เพราะลมปราณกระบี่รุนแรงมากอากาศจึงเกิดความแปรปรวน ภาพของิอวี่กับเยี่ยซีก็บิดไปมาในสายตาของทุกคน!
พริบตาเดียวิอวี่ก็สะบัดข้อมือ จากนั้นก็ตะคอกเสียงก่อนจะทะลวงการป้องกันของเยี่ยซี แล้วแทงกระบี่ออกไปทำให้นางต้องถอยหลังไป
“อะไรกัน?”
เยี่ยซีคิดไม่ถึงเลยว่า ิอวี่จะสามารถะเิพลังที่แข็งแกร่งกว่านางออกมาได้ ความโกรธที่มีแต่เดิมเริ่มแปรเปลี่ยนเป็ความตกตะลึง
เดิมนางคิดว่าแค่ใช้กำลังดิบก็พอ แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว ิอวี่ไม่เพียงมีกำลังมหาศาล เขายังฝึกศาสตร์วิชากระบี่ได้ไม่ด้อยไปกว่านาง หรือดีกว่าด้วยซ้ำ
แล้วจะไม่ให้เยี่ยซีตะลึงได้อย่างไรกัน?
เมื่อสามเดือนที่แล้วผู้ชายที่อ่อนปวกเปียกต่อหน้านาง วันนี้กลับมีความสามารถไม่ต่างจากนางเลยแม้แต่นิดเดียว!
ิอวี่ เ้าซ่อนความลับอะไรไว้กันแน่?
ท่าทีของเยี่ยซีนิ่งไป ในมือก็เพิ่มกำลังเอาไว้ไม่หยุด ตอนที่ถูกบีบจนถอยไปถึงขอบลานประลองนางก็ะเิพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่นางเคยทำออกมาเพื่อต้านทานพลังของิอวี่ เลยไม่ตกจากลานประลอง
แต่ิอวี่กลับยิ้มแสยะ เขาเก็บแรงของกระบี่เฟิงโหวกลับไป เพราะกระบี่ของเยี่ยซีกำลังพุ่งแทงมาที่ตัวของิอวี่ เขาะโลอยตัวขึ้นกลางอากาศทำให้เยี่ยซีแทงถูกแค่ลม
เยี่ยซีหันหลังกลับมา พบว่าปลายเท้าของิอวี่แตะอยู่ที่กลางอากาศ เขาพุ่งตัวขึ้นไปราวกับลูกะุ
ย่างก้าวที่อัศจรรย์บนกลางอากาศ มันคือเท้าแตะเมฆาที่แข็งแกร่ง!
เดิมทีกระบวนท่านี้มันเป็กระบวนท่าที่เหมาะกับการใช้หนีที่สุด แต่เมื่อนำมาใช้ระหว่างการต่อสู้ก็สามารถเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศและพลิกกลับมาโจมตีศัตรูได้
พอเยี่ยซีพลิกตัวกลับมาก็เห็นิอวี่แทงกระบี่ลงมาจากอากาศ้า ต่อให้นางจะมีร่างิญญาแห่งสายลมก็ไม่อาจหลบมันได้ในทันที
เพราะการโจมตีในครั้งนี้ มันกะทันหันและรวดเร็วมาก!
แต่ว่าเยี่ยซีเองก็ไม่ได้คิดจะหนี นางยิ้มมุมปากด้วยความเ็า
นางเก็บกระบี่อู๋อิ่งกลับไป จากนั้นก็นำแหวนสีน้ำเงินวงหนึ่งออกมาสวมไว้ที่นิ้วชี้ขวา จากนั้นก็ประสานมือและท่องคาถาอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับว่านางสามารถสื่อสารกับ์ได้ บนพื้นรอบตัวของนางเกิดลายเส้นอักขระสีดำขึ้นมา จากนั้นมันก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็สีแดง!
“ลายเส้นอักขระ!”
ทุกคนต่างตกตะลึง แม้แต่กรรมการทั้งเก้าคนก็ตะลึงไปด้วยเช่นกัน เพราะที่เยี่ยซีใช้นั้น มันคือค่ายกลที่แข็งแกร่งอย่างมาก ค่ายกละเิเพลิง!
ค่ายกลที่แข็งแกร่งมากนี้เยี่ยซีประมูลมาได้จากสมาคมใต้หล้าเมื่อสองเดือนก่อน นางใช้เงินไปถึงสามล้านเหรียญหยกดำซื้อมา อานุภาพของมันร้ายกาจมาก
ลายเส้นอักขระนั้นเป็อะไรที่ร่ายคาถาเปิดใช้งานยากมาก เพราะต้องใช้ลมปราณมหาศาล การประลองยุทธ์ของทางราชสำนักมีการอนุญาตให้ใช้ลายเส้นอักขระได้ แต่ว่าถึงจะมีกฎนี้ก็แทบไม่เคยมีใครใช้เลยเพราะพวกเขาทำไม่เป็
แต่เยี่ยซีทำได้!
พอได้เห็นลายเส้นอักขระสีแดงที่สวยสดงดงามปรากฏเด่นชัดขึ้น ิอวี่เองก็เก็บกระบี่เฟิงโหวในมือเหมือนกัน จากนั้นก็ลงมาที่พื้นแล้วประสานมือ ท่องคาถา สิ่งที่เขาทำทุกอย่างไม่ต่างอะไรกับเยี่ยซีเลย
บนพื้นก็มีลายเส้นอักขระสีแดงสวยงามปรากฏขึ้นเหมือนกัน ค่ายกละเิเพลิงที่เหมือนกันทุกอย่างปรากฏขึ้นมาต่อหน้าทุกคนเช่นเดียวกัน!
ในลานประลองเกิดเสียงพูดคุยกันสนั่นไปหมด เดิมลายเส้นอักขระอันเดียวก็มากพอที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึงมากแล้ว แต่ตอนนี้มีลายเส้นอักขระถึงสองอัน มันอัศจรรย์และน่าประหลาดใจมาก อีกทั้งลายเส้นอักขระสองอันนี้มันยังเหมือนกันอีกต่างหาก
“ค่ายกละเิเพลิง เปิด!” สายตาของเยี่ยซีนั้นมีความตกตะลึงอย่างมาก แต่นางไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น นางประทับมือขวาลงไปที่พื้นอย่างบ้าคลั่ง
“ค่ายกละเิเพลิง เปิด”
ในเวลาเดียวกัน มือขวาของิอวี่เองก็ประทับไปที่พื้นทันที ฝ่ามือของทั้งสองคนแทบจะแนบไปที่พื้นพร้อมกันเลย
จากนั้นก็เห็นคลื่นพลังงานที่น่ากลัวมากะเิออกมาจากลานประลอง เปลวเพลิงและฝุ่นควันที่รุนแรงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คลื่นความร้อนแผ่กระจายไปทั่ว อุณหภูมิความร้อนที่รุนแรงและน่ากลัวทำให้คนรู้สึกเหมือนผิวถูกเผาไหม้!
เมื่อฝุ่นค่อยๆ สลาย ทุกคนถึงเห็นทั้งสองคนชัดขึ้น
รอบลานประลองทำจากหินเหล็กที่แข็งแรงถูกทำลายจนเป็ผง เหลือแค่พื้นที่ลานประลองเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับความเสียหาย
ิอวี่กับเยี่ยซียืนอยู่บนลานประลองคนละฝั่งของพื้นที่เล็กๆ นั่น
“นี่มันอะไรกัน!”
เดิมทุกคนคิดว่าิอวี่ก็แค่ทำท่าทางเลียนแบบเท่านั้น อานุภาพของค่ายกละเิเพลิงคงสู้ไม่ได้แน่ แต่ใครจะคิดว่าทั้งสองคนไม่มีใครได้รับาเ็เลย อานุภาพของค่ายกละเิเพลิงปะทะกันจนสลายหายไปทั้งคู่ หรือก็หมายความว่าค่ายกละเิเพลิงที่ิอวี่ใช้นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
นี่คือความจริงที่ทุกคนได้เห็นกับตาตัวเอง!
“ทำไม ทำไมเ้าถึงได้ใช้ค่ายกละเิเพลิงเป็ด้วย!”
ความเ็าและความเย่อหยิ่งนั้นหายไปแล้ว ความตะลึงในสายตาของเยี่ยซีนั้นปกปิดเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว นางกัดฟันพูดขึ้นมาว่า “เ้าเองก็ไปซื้อค่ายกละเิเพลิงนี้มาจากท่านผู้นั้นหรือ?”
“ถ้าข้าบอกว่าข้าก็คือท่านผู้นั้น เ้าเชื่อไหม?” ิอวี่ยิ้มมุมปาก
“น่าขำ” เยี่ยซีคิดว่าิอวี่แค่ประชดประชันนางเท่านั้น นางพูดอย่างมั่นใจว่า “หากเ้ารู้จักท่านผู้สูงส่งก็บอกที่อยู่ของท่านมาให้ข้า ถึงเวลานั้นข้าจะไปกราบไหว้ท่านเป็อาจารย์ก็สามารถสร้างค่ายกละเิเพลิงนี้เองได้แล้ว ส่วนเ้าไม่มีแม้พร์ที่จะได้เป็นักร่างอักขระหรอก สุดท้ายก็ต้องซื้อมาใช้งานต่ออยู่ดี”
“ฮึ ... ”
เดิมมันควรเป็บรรยากาศที่น่าจะตึงเครียดมาก แต่ิอวี่กลับหลุดขำออกมา หากเยี่ยซีรู้ว่าอาจารย์ที่นางพูดถึงก็คือเขา ไม่รู้ว่านางจะคิดอย่างไร
ิอวี่หัวเราะไปด้วยและส่ายหน้าไปด้วย “ขอโทษด้วยนะ ค่ายกละเิเพลิงนี่ข้าไม่ได้เสียเงินซื้อเลยแม้แต่เหรียญเดียว”
เขาไม่เพียงไม่ได้เสียเงินเลยแม้แต่เหรียญเดียว เงินสามล้านเหรียญของเ้าก็เข้ากระเป๋าข้าด้วย!
ที่จริงตอนแรกที่ิอวี่ได้ยินนางพูดว่าท่านผู้สูงส่ง เขาก็ได้บอกความจริงไปแล้วแต่เยี่ยซีไม่เชื่อเอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็จนใจ เกรงว่าคงต้องให้เยี่ยซีเห็นเขาร่างลายเส้นอักขระพวกนี้ขึ้นมาด้วยตัวเองเท่านั้นนางถึงจะเชื่อ ถึงเวลานั้นสีหน้าท่าทางของนางก็คงน่าสนุกกว่านี้เยอะ
แต่ว่าพอได้ยินนางพูดแบบนี้แล้ว ในใจของิอวี่ก็รู้สึกสะใจมาก!
“พูดกับเ้า มันเสียเวลาข้าจริงๆ”
เยี่ยซีไม่เชื่อสิ่งที่ิอวี่พูดจริงๆ สีหน้าท่าทางของนางเ็าลง พลังจิตสังหารของนางฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง นางถือกระบี่ชี้ขึ้นมาแล้วพลังสังหารที่รุนแรงก็ล้อมตัวิอวี่เอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย!
วันนี้ิอวี่ทำให้จิตใจของนางว้าวุ่นมากและรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ตอนนี้นางจะใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของนางจบการต่อสู้ในวันนี้ลง!
กระบี่อู๋อิ่งในมือของนางลอยขึ้นกลางอากาศ ปลายกระบี่ชี้ไปที่หน้าของิอวี่ จากนั้นก็ค่อยๆ หมุนฝ่ามืออันขาวเนียนนุ่มของเยี่ยซีซัดควบคุมไปที่ตัวกระบี่
ดอกบัวสีดำค่อยๆ ลอยขึ้นมาบนตัวกระบี่ ราวกับกิ่งไม้ที่กำลังผลิดอกบานสะพรั่ง!
“นี่มัน ...”
มีคนเริ่มตกตะลึง จากนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาว่า “หรือว่า นี่จะเป็กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเยี่ยซี ทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูงที่นางเพิ่งจะเรียนรู้ได้หลังจากมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง?”
“ใช่แล้ว! กระบวนท่านั้นแน่ เงาดอกบัวมรณะ!”
เงาดอกบัวมรณะ เป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูง ส่วนดอกบัวที่เบ่งบานอยู่บนกระบี่นั้นเกิดจากลมปราณสังหาร ระหว่างที่มันพุ่งออกไปจะรายล้อมไปทั่วทุกทิศทางเพื่อรบกวนสมาธิของคู่ต่อสู้
ส่วนตัวกระบี่ก็จะพุ่งทะลวงสังหารอย่างแข็งแกร่งและไร้รูปไร้ลักษณ์ ระหว่างที่ศัตรูกำลังต้านทานดอกบัวสีดำที่เป็ลมปราณสังหาร ก็จะถูกกระบี่อู๋อิ่งพุ่งแทงเข้าสู่หน้าอกในทันที!
ก่อนตายศัตรูจะเห็นดอกบัวสีดำลอยอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็จะค่อยๆ ตายลง!
จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของเงาดอกบัวมรณะก็คือลมปราณกระบี่ที่แหลมคมกับความเร็วที่น่าทึ่ง เมื่อเข้าคู่กับความว่องไวของกระบี่อู๋อิ่งและร่างกายที่มีจิติญญาสายลมของเยี่ยซี พูดได้เลยว่า อานุภาพของเงาดอกบัวมรณะนั้นถูกทำให้เพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว!
ิอวี่ััได้ถึงลมปราณสังหารที่สามารถปลิดชีวิตของเขาจากปลายกระบี่ที่ชี้มา มันเหมือนเล็งเป้ามาที่เขาอย่างแน่วแน่
ทำให้ิอวี่นั้นรีบถอยเว้นระห่างออกจากเยี่ยซีในทันที
“เสียแรงเปล่า”
เยี่ยซีพูดอย่างเ็า “วันนี้เ้าทำให้ข้าตะลึงมาก แต่ถึงอย่างไรเ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี กระบวนท่านี้จะตัดสินแพ้ชนะ ิอวี่ ตายซะเถอะ”
พูดจบ เยี่ยซีก็ดันฝ่ามือขวาออกไป จากนั้นกระบี่อู๋อิ่งก็หายวับไปจากที่เดิม!
ิอวี่ตัวแข็งทื่อไปหมด หลังจากที่เยี่ยซีพูดจบเขาก็ถอยหลังไปอีกครั้ง
เพราะเขามองเห็นดอกบัวสีดำที่แหลมคมพุ่งมาที่หน้าอกของเขา แค่ระยะเวลาสั้นๆ ก็พุ่งทะลวงมาตรงหน้าเขาที่อยู่ห่างออกไปสองเมตรแล้ว แค่ไม่กี่อึดใจก็จะสามารถทะลุหน้าอกของเขาไปได้
แล้วดอกบัวที่อยู่บนกระบี่อู๋อิ่งก็ะเิออก พุ่งล้อมรอบตัวของิอวี่ไปทุกทิศทุกมุม ปิดทางหนีทีไล่ของเขาจนหมด!
ทำให้ิอวี่ต้องนำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเข้าไปในจุดเซินถิง และเปิดััแห่งิญญาให้ขยายใหญ่มากที่สุด
จากนั้นิอวี่ก็รวบรวมลมปราณไปบนกระบี่เฟิงโหว ทำให้เกิดแรงสั่นะเืบนตัวกระบี่อย่างรุนแรง เขาจับกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้างและฟันกระบี่ไปในอากาศเพื่อะเิพลังออกมา
“น้ำตาแห่งความเศร้า”
เสียงร้องอันโหยหวนะเิดังออกมาทั่วลานประลอง ะเืแก้วหูของทุกคนที่ได้ยินจนเ็ปหูไปหมด บางคนถึงกับหูดับไปชั่วคราว จากนั้นกระบี่เฟิงโหวและกระบี่อู๋อิ่งก็พุ่งชนกัน