บอกตามตรง เมื่อคืนนี้ฉินหลางนอนได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าตอนเที่ยงคืน เขาฝันถึงเถารั่วเซียงอีกแล้ว และในฝันของเขาครั้งนี้ ‘ซาตาน’ ที่อยู่ในใจเขาเป็ฝ่ายชนะ เขาก็ทำเื่ที่ทำกับเถารั่วเซียงบนยอดเขาชิงหยุ๋นอีกครั้ง และครั้งนี้เขาทำเื่ที่ยังทำไม่เสร็จนั้นต่อจนเสร็จไปหนึ่งรอบ ออกมาเป็ยังไงก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่ ถึงแม้ตอนที่…ในฝันนั้นเขาจะทั้งสำราญใจและอิ่มเอมใจมาก แต่ในตอนที่ฉินหลางรื่นเริงจนอิ่มเอิบจนถึงขีดสุดแล้ว เขากลับตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะเขาตระหนักได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เขาจึงท่อง ‘อามิตาพุทธ’ อย่างบ้าคลั่ง หวังว่าจะสงบจิตสงบใจลงได้บ้าง *มาถึงหน้าผาแล้วหันม้ากลับ จะได้ไม่ต้องอายคน
แต่ฉินหลางพ่ายแพ้แล้ว
ถึงแม้ ‘ไม่ได้ใช้มือ’ ช่วยตำ แต่อวัยวะบางส่วนของฉินหลางก็ยุ่งอย่างบ้าคลั่งราวกับูเาไฟปะทุออกมาหนึ่งน้ำ กางเกงในฉินหลาง รวมไปถึงผ้าปูที่นอนและผ้านวม ต่างก็โดนฉินหลางละเลงน้ำใส่เรี่ยราดจนเฉอะแฉะไปหมด หลังเที่ยงคืนฉินหลางแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่น่าเบื่อมากกว่ายังยุข้างหลัง
เพียงแต่สิ่งที่ฉินหลางไม่ได้รับรู้หลังจากนี้ คือตอนเซียหญิงเลี๋ยนจัดที่นอนให้ฉินหลางตอนเช้า จู่ๆ เธอก็เรียกฉินหนานมา จากนั้นชี้ที่คราบเลอะเทอะเปรอะเปื้อนบนที่นอน พูดอย่างมีชีวิตชีวาว่า “ที่รักคะ คุณดูฝีมือของลูกเราสิ ยังต้องห่วงเขามีปัญหาทางจิตอยู่รึเปล่า?”
ฉินหนานขยับแว่น ตรวจดูอย่างละเอียด แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “อืม น่าจะไม่มีปัญหาอะไร และดูจากปริมาณของน้ำพวกนี้ มากกว่าตอนผมยังหนุ่มซะอีก แสดงว่าร่างกายเขาเจริญเติบโตได้ดีมาก เราไม่ต้องเป็ห่วงมากแล้ว”
ยังดีที่ฉินหลางไม่ได้เห็นฉากนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะตะลึงงันไปเลยก็ได้
เมื่อคืนนี้ฉินหลางนอนไม่ค่อยหลับ แต่ว่าคืนนี้มีคนอีกมากมายในเมืองเซี่ยหยางนอนหลับไม่สบายด้วย
เถารั่วเซียงก็เป็หนึ่งในนั้น ถึงแม้ว่าฉินหลางจะถอนพิษของเธอไปแล้ว แต่ว่าเธอกลับจำทุกอย่างที่เธอทำตอนยาออกฤทธิ์บนเขาชิงหยุ๋นได้ชัดเจน และฉากนั้นด้วยแล้ว ทำให้เธอละอายใจมาก ยิ่งเป็นักเรียนของเธอด้วยแล้ว นั่นยิ่งทำให้เธอเอียงอายเป็ที่สุด
พูดจากใจจริง เถารั่วเซียงรู้สึกว่าฉินหลางค่อนข้างดูดี รูปร่างหน้าตาล้วนดูดี และที่สำคัญเขายังเป็คนดีมากด้วย ถึงขั้นยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อเถารั่วเซียง แต่ว่า เธอกลับโตกว่าฉินหลางตั้งสามปี และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ เธอดันเป็อาจารย์ของฉินหลาง ในฐานะครูบาอาจารย์ เธอจะชอบนักเรียนของตัวเองได้อย่างไร?
แต่ฉินหลางเป็ผู้ชายที่เอาจูบแรกของเธอไปนะ ไม่สิ เธอเป็คนเอาจูบแรกของตัวเองใส่พานถวายให้ฉินหลางเองต่างหาก!
สรุปแล้ว เถารั่วเซียงพลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับทั้งคืน ไม่รู้ว่าต่อไปเธอจะเผชิญหน้าฉินหลางยังไง
เช่นเดียวกับฮานซานฉาง กระทิงและพวก สองคนนี้จับมือกัน บวกกับ ‘อาวุธ’ ที่ฉินหลางให้ฮานซานฉางไป ทำให้ลูกน้องของฮานซานฉางเอาชนะอิทธิพลของซางคุนได้อย่างง่ายดาย ทำให้ตอนนี้ในวงการมาเฟียและกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในเมืองเซี่ยหยาง เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เพียงแต่สุดท้ายซางคุนถูกส่งตัวให้เ้าหน้าที่ตำรวจตามคำสั่งของฉินหลาง
เพราะว่าอันเต๋อเซิ่งผู้ที่อยู่เื้ัตัวจริงได้ ‘หายสาบสูญ’ ไปจากโลกนี้แล้ว ทางตำรวจ้าหัวหน้ารองลงมาเพื่อมารับโทษนี้แทน ไม่อย่างนั้น ปฏิบัติการกวาดล้างมาเฟีย และเหล่าอิทธิพลมืดที่หวูเหวินเซี่ยงเป็คนสั่งการจะปิดได้ไม่สวยเท่าที่ควร
ข่าวการจับกุมซางคุน อย่างน้อยหวูเหวินเซี่ยงกับจ้าวจื้อเหว่ย ต้องได้ออกทีวีของเมืองเซี่ยหยาง และได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่
และก็เป็อย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้ฉินหลางจะคิดว่าหนังสือพิมพ์เมืองเซี่ยหยางส่วนใหญ่มีแต่เื่ไร้สาระ ขนาดซื้อมาทำกระดาษทิชชู่เขายังรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าเลย ทว่าเช้าวันรุ่งขึ้น เขายอมเสียเงินซื้อหนังสือพิมพ์มาหนึ่งฉบับ พาดหัวข่าวเื่หวูเหวินเซี่ยงนำทีมเข้ากวาดล้างมาเฟีย และเหล่าอิทธิพลมืด กำจัดซางคุน นอกจากนี้ยังมีชื่อและรูปของตำรวจแกะดำ ฉินหลางสังเกตแกะดำเหล่านี้อย่างละเอียด เขารู้ว่าคนพวกนี้เป็เพียงส่วนน้อยเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าหวูเหวินเซี่ยงใช้หลักฐานที่ฉินหลางให้ไป สร้างประโยชน์ให้ตัวเองไม่น้อยเลย กวาดล้างคู่ต่อสู้ทางการเมือง และสร้างรากฐานอำนาจของตัวเองให้มั่นคงมากขึ้น
หากแต่ฉินหลางไม่สนใจาทางการเมืองพวกนี้ เขาซื้อหนังสือพิมพ์นี้ เพราะ้ามั่นใจว่า หวูเหวินเซี่ยงได้ผลประโยชน์จากการกวาดล้างมาเฟีย และเหล่าอิทธิพลมืดครั้งนี้มากอย่างที่เขาคิดไว้หรือเปล่า
เพราะเื่ที่เขาจะทำหลังจากนี้ ฉินหลางยังต้องอาศัยอำนาจ และอิทธิพลของหวูเหวินเซี่ยงอยู่
เขารู้ว่า ภารกิจที่ตาเฒ่าพิษมอบหมายให้ฉินหลางมานั้น ยังมีอีกครึ่งที่เขายังทำไม่สำเร็จ!
ดังนั้นหลังจากจบคลาสทบทวนบทเรียนตอนเช้า ฉินหลางไปที่วังัทอง ลากฮานซานฉางที่เมาหลับเป็ตายอยู่ลุกจากที่นอน
เมื่อคืนนี้หลังจากฮานซานฉางเอาชนะซางคุนได้อย่างขาดลอยแล้ว ฮานซานฉางก็กลับไปฉลองชัยกับลูกน้อง เขาดื่มเหล้าเยอะมาก…เยอะ…จนเมาหลับไป แต่จู่ๆ ก็มีคนปลุกเขาตื่นจากความฝัน เขาไม่สบอารมณ์มาก แต่กลับเห็นคนที่มารบกวนเวลานอนของเขาคือ ฉินหลาง ฮานซานฉางกล้าเดือดดาลใส่เขาได้เสียที่ไหน เขารู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะ ‘เครื่องมือฆ่า’ ของฉินหลาง เมื่อคืนนี้เขาไม่มีทางเอาชนะชาวอุยกูร์ที่แข็งแกร่ง และไม่กลัวตายของซางคุนไม่ได้แน่
“พี่ฉิน พี่ทำอะไรอยู่เนี่ย?” ฮานซานฉางยิ้มเฝื่อนพลางกล่าวขึ้น “เมื่อคืนพวกเราชนะขาด วันนี้ให้พวกผมได้นอนหลับเต็มอิ่มสักวันไม่ได้เหรอ”
“ชนะจริง แต่ค่าเหนื่อยของเรา ยังไม่ได้อยู่ในมือเรา” ฉินหลางสบถ “ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมจะเอากิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่งมาเป็ของเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้พวกเราต้องรีบไปโอนย้ายทรัพย์สินของอันเต๋อเซิ่งั้แ่เนิ่นๆ กิจการทั้งหมดในเครือของอันเต๋อเซิ่งจะได้อยู่ในมือของพวกเรา”
“อะไรนะพี่!” ฮานซานฉางคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเองซะอีก “การต่อสู้ของคนในวงการ ไม่ใช่แย่งพื้นที่กันเหรอครับ? กิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่งจะต้องถูกตำรวจตรวจยึดและสั่งปิดกิจการ จะตกเป็ของพวกเราได้ยังไง?”
“เื่นี้นายก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” ฉินหลางพูดอย่างมั่นใจ “นายแค่เตรียมหนังสือมอบอำนาจให้พร้อม อืม หาทนายอีกสองคน ความหมายคร่าวๆ ต้องรับรองว่าอันที่จริงกิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่งได้โอนให้บริษัทเราตั้งนานแล้ว ในเมื่อมันกลายเป็กิจการของเราตั้งนานแล้ว อย่างนี้ตำรวจถึงปิดกิจการ หรืออายัดไว้เองไม่ได้”
“พี่ฉิน เื่นี้น่าจะทำยากนะครับ?” ฮานซานฉางกล่าว “อย่างแรกคืออันเต๋อเซิ่งไม่อยู่แล้ว ถ้าเราทำเอกสารขึ้นมาเองเราอาจโดนข้อหาสร้างเอกสารเท็จนะครับ อย่างที่สองทางตำรวจต้องไม่ยอมง่ายๆ แน่ครับ”
“นายไปจัดการเอกสารให้ครบ ฉันมีวิธีให้อันเต๋อเซิ่งเซ็นสัญญาพวกนี้” ฉินหลางกล่าว
“ครับ งั้นผมรีบไปเตรียมตัวก่อน” ฮานซานฉางเดินออกไปอย่างงงๆ แต่เห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของฉินหลางจึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะยังไงซะฉินหลางก็เป็พี่ใหญ่ที่อยู่เื้ัอยู่ดี
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฉินหลางได้รับเอกสารโอนกรรมสิทธิ์จากฮานซานฉางแล้ว
สักพักฉินหลางจึงติดต่อไปหาตาเฒ่าพิษ และดูเหมือนว่าตาเฒ่าพิษจะรู้ว่าฉินหลาง้าจะทำอะไร จึงส่งสถานที่หนึ่งให้ฉินหลาง
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ฉินหลางกับฮานซานฉางก็มาถึงที่ดังกล่าว—ซึ่งเป็ตีนดอยเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากูเาชิงหยุ๋นประมาณ 5 กิโลเมตร
ฉินหลางเดินเข้าไปในป่าคนเดียว อยู่ในป่านั้นฉินหลางพบกับตาเฒ่าพิษกับอันเต๋อเซิ่ง
เพียงแต่ตอนนี้อันเต๋อเซิ่งเหลือเพียงครึ่งชีวิตเท่านั้น เพราะทั้งร่างกายของอันเต๋อเซิ่ง มีเพียงสมองเท่านั้นที่ยังรู้สึกอยู่ และยังพอจะขยับได้อยู่ ด้วยความี้เีตาเฒ่าพิษจึงไม่ได้ถอนพิษของตั๊กแตนสีเื แค่ควบคุมสมองโดยการใช้อากาศพิษ ให้สมองของอันเต่อเซิ่งยังคงมีสติอยู่เท่านั้น
“เ้าหนู ฉันคิดว่าแกลืมไปแล้วซะอีกว่ายังต้องรับ่กิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่งอยู่” ตาเฒ่าพิษกล่าวอย่างเชื่องช้า
“ถ้าผมลืมเื่นี้ คุณจะต้องมากวนใจผมอีกแน่เลย” ฉินหลางสบถ แล้วนำเอกสารที่ตนเตรียมมาให้อันเต๋อเซิ่ง “โทษทีนะอันเต๋อเซิ่ง กิจการทั้งหมดของแก ฉันเตรียมจะรับ่ต่อทั้งหมด”
“เ้าเด็กนรก ฉันประมาทแกเกินไป!” อันเต๋อเซิ่งพูดด้วยความโมโห ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรง “คิดไม่ถึงว่าไอ้ตัวเล็กอย่างแกจะโเี้มากขนาดนี้…แค่ก…้าจะรับ่กิจการทั้งหมดของฉันงั้นเหรอ ฉันลำบากลำบนบริหารงานมาสิบกว่าปี คิดเหรอว่าฉันจะให้แกฟรีๆ”
“ให้หรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่แก” พูดจบฉินหลางก็จับนิ้วของอันเต๋อเซิ่งปั๊มรอยนิ้วมือลงไปบนเอกสาร
ทว่าเวลานี้ จู่ๆ อันเต๋อเซิ่งก็หัวเราะออกมา
*มาถึงหน้าผาแล้วหันม้ากลับ : เป็สำนวน ที่กำลังพูดถึง คนที่ขี่ม้าไปจนใกล้ตกจากขอบหน้าผา แล้วเพิ่งจะคิดได้ รีบดึงม้าหันหัวกลับ หวังว่าจะยังทันอยู่ ใช้เปรียบเปรยคนที่เพิ่งได้สติ รู้ว่าตัวเองต้องกลับตัวกลับใจได้ในวินาทีสุดท้าย แล้วรีบหยุดสิ่งที่กำลังทำ หวังว่าจะยังกลับตัวทันอยู่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้