บทที่ 123 พญายมราชโดนจับไปแล้ว
ไป๋ต้าไห่เปิดเผยแผนการทุกอย่างระหว่างเขากับฮ่าวเหวินออกมาจนหมดเปลือก ตอนนี้เขาไม่มีสิ่งใดที่ต้องปกปิดอีกแล้ว เื่ที่บอกกับตงฟางเหวินอี้ไปมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ตอนนี้เย่จื่อเฉินถึงได้เบาใจ ชายคนนี้จริงใจจริงๆ
เมื่อปล่อยให้ไป๋ต้าไห่กลับไปแล้ว เย่จื่อเฉินถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ส่งของให้กับนาจาและเทพอาหาร
สแกน
ติ๊ง!
องค์ชายสามนาจาได้รับอั่งเปาของคุณ
สแกน
ติ๊ง!
อั่งเปาของเทพอาหาร
บนซองอั่งเปามีลายเซ็นกำกับเอาไว้ เย่จื่อเฉินกดออกจากกลุ่มแชท ทันใดนั้นซูเหยียนก็ได้โทรมาหาเขา
พูดคุยกันสองสามประโยคง่ายๆ คุยเสร็จแล้วเย่จื่อเฉินก็วางสายไป
มองดูเด็กขงเบ้งที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะลูบศีรษะของเขาเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น
“ฉันไปแล้วนะ อยู่เฝ้าร้านดีๆ ล่ะ”
“ไม่มีปัญหาครับ”
เด็กขงเบ้งยิ้มตาหยี และเพื่อรับรองความปลอดภัยให้กับเด็กคนนี้ เย่จื่อเฉินจึงได้ให้ต้าเฮยอยู่ที่นี่ด้วย
“เบื่อชะมัดเลย คุยกันหน่อยไหม?”
ทันทีที่เย่จื่อเฉินออกไปจากร้าน เด็กขงเบ้งก็เม้มปากยิ้มทันที พลางมองพร้อมกับเอ่ยขึ้นเบาๆ ให้ต้าเฮยที่ลอยอยู่กลางอากาศ
แน่นอนว่าเย่จื่อเฉินไม่ได้รับรู้เหตุการณ์ภายในร้าน ในตอนนี้เขากำลังยืนทำหน้างงอยู่ด้านล่างของหอพักหญิง
ในตอนนั้นซูเหยียนโทรมาหาเขาว่าไม่เอาบัตรคอนเสิร์ตแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนแรกพวกเธอยังทำท่าว่าจะต้องได้บัตรให้ได้อยู่เลย ตอนนี้มาบอกว่าไม่เอาแล้ว เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด
จิตใจของผู้หญิงยากที่จะเข้าใจจริงๆ
ไม่นานเท่าไร ซูเหยียนก็ได้เดินออกมาจากหอ
“เป็อะไร ไม่เอาบัตรคอนเสิร์ตแล้วเหรอ?”
เย่จื่อเฉินทำหน้างง ซูเหยียนกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วพยักหน้าตอบ
“ใช่ ไม่เอาแล้ว บัตรนี้ให้นายก็แล้วกัน”
แปะ
พูดจบซูเหยียนก็เอาบัตรคอนเสิร์ตสองใบแปะเข้ากับมือของเย่จื่อเฉิน
เย่จื่อเฉินกำบัตรสองใบไว้ในมือ สีหน้าของเขาแสดงออกว่ากังวลใจ
“ฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า?”
เย่จื่อเฉินเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง ไม่น่าจะมีนะ ตอนเที่ยงบรรยากาศของพวกเขาสองคนก็ยังดีๆ อยู่เลย
แล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกรธนี่
พอเห็นท่าทางระวังตัวของเย่จื่อเฉินแบบนั้น ทำเอาซูเหยียนหลุดขำพรืดออกมา
“เปล่านี่ เพียงแต่ไม่รู้ว่ารูมเมทของพวกฉันไปเอาบัตรคอนเสิร์ตมาจากไหนตั้งสี่ใบ ฉันกับเขอเข่อมาคิดดูแล้วก็เห็นว่าถ้าบัตรยังอยู่ที่เรามันก็เสียเปล่า สู้คืนให้นายจะดีกว่า บางทีคนที่หอนายอาจจะได้ใช้”
“บัตรแถวหน้าเหมือนกันเหรอ?”
“ใช่สิ”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของซูเหยียนก็ดังขึ้นมา
“เมทตามฉันกลับไปเล่นไพ่แล้ว ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ไปล่ะ”
“อ้อ”
เย่จื่อเฉินยืนพยักหน้ามึนงงอยู่กับที่ แล้วจู่ๆ ซูเหยียนที่กำลังจะเดินเข้าไปในหอก็วกกลับมาหาเขาอีกครั้ง
ก่อนจะจุ๊บลงบนแก้มของเขา
“บ๊ายบาย”
ทอดสายตาส่งซูเหยียนเข้าหอ ใบหน้าของเย่จื่อเฉินเต็มไปด้วยรอยยิ้มเพ้อฝัน
ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้ขาดทุนนะ
เมื่อกลับมาถึงหอ นับั้แ่ที่เขาอัปสกิลการเล่นเกม คนในห้องก็มักจะเข้ามาเกาะแข้งเกาะขาของเขา
เพิ่งจะเข้าห้องก็พากันเร่งเร้าให้เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์
ว่างไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เย่จื่อเฉินจึงเปิดคอมพิวเตอร์เตรียมตัวเล่นเกมกับรูมเมท
แต่ทันใดนั้น โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลับมีเสียงดังขึ้นมา
ระดับความสนิทของคุณกับยมทูตขาวเพิ่มขึ้นมา 100 ระดับความสนิทปัจจุบันอยู่ที่ 400
คุณได้รับส่วนบุญทางโลก คุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งในยมโลก ตำแหน่งในปัจจุบันคือยมทูตระดับสาม
เมื่อเห็นสองข้อความนี้ เย่จื่อเฉินก็อึ้งไปทันที
เมื่อกดดู ก็เห็นว่ายมทูตขาวส่งข้อความมาหาเขา
ยมทูตขาว : งานฉลองวันเกิดของพญายมราชจบแล้ว
“เย่จื่อ ทำอะไรอยู่เนี่ย รีบเข้าเกมสิ!”
คังเผิงตะเบ็งเสียงเรียก
“ไม่เล่นแล้ว พวกนายเล่นไปเถอะ”
พอะโขึ้นเตียงได้ เย่จื่อเฉินก็กดเข้าไปดูที่ข้อความของยมทูตขาว
เย่จือเฉิน : ดูท่าว่า พญายมราชคงจะชอบของขวัญของคุณมากสินะ?
ยมทูตขาว : ใช่แล้ว ตอนที่พญายมราชเห็นบุหรี่กล่องนั้นท่านดีใจมาก แถมยังชมฉันด้วย เพียงแต่การดำเนินงาน…
เมื่อเห็นข้อความของยมทูตขาว เย่จื่อเฉินจึงเลิกคิ้วพิมพ์ถาม
เย่จือเฉิน : ชมคุณก็ดีแล้วนี่ แล้วงานมันทำไมเหรอ?
ยมทูตขาว : เธอก็รู้ว่านรกอยู่ภายใต้การควบคุมของ์ ทางเบื้องบนมีกฎชัดเจน ว่าเ้าหน้าที่ในนรกไม่สามารถจัดงานเลี้ยงฉลองได้ แต่เดิมทีที่จัดมาก็ไม่เห็นว่าจะเป็อะไร ทาง์ไม่มีทางรู้อยู่แล้ว แต่รอบนี้อยู่ดีๆ ทางการ์ก็ลงมาตรวจ เลยทำอะไรไม่ได้ พญายมราชก็เลยต้องรีบจบงาน
ฉิบหาย!
เขาเป็คนหลุดความลับออกไปเองเหรอ!
ในตอนนั้นเขาแค่เผลอหลุดปากบอกเทพชราไท่ไป๋ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะก่อเื่ราวใหญ่โตขนาดนี้
เย่จื่อเฉิน : แล้วพญายมราชเป็ยังไงบ้าง?
ยมทูตขาว : พญายมราชโดนไท่ไป๋จินซิงจับไป์แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็ยังไงบ้าง ตอนนี้พยายมอีกเก้าท่านกำลังรวมตัวหารือกันเื่มาตรการรับมือ ถ้าทางการ์ไม่ยอมปล่อยตัว ทางการนรกก็อาจจะต้องนำคนไปชิงตัวพญายมราชกลับมา
เล่นใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ!
เย่จื่อเฉินทึ้งหัว
แต่ก่อนตอนที่ดูเื่ไซอิ๋วก็ไม่เห็นว่าทาง์กับทางนรกจะไม่ถูกกันขนาดนี้ ทำไมจากที่เขารู้สึก เหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะเป็ศัตรูกันมากกว่า
มันก็จริง ใครจะยอมเป็รองไปตลอดชีวิตล่ะ
บางทีคนในยมโลกกลุ่มนั้นอาจจะเป็รองมามากพอแล้ว จึงอยากที่จะเป็พี่ใหญ่บ้าง
แต่ถ้าทาง์กับทางนรกตีกันขึ้นมา เย่จื่อเฉินก็ไม่อยากจะเห็นหรอก
ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตร้านเล็กๆ ของเขาเพิ่งจะได้รับความสนใจจากทาง์ได้ไม่นานก็จะมามีเื่กันแล้ว แล้วเขาจะไปขายของเอาวิทยายุทธ์จากที่ไหนเล่า
เย่จื่อเฉิน : ยมทูตขาว คุณไปบอกพญายมอีกเก้าคนนั้นนะว่าอย่าเพิ่งวู่วาม เพราะถ้ามีเื่กันขึ้นมา มันจะไม่เป็ผลดีกับทั้งสองฝ่าย
ยมทูตขาว : ก็นั่นแหละ
ยมทูตขาวก็แสดงออกว่าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา แล้วส่งข้อความกลับมา
ยมทูตขาว : ฉันก็หวังว่าจะไม่เกิดการต่อสู้กัน แต่ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรในนรก ฉันเป็แค่ยมทูตระดับเจ็ด ยังไม่ได้เป็ถึงเ้าแห่งผี แล้วพญายมทั้งเก้าท่านนั้นจะสนใจฉันได้ยังไง
ยมทูตในนรกมีทั้งหมดสิบระดับ เหนือระดับสิบขึ้นไปคือเ้าแห่งผี บน์ก็คล้ายกัน ตำแหน่งเซียนมีทั้งหมดสิบระดับ เหนือระดับสิบขึ้นไปคือเง็กเซียน
วิธีการเลื่อนตำแหน่งนั้นง่ายมาก เพียงมีวิทยายุทธ์กับคุณธรรม์
เมื่อสะสมจำนวนคุณธรรมถึงจุดที่กำหนดไว้ ก็จะเลื่อนตำแหน่งเอง
ยมทูตระดับเจ็ดจะบอกว่าสูงก็ไม่ได้ จะบอกว่าต่ำก็ไม่ได้อีก แต่เมื่อเทียบกับพญายมทั้งเก้าแล้ว ก็เป็เพียงสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับกุ้งแห้งเท่านั้น
เย่จื่อเฉินนั่งดึงทึ้งผมอยู่บนเตียง
จะพูดกับไท่ไป่จินซิงดีไหมน่ะ ว่าทางนรกกำลังคิดจะก่อฏ
ความคิดนี้เพิ่งแวบเข้ามา ก็ถูกเขาลบออกไปในทันที
ไท่ไป๋จินซิงเป็ตาเฒ่าหัวรั้น ถ้าบอกเขาไป เขาต้องพาทหาร์ลงไปกำราบนรกแน่นอน
ทั้งๆ ที่แต่ก่อนไท่ไป๋จินซิงยังเป็ผู้เฒ่าที่ใจดีมากแท้ๆ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้พลิกกลับตาลปัตรได้ขนาดนี้
ดูท่าว่าคนที่พอจะแก้ไขปัญหานี้ได้ เห็นจะมีแต่ตัวเขาเอง
ตัวเองเป็คนกลางระหว่างทางนรกกับทาง์ บางทีอาจจะรับบทบาทการเป็ผู้สร้างสันติก็ได้
เย่จื่อเฉิน : เอาแบบนี้นะยมทูตขาว คุณดึงผมเข้ากลุ่มพวกคุณหน่อย ผมมีวิธีที่จะช่วยพญายมราชกลับมา
ยมทูตขาว : รอเดี๋ยวนะ
ยมทูตขาวที่อยู่ในระดับพึ่งพาอาศัยนั้น เชื่อใจในคำพูดของเย่จื่อเฉินอย่างไม่มีเงื่อนไข
ไม่นานนักก็มีเสียงแจ้งเตือนดังมาจากวีแชทของเขา
ติ๊ง!
าาฉู่เจียงขอเพิ่มคุณเป็เพื่อน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้