ชายหนุ่มทรุดกายลงกับพื้นอย่างรวดเร็วอย่างที่อาจเรียกได้ว่าตายแบบไร้สุ้มเสียง อวิ๋นซีจ้องมองเขา จากนั้นจึงแค่นเสียงเ็าแล้วถอดเสื้อผ้าเขาออกมาอย่างไม่เกรงใจก่อนจะนำมาสวมใส่เอง
หญิงสาวมองศพที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นโดยไม่แม้แต่จะส่งเสียงใด และทำเพียงดันร่างนั้นให้ออกไปอยู่ข้างพงหญ้าที่ด้านหนึ่งจากนั้นนางก็เดินอาดๆ ออกจากครัวไป ก่อนจะหันมองเรือนที่เงียบสงัดพลางนึกประหลาดใจคนพวกนี้หายไปที่ใดกัน
ทว่า เมื่อเดินไปได้พักหนึ่งในที่สุดก็เห็นคนสองคนเดินออกมาจากด้านในของห้องหนึ่ง คนสองคนนั้นกำลังพูดว่า“เ้าว่า พวกเราจะลำบากลำบนพาคนมาทำอันใด? ฆ่าทิ้งเสียเลยถึงจะถูกเพราะหากทำเช่นนั้นย่อมไม่นำพาปัญหายุ่งยากมากมายตามมาในภายหลัง”
“เ้าจะรู้อันใดพี่หญิงใหญ่น่ะ นางชอบหานอ๋อง คิดอยากจะถวายตัวให้หานอ๋องมานานแล้ว ยิ่งกว่านั้น ตอนที่คนเพิ่งมาถึงพี่หญิงใหญ่ก็อาบน้ำชำระกายรอแล้ว เมื่อครู่นี้จึงได้ให้คนพาหานอ๋องไปยังห้องของนางข้าคิดว่า พี่หญิงใหญ่คงอยากจะเป็สุขสักรอบก่อนที่หานอ๋องจะตาย”
“พี่หญิงใหญ่ชอบพอหานอ๋องนี่มันดอกไม้งามปักบนขี้วัว [1] ชัดๆ เพราะนอกจากสถานะหานอ๋องแล้วให้ข้าพูดตามจริงนะ คนแขนเล็กขาลีบเพียงนั้น เ้าว่าเขาจะทำให้พี่หญิงใหญ่พอใจได้หรือ? ”
“ใครจะรู้”
ระหว่างที่ฟังบทสนทนาของคนทั้งสองสีหน้าของอวิ๋นซีก็เปลี่ยนไปน้อยๆ หึหึ จวินเหยียนหนอจวินเหยียน ดูเหมือนว่าคนเย้ายวนฉูดฉาดเช่นท่านจะดึงดูดสาวๆมาได้ด้วยเหมือนกัน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ดวงตานางก็ฉายแววจิตสังหาร “หากท่านกล้ามีอันใดกับสตรีนางนั้นจริงๆละก็ หึ ลองดูสิว่าข้าจะกล้าตัดของของท่านออกมาหรือไม่”
เมื่อพูดจบนางก็มุ่งหน้าไปยังเรือนหลังอย่างเงียบเชียบ เพราะในเมื่อพี่หญิงใหญ่ที่สองคนนั่นกล่าวถึงเป็หัวหน้าดังนั้น ห้องพักของนางจักต้องเป็ห้องที่ดีที่สุดในเคหาสน์หลังนี้อย่างแน่นอน และด้วยการคาดเดานี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ภายใน่เวลาสั้นๆ อวิ๋นซีก็สามารถหาห้องของอีกฝ่ายเจอ ซึ่งห้องนี้ยังมีข้อดีอีกประการหนึ่งก็คือด้านหลังนั้นเป็สวนไผ่ที่เมื่อเปิดหน้าต่างออกไปก็จะพบสวนไผ่ที่รกทึบ
อวิ๋นซีหยุดยืนอยู่บริเวณนี้เองนางสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างภายในห้องได้อย่างชัดเจน
ยามนี้จวินเหยียนที่สวมชุดดำถูกคนมัดไว้อย่างแ่าอยู่บนพื้นขณะนั้นสตรีในอาภรณ์บางเบาผู้หนึ่งก็กำลังเดินเข้าหาเขา นางยื่นมือออกไปเชยคางจวินเหยียนขึ้นจากนั้นก็หัวเราะหึหึออกมา “หานอ๋อง เกรงว่าท่านคงคิดไม่ถึงละสิว่า จะเป็ข้า”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินเสียงเอื้อนเอ่ยนั้นก็ให้รู้สึกสนุกขึ้นมาทันใดดูท่าอีกฝ่ายน่าจะเป็คนรู้จักเก่าของเขา ถึงกระนั้นนางก็ทำได้เพียงยืนกอดอกรับชมละครฉากนี้อยู่ด้านนอกอย่างอดทน
“เปิ่นหวางคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็คนทรยศเช่นเ้า” ไม่กี่เดือนก่อนเขาได้รับาเ็เหตุเพราะในบรรดาคนติดตามของเขามีบางคนที่คิดคดทรยศ ซึ่งคนคนนั้นก็คือสตรีที่เขาฝึกฝนมากับมือคนนี้
สตรีผู้นี้รู้ว่าเขาคือฉินเหยียนทั้งยังรู้สถานะที่แท้จริงว่าตัวเขานั้นก็คือโอวหยางจวินเหยียน ทว่า ในตอนนั้นไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจทั้งที่การปฏิบัติต่อลูกน้องของเขาก็นับว่าไม่เลว แต่นางกลับมีใจคิดทรยศ ถึงกระนั้นตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะได้คำตอบของคำถามนั้นแล้ว
“หากไม่ใช่เพราะท่านที่บังคับข้าก่อนแล้วข้าจะไปทรยศท่านได้เยี่ยงไร” สตรีคนนั้นบีบคางชายหนุ่มพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเ็า“ข้ารักท่านเพียงนั้น คอยติดตามอยู่ข้างกายท่านมาหลายปี ยอมให้ท่านได้กระทั่งชีวิตตนส่วนข้าหวังเพียงจะได้เป็สตรีของท่าน แต่ท่านกลับไม่แม้แต่จะมองข้าเลยสักนิด ช่างเถิดหากชั่วชีวิตนี้ท่านเลือกที่จะอยู่อย่างเดียวดายแต่แรก ตัวข้าก็คงไม่มีใจจะทรยศแต่ท่านกลับทำในสิ่งที่ไม่สมควรกระทำอย่างที่สุด นั่นก็คือ ท่านเลือกที่จะััเสี้ยนโหรวขณะที่ปฏิเสธข้า”
จวินเหยียนขมวดคิ้ว“เปิ่นหวางไปััเสี้ยนโหรวั้แ่เมื่อใดกัน? ”
เสี้ยนโหรวและสตรีตรงหน้าผู้มีนามว่าอวี่โหรวถูกฝึกฝนมาด้วยกันกับพวกเพ่ยเอ๋อร์ เพียงแต่เพ่ยเอ๋อร์และคนอื่นๆนั้นอายุน้อยกว่าสักหน่อย ส่วนเสี้ยนโหรวและอวี่โหรวมีอายุมากกว่า
ตอนนี้เสี้ยนโหรวได้ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการค้าและรวบรวมข่าวสารที่เมืองหลวงด้วยหน้าที่เหล่านี้แสดงให้เห็นชัดว่า นางเป็คนที่เขาค่อนข้างเชื่อใจ
“เมื่อครึ่งปีก่อนที่เมืองหลวง ในคืนนั้นเดิมทีข้าคิดจะไปหาเสี้ยนโหรว แต่ใครเล่าจะรู้ว่า เมื่อไปถึงจะได้พบท่านอยู่ในห้องของเสี้ยนโหรวยามนั้นข้าใจนรีบละจากไป กระทั่งสงบจิตสงบใจได้แล้วจึงย้อนกลับไปดูอีกหนหนึ่ง ทว่าเมื่อไปถึงอีกครั้ง ในห้องนั้นกลับมีเสียงรักใคร่ของพวกท่านดังลอดออกมา หึหึข้าและนางเริ่มติดตามท่านมาพร้อมๆ กัน แล้วท่านมีสิทธิ์อะไรถึงไปรักใคร่เพียงนาง ท่านรู้หรือไม่ตัวข้านี้รักท่านมากกว่าที่นางรักท่านมากนัก” อวี่โหรวพูดราวกับคนบ้าคลั่ง“พวกท่านคนหนึ่งเป็พี่น้องที่แสนดีของข้า ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นายของข้าแต่พวกท่านทั้งสองกลับปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ ในสถานการณ์นี้ หากข้ายังจะยอมขายชีวิตเพื่อท่านตัวข้าก็คงเป็คนโง่แล้ว”
อวิ๋นซีที่แอบฟังอยู่ด้านนอกสีหน้าถึงกับเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า ครึ่งปีก่อน ที่เมืองหลวง? หึหึ จวินเหยียน ท่านนี่ช่างวาสนาดีเสียจริง คิดอยากจะโอบซ้ายโอบขวา?
“ในคืนนั้นนอกจากข้าแล้วก็ยังมีเว่ยหลงอยู่ด้วยอีกคน” จวินเหยียนพูดเรียบๆ เพราะความจริงแล้วเสี้ยนโหรวนั้นชอบเว่ยหลงส่วนเว่ยหลงเองก็ชอบเสี้ยนโหรวเช่นกัน และมีแต่เขาที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วเ้าเว่ยหลงนั่นจะไปถึงขั้นนั้นกับเสี้ยนโหรวแล้วช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ
“หึหึถึงตอนนี้แล้ว ท่านก็ยังคิดจะผลักไสเื่ราวทั้งหมดไปให้เว่ยหลงอีกหรือ เหมาะสมแล้วหรือ?แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ว่าอย่างไร ก่อนที่ท่านจะตาย หากข้าได้ท่านสำหรับข้าแล้ว ชีวิตนี้ก็นับว่าไม่ขาดทุนเลยสักนิด” เมื่อพูดจบอวี่โหรวก็ถอดอาภรณ์บางเบาของตนออก “ข้าได้ยินมาว่า ยามนี้ท่านแต่งงานแล้ว พระชายาของท่านเป็แค่หมอหญิงชั้นต่ำผู้หนึ่งข้าอยากรู้นักเชียวว่ารูปร่างของหมอหญิงผู้นั้นจะดูดีกว่า หรือเป็รูปร่างของอวี่โหรวที่น่ามองมากกว่า”
เมื่อพูดจบนางก็นั่งลงบนพื้นพลางมองจวินเหยียนด้วยสายตายั่วยวนที่อาจเรียกได้ว่าเป็สายตาที่ชวนให้คลื่นอารมณ์ซัดสาดดังทะเลยามลมกระโชก ทว่า ช่างน่าเสียดายที่จวินเหยียนไม่ได้มองนางแม้แต่น้อยเขาปิดเปลือกตาทั้งสองข้าง อย่างไรเสีย โชคไม่ดีเท่าไรที่ระหว่างทางที่เขาถูกพาตัวมาสตรีสมควรตายนี่ได้วางยาผงเอ็นอ่อนแก่เขา มิเช่นนั้นตอนนี้นางคงไม่ได้มีเวลามาโอหังอยู่ที่นี่
“ไม่ดูหรือ? ” อวี่โหรวหัวเราะหึหึ “ไม่เป็ไร อีกเดี๋ยว ท่านก็จะต้องร้องขอเพื่อมองดูข้าเองนั่นแหละได้กลิ่นหอมๆ นี่แล้วหรือไม่ นี่เป็ สิ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านโดยเฉพาะข้าอยากจะดูเสียหน่อยว่า ตอนท่านอยู่บนเตียงจะเหมือนกันกับตอนที่ท่านสังหารคนหรือไม่จะทำให้คนหลงใหลเช่นกันหรือไม่”
“ชั้นต่ำ! ”จวินเหยียนพูดเ็า
“ชั้นต่ำ? ก็ชั้นต่ำจริงๆนั่นแหละ เพียงเพื่อจะได้ตัวท่านมา ข้าต้องเปลืองสมองไปมากมาย” เมื่อคิดมาถึงตรงนี้มือทั้งคู่ของนางก็ประคองใบหน้าเขาไว้ เพื่อให้เขาได้มองนางตรงๆ “ท่านวางใจได้ รอให้ข้าได้นอนกับท่านจนเบื่อแล้วข้าก็จะให้คนไปช่วยดูแลพระชายาตัวน้อยของท่านให้ดี”
“หากเ้ากล้าแตะนางแม้แต่ปลายขนเปิ่นหวางจะหั่นเ้าเป็หมื่นเป็พันชิ้น”
หึหึอวี่โหรวมองเขา หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ต่อให้ข้าไม่ส่งคนไปดูแลนางให้ดีๆ ท่านก็จะไม่ปล่อยข้าไปอยู่ดีดังนั้น ในเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ข้าถึงได้ตั้งใจจะให้ตนได้สมปรารถนาก่อน จากนั้นก็ค่อยไปดูแลสตรีที่ได้ตบแต่งให้ท่านอย่างถูกต้องนั่นให้ดีๆ”
เมื่อจวินเหยียนได้ยินถึงตรงนี้ความโกรธในอกก็พุ่งทะยาน เขากัดฟัน รวบรวมกำลังภายในและออกแรงดิ้นรน ไม่นานเชือกที่มัดตัวเขาไว้ก็ขาดออกจากกันชายหนุ่มไม่แม้แต่จะคิดก็ถีบไปบนร่างของอวี่โหรว จนเป็เหตุให้สาวงามรูปร่างสะท้านใจถึงกับล้มหน้าคะมำไปก้อนเนื้อนิ่มทั้งสองปะทะเข้ากับพื้นโดยแรง ทำให้คนเจ็บเสียจนสีหน้าบิดเบี้ยว
“ท่าน ท่านฝืนเคลื่อนไหวลมปราณไม่้าชีวิตแล้วหรือ” นางกัดฟัน ลุกขึ้นมองบุรุษตรงหน้า“เพราะกังวลว่าข้าจะทำร้ายสตรีนางนั้นสินะ ท่านถึงได้ไม่้าแม้แต่ชีวิตของตนแล้ว”
“ไม่มีคนเคยบอกเ้าหรือว่านางเป็ดังชีวิตของเปิ่นหวาง? ” เมื่อพูดจบจวินเหยียนก็เดินไปหาอวี่โหรวทีละก้าวทีละก้าว ท่าทางเช่นนั้นราวกับแทบอดรนทนไม่ไหวอยากจะสังหารสตรีที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำผู้นี้เสียเดี๋ยวนี้
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] ดอกไม้งามปักบนขี้วัว(一朵鲜花插在牛粪)เปรียบเทียบถึงชายหญิงที่ไม่เหมาะสมกันคือฝ่ายหญิงมีภาษีดีกว่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้