หลังออกจากห้อง เย่เฟิงใช้ลิฟต์ลงไปชั้นล่างจนถึงห้องโถง เวลานั้นเอง เขาเหลือบเห็นคนหลายคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ นอกจากเถียนโหย่วเลี่ยงกับพี่เถี่ยที่มีผ้ากอซปิดจมูกแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่ออกจากห้องส่วนตัว ดูเหมือนพวกเขาจะคุยอะไรบางอย่างและหัวเราะราวกับตกลงกันสำเร็จเเล้ว เย่เฟิงคิดครู่หนึ่งก่อนหยุดฟังสักหน่อย
“สบายใจได้ ผมรับเงินมาแล้ว รับรองงานนี้พวกคุณต้องพอใจแน่” พี่เถี่ยผู้สวมแว่นกันแดดพร้อมด้วยผ้ากอซครอบจมูกพูดด้วยสีหน้าชั่วร้าย “พรุ่งเช้า จะทำให้ไอ้เด็กนั่นคุกเข่าร้องขอชีวิต!”
‘พี่เถี่ย’ ของแก๊งอสรพิษ์มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแถบนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขาต่อสู้อย่างดุเดือดหรือทำสิ่งเลวทราม แต่เพราะน้องสาวของเขาเป็ผู้หญิงที่หัวหน้าใหญ่ถูกใจก็เลยได้ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มย่อยนี้มา แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าการพึ่งพิงผู้หญิงทำให้เป็ใหญ่ไม่ได้ จึงให้ความสำคัญกับการฝึกฝนกลุ่มของตน อาเฉียงก็เป็คนสำคัญในกลุ่มนี้ ชายคนนี้เห็นเย่เฟิงต่อสู้เก่งจึงเชิญให้มาเข้าร่วม น่าเสียที่เย่เฟิงปฏิเสธ
“จะมีปัญหาอะไรไหม ถ้าทำให้มันพิการ?” ถึงอย่างไรเถียนโหย่วเลี่ยงก็ยังเด็ก สิ่งที่เพิ่งคุยกันทำให้เขาใไม่น้อย ใช้เงินเพียงไม่กี่แสนก็สามารถจ้างให้เเก๊งอสรพิษ์จัดการเด็กมัธยมปลายคนหนึ่งจนพิการได้ ช่างโหดร้ายมาก
“หึ! ต่อให้ฆ่าคน แก๊งเราก็มีวิธีรับมือ ไม่ต้องพูดถึงแค่ทำให้พิการ” พี่เถี่ยพูดเสียงเย็น เห็นได้ชัดว่าแก๊งอสรพิษ์มีผู้สนับสนุนเื้ัที่ไม่ธรรมดา เขาจึงไม่ต้องกังวลเลย
“ใช่แล้ว สบายมาก ฮ่าๆ” เมื่อเห็นพี่เถี่ยไม่พอใจ เถียนจงข่ายรีบอธิบายกับลูกชายทันที“โหย่วเลี่ยงแค่ใกับวิธีการของพี่เถี่ย พี่ไม่ต้องสนใจคำพูดของเด็กหรอก”
“เดี๋ยวก่อนพ่อ พี่เถี่ย…” เถียนโหย่วเลี่ยงที่กำลังเมาเห็นเย่เฟิงอยู่ตรงหน้าก็ตาตื่นแล้วชี้ด้านหลังของพ่อและพี่เถี่ย “เย่เฟิงอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเย่เฟิงรู้เเล้วว่าพวกเขามารวมตัวกันเพื่ออะไร ก็ไม่จำเป็ต้องเสียเวลาจึงเดินจากไป พี่เถี่ยได้ยินว่าเย่เฟิงอยู่ที่นี่ก็รีบหันไป เขาจำมันได้ขึ้นใจ ไอ้เด็กนี่คือคนที่ปาอิฐใส่เขาซ้ำยังปฏิเสธคำเชิญของเขาอีก มันไม่เห็นเขาและแก๊งอสรพิษ์ในสายตาเลยหรือไง!
“ไอ้เด็กเวร ยังกล้าเสนอหน้ามาหาพี่เถี่ยคนนี้อีกงั้นหรือ? แต่จะสำนึกตอนนี้ก็สายไปแล้ว!” พี่เถี่ยหัวเราะลั่น เขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามมาที่นี่เพราะยอมรับในตัวเขา จึงอดภูมิใจในตัวเองไม่ได้ จากนั้นเสริมว่า “ชีวิตเราอาจมีโอกาสเพียงครั้งเดียว! ตอนนี้ถึงแกคุกเข่าอ้อนวอนให้ฉันรับเเกเป็ลูกน้อง ก็ไม่มีทางเป็ไปได้เเล้ว!”
“อ๋อ งั้นเหรอ?” เย่เฟิงยิ้มบางขณะเหลือบมองอีกฝ่าย
“เย่เฟิง แกรู้หรือเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน?” เถียนโหย่วเลี่ยงดื่มมากเกินไป เขายืนพิงกำแพงพลางถามอย่างตื่นเต้น ชายหนุ่มจะได้เห็นเย่เฟิงถูกพี่เถี่ยต่อยจนฟันร่วง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเถียนโหย่วเลี่ยงจะมีความสุขขนาดไหน
เถียนจงข่ายก็คาดไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง แต่ก็เป็เื่แปลกใจที่น่ายินดี ไม่จำเป็ต้องรอถึงพรุ่งนี้ก็สามารถจัดการเย่เฟิงจนพิการได้
“เอาเลย! ทำให้ไอ้เด็กเวรนี่มันรู้ซึ้งถึงชะตากรรมของคนที่กล้าท้าทายแก๊งอสรพิษ์” สิ้นเสียงพี่เถี่ย ลูกน้องฝีมือดีสองคนของแก๊งพุ่งไปจัดการเย่เฟิงทันที ชายหนุ่มยังมีท่าทีเฉยเมยจนกระทั่งอันธพาลสองคนเข้าใกล้ ในชั่วอึดใจมือทั้งสองข้างของเขาก็ปลดปล่อยหมัดแปดทิศที่รวดเร็วดังสายฟ้าใส่พวกมัน ปัง! ปัง! ดังก้องติดต่อกันส่งร่างอันธพาลทั้งสองกระเด็นชนกำแพงแล้วร่วงลงนอนหมดสภาพร้องโอดโอยด้วยความเ็ป เสียงเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในบริเวณนั้นทันที
คนเหล่านี้รู้ดีว่าใครคือผู้ดูแลพื้นที่แถบนี้ แต่วันนี้พวกเขากลับเห็นคนกล้าท้าทายแก๊งอสรพิษ์ถึงสำนักงานใหญ่ เื่นี้ทำให้พวกเขามีสีหน้าเหมือนเจุ์ต่างดาว พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าคนลงมือเป็เพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลาย พวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้คงไม่อาจมีชีวิตรอดออกจากที่นี่แล้ว
พี่เถี่ยถึงกับมึนงงเมื่อเห็นลูกน้องของเขาถูกต่อยกระเด็น เขารู้ว่าเย่เฟิงมีฝีมือในการต่อสู้ แต่ไม่นึกว่าจะเก่งขนาดนี้ ถึงขนาดจัดการมือดีอันดับต้นๆ ของแก๊งได้
เย่เฟิงถอนกำปั้นแล้วมองพี่เถี่ยอย่างไร้อารมณ์ก่อนกล่าว “ฉันแนะนำให้แกหลีกทาง อย่าทำเื่โง่ๆ ไม่งั้นจะเสียใจเปล่าๆ”
“บัดซบ! ไอ้เด็กนี่อวดดีจริงๆ จัดการมัน!” พี่เถี่ยจะยอมรับการคุกคามของเด็กมัธยมปลายได้อย่างไร เขาโบกมือให้สมาชิกแก๊งหลายสิบคนจัดการเย่เฟิง
เเขกในคาสิโนต่างมุงดูเหตุการณ์ ขณะที่ทุกคนคิดว่าเย่เฟิงจะถูกต่อยจนตายเเล้วก็มีเสียงะโดังก้องมาจากด้านหลังของเขา “พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้! คิดจะฏกันหรือไง”
เย่เฟิงหันหลังไปเห็นชายหน้าบาก ใบหน้าของเขาแสดงความเกรี้ยวกราดอย่างยิ่ง! ก่อนหน้านี้ชายหน้าบากมอบหมายงานให้คนของเขาจัดการศพทั้งสอง จากนั้นรีบวิ่งตามมาเพราะมีเื่อยากขอร้องเย่เฟิง แต่กลับต้องพบเหตุการณ์แบบนี้ แล้วจะให้เขาไม่โมโหได้อย่างไร?
พี่เถี่ยรีบะโทันที “พี่ใหญ่ ไอ้เด็กนี่มันไม่เห็นหัวแก๊งอสรพิษ์ของพวกเรา ผมเลยจะสั่งสอนมัน…”
“ฮึ” ชายหน้าบากส่งเสียงขัดคำพูดของอีกฝ่าย เขามองไปรอบๆ พร้อมผายมือไปทางเย่เฟิง “เย่เฟิงคือลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของฉัน เมื่อครู่เขาช่วยชีวิตฉันไว้ แกยังมีหน้ามาบอกว่าจะสั่งสอนเขาอีกหรือ?”
ผู้คนโดยรอบต่างจ้องมองอย่างแปลกใจกับคำพูดที่ได้ยิน
อะไรนะ?
เด็กนักเรียนมัธยมปลายคนนี้เป็ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของหัวหน้าแก๊งอสรพิษ์ ทั้งยังช่วยชีวิตหัวหน้าไว้อีกงั้นหรือ? ฮะ! นี่มันบ้าไปเเล้ว
เถียนโหย่วเลี่ยงสมองว่างเปล่าเมื่อได้ยินเช่นนั้น คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเย่เฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าใหญ่ เพราะอย่างนี้ถึงกล้าหยาบคายกับแก๊งอสรพิษ์ครั้งแล้วครั้งเล่า หัวหน้าแก๊งเป็ลูกพี่ลูกน้องของเขา ถ้างั้นสิ่งที่พวกเขาคุยกันในห้องส่วนตัวก่อนหน้านี้ก็ไร้ประโยชน์สินะ? อย่าคิดจะสั่งสอนเย่เฟิงไม่งั้นจะเป็เขาเองที่ซวย
“นี่ อาเถี่ย แกทำงานกับฉันมากี่ปีเเล้ว?” ชายหน้าบากถามขณะมองพี่เถี่ย
“ป… ประมาณสามปีครับพี่ใหญ่” พี่เถี่ยไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าถึงถามเช่นนี้ เขาหันไปมองเย่เฟิงด้วยท่าทีหวาดผวาขณะตอบ
“สามปีเเล้วเหรอ น้องสาวแกกับอาเฉียงที่แกแนะนำให้ฉันรวมหัวกันจะลอบสังหารฉัน นี่ถ้าไม่ได้น้องเย่ช่วยไว้ล่ะก็ ฉันคงตายไปแล้ว คงไม่ได้มายืนอยู่ต่อหน้าแกแบบนี้หรอก!” ยิ่งพูด เสียงของชายหน้าบากก็จริงจังและดุร้ายขึ้น เขาพูดเหมือนทุกอย่างเกิดขึ้นจริง ทำให้เย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ นับถือเล็กน้อย ชายหน้าบากคนนี้มีพร์ทีเดียว คนที่สามารถนั่งตำแหน่งหัวหน้าแก๊งย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ประโยคนี้สามารถอธิบายการตายของสองคนนั้นและยังประกาศให้ทุกคนรู้ถึงตำแหน่งของเย่เฟิง นับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“พ… พี่ใหญ่ เื่นี้จะเป็ไปได้ยังไง…” พี่เถี่ยตกตะลึง
จบกัน!
เถียนโหย่วเลี่ยงและพ่อของเขามองหน้ากัน พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเื่จะออกมาเป็แบบนี้ โชคร้ายเหลือเกินที่ต้องเจอเื่แบบนี้โดยไม่คาดคิด สองพ่อลูกมองพี่เถี่ย คนที่โชคร้ายที่สุดก็คงเป็เขา
ชายหน้าบากโบกมือให้คนของเขาจับตัวคนทั้งสามไว้ คนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาตามคำสั่งทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้