“อ๊ะ!... ”
ฝูงชนเกิดความโกลาหลขึ้นมาอีกครั้ง
“ทุกคนไม่ต้องตื่นใ ไม่ต้องตื่นใ”
ฮองเฮาพยายามรักษาความเป็ระเบียบเรียบร้อยไว้ ทว่ากลับไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
“กรี๊ด! ”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง พระสนมสองนางล้มลงกับพื้น แม้จะยังไม่ตายในทันทีทว่าพวกนางก็ได้รับาเ็สาหัส
“ติ๊ดติ๊ดติ๊ด! ”
ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีส่งเสียงสัญญาณแจ้งเหตุ
“มีพิษ”
ซูจิ่นซีเพิ่งพูดจบ าแของพระสนมทั้งสองก็ราวกับถูกราดด้วยกรดกำมะถัน ิัเปื่อยยุ่ยกลายเป็สีดำอย่างรวดเร็วทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นเน่าอีกด้วย
พิษอันใด?
เหตุใดจึงร้ายแรงถึงเพียงนี้!
“ตูม! ”
ระบบถอนพิษเตือนภัยดังขึ้นจนซูจิ่นซีรู้สึกแสบแก้วหู
ศีรษะของซูจิ่นซีสั่นะเืจนแทบจะะเิอยู่แล้ว นางรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
จากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ซูจิ่นซีจึงพบว่าทางด้านหน้าได้ปรากฏร่างคนในชุดดำเป็จำนวนมาก
ระบบถอนพิษชี้ให้เห็นว่าเสียงเตือนเมื่อสักครู่ เกิดจากพิษที่อยู่บนร่างกายของกลุ่มคนลึกลับเหล่านี้ทั่วร่างกายของพวกเขาล้วนเป็พิษ
ผู้ใดกัน?
เหตุใดในร่างกายจึงมีพิษมากมายถึงเพียงนี้
ทว่าไม่นาน ซูจิ่นซีก็ค้นพบถึงความผิดปกติอีกอย่าง
ใบหน้าและท่าทางของคนชุดดำเหล่านี้ไม่เหมือนกับคนปกติเท่าไร แววตาหมองคล้ำหน้าขาวซีด เหมือนผีดิบที่อยู่ในหนัง
ผีดิบอย่างนั้นหรือ?
พวกเขาไม่ใช่คนตายจริงๆ ใช่หรือไม่?
ความรู้สึกของซูจิ่นซีช่างรวดเร็ว หรือว่าจะเป็ผีดิบติดพิษ?
ทั้งยังเป็ผู้ที่ติดเชื้อพิษตัวกู่!
์! ในยุคโบราณก็มีสิ่งนี้อยู่ด้วย
ช่างบังเอิญเหลือเกิน ซูจิ่นซีเคยอ่านเจอสิ่งเหล่านี้ในหนังสือโบราณผู้ใดใช้ให้เ้าพวกถังเหมินชอบสะสมสิ่งของแปลกๆ กันเล่า!
การที่นางข้ามภพมาในคราวนี้ ท่าทางจะกินระยะเวลายาวนานเสียแล้ว
ทว่าซูจิ่นซีไม่มีเวลามากพอให้แปลกใจ เนื่องจากผีดิบเ่าั้เริ่มโจมตีไปในทิศทางที่ฮองเฮายืนอยู่
พวกมันต่างพุ่งเข้าใส่ฮองเฮา
ศพพิษนั้นช่างแข็งแกร่ง ดาบแทงเข้าไปกลับไม่มีแม้แต่เื
ใบหน้าของซูจิ่นซีซีดเผือด ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็การเล่นกับไฟที่มีความรุนแรงมากไปเสียหน่อยมันเกินขอบเขตที่นางสามารถควบคุมได้
“รีบไป! ใช้พิราบส่งสารไปยังเมืองตี้จิง บอกว่าที่นี่เกิดเื่ยุ่งยากขึ้นแล้ว!”
ซูจิ่นซีสั่งการองครักษ์ข้างกายนายหนึ่งอย่างไม่ทันได้คิดองครักษ์รีบตอบรับอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งออกไป
นี่เป็วิธีที่สองที่จะช่วยส่งข่าวจากวัดพุทธฝ่าไปยังเมืองตี้จิงได้อย่างเร่งด่วน
“อะไรนะ? เจอผีดิบติดพิษอย่างนั้นหรือ? เหลวไหล เหลวไหลจริงๆ ! ซูจิ่นซีบ้าไปแล้วหรือ? แม้แต่คำพูดเหลวไหลพวกนี้ยังปั้นเื่ออกมาได้”
เื่ผีดิบติดพิษเหล่านี้เป็เพียงเื่เล่าต่อๆ กันมาเท่านั้นไม่มีผู้ใดสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ และไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นเช่นกัน
“ฝ่าา ตอนนี้เราทำได้เพียงเชื่อในสิ่งที่พวกเขาส่งสารเท่านั้น อย่าเพิ่งเสียเวลาคิดกังวลว่าเป็เื่จริงหรือไม่!อย่างไรเสีย ฮองเฮาและพระสนมทุกพระองค์ของฝ่าาก็ยังอยู่ที่วัดพุทธฝ่า พวกเราส่งทหารเข้าช่วยเหลือโดยด่วนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ขุนนางเฒ่าท่านหนึ่งกล่าวขึ้น
“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าา!”
คนที่เหลือต่างพิจารณาอีกครั้ง
“ขุนนางผู้ใหญ่ทั้งหลาย พวกท่านต่างพากันเลอะเลือนไปหมดแล้วหรือ? หากวัดพุทธฝ่ามีผีดิบติดพิษจริงๆ ทำเพียงส่งทหารไปจะมีประโยชน์อันใด?ว่ากันว่าผีดิบติดพิษนั้นเก่งกาจยิ่งนัก เพียงคนอยู่ใกล้ ร่างกายก็สามารถรับพิษได้เราต้องคิดหาวิธีการที่ปลอดภัยให้แน่นอนก่อน”
ไท่จื่อเยี่ยเซินกล่าว
ที่ไท่จื่อพูดมาก็มีเหตุผล ผีดิบฆ่าไม่ตาย แม้มีทหารมากเท่าไรก็ไม่ได้ช่วยอันใดเลยมีแต่จะส่งคนไปตายเสียเปล่า
เหล่าขุนนางเงียบเสียงลงในทันที
“ทว่าฮองเฮายังอยู่ที่วัดพุทธฝ่านะพ่ะย่ะค่ะ! ”
ฮูหยินของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็ติดตามฮองเฮาไปด้วย ทว่าเขาไม่กล้าบอกตรงๆว่าเป็ห่วงฮูหยินของตน ได้แต่อ้างถึงฮองเฮาเท่านั้น
“จริงด้วย พระชายาโยวอ๋องก็อยู่ที่วัดพุทธฝ่าด้วยไม่ใช่หรือ? ความสามารถด้านพิษของนางเก่งกาจถึงเพียงนั้น คงไม่มีปัญหาในการรับมือกับพวกผีดิบติดพิษเสด็จพ่อ...ท่านออกคำสั่งให้พระชายาโยวอ๋องคิดหาวิธีรับมือ ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ! ”
ให้พระชายาโยวอ๋องรับมือหรือ?
นางเป็เพียงผู้หญิงยิงเรือ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังไม่รู้ศิลปะการต่อสู้อีกด้วยรนหาที่ตายเสียแล้ว
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ต่างแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย ทว่าฮ่องเต้กลับเห็นด้วยเป็อย่างยิ่ง
“ที่เซินเอ๋อร์พูดก็ดูเข้าท่า ความสามารถในด้านพิษของพระชายาโยวอ๋องเหนือกว่าผู้ใดทั้งหมดแม้แต่โรคของฮองเฮาและไท่เฟย นางยังสามารถรักษาให้หายได้ ความสามารถในการรับมือกับผู้ที่ติดเชื้อพิษตัวกู่ของนางก็สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเต็มที่อย่างนั้นก็เอาเช่นนี้ ประกาศพระราชโองการของข้าออกไป บอกว่าข้ามอบอำนาจให้แก่พระชายาโยวอ๋องเพื่อจัดการกับผู้ที่ติดเชื้อพิษตัวกู่และหวังว่าพระชายาจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังไม่เช่นนั้นนางจะถูกลงโทษที่ขัดพระราชโองการ”
“ฝ่าา... นี่... เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมังพ่ะย่ะค่ะ? ”
ทันใดนั้นก็มีขุนนางชั้นสูงผู้หนึ่งเอ่ยคัดค้านขึ้น
“เสด็จพ่อ อีกอย่าง... ค่ายหู่เปินก็อยู่นอกเมืองหลวงราวสามสิบลี้ และอยู่ใกล้กับวัดพุทธฝ่ามากเราเพียงสั่งย้ายกำลังพลจากค่ายทหารหู่เปินจำนวนห้าร้อยนายไปช่วยเหลือพระชายาโยวอ๋องเนื่องจากครานี้เสด็จแม่ไปวัดพุทธฝ่าและได้นำผู้ติดตามไปด้วยไม่มากพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยเซินกล่าวคาดการณ์
“จริงด้วย ทหารห้าร้อยกำลังพล สั่งย้ายทหารจากค่ายหู่เปินไปช่วยเหลือในทันที”
สมกับเป็พ่อลูกกันเสียจริง เยี่ยเซินพูดอันใด ฮ่องเต้ก็ทำอย่างนั้นจนลืมไปแล้วว่าในเวลานี้ ฮองเฮาที่พวกเขารักที่สุดกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากที่วัดพุทธฝ่า
พระองค์ยังเป็ฮ่องเต้องค์เดิมหรือไม่?
อีกทั้งเวลานี้ ค่ายทหารหู่เปินมีกำลังพลอยู่ห้าแสนนาย!คาดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะจัดกำลังทหารเพียงห้าร้อยนายให้กับวัดพุทธฝ่า
ไม่ใช่ว่า้าปล่อยให้ทุกคนที่วัดพุทธฝ่าตายหรอกหรือ?
“ฝ่าา เื่นี้ไม่เหมาะสมนะพ่ะย่ะค่ะ! ”
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนที่มีฮูหยินอยู่ที่วัดพุทธฝ่าต่างรีบพากันคุกเข่าขอร้องฮ่องเต้ทว่ายังพูดไม่ทันจบ ฮ่องเต้ก็ไม่สบอารมณ์เสียแล้ว “ขุนนางที่รัก หรือว่าพวกเ้ากำลังสงสัยในการตัดสินใจของข้า?หรือพวกเ้ากำลังสงสัยในความสามารถของพระชายาโยวอ๋อง พวกท่านเข้าใจว่าพระชายาโยวอ๋องเป็เพียงผู้หญิงยิงเรือไม่มีความสามารถรับผิดชอบงานสำคัญอย่างนั้นหรือ? ”
“ข้าน้อยมิกล้า! เพียงแต่ว่า... ”
“หากพวกเ้าทุกคนสงสัย ข้าจะเปลี่ยนพระราชประสงค์ในทันที ข้าอนุญาตให้พวกเ้าทุกคนเดินทางไปที่วัดพุทธฝ่าเพื่อต่อสู้กับผีดิบติดพิษขุนนางท่านใดเต็มใจไปบ้าง? ”
ผู้ใดจะกล้าไปกันเล่า?
หากไปก็เป็การรนหาที่ตาย แม้จะเป็ห่วงฮูหยินของตน ทว่าหากตายแล้วก็ไม่เหลืออันใด
เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทำได้เพียงกล้ำกลืนความเ็ปทั้งน้ำตา
ในวัดพุทธฝ่า องครักษ์ต้านทานผีดิบติดพิษไว้ไม่ไหวแล้ว ผ่านไปไม่นานองครักษ์ที่คอยปกป้องอยู่ข้างกายฮองเฮาและผู้มีฝีมือที่ปลอมตัวเป็นางกำนัลต่างก็ล้มลงไปกับพื้นทีละคนๆแม้แต่องครักษ์คนสุดท้ายที่ปกป้องฮองเฮาอย่างซื่อสัตย์ก็ล้มลงกับพื้นเช่นกัน
ผีดิบติดพิษค่อยๆ เคลื่อนกายเข้าใกล้ฮองเฮา ในที่สุดก็เข้าประชิดฮองเฮาจนหลังติดกับกำแพง
เดิมทีฮองเฮาไม่มีแรงที่จะต่อต้านอยู่แล้ว พระองค์จึงถูกผีดิบติดพิษจับตัวไปได้อย่างง่ายดาย
“พระชายาโยวอ๋อง ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”
ผู้ดูแลสองคนที่ไม่เคยปราฏตัวให้เห็นมาก่อน พวกเขาปลอมตัวเป็ผู้มีฝีมือชั้นสูงหลังจากที่พวกเขาร่อนลงจากหลังคามายืนอยู่ด้านข้างซูจิ่นซี ก็เอ่ยถามซูจิ่นซีด้วยเสียงมั่นคง
“พวกเ้าได้ยินเสียงขลุ่ยหรือไม่? ผีดิบติดพิษพวกนี้ถูกควบคุมด้วยเสียงขลุ่ยเพียงควบคุมผู้ที่เป่าขลุ่ยเอาไว้ได้ ผีดิบติดพิษเหล่านี้ก็รับมือได้ไม่ยาก ทว่าหากจะรับมือกับผีดิบติดพิษพวกเราก็ต้องดำเนินการตามแผนเดิม อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”
“พ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์ปฏิบัติตามคำสั่งของซูจิ่นซี ผู้มีฝีมือสูงส่งจำนวนสองถึงสามนายต่างเร้นกายหายออกไปแล้วเหลือเพียงหนึ่งนายที่ติดตามซูจิ่นซีไป ทันใดนั้นองครักษ์ที่ซูจิ่นซีส่งไปแจ้งข่าวขอความช่วยเหลือจากเมืองตี้จิงก่อนหน้านี้ก็กลับมาถึงแล้ว
“พระชายาโยวอ๋อง มีพระบัญชาจากฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”
แม้จะเป็พระราชโองการของฮ่องเต้ ทว่าด้วยสถานการณ์พิเศษ จึงไม่อาจส่งคนมาแถลงการณ์ต่อหน้าได้ดังนั้นจึงใช้พิราบส่งสาร
ซูจิ่นซีทำได้เพียงคุกเข่าลงก่อนจะน้อมรับพระราชโองการตามมารยาท
เมื่อองครักษ์อ่านพระราชโองการของฮ่องเต้จบแล้ว ซูจิ่นซีก็โกรธขึ้นมาทันใด“ให้ตายเถิด! ยังหน้าไม่อายอยู่อีกหรือ?”
“พระชายาโยวอ๋อง ท่านกล่าวอันใดนะพ่ะย่ะค่ะ? ”
องครักษ์ฟังไม่เข้าใจนัก
ซูจิ่นซีระงับความโกรธเอาไว้ในใจ พยายามทำใบหน้าให้มีรอยยิ้มไร้เดียงสา“ไม่มีอันใด ไม่มีอันใด! ” จากนั้นซูจิ่นซีก็เห็นว่าเพลิงไหม้จากหอพระไตรปิฎกฝั่งนั้นได้ลุกลามมาทางนี้แล้ว “เ้าหากำลังคนมาจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบเสียหน่อยว่ายังมีคนที่รอดชีวิตอยู่หรือไม่แล้วโยกย้ายคนทั้งหมดออกไปให้ได้ ทางนั้นยังมีฮูหยินอยู่อีกสองถึงสามนางจะต้องปกป้องให้ปลอดภัย”
“พ่ะย่ะค่ะ! ”
ก่อนหน้านี้ ซูจิ่นซีได้วางยาผงชนิดหนึ่งไว้ที่พระวรกายของฮองเฮาแล้ว นี่เป็สิ่งที่ซูจิ่นซีและฮองเฮาปรึกษากันไว้ล่วงหน้า ดังนั้นการเดินทางออกมายังวัดพุทธฝ่าครานี้เป็เพียงหลุมพรางเพื่อไล่งูออกจากถ้ำของซูจิ่นซีซึ่งก่อนหน้านี้นางได้เข้าวังไปปรึกษากับฮองเฮา
หากเป้าหมายของผู้มาเยือนคือการลอบสังหารฮองเฮา เช่นนั้นผู้มาเยือนจะต้องเป็ผู้มีฝีมือสูงส่งเป็อันดับต้นๆอย่างแน่นอน ทว่าซูจิ่นซีได้วางแผนรับมือกับพวกเขาไว้แล้ว
หากผู้มาเยือน้าเพียงจับตัวฮองเฮาไปเช่นนั้นซูจิ่นซีก็จะใช้วิธีสะกดรอยตาม และจับผู้ที่อยู่เื้ัออกมาให้ได้
ผู้มีฝีมือที่ล่วงหน้าไปก่อนท่านนั้น ได้นำคนบางส่วนไปรับมือกับผู้ที่ควบคุมผีดิบติดพิษแล้วตอนนี้ซูจิ่นซีกับผู้มีฝีมือคนอื่นๆ กำลังนำคนที่เหลือบางส่วนตามหาผู้ที่ลักพาตัวฮองเฮาไป
ยาผงที่บรรจุอยู่ในตัวฮองเฮามีน้ำหนักอยู่พอสมควรเมื่อฮองเฮาถูกผีดิบติดพิษพาตัวไป พระองค์ก็จะใช้นิ้วบีบถุงยาผงให้แตกละเอียด เมื่อพวกเขาผ่านไปที่ใดยาผงนั้นจะกระจัดกระจายออกมา ระบบถอนพิษของซูจิ่นซีก็จะสามารถค้นหายาผงนั้นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ทว่าเมื่อพวกซูจิ่นซีเดินไปถึงหุบเขาหลังวัดพุทธฝ่า ก็ได้หยุดลงอย่างกระทันหัน
“พระชายาโยวอ๋องเกิดอันใดขึ้น?”
“ยาผงที่บรรจุอยู่ในตัวฮองเฮาสิ้นสุดลงตรงนี้แล้ว”
ไม่น่าเป็ไปได้!
แม้ว่าด้านหน้าจะเป็หุบเขา ทว่าในอากาศยังมีละอองของผงยาอยู่เช่นกัน แล้วเหตุใดจึงไม่มีร่องรอยแม้แต่น้อย
ซูจิ่นซีสังเกตบริเวณโดยรอบอีกครั้ง พบว่าตำแหน่งที่พวกตนอยู่เหมือนจะมียาผงเป็จำนวนมากซูจิ่นซีเดินตามการแจ้งเตือนของระบบถอนพิษไป คาดไม่ถึงว่าจะพบกับถุงยาผงที่นางบรรจุไว้ในตัวฮองเฮาก่อนหน้านี้
นี่มันเกิดอันใดขึ้น?
หรือว่าจะถูกอีกฝ่ายพบเข้าแล้ว?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้