เล่มที่ 1 บทที่ 30 แร่เฮยเย่า
“รู้มาว่าหลายวันก่อนตอนที่มีคนนำแร่ขั้นโฮ่วเทียนมานั้น ก็ถูกศิษย์คนหนึ่งของหุบเขาหมัวเจี้ยนหมายตาเอาไว้ เขาเสนอห้าร้อยหินิญญา แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมขาย การซื้อขายจึงล่มไม่เป็ท่า จริงๆ ก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก เพราะแร่ขั้นโฮ่วเทียนแลกกับหินิญญาห้าร้อยก้อนนั้น ก็ดูจะน้อยเกินไปหน่อย ก่อนหน้านี้มีศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนหลายคน้าซื้ออยู่เหมือนกัน แต่พอศิษย์คนนั้นเอ่ยปากขึ้นมา คนที่เหลือก็รีบเดินจากไปทันที…”
“หมายความว่าอะไรนะ?”
“ก็ศิษย์คนนั้นบอกว่าผู้าุโอู๋้าแร่ขั้นโฮ่วเทียนนั่นน่ะสิ”
“บัดซบ…” ได้ยินเช่นนั้นหลินเฟยก็กลอกตาอย่างเหลืออดให้กับสิ่งที่ได้ยิน ‘นี่มันมัดมือชกชัดๆ…’
‘พวกหุบเขาหมัวเจี้ยนนี่ก็จริงๆเลย…’
ผู้าุโอู๋เป็ใครน่ะหรือ? เขาก็เป็ปรมาจารย์หลอมอาวุธคนเดียวของสำนักเวิ่นเจี้ยนอย่างไรล่ะ ยิ่งตอนนี้มีเตาฟงอวี่แปดทิศอยู่ในมือด้วย ต่อให้เป็ถึงเ้าสำนักก็ยังต้องเกรงใจ แล้วการที่เ้าศิษย์คนนั้นยกผู้าุโอู๋ออกมาข่มเสียแบบนั้น ก็คงไม่มีใครกล้าดีไปเสนอราคาแข่งด้วยหรอก
สำนักเวิ่นเจี้ยนล้วนบำเพ็ญด้วยกระบี่…ใครบ้างเล่าที่ไม่อยากได้กระบี่ชั้นเลิศ ต่อให้เป็เหล่าศิษย์สายตรงหรือผู้าุโที่มีกระบี่คู่กายที่ผนึกจิติญญาเข้าไป แต่เพื่อศิษย์ร่วมหุบเขาตนเองแล้ว ก็ไม่กล้าขัดใจคนจากหุบเขาหมัวเจี้ยนหรอก ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจว่าที่เขาพูดมาเป็เื่จริงหรือไม่เพราะมาคิดๆดูการทำแบบนั้นอาจจะได้ไม่คุ้มเสียเหมือนกัน…
แต่สำหรับหลินเฟยนั้นไม่เหมือนกัน…
“ดังนั้นศิษย์พี่หลิน…”
“ไม่เป็ไรหรอก ช่วยพาข้าไปดูหน่อย”
“หา?” โจวเจิ้งหยุดชะงัก เข้าใจว่าที่หลินเฟยตอบมาเช่นนั้นคงเป็เพราะตนเองยังไม่ได้อธิบายชัดเจนทั้งหมด จึงรีบร้อนอธิบายเสริมขึ้นอีก
“ศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนคนนั้นบอกว่านี่เป็ของที่ผู้าุโอู๋้า แล้ว…”
“ไม่ต้องห่วง”
“อย่างนั้นก็ได้…” หลังจากที่เห็นหลินเฟยที่ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น โจวเจิ้งเองก็ไม่อาจห้ามเขาได้อีก
ถึงอย่างไรพวกเขาก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ตลอดทางมีการคุยกันบ้างเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรไปมากกว่านี้ การที่โจวเจิ้งกล่าวเตือนเขาเช่นนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็คนดีคนหนึ่ง ในเมื่อหลินเฟยยืนกรานเช่นนี้ โจวเจิ้งเองก็ได้แต่พยักหน้าอย่างจำใจไม่อาจขัดความตั้งใจของเขาได้อีก ก่อนจะพาหลินเฟยขึ้นไปถึงชั้นสี่ของหอว่านเป่า
บนชั้นนี้มีไว้สำหรับค้าขายของประหลาดหายาก คนที่ได้รับสิทธิ์ให้ขึ้นมาล้วนจะต้องมีสมบัติล้ำค่าติดมือมาด้วย หลินเฟยกวาดตามองรอบหนึ่ง พลันเห็นของมีค่ามากมายผ่านตา มีทั้งพู่กันที่ทำจากขนนกเยียนหลัว ชาดแดงที่มีเือสรพิษชื่อจิงผสม หรือแม้แต่หญ้าอิ๋นเซิงอายุนับห้าร้อยปีก็มี ก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่จุดหนึ่ง ที่มีเขตอาคมกางไว้อย่างแ่า และในนั้นก็มีศาสตราวุธขั้นหยางฝูที่มีมนต์สะกดถึงสามสิบสามสายวางอยู่ด้วย
‘ผู้าุโท่านใดเป็คนนำมา?’
ต่อให้เป็ศิษย์สายตรงที่สูงส่ง ก็ไม่อาจมีศาสตราวุธขั้นหยางฝูเช่นนี้ได้ หลินเฟยจำได้ขึ้นใจ ตอนที่อยู่ที่ถ้ำเสวียนปิง กระบี่มารสีแดงหม่นในมือของหลี่ชิงซานที่เป็ศิษย์สายตรงคนนั้น ก็ยังมีเพียงยี่สิบเจ็ดมนต์สะกด ถือว่าเป็ศาสตราวุธขั้นหยางฝูชั้นต้นเท่านั้น…
“ศิษย์พี่หลิน แร่ขั้นโฮ่วเทียนอยู่ตรงนั้น…” โจวเจิ้งพาหลินเฟยขึ้นมาถึงชั้นที่สี่ ก่อนจะชี้ไปยังมุมหนึ่ง
“หื้อ?” หลินเฟยมองตามที่โจวเจิ้งชี้ไป ในที่สุดก็มองเห็นก้อนสีดำๆวางอยู่ที่มุมหนึ่ง สิ่งนั้นมีลักษณะเป็ก้อนสี่เหลี่ยม ยาวประมาณหนึ่งฉื่อ เมื่อวางไว้เช่นนั้น ก็ทำให้ดูไม่ออกเลยว่าเ้าก้อนนี่มีความพิเศษอย่างไร หากคนที่ไม่รู้จักมาก่อน ก็อาจจะคิดว่ามันเป็เพียงหินโง่ๆก้อนหนึ่งเท่านั้น
“ั้แ่ตอนที่ศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนคนนั้นประกาศ เ้าก้อนสีดำนี้ก็ถูกวางทิ้งไว้ที่นี่มาหลายวันแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาถามหา จะว่าไป…ของสีดำปี๋ขนาดนี้เกรงว่าคงไม่ใช่แร่ขั้นโฮ่วเทียนที่มีคุณภาพสักเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับวางไว้ที่นี่โดยที่ไม่มีใครแยแส สู้ไม่เอาไปขายให้กับศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนไปจะดีกว่าหรือ…”
“หึหึ…” หลินเฟยทำแค่เพียงหัวเราะ ไม่ได้เอ่ยตอบแต่อย่างใด
‘ก้อนหินสีดำอย่างนั้นหรือ?’
‘แถมยังจะขายให้ศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนแค่ห้าร้อยหินิญญาอีก?’
ต่อให้ศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนคนนั้นจะพยายามมัดมือชกอย่างไร ก็คงจะไม่รู้หรอกว่าแร่ขั้นโฮ่วเทียนนี้เป็แร่ชนิดใด มีค่าอย่างไร ไม่เช่นนั้น คงจะไม่นิ่งนอนใจ ทิ้งแร่ไว้ไม่มาดูดำดูดีแบบนี้…
แร่ขั้นเซียนเทียนมีทั้งหมดเก้าชนิด แร่เหล็กขั้นเซียนเทียนก็มีสิบแปดชนิด
แต่แร่กับเหล็กขั้นโฮ่วเทียนกลับมีมากมายนับไม่ถ้วน กล่าวคือสรรพสิ่งที่ไม่เข้าขั้นเซียนเทียน ล้วนให้ถือว่าเป็ขั้นโฮ่วเทียนทั้งหมด
แม้จะอยู่ขั้นโฮ่วเทียนเหมือนกัน แต่กลับมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงั้แ่ชาติที่แล้ว ก็มีคนแบ่งระดับสิ่งของขั้นโฮ่วเทียนออกเป็เก้าขั้น ขั้นแรกถือว่าต่ำสุด ขั้นเก้าถือว่าสูงสุด โดยปกติแล้ว แร่ขั้นหนึ่งถือว่าดีกว่าเหล็กทั่วไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ถึงจะมีมนต์สะกดอยู่หนึ่งสาย แต่ก็นับว่าอ่อนแอมาก ต่อให้นำมาหลอมอาวุธอย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็แค่คมกว่ากระบี่ที่ทำจากเหล็กทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น
หากเป็แร่ขั้นโฮ่วเทียนขั้นสาม ถึงจะมีมนต์สะกดที่ไม่ธรรมดา หากแต่นำมาหลอมอาวุธ ก็จะเกิดเป็อาวุธที่มีจิติญญาไม่มากนัก แต่ถ้าเป็แร่โฮ่วเทียนขั้นสี่ จะถือว่าเหนือกว่าอยู่มาก เพราะมนต์สะกดที่มีความสามารถแปรเปลี่ยนเป็เสิ่นทงได้ อย่างแร่อิ๋นเหวินที่เมื่อวานหลินเฟยได้กินเข้าไป ก็จัดว่าเป็แร่ขั้นสี่ที่ล้ำค่านั่นเอง!
ก้อนดำๆที่ดูเหมือนหินธรรมดานี้…ก็เป็แร่ขั้นสี่เช่นกัน!
หากหลินเฟยจำไม่ผิด นี่คงจะเป็แร่เฮยเย่าแน่นอน
หากหลินเฟยไม่ได้สร้างคุณงามความดีที่ผาปากเหยี่ยวไว้ เกรงว่าเ้าสำนักก็คงจะไม่ยกแร่อิ๋นเหวินให้หรอก ดังนั้นแร่ที่หอว่านเป่านี้ ก็เป็แร่โฮ่วเทียนขั้นสี่เช่นเดียวกัน แต่มันกลับเกือบจะถูกคนซื้อไปในราคาเพียงห้าร้อยหินิญญาเสียแล้ว…
‘ทนดูไม่ได้จริงๆ!’
“ศิษย์พี่ท่านนี้ ไม่รู้ว่าแร่ชิ้นนี้ขายอย่างไรหรือ?” หลินเฟยลากศิษย์หุบเขาว่านเป่าที่อยู่ไม่ไกลมาถาม โดยไม่รีรอ
“หื้อ?” อีกฝ่ายชะงักด้วยความสงสัยทันที แร่ชิ้นนี้วางไว้ตั้งหลายวันแล้ว ั้แ่ตอนที่ศิษย์หุบเขาหมัวเจี้ยนมาขอซื้อ ก็ไม่มีใครกล้ามาถามราคาอีก คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีคนกล้ามาถามอีก
แต่ในฐานะที่เป็ศิษย์เฝ้าเวร จึงพอรู้หน้าที่ของตน ถึงแม้จะใช้สายตาฉงนมอง แต่ปากกลับตอบคำถามของหลินเฟยออกไป
“ต้องขออภัยด้วย เ้าของแร่ได้ย้ำเอาไว้ว่าเขา้าแลกกับอาวุธอย่างเดียวเท่านั้น ไม่้าหินิญญา อีกทั้งต้องเป็อาวุธที่สามารถขจัดไอหยินของปีศาจได้เท่านั้น…”
“อาวุธที่สามารถขจัดไอหยิน?” หลินเฟยลูบตะเกียงซานเป่าหลิวหลีในกระเป๋า ในใจก็คิดว่าช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้ หลังจากเดินทางออกมาจากแม่น้ำหยิน ตะเกียงซานเป่าหลิวก็ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรแล้ว หากนำมาแลกแร่เฮยเย่าได้ ก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
คิดได้ดังนั้นก็พยักหน้าตอบรับแก่ศิษย์คนนั้น
“ข้ามีอาวุธที่สามารถขจัดไอหยินของปีศาจได้อยู่ชิ้นหนึ่ง แต่ว่ามันมีเพียงเก้ามนต์สะกดเท่านั้น ไม่อาจถือได้ว่าเป็ศาสตราวุธขั้นอิงฝู ช่วยตามเ้าของแร่ออกมาได้หรือไม่ ข้าอยากลองเจรจาดู”
ศิษย์ที่เฝ้าเวรพยักหน้า โดยปกติแล้วสำหรับการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ทั้งสองฝ่ายจะต้องมานั่งเจรจาต่อรองกัน แต่ชั่วขณะที่กำลังก้าวขาเพื่อไปตามเ้าของแร่อยู่นั้น ก็มีเสียงดังปริศนาดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เ้าเป็ศิษย์จากหุบเขาใด ถึงได้กล้ามาแย่งของกับคนจากหุบเขาหมัวเจี้ยนแห่งนี้?”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------