เมื่อใกล้เวลาเที่ยงวัน กลุ่มคนห้าคนประกอบด้วยเย่เฟิงที่อุ้มหลงหว่านเอ๋อร์ไว้ ชูชู หนานฟาง และเด็กหนุ่มสวมหน้ากากที่ไร้สติ เดินทางฝ่าพายุมาถึงหมู่บ้านทางใต้ของเมืองเซี่ยงซาน
ส่วนเย่เวิ่นเทียนและหลินซือฉิงใกล้มาถึงแล้ว แต่เย่เฟิงกลับไม่ล่วงรู้เลย
‘ที่นี่ห่างจากแนวชายฝั่งทะเลประมาณสิบกิโลเมตร ดูเหมือนพวกชาวบ้านคงอพยพออกไปหมดแล้ว’
ขณะก้าวเข้าหมู่บ้าน เย่เฟิงรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบเชียบจนน่าแปลกใจ จึงใช้จิตหยั่งรู้สำรวจรอบๆ รัศมีหนึ่งร้อยเมตร กลับไม่พบแม้แต่เงาของใครสักคน
“ดูเหมือนพายุลูกนี้จะผิดปกติจริงๆ บางทีคงมีแต่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเท่านั้นที่รู้อะไรบางอย่าง” หนานฟางเอ่ยขึ้นมา
“อืม งั้นพักที่นี่เถอะ” เย่เฟิงพยักหน้า เขาใช้จิตหยั่งรู้อีกครั้งและพบบ้านสะอาดหลังหนึ่ง จากนั้นพาทุกคนมุ่งหน้าไปบ้านหลังนั้น
เนื่องจากชาวบ้านล้วนอพยพออกไปเพื่อหนีคลื่นสินามิ พวกเขาจึงถือวิสาสะเข้าพักในบ้าน เพราะต้องหาที่หลบฝนและรักษาตัว
เวลานี้ทุกคนต่างอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก
เย่เฟิงถูกกระบี่แทงกลางอกด้วยกระบวนท่าหยาดน้ำค้างแห่งบุปผาร่วงโรยของหลงอู่เหริน เส้นลมปราณกลางหน้าอกของเขาจึงเป็อัมพาต ถ้าไม่รีบรักษาอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ส่วนหลงหว่านเอ๋อร์เพิ่งทำลายตันเถียนของตัวเอง แม้จะได้รับแกนวรยุทธ์ใหม่ในร่าง และกลายเป็ผู้ฝึกวิถีเซียนแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในสภาพอ่อนแอสลบไสล ซึ่งไม่อาจปล่อยให้ร่างกายเปียกโชกแบบนี้ต่อไปได้
สำหรับเด็กหนุ่มสวมหน้ากากจากตำหนักไท่จี๋ ั้แ่ต้นขาของเขาถูกแทงด้วยกระบี่อสนีบาตของเย่เฟิง ก็สิ้นสติไปทันทีและเป็ผู้มีอาการสาหัสที่สุด เพราะเด็กคนนี้ช่วยชีวิตชูชูใน่วิกฤต เย่เฟิงย่อมไม่ทิ้งให้เขาเผชิญชะตากรรมอยู่คนเดียวแน่
หนานฟางเดิมทีไม่เป็อะไร แต่เพราะพยายามสังหารลัวเฟิง จึงถูกทับด้วยซากปรักหักพังและเกิดอาการช้ำเืบริเวณหน้าอก าแนั้นทำให้ชายหนุ่มหายใจได้เพียง่สั้นๆ
คนสุดท้ายคือชูชู เดิมเธอเป็ผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว เมื่ออยู่ในสภาพเปียกโชกเป็เวลานาน จึงมีอาการหนาวสั่น และไอต่อเนื่อง
เมื่อมาถึง พวกเขาก้าวเข้าไปในบ้านเพื่อหยุดพักและหลบพายุฝน
“ทุกคน หาห้องของตัวเองแล้วพักผ่อนเถอะ” เย่เฟิงเอ่ยต่อ “หนานฟาง นายช่วยดูแลเด็กคนนั้นที อีกสักพักฉันจะลงมาดูเขา”
“เดี๋ยวก่อนนะโม่จิ่วเกอ…” ในเวลานี้ ชูชูพลันเอ่ยปากด้วยสายตากังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็ภาระแก่คนอื่น จึงอยากทำประโยชน์ด้วยการรักษาแผลให้ทุกคน
ในตระกูลหลง ชูชูมักรับผิดชอบเื่พวกนี้ อย่างเช่นการเตรียมสมุนไพร ผ้าพันแผล การรักษา และอื่นๆ เธอจึงเชี่ยวชาญเื่พวกนี้ไม่น้อย
“เรียกผมว่าเย่เฟิงเถอะครับ” เย่เฟิงถอดหน้ากากแล้วยิ้มให้ “คุณน้า คุณดูแลตัวเองก่อนเถอะ”
ชูชูและหนานฟางเห็นชายหนุ่มถอดหน้ากากออกพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาปรากฏขึ้น พวกเขาพลันใ
เย่เฟิง!
ตอนนี้เย่เฟิงเริ่มเชื่อมั่นในตัวหนานฟางและชูชูแล้ว จึงไม่จำเป็ต้องปกปิดตัวเองอีกต่อไป
“ตอนนี้ทุกคนไปพักผ่อนให้สบายเถอะ ถ้ามีอันตรายอะไร ผมจะรีบเตือนให้รู้เอง” หลังกล่าวดังนั้น เขาก็หันตัวเดินขึ้นชั้นบนพร้อมอุ้มหลงหว่านเอ๋อร์ไว้แนบอก
บ้านหลังนี้มีห้องหลายห้อง รวมถึงห้องน้ำอีกหลายห้อง แต่ห้องนอนมีเพียงไม่กี่ห้อง ไม่นานหนานฟางและชูชูก็เลือกห้องของตัวเอง และพบว่ามันมีน้ำร้อนอยู่ด้วย
เย่เฟิงได้ห้องแล้วเช่นกัน เขาก้าวเข้าไปด้านในพร้อมล็อกประตู เนื่องจากไม่จำเป็ต้องรีบร้อนรักษาาแของตัวเองในทันที เขาจึงดูแลหลงหว่านเอ๋อร์ก่อน พวกเขามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็ต้องคิดเล็กคิดน้อยอีก เมื่อเก็บความคิดว่อกแว่กไว้แล้ว เย่เฟิงวางหญิงสาวลงเพื่อทำความสะอาดร่างกายของเธอ เขาเข้าห้องน้ำหาผ้าขนหนู จากนั้นนำมาเช็ดทำความสะอาดผิวขาวดั่งหิมะของอีกฝ่าย สุดท้ายวางเธอลงบนเตียงแ่เบาแล้วห่มผ้าห่มให้
ต่อมาเย่เฟิงถอดเสื้อผ้าเปียกโชกโยนเข้าเครื่องซักผ้าเพื่ออบแห้ง แล้วเข้าห้องน้ำอีกครั้งเพื่อรักษาาแของตัวเอง
การต่อสู้ทำให้พลังชี่ในร่างของเขาแห้งเหือด ถ้าไม่ฟื้นพลังชี่กลับมาก่อน ก็จะไม่สามารถใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาได้
พายุฝนโหมกระหน่ำต่อเนื่อง ข้างนอกยังมีผู้ฝึกวรยุทธ์มากมายหนีมาจากแถบชายหาด แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งพักอยู่ในบ้านหลังนี้ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเย่เฟิงทั้งห้าคนจึงพักผ่อนต่อไปพร้อมฟื้นคืนกำลังวังชาของตัวเอง
…………
เหนือผิวทะเลแถบทะเลจีนตะวันออก พายุฝนยังคงทวีความรุนแรงต่อเนื่อง เฮลิคอปเตอร์สองลำของกองทัพบินวนรอบพายุในระยะไกล เหลยิที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง สำรวจพื้นผิวทะเลผ่านกล้องส่องทางไกลไปเรื่อยๆ
ตามรายงานของหอสังเกตการณ์พิเศษทางอุตุนิยมวิทยาพบว่า พื้นที่ในทะเลมีสภาพอากาศผิดปกติกะทันหัน จึงกระตุ้นความสนใจของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติให้เข้ามาสำรวจ เนื่องจากหลี่เฟิงาเ็สาหัส หน้าที่เฝ้าระวังทั้งหมดในทะเลจีนตะวันออกจึงตกเป็ของเหลยิที่ประสานงานกับเ้าหน้าที่ระดับสูง
“หัวหน้าหอสังเกตการณ์ส่งภาพล่าสุดมาให้แล้วครับ”
ถัดจากเหลยิ ผู้ช่วยคนหนึ่งชูภาพที่ได้รับให้เขาดู เหลยิรีบลดกล้องส่องทางไกล แล้วก้มมองด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมทั้งขมวดคิ้ว
มันเป็แผนที่อากาศและแสดงให้เห็นว่ามีดอกไม้สีขาวจำนวนมากโผล่ขึ้นมาจากชายฝั่งตะวันออกเกือบยี่สิบไมล์ทะเล พลังลึกลับบางอย่างขัดขวางการตรวจจับของดาวเทียมทางอากาศ
“มันคืออะไรกัน?”
เหลยิขมวดคิ้วแน่น แล้วรีบสั่งให้เฮลิคอปเตอร์เปลี่ยนทิศทาง โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีเมฆฝนฟ้าคะนอง ขณะยังคงจับตามองทิศทางและความเร็วลมอย่างต่อเนื่อง
เฮลิคอปเตอร์สองลำจากสองทิศทางมุ่งหน้าไปยังแถบสีขาวที่แสดงอยู่ในแผนภูมิสภาพอากาศ แต่เนื่องจากท้องฟ้ามีเมฆหนา และสภาพอากาศเลวร้าย การทำงานด้วยเฮลิคอปเตอร์จึงค่อนข้างเสี่ยงต่อชีวิตพวกเขา
อย่างไรก็ตาม สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติพร้อมปฏิบัติการเสมอแม้จะต้องเผชิญหน้ากับความตาย นอกจากนี้พวกเขายังผ่านการปฏิบัติงานที่ต้องเสี่ยงอันตรายมาแล้วมากมาย แต่ก็ไม่เคยถอย
เวลานี้ ไม่ใช่เพียงคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเท่านั้นที่ยังคงปฏิบัติงานใกล้แนวชายฝั่ง นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีกลุ่มผู้ฝึกวรยุทธ์ขั้นสูงซึ่งอยู่ที่นี่เพราะได้รับคำสั่งให้แย่งชิงาาปะการัง ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอพยพออกไปหมดแล้วเพื่อรับประกันว่าจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด
เฮลิคอปเตอร์สองลำบินเหนือผิวทะเล กำลังเข้าใกล้จุดหมายปลายทางแล้ว ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้พื้นที่แถบสีขาวเท่าไร ความรุนแรงของเมฆฝนฟ้าคะนองก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นตาม เป็เหตุให้เฮลิคอปเตอร์ยากที่จะเข้าใกล้จุดหมายได้
“ข้างหน้ามีคลื่นอากาศปั่นป่วน พวกเราต้องเปลี่ยนเส้นทางแล้วครับ!” เสียงของนักบินดังขึ้น
“เดี๋ยวก่อน เดินหน้าเข้าไปอีกนิด!”
ความจริงเหลยิพบบางสิ่งบางอย่าง เขาจึงปรับโฟกัสของกล้องส่องทางไกลประสิทธิภาพสูงเพื่อให้ภาพออกมาชัดเจนแม้อยู่ห่างออกไป
ภาพที่เห็นคือ กลุ่มของเกาะูเาน้ำแข็งปรากฏขึ้นกลางอากาศเหนือผิวน้ำทะเลอย่างน่าเหลือเชื่อ!
ไม่ ไม่ใช่ มันไม่ได้เกิดขึ้นในอากาศ แต่เป็อุณหภูมิที่ต่ำอย่างสุดขั้วแปลสภาพน้ำที่อยู่ใกล้ทะเลไปเป็ก้อนน้ำแข็ง และรวมตัวกันจนกลายเป็เกาะูเาน้ำแข็งขนาดใหญ่ ท้องฟ้าเหนือูเาน้ำแข็งนี้ครอบคลุมด้วยพลังงานลึกลับอยู่รอบๆ บางทีขนาดของพื้นที่สีขาวยังคงขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องช้าๆ เมื่อดูจากภาพของหอสังเกตการณ์
“พระเ้า พลังอำนาจขนาดไหนกันถึงทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้?” เหลยิะโออกมาด้วยความใ!
“หัวหน้า หรือมันจะเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งทะเลจีนตะวันออกตามข่าวลือในยุทธภพ?”
ผู้ช่วยของเขาขมวดคิ้วแน่นพร้อมตั้งสมมติฐาน
“ถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดี”
จากนั้นเหลยิจึงออกคำสั่งด้วยใบหน้าจริงจัง “นำเฮลิคอปเตอร์กลับก่อน แล้วรีบนำเรือมา เราจะเข้าไปสำรวจมัน!”
ตอนนี้สภาพแวดล้อมรอบๆ ทะเลจีนตะวันออกเริ่มคล้ายคลึงเกาะแห่งนี้ เข้าขั้นเลวร้ายมาก บางทีศูนย์กลางของมันอาจเป็ไต้ฝุ่นระดับสิบหกปี หากยังสำรวจต่อไปในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้ คงมีความเสี่ยงที่เกินจะรับไหว
ไม่จำเป็ต้องถามเลยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์มุ่งหน้าเข้าไปอีก เพราะหากเกาะูเาน้ำแข็งแห่งนี้ขยายตัวเกินกว่าที่คาดไว้ ก็คงมีแต่พระเ้าเท่านั้นที่รู้ว่าสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเตรียมการพร้อมแล้ว สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติพร้อมอุปกรณ์ครบครันก็นั่งเรือสปีดโบทจากชายฝั่งเพื่อฝ่าพายุเข้าเกาะูเาน้ำแข็ง…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้