ไม่จำเป็ต้องอธิบายอะไรสำหรับกีฬาประเภทลู่และลาน
ทว่าสำหรับ ‘IPSC’ นี้แม้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่รู้จักเช่นกัน
เห็นฝั่งนั้นจัดกองทัพพร้อมลงสนามรบแล้ว หนิงเสวี่ยจึงอธิบายเกร็ดความรู้ให้แก่ทุกคนอย่างว่องไวเช่นกัน
IPSC คือชื่อย่อของ ‘การแข่งขันยิงปืนรณยุทธนานาชาติ’ ซึ่งแตกต่างจากการยิงเป้านิ่งในการแข่งขันโอลิมปิกที่้าเพียงระดับความแม่นยำบนเป้าเท่านั้น แต่ IPSC นี้คือ ‘การยิงปืนเชิงยุทธวิธี’ เป็กีฬายิงปืนซึ่งเกิดจากการต่อสู้จริง แสวงหาความเป็หนึ่งเดียวระหว่างความเร็วกับความแม่นยำในสภาวะที่ร่างกายเคลื่อนไหว แม้สมาคม IPSC จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นที่รัฐมิสซูรีในปี 76 ทว่าใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมากีฬาชนิดนี้ก็ได้รับความนิยมจากผู้ชื่นชอบการยิงปืนทั่วโลก และเติบโตอย่างรวดเร็วฉับไว
ในด้านนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยััมาก่อนเลยในทั้งสองชีวิต เธอเองก็ไม่ใช่บุคคลที่เชี่ยวชาญไปเสียทุกอย่างนี่นา
เมื่อวานซืนฝึกยิงปืนเป็ครั้งแรก คนอื่นๆ ยกปืนไรเฟิลขึ้นด้วยท่าทางเงอะงะเพียงใด เซี่ยเสี่ยวหลานก็เป็มือใหม่ไม่ต่างกัน
สิ่งที่ประหลาดคือ ตอนยิงเป้าหนิงเสวี่ยทำได้ธรรมดามากเช่นกัน ทว่าเธอรู้จักการแข่งขันยิงปืนระดับนานาชาติประเภทนี้ดียิ่งนัก หรือนี่จะเป็หน่วยความจำอันแข็งแกร่งที่เก็บความรู้ทุกแขนงไว้ของยอดนักเรียนตัวจริง?
ความคิดนี้แค่แวบมาและแวบไปเท่านั้น เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานเริ่มรู้สึกกังวลแทนโจวเฉิงนิดหน่อยแล้วน่ะสิ
เห็นได้ชัดว่าการต่อต้านของเหล่านักศึกษาชายมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้า สยฺงไป่เหยียนกับจี้เจียงหยวนต้องเป็ ‘ผู้เข้าแข่งขันตัวเต็ง’ ที่ถูกเลือกเฟ้นมาอย่างรอบคอบแล้วอย่างแน่นอน สำหรับนักศึกษาหัวชิง เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยกล้าประมาทศักยภาพของพวกเขาแม้แต่น้อย ในที่นี้มีหลายคนที่เก่งรอบด้าน กล่าวได้ว่าเป็เสือที่กำลังหมอบและัที่กำลังเร้นกายอยู่นั่นเอง
เซี่ยเสี่ยวหลานจะวิ่งไปเตือนโจวเฉิงต่อหน้าสาธารณชนก็ไม่ได้ ต้องขอบคุณ ‘ความเที่ยงตรง’ ของโจวเฉิง เพราะไม่มีนักศึกษาคนไหนสงสัยว่าโจวเฉิงกับเธอรู้จักกัน การมีปฏิสัมพันธ์กับเธอไม่กี่ครั้งของโจวเฉิงล้วนมีเหตุผลที่เพียงพอ และเวลายังสั้นมากอีกด้วย
เื่หัวหน้าครูฝึกคือแฟนหนุ่มของตนนี้ เมื่อจินตนาการแล้วดูหวานซึ้งไม่ใช่น้อย
อันที่จริงเพราะมีระเบียบวินัยคอยจำกัดอยู่ โจวเฉิงจึงไม่แสดงความรักกับเซี่ยเสี่ยวหลานในระหว่างการฝึกทหาร
และเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่เปิดเผยสถานะของทั้งสองด้วยเช่นกัน
บนสนามในขณะนี้ พวกเขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ยืนล้อมอยู่บริเวณข้างสนามเหมือนคนอื่น ผู้ตัดสินคือครูฝึกหลีที่รับผิดชอบฝึกหมู่ของพวกเซี่ยเสี่ยวหลาน
“สู้เขาครูฝึกโจว!”
“สยฺงไป่เหยียนนายทำได้!”
“สยฺงไป่เหยียน พยายามเข้านะ!”
ไม่รู้ว่าใคระโนำเป็เสียงแรก ทว่าเสียงนั้นราวกับกำลังแหย่รังต่อเลยทีเดียว ด้านจำนวนคน นักศึกษาที่มาฝึกทหารเยอะกว่าจำนวนครูฝึกยิ่งนัก หลังผ่านการร้องเพลงทหารและะโขานรับในสองสามวันนี้ เสียงของพวกเขาได้รับการฝึกฝนจนเปี่ยมไปด้วยพลังแล้ว จึงสามารถข่มคณะให้กำลังใจครูฝึกได้อย่างไร้ความปรานี!
“สู้ๆ ! สู้ๆ !”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กล้าใส่ชื่อลงในคำให้กำลังใจนี้ด้วยซ้ำ การให้กำลังใจโจวเฉิงคือการทรยศต่อกองทัพหัวชิง และหากเธอให้กำลังใจสยฺงไป่เหยียน โจวเฉิงจะโกรธเป็ฟืนเป็ไฟเอาได้
อีกอย่างประธานเซี่ยรู้สึกสับสนยิ่งนัก
เธอหวังให้โจวเฉิงชนะในฐานะที่เธอเป็แฟนสาวของเขา อีกทั้งต้องชนะอย่างงดงามด้วย
ทว่าสองสามวันมานี้เธอเพิ่งกลมกลืนเข้าเป็ส่วนหนึ่งของกลุ่ม การฝึกทหารก่อให้เกิดความรักในศักดิ์ศรีพวกพ้อง... ตอนนี้สยฺงไปเหยียนกำลังเป็ตัวแทนให้มหาวิทยาลัยหัวชิง เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่อยากให้เขาแพ้เช่นกัน! ทำไมภาพยนตร์แนวอาชญากรรมในอนาคตถึงสอดแทรกฉากของสายลับไว้มากมายน่ะหรือ ขณะนี้เซี่ยเสี่ยวหลานตระหนักแก่ใจได้แล้วว่าเธอก็คือ ‘สายลับ’ ผู้มีสองจิตสองใจอยู่ตรงกลางระหว่างโจวเฉิงกับศักดิ์ศรีพวกพ้อง
10 กิโลเมตร หรือก็คือ 25 รอบ!
สิ่งที่แข่งขันไม่ใช่เพียงความเร็ว แรงออกตัวที่ทรงพลังนั้นไร้ประโยชน์ สิ่งสำคัญคือต้องมีความทนทานด้วย
หลังทั้งสองอบอุ่นร่างกายเสร็จ ครูฝึกหลีก็ได้หยิบนกหวีดขึ้นมา “ฟังเสียงนกหวีดจากผมนะ เตรียม—ไป!”
รอบที่หนึ่ง 1 ความเร็วของทั้งสองแทบไม่แตกต่างกันสักเท่าไร
รอบที่ 2 รอบที่ 3 ผ่านไป... จนกระทั่งวิ่งถึงรอบที่ 15 สยฺงไป่เหยียนดูเหมือนจะเริ่มเหนื่อยแล้ว ลมหายใจเริ่มไม่เป็จังหวะ โจวเฉิงคิดกับตัวเอง นักศึกษารายนี้สามารถวิ่งตั้งหลายรอบด้วยความเร็วคงที่ได้มาโดยตลอด กำลังกายน่าจะลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว 15 รอบก่อนหน้าหมดแรงไปครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยืนหยัดผ่าน 10 รอบที่เหลือได้ ยิ่งเข้าสู่่ท้ายเรี่ยวแรงยิ่งลดลงไว
เมื่อโจวเฉิงประเมินความสามารถของคู่แข่งได้แล้ว เขาก็รู้สึกเบาใจขึ้นเล็กน้อย
เขามองเห็นเสี่ยวหลานยืนอยู่ข้างสนาม แทรกตัวอยู่กับเหล่านักศึกษาหญิง ทว่ากลับสะดุดตาเสียเหลือเกิน
บนใบหน้าของเสี่ยวหลานมีความกังวล ในเวลานี้ โจวเฉิงััได้อย่างชัดเจนว่าเสี่ยวหลานชอบเขา แน่นอนว่าเขาได้รับจดหมายฉบับนั้นแล้ว ความยินดีที่จะมาฝึกทหารนั้นหายไปมากกว่าครึ่ง เขาเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเหตุการณ์ไม่ขอโทษจะนำมาซึ่งการตอบสนองที่รุนแรงของครอบครัวเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ให้เขาหยุดทำธุรกิจข้างนอก ท่าทีของคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงจากชื่นชมเสี่ยวหลานกลายเป็ไม่เห็นชอบให้พวกเขาคบหากัน
แน่นอนว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ได้กำลังขอให้เขาเลือก แต่กระนั้นโจวเฉิงก็ยังคิดไม่ตกว่าจะตอบเธออย่างไรดี
กระแสความคิดของเขาล่องลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ พอรู้สึกตัวอีกที พบว่าเขาตามหลังแทนแล้ว
ที่แท้เขายังคงรักษะระดับความเร็วเดิมเอาไว้ เนื่องจากประเมินแล้วว่าสยฺงไป่เหยียนเหลือเรี่ยวแรงไม่มากพอ เขาจึงประมาทศัตรู แม้สยฺงไป่เหยียนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วในรอบที่ 19 โจวเฉิงก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าการทำเช่นนี้เป็การกระเสือกระสนก่อนตายของสยฺงไป่เหยียน สุดท้ายพอออกแรงอีกหน่อยก็จะวิ่งไม่ไหวแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่ามันไม่เป็เช่นที่คิด สยฺงไป่เหยียนเพิ่มความเร็วทีละน้อยตลอดทาง จนเมื่อถึงรอบที่ 22 กลับนำหน้าโจวเฉิงไปครึ่งรอบ!
อีกฝ่ายไม่ได้ลดความเร็ว แต่กลับเพิ่มความเร็วขึ้น เพิ่มความเร็วในสองรอบครึ่งสุดท้าย?
โจวเฉิงรีบเร่งความเร็วขึ้นทันที สยฺงไป่เหยียนแสดงพลังกะทันหัน จนเข้าสู่รอบที่ 24 โจวเฉิงถึงตามสยฺงไป่เหยียนทัน ความเร็วของคนทั้งสองช่างสูสีกันยิ่งนัก ทุกคนที่อยู่ข้างสนามกำลังโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าเพศหรือสาขาวิชาอะไรล้วนไม่สำคัญทั้งสิ้น สยฺงไป่เหยียนคือนักศึกษาหัวชิง การประลองกับโจวเฉิงครั้งนี้ทำให้ความกระตือรือร้นของทุกคนเดือดพล่าน
รอบที่ 25 รอบสุดท้ายโจวเฉิงนำสยฺงไป่เหยียนหนึ่ง่ตัว ก่อนที่หน้าอกของเขาจะแตะเส้นแดงก่อน
หัวใจของครูฝึกหลีใกล้กระเด้งออกมาแล้ว ถ้าโจวเฉิงแพ้ อีกหลายวันที่เหลือนักศึกษาพวกนี้คงไม่เชื่อฟังการอบรมฝึกฝนโดยดีอีกต่อไป!
เคราะห์ดี หัวหน้าครูฝึกโจวชนะในวินาทีสุดท้าย!
ครูฝึกหลีรีบเป่านกหวีดทันที
“ครูฝึกโจวชนะ!”
“เฮ้อ อีกนิดเดียว!”
“เหล่าสยฺงพลาดแค่นิดเดียวเท่านั้น”
“ขนาดหัวหน้าครูฝึกยังเกือบเอาชนะได้ เหล่าสยฺงสุดยอดไปเลยนะ!”
แม้สยฺงไป่เหยียนจะแพ้การแข่งขันในครั้งนี้ ทว่ายังคงทรงเกียรติ อย่างน้อยคนนอกคิดว่าสยฺงไป่เหยียนเกือบเอาชนะโจวเฉิงได้แล้ว ความสามารถของโจวเฉิงก็ไม่ได้วิเศษวิโสขนาดนั้นนี่นา เนื่องจากสองรอบสุดท้ายเป็การเร่งความเร็วทุ่มสุดแรง ทั้งสองคนจึงหายใจหอบออกมา ดูไม่ออกว่าแม้แต่น้อยว่าเรี่ยวแรงของใครถูกผลาญไปมากกว่ากัน
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกโล่งใจเช่นกัน
แม้จะรู้สึกผิดต่อศักดิ์ศรีของพวกพ้องยิ่งนัก แต่เธอดีใจมากที่โจวเฉิงชนะ
จี้เจียงหยวนก้าวออกมาจากฝูงชน “ครูฝึกโจว ผมไม่เอาเปรียบคุณด้านกำลังกาย รอคุณพักสักครึ่งชั่วโมง จากนั้นพวกเราค่อยแข่งยิงเป้านิ่งกันเถิด”
IPSC เป็กีฬายิงปืนที่จำลองสถานการณ์ต่อสู้จริง จี้เจียงหยวนไม่หวั่นเกรงเป้าเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ เป้านิ่งจึงยิ่งมีความมั่นใจมากกว่าเดิม
โจวเฉิงมองจี้เจียงหยวน เ้าหนุ่มนี่มีชื่อเสียงในหมู่นักศึกษาใหม่ทีเดียว ถ้าเขาสามารถชนะจี้เจียงหยวน คนอื่นก็จะอ่อนน้อมต่อการฝึกระเบียบวินัยยิ่งขึ้น โจวเฉิงไม่โกรธเคืองที่มีคนเสนอการแข่งขัน ที่นี่ใช้ความสามารถเป็ตัวตัดสิน คนเก่งได้รับการยอมรับ ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย
“ไม่ต้องพักหรอก รีบแข่งให้จบเถิด พวกคุณยังต้องฝึกต่อ!”
เซี่ยเสี่ยวหลานกระวนกระวายไปก็ไม่มีประโยชน์
โจวเฉิงและจี้เจียงหยวนยืนอยู่บนสนามยิงปืนแล้ว
จี้เจียงหยวนบอกว่ากฎการแข่งขันยิงปืนมาตรฐานนั้นยุ่งยากเกินไป ยิงสามนัดตัดสินแพ้ชนะดีกว่า
ท่าทางแบกปืนของเขาช่างหล่อเหลาเหลือร้าย นักศึกษาจี้ดึงดูดแฟนคลับได้นับไม่ถ้วนจริงๆ
โจวเฉิงตอบกลับอย่างเฉยเมย “ได้”
“ขอเชิญหัวหน้าครูฝึกโจวก่อนครับ”
นักศึกษาจี้เจียงหยวนปฏิบัติตามมารยาท สามนัดนี้ของโจวเฉิงดูสบายยิ่งนัก เขาสามารถถอดและประกอบปืนอีกครั้งทั้งที่หลับตาอยู่ได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการยิงเป้านิ่ง!
“ปัง! ปัง! ปัง!”
สามนัดติดต่อกัน ทุกนัดเข้าใจกลางเป้า
เหล่าครูฝึกโห่ร้องด้วยความยินดี จี้เจียงหยวนยกนิ้วโป้งให้โจวเฉิงเช่นกัน สามนัดจี้เจียงหยวนใช้เวลาเตรียมพร้อมพอสมควร หลังเล็งเป้าหมายมั่นแล้ว สามนัดของจี้เจียงหยวนก็โดนใจกลางเป้าสีแดงทั้งหมด ครูฝึกหลีถึงกับตะลึง การยิงเป้านี้ไม่จำกัดเวลา แม้โจวเฉิงจะใช้เวลาสั้นกว่า ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายเหมือนกับของจี้เจียงหยวน
พอคำนึงถึงสถานะของทั้งสองฝ่ายอีกที ถ้าจะใช้ความแตกต่างกระจิริดนี้มาตัดสินว่าโจวเฉิงชนะ ดูท่าจะเป็การเอาเปรียบนักศึกษามากเกินไปแล้ว
“เสมอ”
เสมอกัน!
โจวเฉิงประหลาดใจจริงๆ ทักษะการยิงปืนของนักศึกษาคนนี้เหนือการคาดการณ์ของเขายิ่งนัก
ต้องจับปืนไม่ต่ำกว่าสองสามปี อีกทั้งต้องฝึกฝนเป็ประจำ ถึงจะชำนาญและแม่นยำได้ขนาดนี้
ถ้าเป็เช่นนั้น นักศึกษาที่สอบติดหัวชิงคนหนึ่ง ไม่ตั้งใจทบทวนเพื่อสอบเกาเข่า กลับฝึกยิงปืนแทน? โจวเฉิงอดไม่ได้ที่จะเพ่งพินิศจี้เจียงหยวน เขาไม่รู้จักนักศึกษาชายคนนี้จริงๆ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดที่ผู้บังคับบัญชาหลี่ประจำหน่วยกล่าวตอนบอกว่าจะส่งเขามานำการฝึกทหารที่นี่ โจวเฉิงก็รู้สึกใเล็กน้อย
ผู้บังคับบัญชาหลี่กล่าวว่า ‘เรียนรู้จากกันและกัน ก้าวหน้าไปพร้อมกัน!’
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้