“เสี่ยวหวง มีเื่อะไร?”
จ้าวอี้เผยรอยยิ้มที่ตนคิดว่าจะดูใจดี แต่หวงอิงยังคงถอยหลังสองก้าว ราวกับจ้าวอี้จะกินคน นี่ทำให้ใจของจ้าวอี้รู้สึกหม่นหมอง เขาดูน่ากลัวขนาดนั้น?
ที่จริงจ้าวอี้ใช้คำว่าดุดันและเฉียบแหลมมาบรรยายจะเหมาะสมที่สุด สมกับเป็ลูกผู้ชาย เพียงแต่ไม่ใช่ผู้ชายประเภทหนุ่มน้อยจิ้มลิ้ม
ดังนั้นถ้าสาวน้อยเช่นหวงอิงไม่ชอบก็เป็เื่ปกติ
ที่แท้คือมีธุระ หวงอิงพูด “ในละแวกสำนักงานเรา ปรากฏคนแปลกหน้าสองสามคน ฉันลองเทียบเคียงดูแล้ว พวกเขาไปๆมาๆหลายรอบ เื่นี้ ฉันคิดว่าจำเป้นต้องบอกกับพี่ ตอนนี้พี่เซี่ยตันไม่อยู่”
บนคอมพิวเตอร์ปรากฏรูปสองสามรูป วนๆหยุดๆ แล้วทำสัญลักษณ์
“พี่ดู การแต่งตัวของสองคนนี้แม้จะดูแตกต่างกัน แต่ผ่านการเทียบเคียง สามารถยืนยันได้ ว่าพวกเขาเป็คนคนเดียวกัน เมื่อคืนตอนสองทุ่มปรากฏครั้งหนึ่ง สี่ทุ่มก็ปรากฏอีกครั้ง ทั้งสามรูปเป็คนคนเดียวกัน แบ่งเวลาปรากฎในตอนสามทุ่มรอบหนึ่ง ก่อนรุ่งสางรอบหนึ่ง เช้าวันนี้ตอนเจ็ดโมงอีกรอบหนึ่ง...”
รูปเหล่านี้มีผู้ชาย ผู้หญิง คนขี้เมา พนักงานออฟฟิศ ถ้าไม่ใช่เพราะหวงอิงพูดอย่างมั่นใจ ว่าพวกเขาเป้นคนเดียวกัน จ้าวอี้มองด้วยตาเปล่า ก็ยากที่จะคิดว่าเขาเป็คนเดียวกัน
“เธอมั่นใจได้ยังไงว่าพวกเขาเป็คนเดียวกัน?”
ในละแวกนี้ โดยปกติมีคนสัญจรน้อย แต่ไม่ใช่ถึงกับไม่มีคนเลย จ้าวอี้จึงคิดว่าถามให้ชัดจะดีกว่า
“ในระบบการจำแนกใบหน้าชุดนี้ฉันได้เพิ่มการเทียบเคียงรูปร่าง พี่สามารถเทียบเคียงสองสามคนนี้ได้ง่ายมาก พี่ดู...” หวงอิงพูดพร้อมดวงตาที่เป็ประกายสองข้าง ราวกับคนบ้าเทคโนโลยี ไม่ง่ายเลยที่จ้าวอี้จะปฏิเสธได้
“ได้ๆ ฉันเชื่อแล้ว คนสองสามคนนี้ให้ฉันจัดการ ถ้าพวกเขาปรากฏตัวอีก ให้เธอบอกฉัน พวกเขาอาจเป็ใครกัน?”
จ้าวอี้ไม่เชื่อว่าจะมีใครมาคอยเฝ้าที่นี่อย่างไร้เหตุไร้ผล ทันใดเขาก็นึกถึงน้องชายเหยียนที่เมื่อวานจับมาได้
อีกฝ่ายสามารถตามหาที่นี่ได้รวดเร็วขนาดนี้ นี่เกือบเป็ไปไม่ได้เลย!
ต้องรู้ว่า เมื่อตอนเข้ามา รถของพวกเขาเข้ามาจากสถานีตำรวจด้านหน้าสวน แต่เป้าหมายของอีกฝ่ายนั้นชัดเจนมาก ที่นี่มีปัญหาแล้ว
มีคนทรยศ?
จ้าวอี้ส่ายหน้า
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถที่จะสอดหูสอดตาเข้ามาในสำนักงานได้ ถ้าอีกฝ่ายเก่งกาจขนาดนี้จริง งั้นก็ไม่ต้องคิดจะจับพวกเขา แล้วปล่อยน้องชายเหยียนไปเลย พวกเขาเองก็ไม่ใช่แผนกธรรมดา ขึ้นอยู่กับแผนกความลับพิเศษ จะถูกคนแทรกซึมตามใจชอบได้ยังไง
นอกจากสองวิธีนี้ แล้วอีกฝ่ายตามหาที่นี่อย่างแม่นยำได้ยังไง?
จ้าวอี้รู้สึกแปลกใจ
“ตรวจสอบโทรศัพท์ของพวกเขารึยัง? มีอุปกรณ์ระบุตำแหน่งรึเปล่า?” จ้าวอี้คิด เป็ไปได้ว่าจุดนี้จะเปิดเผยสถานที่ของพวกเขา?
“โทรศัพท์หมายเลข 1 ผ่านการดัดแปลง มันไม่มีทางดำเนินการระบุตำแหน่งได้ ถ้าใช้กำลังระบุตำแหน่ง จะเริ่มขั้นตอนการทำลายโปรแกรมอัตโนมัติ พวกเราใกล้ถอดรหัสเสร็จแล้ว ถ้ามีโทรศัพท์เข้ามา พวกเราก็จะสามารถลองดำเนินการระบุตำแหน่งย้อนกลับได้ แต่ผลลัพธ์อาจะพูดได้ยาก” คำพูดเหล่านี้ของหวงอิงจ้าวอี้เข้าใจแล้ว
โทรศัพท์หมายเลข 1 เป็โทรศัพท์ของน้องชายเหยียน โทรศัพท์ของเขาสุดยอดมาก คนอื่นไม่มีทางจะระบุตำแหน่งของเขาผ่านโทรศัพท์นี้ได้
“หัวหน้าหน่วยไปทำอะไรแล้ว? วันนี้เธอยังไม่มา?”
จ้าวอี้ค่อนข้างแปลกใจ เซี่ยตันตรงเวลามาตลอด อีกทั้งตอนนี้ยังมีคดีต้องจัดการ แต่ทำไมวันนี้เธอไม่อยู่?
“ที่ทำการด้านหน้าเรียกเธอเพราะมีเื่นิดหน่อย ไปสักพักแล้ว”
คำตอบของหวงอิงทำให้จ้าวอี้พยักหน้า ไม่แปลกใจเลย ตามเวลาปกติ เซี่ยตันต้องมาแล้ว
คนยังไม่ทันบ่นจบ ทางนี้เพิ่งพูดถึงเซี่ยตัน เซี่ยตันก็กลับมาอย่างรวดเร็ว เป็ความจริงที่ว่าพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา1
"ทุกคนประชุม! มีคดีใหญ่ที่เบื้องบน้าให้เราสนับสนุน!"
คดีใหญ่!
ความคิดของทุกคนในที่นี้ก็ตื่นตัวขึ้นทันที
สามารถให้พวกเขาช่วยเหลือได้ ต้องเป็เื่ที่ค่อนข้างเลวร้าย คดีนี้จึงอยู่ในสถานะที่จำเป็ต้องแก้ไข้ให้เร็วที่สุด
สมาชิกทุกคนของหน่วย B ได้เข้าประจำตำแหน่ง
“ทุกคนไม่ว่าจะได้ยินจากข่าวหรือการแจ้งเตือนภายใน ต่างรู้ว่า่ก่อนหน้านี้เมืองทางตอนใต้ได้เกิดคดีฆ่าปาดคอต่อเนื่องใช่ไหม? เมื่อคืนวาน เมืองเราก็เกิดเหตุเลวร้ายเช่นนี้เหมือนกัน จากการเปรียบเทียบ ยืนยันแล้วว่าน่าจะเป็ฆาตกรคนเดียวกับคดีทางตอนใต้! หรือพูดได้ว่า ฆาตกรนั่นมาถึงเมืองของเราแล้ว!”
คำพูดของเซี่ยตันทำห้ทุกคนหวาดผวา อิทธิพลจากคดีฆ่าปาดคอนี้เลวร้ายมาก มี่หนึ่งที่เมืองทางตอนใต้ ถึงขั้นไม่กล้าออกจากบ้านตอนกลางคืน
“นี่เป็คดีเบื้องต้น ทุกคนลองดู”
เซี่ยตันส่งสัญญาณให้อู๋เยว่นำข้อมูลในมือแจก จ้าวอี้อ่านผ่านๆ และเข้าใจอย่างคร่าวๆ
ใช้คำว่าโหดร้ายเหมือนไม่ใช่มนุษย์มาบรรยายเื่นี้หรือบรรยายฆาตกรคนนี้ ก็ไม่เกินไปแม้แต่น้อย
หนึ่งในผู้ตายเป็วัยรุ่นเพศหญิง เด็กสาวอายุั้แ่มัธยมต้นถึงมัธยมปลาย และยังมีนักศึกษามหาวิทยาลัยอายุยี่สิบกว่าปีจนถึงผู้หญิงอายุสี่ห้าสิบปี นอกจากนั้นยังมีผู้หญิงชั้นสูงอายุหกสิบปีคนหนึ่ง เพียงแค่ภายนอกของเธอดูอายุน้อย
จุดที่เหมือนกันของผู้ตายเหล่านี้มีดังนี้ พวกเธอต่างเป็ผู้หญิงโสด ปรากฏตัวอยู่บนถนนคนเดียว ลักษณะพิเศษของเพศหญิงของผู้ตายถูกตัดออกหมด
ขณะเดียวกันบนข้อมูลยังเขียนว่า ตอนแรกเพื่อเปิดโปงคดีนี้ จึงได้ส่งสุนัขตำรวจจำนวนมากมาร่วมมือ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้อะไร เบื้องต้นสามารถตัดสินได้ว่า อีกฝ่ายต้องมีความสามารถในการป้องกันการสอดแนม: ส่งตำรวจหญิงได้แต่งตัวล่อเหยื่อ ผลลัพธ์กลับน่าอนาถ
“เมื่อคืนวานเกิดเหตุผู้ตายอยู่ในตำแหน่งนี้ ห่างจากพวกเราที่นี่ไปไม่ไกล” เซี่ยตันชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่เมืองในห้องประชุม ท่าทางค่อนข้างเ็ป เธอเธอสามารถนึกได้ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ก่อนตายเผชิญกับการทรมานเช่นนี้ ตายยังดีกว่ามีชีวิต
“หัวหน้า หวงอิงพบเหตุการณ์ใหม่ ฉันคิดว่า อาจมีเบาะแส สำหรับโศกนาฎกรรมที่เกิดเมื่อวาน” จ้าวอี้นึกถึงความเป็ไปได้หนึ่งในทันที
ทำไมก่อนหน้านี้คดีนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นทันทีหลังจับตัวน้องชายเหยียน เื่นี้มีความเกี่ยวข้องกันรึไง ผลกระทบจากคดีนี้เลวร้ายเกินไป จ้าวอี้คิดว่าเบาะแสใดก็ไม่อาจละทิ้งได้ แล้วจึงส่งสายตาให้กำลังใจหวงอิงในทันที
หวงอิงพูดเสียงเบาถึงเื่ที่เธอพบ ใบหน้าเซี่ยตันเต็มไปด้วยความจริงจัง
“ดีมาก คดีนี้ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ สองวันนี้ อู๋เยว่ หวงอิง พวกเธอพยายามอย่าออกไปจากสำนักงาน ระวังให้มากขึ้น เพื่อนร่วมทีมของน้องชายเหยียนยังไม่ถูกจับ อย่ากำจัดความเป็ไปได้ที่พวกเธอจะถูกลักพาตัว ตอนนี้คำสั่งของฉันคือ ให้ทุกคนติดอาวุธ!”
“รับทราบ!”
กลุ่มคนเข้าแถวไปที่สถานีตำรวจ กำลังคนของพวกเขาแม้ว่าจะฝึกมาอย่างดี แต่จำนวนคนน้อยเกินไป ครั้งนี้ภารกิจที่เบื้องบนได้จัดเตรียมลงมาคือให้ความร่วมมือกับที่ทำการ นี่ไม่มีความแตกต่างอะไรกับการส่งกำลังคนจากแผนกอื่นมาร่วมกันช่วยเหลือ
“ผบ. เจี่ยง พวกเรากลุ่มปฏิบัติการพิเศษได้ประจำตำแหน่ง โปรดออกคำสั่ง!”
เข้าไปในห้องประชุมใหญ่ เซี่ยตันเดินไปด้านหน้า รายงานกับตำรวจหญิงคนหนึ่งที่กำลังก้มหน้าศึกษาคดี ที่นี่ไม่ได้มีแค่พวกจ้าวอี้
“ดีมาก ทุกท่านเชิญนั่ง ฉันคือผู้รับผิดชอบของคดีนี้ เข้าใจข้อมูลโดยรวมของคดีแล้วใช่ไหม?”
ผบ. เจี่ยงเงยหน้าขึ้น ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือเจี่ยงจาวตี้
จ้าวอี้เห็นเธออยู่ที่นี่ จึงค่อนข้างประหลาดใจมาก แต่คิดดูอย่างละเอียด กลับไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย ยังไงงานที่พ่อของเธอจัดเตรียมให้ต้องดีแน่ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็ผู้บังคับการ ตามธรรมเนียมแล้ว ควรจะเป็ตำแหน่งรอง ในพวกข้าราชการ การมีชื่อเรียกว่ารองเป็ปรากฏการณ์ที่เห็นได้บ่อย ดังนั้นจ้าวอี้จึงคาดไม่ถึง
“ฝ่ายตรงข้ามของเรามีเล่ห์เหลี่ยมมาก และยังป่าเถื่อน! เมื่อคืนวานเกิดคดีที่เลวร้าย พวกเราจำเป็ต้องหยุดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้นต่อไป ให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อราษฎร เพราะเหตุนี้ หลังเราผ่านการอภิปราย ได้ตัดสินใจให้ปฏิบัติการล่องูออกจากโพรง เหยื่อก็คือฉัน และยังมีคุณเซี่ยคนนี้” เจี่ยงจาวตี้ดูเหมาะสมกับการพูดจาเช่นนี้ ภายใต้การพูดจาฉะฉาน คำพูดที่พูดออกมา กลับทำให้จ้าวอี้ใอย่างมาก
โดยไม่รู้ตัว จ้าวอี้้าจะออกปากขัดขวาง แต่คำพูดนี้สุดท้ายกลับไม่ได้พูดออกมา
ที่นี่คนเยอะขนาดนี้ ตอนนี้หัวหน้าได้พูดแผนการ จะขัดขวางก็ไม่ดี เพราะนี่ไม่ใช่การอภิปราย
เหตุผลที่จ้าวอี้้าขัดขวางการกระทำนี้ของพวกเธอนั้นง่ายมาก ที่เมืองอื่น ก็ใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา คือตำรวจหญิงตาย การตีวงที่เล็ก อีกฝ่ายย่อมไม่เข้ามาในวงล้อม การตีวงให้กว้าง ก็อาจปรากฏช่องโหว่ ให้อีกฝ่ายมีเวลาและช่องว่างในการปฏิบัติการก่อเหตุ โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นแบบนี้
เพียงแต่ จ้าวอี้นึกถึงนิสัยของเจี่ยงจาวตี้ และความร้ายแรงของคดี โดยพื้นฐานจึงไม่มีเหตุผลให้ขัดขวางเธอ
การคาดการณ์คร่าวๆในการปฏิบัติการครั้งนี้คือต้องดำเนินต่อไปจนกระทั่งจับตัวฆาตกรได้ รายละเอียดทุกอย่างต้องปรึกษากันอย่างละเอียด ดังนั้นจึงเสียเวลามาก ประชุมกันจนถึงตอนบ่ายถึงจะจบ
เวลาการปฏิบัติการคือตอนกลางคืน ตอนนี้เป็เวลาเริ่มเตรียมการทำงาน
“คนอื่นไปเตรียมตัวเถอะ จ้าวอี้ นายอยู่ที่นี่ ฉันมีเื่ที่ต้องเตรียม” เจี่ยงจาวตี้พูดประโยคนี้อย่างเป็ธรรมชาติ เซี่ยตันมองจ้าวอี้อย่างแปลกใจ จากนั้นจึงออกไป
“เป็ยังไง คาดไม่ถึงสิ? ครั้งนี้ฉันเป็หัวหน้าของนาย นายต้องฟังคำสั่งฉัน” เจี่ยงจาวตี้พูดพลางหัวเราะ และยังหมุนหนึ่งรอบเพื่อโชว์ชุดตำรวจใหม่ของตน
“ตอนกลางคืนอันตรายมาก จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าฆาตกรเป็ยังไง หรือมีกี่คน ตอนกลางคืนต้องระวังหน่อย อย่าลืมสวมชุดกันะุ” จ้าวอี้เตือนประโยคหนึ่งอย่างอดไม่ได้ เขาไม่มีอารมณ์จะชื่นชมชุดใหม่ของเจี่ยงจาวตี้
“ชุดกันะุใส่ไม่ได้แน่นอน ตอนกลางคืนฉันต้องใส่กระโปรง ไม่งั้นจะล่อฆาตกรได้ยังไง? ใกล้เวลาแล้ว ฉันไปเปลี่ยนชุด นายรอก่อน อีกเดี๋ยวช่วยฉันรูดซิปหน่อย ฉันไม่อยากให้คนอื่นเห็น”
เปลี่ยนกระโปรงในห้องนี้เสร็จ เหลือซิปด้านหลังที่รูดไม่ถึง
ถ้าเป็หญิงสาวคนอื่น ผิวด้านหลังอาจเกลี้ยงเกลาราวกับหยก และต้องเรียบเนียนมาก แต่แผ่นหลังของเจี่ยงจาวตี้ กลับหยาบกร้าน สามารถเห็นรอยแผลเป็จางๆ นี่เป็เหตุผลที่ทำไมเธอถึงให้จ้าวอี้ช่วย เพราะจ้าวอี้รู้สถานการณ์ของเธอ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงเธอ
มองการแต่งตัว เจี่ยงจาวตี้มีกลิ่นอายที่แปลกออกไป น่าเสียดายที่เดินบนรองเท้าส้นสูงยังไงก็เดินโอนเอน เจี่ยงจาวตี้โมโหจนถอดออก เปลี่ยนเป็รองเท้าส้นแบน นี่เป็เื่ช่วยไม่ได้ สำหรับเธอรองเท้าส้นสูงมีความยากมาก
จ้าวอี้อยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า ถ้าฉลาด ก็จะไม่ส่งเสียงหัวเราะในเวลาแบบนี้
หลังจากวุ่นวาย ก็ถือว่าการแต่งตัวเสร็จสมบูรณ์
มองจากไกลๆ ความรู้สึกโดยรวมถือว่าไม่เลว แน่นอน ถ้ามองอย่างละเอียดในระยะใกล้ ก็อาจพบว่าผิวของเจี่ยงจาวตี้หยาบกระด้าง ยังดี ที่สถานที่ล่อเหยื่อที่เลือกค่อนข้างเป็ที่ไฟสลัว ข้อบกพร่องจึงไม่น่าถูกพบ
เซี่ยตันแต่งตัวเป็สาวสวยในเมืองเช่นกัน เธออาจแต่งตัวเป็กว่าเจี่ยงจาวตี้ ทุกสีหน้า ทำให้ดูออกถึงอาชีพของเธอ
“ทุกอย่างต้องระวัง ถ้าเกิดเื่ไม่คาดคิด ทุกอย่างต้องทำเพื่อความปลอดภัยของตนเอง” เจี่ยงจาวตี้เตือนเซี่ยตันประโยคหนึ่ง แม้จะดูไม่จำเป็ แต่มันแสดงถึงความห่วงใย
“เธอก็ระวังด้วย เฉินตง พวกเราไปกันเถอะ”
เซี่ยตันพูด ขณะเดียวกันก็พยักหน้าให้จ้าวอี้ สองคนจึงออกไป
พวกเขาและจ้าวอี้เจี่ยงจาวตี้ แบ่งกันแสดงเป็คู่รักสองคู่ จากนั้นเกิดความขัดแย้ง จึงทิ้งแฟนสาว ให้ช่องว่างฆาตกรในการก่อเหตุ จากนั้นก็รวบตัวฆาตกร!
“พวกเราก็ออกไปเถอะ ไปทานมื้อเย็นก่อนเป็ไง?” เจี่ยงจาวตี้กอดแขนของจ้าวอี้ แล้วออกความเห็น
จ้าวอี้ย่อมตกลง
สองคนเหมือนกับคู่รักคู่หนึ่ง เดินเล่นท่ามกลางแสงไฟยามค่ำคืนของเมือง J
[1] แปลว่าพูดถึงใครคนนั้นก็มา