เ่ิูมองเห็นแล้วก็คิด ว่านี่ยังเป็หมอเทวดาหลี่ฉือเจินอีกหรือนี่?
หมอคนนั้นที่ตามมารักษาฉินหลันที่คฤหาสน์ตระกูล เ่ิูจดจำได้แม่นมั่น ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้พบเจอกันอีก มีชะตาต่อกันเสียจริง
“คนเจ็บอยู่ที่ไหน?”
หลี่ฉือเจินวิ่งมาไวเกินไปจริงๆ ตอนเข้ามาถึงต้องนั่งพักก่อนหลายอึดใจ สูดลมหายใจหลายเฮือก ที่สุดก็โล่งปอดขึ้นมาบ้าง หลังเช็ดเหงื่อแล้วมองทหารกรมสอดแนมห้าหกคนที่นอนพะงาบๆ เขาก็ถามด้วยเสียงเรียบสงบ ไม่ได้ใอะไรเลยแม้แต่น้อย
ถังซานรีบเดินเข้าไปเรียกแล้วพามาถึงหน้าหวังอิงที่นอนอยู่บนเปลหาม
เด็กหญิงผมแกละกอดกล่องยาเดินตามหลังมาเสียงดังกุกกักๆ
เ่ิูนั่งอยู่บนบันไดที่รายล้อมด้วยลมหิมะ
ถังซานเดินเข้ามาหาอีกรอบ กระซิบบอกประวัติของซุนอวี้หู่ผู้นั้นเสียงเบา
ที่แท้แล้วเ้าหน้าขาวหวีผมแต่งหน้านั่นก็คือหลานรักของหลิวหยวนชั่งเ้าสำมะโนประชา เคยรวมหัวกันกับหลิวเล่ยที่ตายด้วยน้ำมือเ่ิูไปแล้ว ใช้อำนาจข่มเหงคนไปทั่ว เบาหน่อยก็ระรานทั้งชายและหญิง หนักกว่าก็ฆ่าคนไม่ก็วางเพลิง ทำมาไม่น้อยทั้งนั้น จนได้รับสมญาจากทั้งเมืองว่า ‘หมาป่าจิ้งจอก’ เื่ทำร้ายผู้คนนี่ถนัดนัก
จากนั้นเมื่อหลิวเล่ยตายด้วยน้ำมือเ่ิู หลิวหยวนชั่งสูญเสียลูกชายคนเดียว ใต้ความโศกเศร้านั้น ซุนอวี้หู่ก็รุดมาถึงคฤหาสน์ เสนอตัวเอง ได้รับความรักประคบประหงมยิ่งขึ้น ซุนอวี้หู่ถึงได้ขวางโลกไปทั่ว กลายเป็ตัวซวยของทั้งนคร
หลายวันมานี้ ไม่รู้เพราะอะไรซุนอวี้หู่ถึงได้มาที่เขตเหนือ รวมพลกับทหารไม่กี่นายของกองพลทิศเหนือ ออกตัดสินเป็ศาลเตี้ยไปทั่ว วันนี้ก็ไม่รู้ลมอะไรหอบมาถึงหน้าทิงเทาซวน
เ่ิูฟังจบแล้วก็ไม่เอื้อนเอ่ยอันใด
เขาหยิบเหล้าไหหนึ่งมาเปิดฝา กลิ่นหอมของสุราปะทะใบหน้า สูดดมเข้าพลังภายในที่เคลื่อนไหว เหล้าเลิศรสสีมรกตกลายเป็สายน้ำลอยจากในไหตรงเข้าปาก อากาศธาตุพลันมีเหล้าหอมหวนล้นปรี่
เหล้าที่ถังซานให้คนไปซื้อมาคือเหล้าชั้นดี
เ่ิูดื่มไปอึกโตอย่างดุเดือด
ของเหลวขมน่าพิสมัยลุเข้าภายในกาย รู้สึกถึงความเผ็ดร้อนในอกเหมือนว่าอ้าปากก็พ่นไฟได้
ยามนั้นเองที่ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าแน่นขนัดสุดกู่ปรี่เข้ามา
ตึกๆๆ!
คลื่นฝีเท้าดังมาเป็ชุดราวกับมีคนรัวกลอง เป็จังหวะพร้อมเพรียงที่สุด พื้นดินเหมือนจะสั่นะเืเล็กๆ ราวกับมีสัตว์อสูรั์น่าครั่นคร้ามทะยานมาจากแดนไกล ยิ่งมายิ่งใกล้ชนิด ยิ่งมายิ่งใกล้ชิด ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเสียดสีของเกราะเหล็ก อณูเฉียบขาดเข้าปะทะเต็มหน้า
ในอากาศพลันอบอวลด้วยบรรยากาศตึงเครียด
ถังซานอดเครียดบ้างไม่ได้
หลินเทียนและสหายอีกสองคนลำคอแห้งผาก เริ่มชาทั้งท้องและขา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็คนที่ซุนอวี้หู่พามาแก้แค้นเป็แน่ และยังมีสิทธิ์จะเป็ทหารชำนาญการในกรมสอดแนมอีก ทว่าเครื่องมือสังหารกับการรวมพลพรรคมาติดตามธรรมดาๆ จะต่างอะไรกัน อาวุธของกองทหารขยับเมื่อใดก็จะสามารถสยบได้ทุกสิ่ง
เสียงฝีเท้าเหมือนน้ำหลากมาหยุดอยู่นอกประตูด้วยความเร็ว
ตูม!
ประตูไม้แดงสีดำะเิอย่างรุนแรง แผ่นไม้ลอยละลิ่ว
หอกยาวเรียบร้อยแอบซ่อนอยู่ภายใน ค่อยๆ คืบเข้าใกล้ ด้านหลังเป็นายทหารเ้าของหอก เกราะสีแดง สีหน้าน่าครั่นคร้าม ั์ตามีแววเย็นเยียบไร้สิ้นสุด ไม่มีการเคลื่อนไหวใด เสมือนอาวุธแช่แข็ง เหล่าทหารกำหอกและถือโล่กำบังทรงกลม เรียงแถวเป็ระเบียบ เดินดิ่งเข้ามาเชื่องช้า ราวกับแนวกำแพงสีแดง บีบอัดเข้ามาอย่างช้าแต่ไม่อาจทัดทาน
เหล็กเืดุร้ายกรายเข้ามาหา
ถังซานเหงื่อแตกพลั่กๆ เต็มหน้าผาก
เ่ิูกลับไม่แม้แต่จะเปิดเปลือกตา
เขาอ้าปากสูดลม
เหล้าหอมหวานในไหกลายเป็สายน้ำสีเขียวไสวอีกครั้ง ตรงเข้าปากของเขาอีกหน
อึกนี้กลืนเหล้าไปครึ่งไห
“ดื่มเหล้าเช่นนี้ทำลายสุขภาพมาก แล้วยังเปลืองเหล้าด้วย” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างๆ เป็หลี่ฉือเจินผู้ชรา เขาวินิจฉัยอาการของหวังอิง จัดการาแเสร็จแล้วก็มานั่งพูดกับเขาอยู่บนบันได
“อาการเป็เช่นไรบ้าง?” เ่ิูถาม
“เ้าก็เห็นแล้วนี่ว่าสภาพเป็อย่างไร เ้าควรแน่ใจแล้ว” หลี่ฉือเจินส่ายหน้าแ่เบาแล้วเสริม “อวัยวะทั้งห้าเสียหายจนน่ากลัว สิ้นไร้เรี่ยวแรง ถึงเ้าจะใช้พลังภายในต่อลมหายใจให้เขาได้ แต่ก็ยื้อไว้ได้ไม่เกินสามวันหรอก”
“แม้แต่ท่านก็ยังช่วยไม่ไหวหรือ?” เ่ิูทอดถอนใจ
“ยาและหมอไม่อาจฆ่าความเ็ป โชคชะตาเขาสุกงอมแล้ว” หลี่ฉือเจินจับเครายาวสีขาวของตัวเอง “การรักษาของหมอก็เป็เช่นนี้แหละ คนที่ชีวิตขาดสะบั้นแล้ว ตัวหมอก็ไม่มีทางช่วยอะไรได้หรอก ข้าทำได้แค่ช่วยจัดการอะไรง่ายๆ ให้เขาเบาๆ รับรองว่าสามวันนี้จะไม่เจ็บและไม่ตาย”
เ่ิูพยักหน้า เขาไม่ได้เอ่ยอะไรอีก
กลับกลายเป็ว่าต่อหน้าพลทหารสอดแนมที่ทั้งดุร้ายและชั่วโฉด หมอาุโท่านนี้กลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่คุยชวนหัว ทำให้เ่ิูอดประเมินเขาสูงขึ้นมิได้ ท่านหมอหลี่ผู้นี้มีลักษณะเหมือนชายผมขาวหน้าแดง เป็ยอดคนจากคนละโลก
ชิ้งๆๆๆ!
หอกยาวเคาะโล่แ่เบา เสียงโลหะกระทบกระทั่งพาใจคนให้หดหู่
พลหอกสามแถวหน้าเคลื่อนทัพ ตรงกลางมีช่องว่างพอให้หนึ่งคนเดินผ่าน ซุนอวี้หู่ที่เปลี่ยนชุดเป็เกราะเหล็กเรียบร้อยแล้วมีชายร่างใหญ่สองคนสูงเกินสองเมตรประกบไว้ กายสวมเกราะดำสนิทเหมือนเจดีย์เหล็ก ความดุร้ายพันรอยเสมือนเทพิญญาั์สององค์เหยียบย่ำเข้ามาหา
เมื่อชายดั่งเจดีย์ดำสองคนนี้ปรากฏกาย สภาพการณ์พลันก็เต็มไปด้วยแรงกดดัน
“มันนั่นแหละ ไอ้สวะกากเดนนั่นฆ่าคนจากกรมสอดแนมของข้า...” ซุนอวี้หู่เชิดหน้าชี้เ่ิู ตะเบ็งมาแต่ไกล
บุรุษฉกรรจ์ดั่งเจดีย์มองเ่ิูสายตาเยือกเย็น แล้วก็มองทหารสอดแนมที่ดิ้นรนอยู่บนพื้น โบกมือไปมาเบาๆ
มีพลหอกเดินเข้ามาประคองพาทหารเ่าั้ออกไป
เขาแบมือออก โซ่สีดำน่ากลัวก็เผยโฉม
โซ่นี้ยาวสามเมตร นอนแน่นิ่งอยู่บนฝ่ามือชายกำยำเหมือนัอสรพิษดำ ตัวโซ่มีรอยเืกระดำกระด่างจนแห้งกรัง ทั้งสองด้านมีตะคอเกี่ยวเหมือนงูพิษชวนให้คนมองไม่หวาดหวั่นก็สั่นเทา
เคร้ง!
เขาโยนโซ่เหล็กมาแทบเท้าเ่ิู
“ลงมือดูสิ ใช้โซ่เหล็กผนึกนี่มัดไหปลาร้า มัดมือเ้าเอง ไปกรมทหารสอดแนมกับข้าเถอะ” คำพร่ำเยียบเย็นนั้นเหมือนคำพิพากษา เขานิ่งไปแล้วยิ้มเย็น “อย่ามัวดีใจกับความโชคช่วยของเ้าอยู่ มากับข้าดีๆ ข้าจะไว้ชีวิตญาติพี่น้องและเพื่อนพ้องเ้า ถ้ากล้าต่อต้าน ข้าจะฆ่าล้างโคตร”
จิตสังหารและโทสะอบอวลทั่วอากาศ
เ่ิูสูบเหล้าเข้าปากอีกครั้ง เขายิ้ม มือสูบอากาศว่างเปล่า โซ่เหล็กสีดำก็ถูกดูดมาอยู่ในกำมือ ลองลูบคลำเฉิบๆ อยู่หลายรอบก็ส่ายหน้า “ของเล่นเช่นนี้ยังจะเอาออกมาขู่คนอีกหรือ...”
เขากำโซ่ยาวนั้นไว้ด้วยสองมือ ไม่รู้ว่าใช้แรงอย่างไรถึงได้บีบโซ่เย็นะเืน่ากลัวให้กลายเป็แค่เศษเหล็ก เหมือนช่างฝีมือขึ้นรูป สบายๆ เสียยิ่งกว่าอะไรดี จากนั้นก็โยนทิ้งไปบนบันได เสียงเคร้งคร้างดังมาะเืใจคนหลายคนให้เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง
ชายเจดีย์ดำหน้าเปลี่ยนสุดโต่ง แววตาลึกๆ มีไออายเอ่อท่วม
“เมื่อไรกันหนอที่ทหารผู้เกรียงไกรรักษาอาณาจักรของจักรพรรดิกลายเป็หมาเฝ้าบ้านให้พวกชนชั้นสูงขุนเล่น พวกหมาแมวทั้งหลายนี่ระดมพวกทำร้ายชาวบ้านเขาไปทั่วได้ด้วยหรือนี่?” เ่ิูกอดไหเหล้าพิงบันได ว่าชัดถ้อยชัดคำ
“ไอ้เด็กขยะ เ้ากล้าดีอย่างไร ต่อหน้าแม่ทัพจางเหิงยังกล้าทำไม่รู้สี่รู้แปดอยู่อีก” ซุนอวี้หู่ะโอยู่ข้างชายเจดีย์ดำ นิ้วชี้เ่ิูแล้วร่ำๆ ด่า “ข้าจะบอกเอ็งให้รู้ วันนี้เอ็งตายแน่ รอจับเอ็งไปกรมทหารสอดแนมให้ได้ก่อนเถอะ ข้าผู้นี้จะเล่นฆ่าเวลา...ฆ่าเวลากับเอ็ง จนเอ็งจะเป็ก็ไม่เป็จะตายก็ไม่ตาย!”
“หลิวหยวนชั่งนี่ช่างโง่บรมเหลือเกิน ลูกโทนช่างก่อเื่ตายไปแล้วคนหนึ่ง ยังจะเก็บเด็กขี้ก่อหวอดอย่างเ้ามาทำพันธุ์อีก” เ่ิูพลิกมือตะครุบ
พลหอกทหารสอดแนมนายหนึ่งอุทานลั่น หอกแดงในมือหลุดลอยไป
เ่ิูยื่นมือกระชับหอกยาว พุ่งมันออกไปโดยไม่มองสักแวบ
หอกทะยานออกไปเป็เส้นโค้ง ไม่เร็ว เสือกตรงเข้าหาซุนอวี้หู่
ซุนอวี้หู่ตะลึง ตามจริงก็คิดจะหนี แต่พอนึกได้ว่าตนมีทหารกรมสอดแนมคอยให้ความคุ้มครองอย่างใกล้ชิด แม่ทัพเจดีย์ดำข้างกายจางเหิงก็เป็ยอดฝีมือวรยุทธ์ ไม่จำเป็ต้องกลัวอะไรสักนิด หอกเบาอ่อนเผละหอกเดียวแค่นี้ไม่มีทางระคายผิวเขาแน่
นึกถึงตรงนี้ ซุนอวี้หู่ก็ไม่หนี แต่กลับเดินเข้าหาก้าวหนึ่งอย่างวางอำนาจ
แม่ทัพเจดีย์ดำจางเหิงส่งเสียงฮึในลำคอ วาดมือตะปบหาหอกยาวที่พุ่งเข้ามา
ในใจเขาเริ่มจับที่มาที่ไปของเ่ิูไม่ออกแล้ว
บีบโซ่เหล็กหนาอย่างกับบีบก๋วยเตี๋ยว ย่อมบอกได้ชัดเจนว่าเ้าเด็กนี้แรงเยอะมาก ทว่าก็ไม่ได้สร้างแรงหวั่นกลัวอะไร เพราะคนแรงเยอะนั้น จางเหิงได้เห็นมานักต่อนักแล้ว ต่อให้เป็ศัตรูหรือไม่ เขาก็ไม่เคยกลัว เพราะจางเหิงไม่เพียงเป็ทหารในกรมสอดแนมเท่านั้น ยังเป็ทหารกองพลประจำเมืองลู่ิอีกด้วย ทว่าตอนนี้เด็กคนนี้กลับเอ่ยปากเยาะเย้ยเ้าสำมะโนประชาแห่งสำนักเ้าเมืองหลิวหยวนชั่ง หมายความว่ามีปัญหาตามมาแน่
ตอนนั้นเองที่จางเหิงเริ่มเสียดาย เพราะ้าประคบหลิวหยวนชั่งแท้ๆ ถึงได้พาคนมากับซุนอวี้หู่
แต่ตอนนี้ ซุนอวี้หู่มีอันตราย ใช่ว่าเขาจะนิ่งดูดายได้เสียเมื่อไหร่
สะบัดมือตะครุบแล้ว ฝ่ามือก็ััเข้ากับตัวหอกเย็นเยือก
จางเหิงมั่นใจในพลังของตัวเองยิ่งนัก
เขาคำนวณไว้แล้วว่าเมื่อทำลายหอกเดียวของเ้าหนุ่มนี้ได้ แล้วเขาควรจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไรดี ทว่าตอนนี้ เื่ที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดก็ได้บังเกิดขึ้นแล้ว ตัวหอกแดงชาดเริ่มโคจรในบัดดล พลังแกร่งกล้าภายในนั้นะเิออกมาแยกฝ่ามือของเขา
“ซวยแล้ว!”
จางเหิงะโลั่นในใจ
พริบตาต่อมา...
“อ๊ากกก...”
มองเห็นซุนอวี้หู่ตาถลนอย่างหวาดหวั่น หอกแดงชาดแทงทะลุไหล่ซ้ายของเขา กำลังเฉื่อยมหาศาลพาให้เขาถลาสู่เื้ั พุ่งเข้าชนทหารสอดแนมหลายต่อหลายคน หอกยาวนั้นก็ส่งเสียงดังตู้มในที่สุด เมื่อปักลงกับกำแพงดินห่างออกไปสิบเมตร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้