อาหารได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วในห้องส่วนตัว
เมื่อเปิดประตูเข้ามา กลิ่นอาหารหอมกรุ่นก็โชยมาปะทะจมูก จิ้งจอกน้อยนึกขึ้นได้ว่า เมื่อตื่นนอนก็ออกจากจวนเลย ยังไม่ทันได้กินข้าวเช้าด้วยซ้ำ
ฮั่วเยี่ยนไหวพาจิ้งจอกน้อยมานั่ง
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารเช้าอันโอชะจำพวกโจ๊ก แล้วยังมี...ไก่อยู่เต็มไปหมด!
ไม่ว่าจะเป็ไก่นึ่ง ไก่ฉีก ไก่ขอทาน แกงไก่เห็ดหอม และยิ่งไปกว่านั้นยังมีไก่ดิบตัวหนึ่งด้วย!
สำหรับเนื้อไก่นั้น ไป๋เซี่ยเหอไม่ได้คัดค้าน ทว่าไก่ดิบน่ะหรือ? นี่มันเื่บ้าอะไรกัน? นอกจากนี้ การได้เห็นไก่มากมายเช่นนี้ั้แ่เช้าตรู่ ยังไม่ทันได้กินก็เอียนแล้ว
นางมองฮั่วเยี่ยนไหวอีกครา
ปาท่องโก๋ โจ๊ก และเครื่องเคียง แม้ว่าจะดูเรียบง่าย ทว่าอย่างน้อยก็ไม่เลี่ยน!
“อยากกินของข้าหรือ?” เมื่อเห็นว่าจิ้งจอกน้อยไม่สนใจเนื้อไก่ที่วางอยู่เต็มโต๊ะ แต่กลับจ้องมองตนเองแทน ฮั่วเยี่ยนไหวจึงโพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว
จิ้งจอกน้อยพยักหน้า
อิ๋งเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างกลายเป็หินไปเสียแล้ว
เมื่อพูดออกมาอาจไม่มีใครเชื่อว่า จิ้งจอกตัวหนึ่งบอกว่ามันอยากกินโจ๊ก
ฮั่วเยี่ยนไหวเลื่อนชามไปทางจิ้งจอกน้อยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไป๋เซี่ยเหอยื่นมือออกไปหยิบช้อน หยิบ แล้วก็หยิบ...
อุ้งเท้าดอกเหมยที่มีขนปุกปุยสีขาวนั้นสามารถลากช้อนไปมาได้ ทว่ากลับไม่สามารถถือช้อนไว้ในมือ ความกลัดกลุ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋เซี่ยเหอ นางอาจเป็ผู้ทะลุมิติที่น่าเวทนาที่สุดในประวัติศาสตร์ก็เป็ได้
ฮั่วเยี่ยนไหวหลุดหัวเราะออกมา มือที่เนียนราวกับหยกถือช้อนเอาไว้ ก่อนจะตักโจ๊กและยื่นช้อนไปตรงหน้าของจิ้งจอกน้อย “เด็กดี อ้าปากสิ”
จู่ๆ หัวใจของไป๋เซี่ยเหอก็เต้นระรัว
ปั้ก!
อิ๋งเฟิงล้มลงกับพื้น นึกไม่ถึงเลยว่าคนตรงหน้าผู้นี้จะเป็เซ่อเจิ้งอ๋อง ใครก็ได้มาตบเขาที ตบให้เขาตื่นที!
“พี่เยี่ยนไหว เป็ท่านจริงด้วย!” จู่ๆ เสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานก็ดังขึ้นจากนอกประตู ทำให้ไป๋เซี่ยเหอรู้สึกขนลุกขนชันไปทั้งร่าง
ไป๋เซี่ยเหอได้กลิ่นหอมอบอวลจนฉุนขึ้นจมูก สำหรับจิ้งจอกที่มีประสาทรับกลิ่นฉับไวแล้ว นี่ไม่ต่างอะไรกับการฆาตกรรม
จิ้งจอกน้อยจามติดกันสามสี่ครั้ง ทำให้ดวงตาสีดำแวววาวดูฉ่ำน้ำ
เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ฮั่วเยี่ยนไหวก็เก็บรอยยิ้มบนหน้าอย่างรวดเร็ว เขานั่งตัวตรง และมีท่าทีเย็นะเืในแบบที่ผลักไสผู้คนให้ออกไปไกลนับพันลี้
“ว้าว จิ้งจอกน้อยน่ารักจังเลย” ผู้มาใหม่สวมชุดกระโปรงสีชมพู ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวาน ดูเหมือนเด็กสาวที่บริสุทธิ์ไม่มีพิษมีภัย สายตาของนางมองฮั่วเยี่ยนไหวกับจิ้งจอกน้อยด้วยดวงตาเป็ประกาย
จิ้งจอกน้อยเห็นอีกฝ่ายยื่นมือมาหาตนเอง กลิ่นหอมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นางจึงหันศีรษะหนีแล้วมุดเข้าไปในแขนเสื้อของฮั่วเยี่ยนไหว ก่อนยื่นมือไปหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ฮั่วเยี่ยนไหวเก็บไว้ในแขนเสื้อมาปิดจมูก
“อุบ”
อิ๋งเฟิงทนไม่ได้จึงหัวเราะออกมา เขาหมุนกายหันหลัง จึงมองเห็นเพียงไหล่คู่หนึ่งที่สั่นเทิ้ม จากนั้นเขาก็ลอบยื่นมือออกไปเพื่อยกนิ้วโป้งให้จิ้งจอกน้อย
ทำให้คุณหนูใหญ่ที่หยิ่งยโสและเอาแต่ใจพ่ายแพ้ได้ จิ้งจอกน้อยช่างยอดเยี่ยมนัก!
รอยยิ้มบนหน้าของฉินจิ่นยวนไม่ได้ลดลง แต่แววตาของนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
นี่เป็เพียงเดรัจฉานน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะกล้ารังเกียจนาง ใครไม่ทราบบ้างว่าตำแหน่งชายาเซ่อเจิ้งอ๋องจะต้องเป็ของนาง ก็แค่จิ้งจอกตัวหนึ่งเท่านั้น รอให้นางได้เป็ชายาเซ่อเจิ้งอ๋องก่อนเถิด จะต้องถลกขนของจิ้งจอกตัวนี้มาทำปกเสื้อขนสัตว์ให้จงได้!
“พี่เยี่ยนไหว” ฉินจิ่นยวนเม้มปากเล็กๆ ของตนเองด้วยท่าทีออดอ้อน “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าชื่นชอบสัตว์ที่ตัวเล็กและมีขนปุกปุย? ท่านตั้งใจที่จะมอบจิ้งจอกน้อยตัวนี้ให้ข้าหรือเ้าคะ?”
บริเวณหลังของไป๋เซี่ยเหอมีเหงื่อเย็นๆ แตกพลั่ก หัวใจของนางเย็นเยียบ เขาพานางมาเหลาอาหารก็เพื่อมอบนางให้ผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?
ความเ็ปทรมานที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นบริเวณอกของไป๋เซี่ยเหอ แม้ว่านางจะทราบว่าที่ผ่านมาฮั่วเยี่ยนไหวทำสิ่งต่างๆ ก็เพื่อเลี้ยงตนเองจนโตแล้วค่อยจับกิน ทว่าเมื่อเทียบกันแล้ว นางไม่ชอบการถูกส่งมอบให้ผู้อื่นอย่างไม่ไยดีมากกว่า
บางทีอาจเป็เพราะความจริงแล้วนางเป็มนุษย์ ไม่ใช่สัตว์
“กรร!”
อย่านะ นางขอค้านการถูกส่งมอบให้ผู้อื่น!
แท้จริงแล้วเมื่อครู่การที่เขาป้อนอาหารให้นางด้วยความใส่ใจเพียงเพราะเป็มื้อส่งท้ายสินะ!
ฮั่วเยี่ยนไหวรู้สึกถึงแรงสั่นไหวเล็กน้อยภายในแขนเสื้อ คิ้วทรงดาบขมวดมุ่น ก่อนจะยื่นมือเข้าไปหยิบตัวจิ้งจอกน้อยออกมา
แววตาของไป๋เซี่ยเหอเย็นเยียบทันทีหลังจากถูกบุรุษผู้นั้นนำออกมาจากแขนเสื้อ
ด้วยประสาทััอันฉับไวของสัตว์ นางไม่ต้องตั้งใจพิจารณาก็สามารถล่วงรู้ได้แล้วว่าสตรีผู้นี้มีเจตนาไม่ดี ตอนนี้นางเป็เพียงลูกจิ้งจอกที่ไม่มีแรงมากนัก หากตกไปอยู่ในกำมือของสตรีผู้นี้ นางจะยังรักษาชีวิตของตนเองได้อีกหรือ?
ไป๋เซี่ยเหอกัดฟันแน่น นางเกลียดตนเองที่เป็เพียงจิ้งจอกที่ไร้ความสามารถในการขัดขืน และยิ่งเกลียดตนเองที่ไว้เนื้อเชื่อใจฮั่วเยี่ยนไหวมากเกินไป!
ทุกคราที่นางจำแลงกายเป็จิ้งจอก นางล้วนกินดื่มอยู่ในจวนเซ่อเจิ้งอ๋องอย่างสบายใจ ทำให้นางเกิดความคิดที่อันตรายว่า จวนเซ่อเจิ้งอ๋องจะสามารถเป็ที่กำบังลมฝนของนางได้
เมื่อพูดแล้วก็น่าขัน บางทีอาจเป็เพราะความระแวดระวังในอดีตชาติ ทำให้นางไม่เคยได้ใช้ชีวิตเพื่อตนเอง ทว่าในชาตินี้นางมีความคิดที่จะใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย
การอาศัยอยู่ที่จวนเซ่อเจิ้งอ๋องทำให้นางกินอิ่มนอนหลับ ทว่า่เวลานั้นไม่มีทางคงอยู่ไปตลอด
ไม่ว่าจะเป็จวนตระกูลไป๋หรือว่าจวนเซ่อเจิ้งอ๋องก็ตาม!
“ขอบคุณพี่เยี่ยนไหวเ้าค่ะ ยวนเอ๋อร์รู้อยู่แล้วว่าพี่เยี่ยนไหวน่ะดีกับยวนเอ๋อร์ที่สุด” ฉินจิ่นยวนเห็นฮั่วเยี่ยนไหวหยิบจิ้งจอกน้อยออกมา จึงคิดไปเองว่าอีกฝ่าย้ามอบจิ้งจอกน้อยให้นาง รอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้านั้นทำให้ไป๋เซี่ยเหอคิดอยากจะกัดนางเสีย!
หลังจากไป๋เซี่ยเหอมองฮั่วเยี่ยนไหวด้วยความอาฆาตแค้น นางก็เบือนหน้าแล้ววิ่งหนีไป
“หลีเอ๋อร์!” เมื่อฮั่วเยี่ยนไหวเห็นเช่นนั้น เส้นเืดำก็เต้นตุบๆ จิ้งจอกหิมะที่ฟันยังขึ้นไม่ครบกลับกล้าวิ่งพล่านไปทุกแห่งหน มันลืมไปแล้วหรือว่าการพบหน้ากันครั้งแรกเป็อย่างไร!
เมื่อฉินจิ่นยวนเห็นเหตุการณ์ ก็รีบเตรียมจะสั่งให้คนไปจับจิ้งจอกกลับมา นั่นเป็ของขวัญชิ้นแรกที่พี่เยี่ยนไหวมอบให้นางเชียวนะ แม้ว่าอีกไม่นานมันจะถูกนางทุบตีจนตายเพื่อนำไปทำปกเสื้อขนสัตว์ นางก็ไม่อาจปล่อยให้มันหนีไปเช่นนี้ได้!
“ฉินจิ่นยวน!” แม้ว่าฮั่วเยี่ยนไหวจะรังเกียจที่ฉินจิ่นยวน ‘บังเอิญพบ’ เขาอยู่บ่อยครั้ง แต่อันที่จริงเขาไม่ชอบนิสัยของนาง ก่อนหน้านี้นอกจากเขาจะปฏิบัติต่อนางอย่างเ็าแล้ว เขายังเมินเฉยใส่ราวกับนางไม่มีตัวตน เขาไม่เคยแม้แต่จะเรียกชื่อแซ่ของนางเช่นนี้มาก่อน
ฉินจิ่นยวนชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า “ข้าอยู่นี่เ้าค่ะ”
ฉินจิ่นยวนมีรูปโฉมงดงามอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็ถึงหลานสาวของฮองเฮาอีกด้วย ใบหน้าของนางมีความคล้ายคลึงกับใบหน้าอันอ่อนโยนมีเมตตาของฮองเฮาถึงสามส่วน ทว่าความคิดของนางกลับไม่สมวัยเอาเสียเลย
ใบหน้าเล็กที่งดงามเย้ายวนเช่นนี้ไม่อาจดึงดูดความสนใจของฮั่วเยี่ยนไหวได้ ดวงตาสีดำขลับของเขาเป็ประกายวาวโรจน์ ใบหน้าเ็าไร้ความรู้สึก มีเพียงน้ำเสียงเย็นเยียบที่เอื้อนเอ่ย “หลีเอ๋อร์เป็สัตว์เลี้ยงของข้า ผู้ใดอย่าได้คิดแตะต้อง!”
คนตระกูลฉินนับวันยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆ นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ทรัพย์สินส่วนตัวของเขายังกล้าคิดที่จะ ควรจัดการได้แล้ว!
หลังกล่าวจบ ฮั่วเยี่ยนไหวก็ไล่ตามอิ๋งเฟิงที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ เกรงว่าจิ้งจอกน้อยที่เย่อหยิ่งตัวนั้นจะเข้าใจเขาผิดเสียแล้ว เขาต้องรีบตามไปพาเ้าตัวเล็กที่แสนเอาแต่ใจกลับมา ไม่อย่างนั้นคงต้องเล่นซ่อนหากันอีกคราแล้ว
หนึ่งชั่วยามต่อมาในป่าแถบชานเมือง
“หลีเอ๋อร์เล่า?” ฮั่วเยี่ยนไหวถาม
อิ๋งเฟิงก้มศีรษะจนแทบจะติดกับหน้าอก เมื่อพูดเื่นี้แล้วก็น่าขายหน้านัก ถึงอย่างไรเขาก็เป็ถึงผู้นำขององครักษ์เงาภายใต้การบังคับบัญชาของเซ่อเจิ้งอ๋อง นึกไม่ถึงว่าจะถูกจิ้งจอกตัวหนึ่ง...
“ท่านอ๋อง ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม...” ศีรษะของอิ๋งเฟิงก้มต่ำลงเรื่อยๆ ปรารถนาที่จะฝังตนเองไว้ในพื้นดินใต้ฝ่าเท้า
ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของฮั่วเยี่ยนไหวเป็ประกายแลดูอันตราย “เงยหน้าขึ้น!”
“ไม่ค่อยดีกระมังพ่ะย่ะค่ะ” ศีรษะของอิ๋งเฟิงลดต่ำลงยิ่งกว่าเดิม มีเพียงใบหูเท่านั้นที่แดงก่ำเล็กน้อย น่าขายหน้านัก น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!
“เงยหน้า!”
น้ำเสียงของฮั่วเยี่ยนไหวแฝงไว้ด้วยโทสะ อิ๋งเฟิงไม่กล้าแข็งข้ออีกต่อไป จึงเงยหน้าขึ้นมา
ฮั่วเยี่ยนไหวเห็นว่าใบหน้าอ่อนเยาว์และน่ารักของอิ๋งเฟิง กลายเป็ใบหน้าของสยงเมา[1]ที่แสนน่ารัก เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขามีรอยวงกลมสีม่วง
ฮั่วเยี่ยนไหวทั้งโกรธทั้งขบขัน หลีเอ๋อร์ตัวนี้นี่นะ อารมณ์ฉุนเฉียวปานนี้ได้อย่างไร? เขาเองก็ไม่ได้รับปากว่าจะมอบมันให้ผู้อื่นเสียหน่อย นึกไม่ถึงว่ามันจะทุบตีหัวหน้าองครักษ์เงาภายใต้การบังคับบัญชาของเขาจนมีสภาพเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามันถูกเขาให้ท้ายจนเสียนิสัยอย่างที่คาด
“ท่านอ๋อง กระหม่อมน่าสงสารเกินไปแล้ว จิ้งจอกน้อยตัวเล็กปานนั้น กระหม่อมไม่กล้าใช้แรงทั้งหมดด้วยเกรงว่าจะทำให้มันาเ็ แต่ท่านดูมันสิ หากกระหม่อมใบหน้าเสียโฉมจนแต่งภรรยาไม่ได้จะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!” อิ๋งเฟิงยกมือลูบดวงตาของตนเองป้อยๆ พลางส่งเสียงฮึดฮัด ซี้ด เจ็บจริงๆ เลย
“เช่นนั้นเปิ่นหวังจะประทานสมรสให้เ้า จงแต่งออกไปเสีย!”
------------------------
[1] สยงเมา หมายถึง แพนด้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้