ข้างเ้าเสือดำ
ถ้าเปรียบแดนชีวิตสัตว์เป็อาณาจักรเสือดำก็คือนายกรัฐมนตรีแห่งอาณาจักรแห่งนี้ มีอำนาจค้ำฟ้าส่วนชอปเปอร์ก็คือนักรบอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรนี้ปกป้องผืนแผ่นดินมานมนานจากรุ่นสู่รุ่น
สำหรับหมูอ้วนเตี้ยล่ำตัวนี้มันเป็าา “มหาราช” ที่ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดิน นิโคลัสและชื่อที่ถูกต้องอย่างเป็ทางการของเขาก็คือ กรรมการบริหารแดนชีวิตสัตว์ผู้คุมซึ่งมีอำนาจสูงสุดต่อความเป็และความตายบนดินแดนแห่งนี้
การที่มันใช้ชีวิตบนแดนชีวิตสัตว์ได้อย่างสงบสุขแน่นอนว่านิโคลัสคงต้องมีผลประโยชน์อันคลุมเครือเกี่ยวพันกันกับเสือดำอยู่ไม่น้อย
สามารถทำให้กรรมการบริหารแดนชีวิตสัตว์มายังสถานที่ดังกล่าวเพื่อ“บังคับใช้กฎหมาย” ความจริงแล้วนี่คือกับดักที่วางแผนมาเป็อย่างดีและเสิ่นิก็ติดกับแล้วด้วย
“กรรมการบริหารแดนชีวิตสัตว์มาแล้ว?! เสิ่นิ!คุกเข่าลง!” ชางหลานะโไป ขณะที่พยายามยันร่างขึ้นคุกเข่าบนพื้นอย่างตื่นตระหนก
ส่วนเสิ่นิเขารู้ั้แ่แรกแล้วว่าคนใหญ่คนโตมาเพื่อหาเื่ตนต่อให้ตนคุกเข่าร้องขอความเมตตาเขาก็จะไม่มีทางปล่อยตนไปอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นก็อย่าทำให้เข่าสกปรกเลยดีกว่าไหม? เขาเป็คนเดียวที่ยืนตัวตรงเหมือนกับเหล็กกล้า
“พวกแกอารมณ์ดีนี่ รวมตัวกันจัดปาร์ตี้น้ำชาหรือ?” นิโคลัสเหลือบมองเด็กที่กล้ายืนสูงกว่าตนเองชายชราเ้าเล่ห์ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับตำหนิทุกคนแทน “พวกแกไม่รู้เหรอว่าการชุมนุมมันผิดกฎหมายฐานก่อฏ? อยากไปรังมดกินเงินภาษีดูสักสองสามวันไหม?”
นิโคลัสกล่าวเพียงประโยคเดียวพาเอาทุกคนลดศีรษะลงต่ำ ชางหลานใมากกระทั่งไม่กล้าเอ่ยปากเพราะเ้าอ้วนตรงหน้าสามารถสังหารคนได้จริงๆ
เสิ่นิไม่กลัวเขาเหลือบมองปืนพกของนิโคลัสเล็กน้อย นี่อาจเป็โอกาสที่เขาจะได้เฉียดใกล้อาวุธปืนที่สุดแล้วมีปืนอยู่ในมือ มันเป็ไปไม่ได้ที่จะไม่เกิดการนองเื
แต่อุปสรรคสองประการที่เขาต้องหาทางแก้ไขคือหนึ่ง เ้าวงแม่เหล็กไฟฟ้าที่ข้อมือและข้อเท้าแล้วไหนจะปืนพกของเ้าอ้วนคนนี้ที่ใช้ฟังก์ชันจดจำลายนิ้วมืออีก มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเหนี่ยวไกได้แม้ว่าเขาจะฉกมันมาได้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ เว้นเสียแต่ว่าจะตัดนิ้วของเ้าอ้วนมา? เวลาจะพอไหม? ประสิทธิภาพความเร็วในการยิงขององครักษ์ทั้งแปดไม่น่าจะช้าพอให้เสิ่นิจบเื่ทั้งหมดนี้ได้ใช่ไหม?
เขาคำนวณในสมองตลอดเวลานิโคลัสกลับเดินมาถึงตรงหน้าเขาและกล่าวอย่างหยิ่งผยอง “เ้าเด็กชายผู้นี้ช่างอวดดีนัก ฉันพูดมานานแค่ไหนแล้ว แกยังจะเอาแต่จ้องปืนพกของฉันอยู่อีก? ว่าไง แกอยากฆ่าฉันเหรอ? อยากลองดูหน่อยไหมล่ะ?”
นิโคลัสเป็คนยื่นปืนพกให้เสิ่นิเองผู้คุ้มกันทั้งแปดคนที่ด้านหลังแทบจะยกปืนขึ้นเล็งมาที่ศีรษะของเสิ่นิและปืนพวกนั้นก็ปลดเซฟเรียบร้อยหมดแล้ว
“ฉันแค่ปกป้องเพื่อน” เสิ่นิยอมแพ้ไม่ขัดขืนแล้ว
“ปกป้องเพื่อน? แล้วต้องกินเนื้อคนด้วยเหรอ? ถ้าแกเกิดติดไวรัสซอมบี้ขึ้นมาพวกเราใน์ที่สาบสูญจะไม่กลายเป็แรคคูนซิตี้กันหมดหรือยังไง?” เสือดำย่างเท้าขึ้นมา เขามองไปทางนักเลงฟันเหยินพร้อมแสยะยิ้ม “ท่านครับมีพลเมืองดีรายงานถึงการต่อสู้ตัวต่อตัวอันไร้มนุษยธรรมไม่ทราบว่าควรจัดการกับมันอย่างไร?”
“แกคิดว่ายังไงล่ะ?” นิโคลัสรับส่งเป็ลูกคู่
“ในฐานะที่ละเมิดกฎ ผมขอให้ท่านพิจารณา ขังเขาไว้ในรังมด 15 วันจะดีไหมครับ?” เสือดำวางแผนเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว
“15 วัน?! นั่นมันนานเกินไปแล้ว! ขนาดข้อหาโจมตีผู้คุมยังโดนขังแค่ 10 วันเอง!” ชางหลานทนต่อความอยุติธรรมไม่ได้
“น้องชาย เ้าอยากไปกับเขาด้วยไหม?” นิโคลัสยิ้มอย่างเยือกเ็างหลานใเบือนหน้าหนีทันที แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับเสิ่นิแต่ครึ่งเดือนในรังมด...มันสามารถฆ่าคนได้จริงๆ
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็ฉัน”เสิ่นิไม่สนใจว่าบทลงโทษนั้นน่ากลัวเพียงใดแต่เขากลับมองไปทางเสือดำด้วยความสงสัย
“เพราะฉันชื่นชมแก อยากได้แกมาอยู่ในแก๊งแต่ความหยิ่งผยองของแกช่างเปี่ยมล้น ต้องมีใครสักคนสอนกฎบน์ที่สาบสูญนี้ให้แกให้อยู่กับร่องกับรอยหน่อย” เสือดำกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“เข้าใจแล้ว เพราะที่นี่เป็นรก แกเลยทนไม่ได้ที่มีเด็กโอหังถ้าแกไม่ฆ่าฉันตอนนี้ รอฉันกลับมา ฉันจะทำลายแกให้สิ้นซาก” เสิ่นิกล่าวอย่างใจเย็น
“ไว้รอดจากรังมดให้ได้ 15 วันก่อนเถอะ...”เสือดำหัวเราะเหอๆ