ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“ท่าน...อ่ะ...คุณวาคิมค่ะ” ฉันเคาะประตูเอ่ยปากเรียก
“...............”
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“คุณวาคิมค่ะ” ฉันเรียกคนที่อยู่ในห้องอีกครั้ง
แกร๊ก ~~
“ใครวะ...เสียงดังแต่เช้า”
เสียงสบถพร้อมกับภาพตรงหน้าที่ปรากฏภาพของชายหนุ่มยืนเปลือยกายท่อนบนโชว์หราตรงหน้า เรือนร่างอันกำยำที่มีมัดกล้ามสวยงามประดับอยู่นั้นเมื่อบวกเข้ากับเขาที่ยืนเอามือเท้าประตูพร้อมกับยีหัวด้วยความหงุดหงิด ช่างทำให้ภาพทั้งหมดทั้งมวลตรงหน้ากลับดูเซ็กซี่จนคนที่ได้เห็นถึงกับลอบกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“...อึก...” (O///O)
ลำคอระหงถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกหลังได้ลอบมองเรือนร่างดั่งเทพเซียนปั้นตรงหน้า ก่อนที่ตัวเองจะรีบเก็บสายตาหื่นกระหายอย่างไม่ทันตั้งตัวเอาไว้ด้วยความรวดเร็วแล้วเปลี่ยนเป็สายตานิ่งสงบดังเดิมแทน
“ขะ...ขอโทษค่ะ ท่านประ...เอ่อ...คุณวาคิม ถ้าอย่างนั้นมนต์ขอตัวลงไปรอข้างล่างแล้วกันนะคะ” ฉันก้มหน้าเอ่ยเสียบเรียบทั้งที่ใจยังเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่เป็จังหวะ
“อ้าว...อ๋อคุณเองหรอ...ไม่ต้องหรอกเข้ามาสิ” คนตัวโตที่ยังคงงัวเงียตื่นไม่เต็มตา พูดก่อนจะเดินนำเข้าไปภายในห้อง
“ท่าน...เอ่อ...คุณวาคิม้าให้มนต์ทำอะไรให้หรือเปล่าคะ แจ้งมนต์ได้เลยนะคะ” ส่วนฉันที่พยายามคิดไปถึงเื่สัพเพเหระขั้นพื้นฐานระหว่างสถานะเ้านายกับลูกน้องมากกว่าสถานะอื่นได้เอ่ยปากถามออกไป โดยที่ขาก็ได้แต่ก้าวตามเขาเข้าไปยังพื้นที่อันตรายอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเมื่อเขาได้กวักมือเรียกฉันหลังจากที่หย่อนกายลงนั่งบนที่นอน
“มานี่สิ”
ส่วนฉันได้แต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ทำอะไรไม่ถูกก่อนหน้านี้ ทันทีที่ได้ฟังคำสั่งของเขาความรู้สึกหวาดหวั่นก็พลันผุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่ไม่น่าไว้ใจอีกหรือเปล่า
และในขณะที่ฉันยังยืนหันรีหันขวางอยู่นั้น...
“อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำซิ” เสียงเย็นเอ่ยย้ำเมื่อเห็นว่าฉันยังยืนนิ่งไม่ไหวติง
สิ้นเสียงดุดันร่างบางก็พลันสะดุ้งโหยง ก่อนจะกุลีกุจอรีบเดินตรงไปยังที่นอนของคนตัวโต จนกระทั่งเมื่อร่างบางยืนประชิดริมขอบเตียงและยังเป็จุดเดียวกับตรงหน้าของเขาแล้วนั้น
หมับ...!!
ความรวดเร็วของวงแขนกำยำก็ทำฉันถึงกับเบิกตากว้างทันที เมื่อมือหนาข้างหนึ่งของคนตรงหน้าได้ยื่นมาคว้าหมับเอาเข้ายังก้อนเนื้อตรงหน้าอกหน้าใจของฉันที่ใหญ่เกินตัวโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวหรือคาดคิดว่าเขาจะทำแบบนี้
“ว๊ายยยย ~~ คะ...คุณวาคิม” (OoO)
ส่วนฉันที่ใร้องเสียงดังลั่น อีกทั้งเตรียมที่จะถอยหนีการจู่โจมของเขาอย่างอัตโนมัติตามสัญชาตญาณของร่างกาย เพียงแต่...ไอ้สัญชาตญาณของฉันมันกลับช้าไปสำหรับเขา เพราะในเสี้ยววินาทีเดียวกันนั้นเองมือหนาอีกข้างก็ตรงเข้าคว้าเอวกิ่วแล้วดึงร่างบางให้ลงไปนั่งคร่อมบนตัวเขาอย่างรวดเร็ว
“คะ...คุณวาคิม” (O///O) ฉันที่ยังไม่หายใเอ่ยเรียกชื่อเขาไม่เต็มเสียง
“ถอดเสื้อออกสิ วันนั้นผมยังเห็นมันไม่ชัดเท่าไรเลย” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยความ้าของตัวเองออกมาทันทีโดยไม่รอให้ฉันได้หายใ
“ตะ...แต่” ฉันอ้ำอึ้ง
“ผมไม่ชอบพูดซ้ำนะ...มนต์” คนใต้ร่างย้ำพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่เปลี่ยนมาประคองเอวบางแน่นแทน พร้อมกับช้อนสายตามองนิ่ง
“คะ...ค่ะ” (O///O)
ฉันกัดฟันรับคำก่อนจะค่อย ๆ จับชายเสื้อของตัวเองให้เลิกขึ้นด้วยความประหม่า
กระทั่งเมื่อเนื้อผ้าคอตตอนเบาสบายที่ฉันมักจะใส่ในวันหยุดถูกถลกลากขึ้นผ่านิัเนียนนุ่มขาว จนเมื่อมันลากผ่านก้อนอวบอูมเด้งชูชันที่อยู่ภายใต้เสื้อชั้นในลายลูกไม้สีชมพูอ่อนทั้งสองข้างแล้ว เสียงกลืนน้ำลายจากคนใต้ร่างก็ดังสวนขึ้นมาทันที
“เฮือก ~~”
และเมื่อเสื้อที่เคยใช้ปกปิดร่างกายได้หลุดพ้นไปจากร่างนวลเนียนแล้ว ภาพกึ่งเปลือยเปล่าขาวกระจ่างที่โชว์หราท้าสายตาหื่นกระหายของผู้ชายตรงหน้าก็ทำให้ฉันหน้าร้อนผ่าวจนต้องเสหน้าหลบหนี
“เวลาอยู่กับผมที่นี่ไม่ต้องใส่ไอ้นี่หรอกนะ” เขาพูดพร้อมกับเลื่อนมือขึ้นมาปลดตะขอเสื้อใน ก่อนจะถอดมันโยนทิ้งไปจนไกลตัว
และในจังหวะที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าคมเข้มที่ก่อนหน้านี้ยังตื่นไม่เต็มตาก็โน้มเข้ามาหาความหอมกรุ่นจากสองเต้าทันที
จ๊วบ ~~ จุ๊บ ~~
ริมฝีปากร้อนตรงเข้าจู่โจมเนินเนื้อขนาดใหญ่อย่างไม่รีรอ พร้อมกับออกแรงกดเม้มริมฝีปากไปตามเนื้อสาวจนเกิดรอยแดงเล็ก ๆ ไปทั่ว จนเ้าของก้อนเนื้ออวบถึงกับร่างผวาเผลอครางออกมาด้วยเหตุเพราะว่านี้เป็ครั้งแรกของเธอ
“อ่ะ อื้อออออ ~~”
เสียงครางหลุดลอดออกมาจากเรียวปากสวยทั้งที่ร่างกำลังสั่นสะท้าน หลังจากปลายปทุมถันสีชมพูระเรื่อถูกริมฝีปากร้อนชื้นเข้าครอบงำดูดดึง
“ช่วยเบาเสียงของคุณลงหน่อยได้ไหมครับคุณมนต์ เพราะเสียงของคุณมันช่าง...ทำให้ผมมีอารมณ์มากเหลือเกิน” เ้าของริมฝีปากร้ายหยุดดูดจุกหวาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับหญิงสาวถึงความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะก้มหน้าลงไปละเลงลิ้นสวาทต่อ
จ๊วบ ~~ แผล็บๆๆ
ปลายลิ้นเกี่ยวตวัดหยอกล้อสองยอดปทุมถันจนแข็งขึ้นเป็ไตทั้งสองข้าง อีกทั้งยังสลับดูดดึงจนสองเต้าเปียกแฉะเต็มไปด้วยน้ำลายของคนตัวโตที่แต่งแต้มเต็มไปหมด
แต่ทว่า...เสียงหวานยังคงครางกระเส่าเนื่องจากยังโดนลิ้นร้ายทรมานไม่หยุด แม้จะได้รับคำเตือนจากเ้าของลิ้นสากก็ตาม
“อื้อออออ ~~ อืมมมมม ~~”
“ผมขอเตือนเลยนะว่าถ้าหากคุณยังไม่สามารถเก็บเสียงหวาน ๆ ของคุณได้แล้วละก็ ผมเองก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถหยุดการกระทำลงได้เพียงเท่านี้” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเตือนย้ำอีกครั้ง ก่อนที่ฉันจะรับรู้ได้ความแข็งแกร่งกำยำที่ตอนนี้กำลังดุ้นดันอยู่ตรงบริเวณบั้นท้ายในตอนนี้
อีกทั้งด้วยความรู้สึกที่ได้รับ เมื่อรวมเข้ากับภาพประสบการณ์เมื่อวานที่ห้วนเข้ามาในโสตประสาท นั่นจึงทำให้ฉันไม่รอช้ารีบยกมือขึ้นมาอุดปากตัวเองเอาไว้แน่นทันที
“อุ๊บ...!!” มือบางที่ยกขึ้นมาปิดปากแน่นเพราะไม่อยากให้เสียงแห่งความเสียวซ่านหลุดเล็ดลอดออกมาจนทำให้ร่างกายบางจุดต้องบอบช้ำอีก และถึงแม้ว่าตอนนี้บริเวณหน้าอกอวบยังต้องอดทนรับความทรมานที่แสนสุขสมจากคนตัวโตที่ยังส่งลิ้นร้ายมาปรนเปรอไม่หยุดก็ตาม
กระทั่งเมื่อพายุแห่งความทรมานจากลิ้นร้ายได้จบลง เขาที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าถ้าฉันไม่เปล่งเสียงอะไรให้เล็ดลอดออกไป เขาก็ปล่อยให้ฉันได้เป็อิสระได้ลุกออกจากร่างกายกำยำของเขาทันที
“ฟู่ววววว ~~”
ฉันถึงกับรู้สึกโล่งใจจนเผลอถอนหายใจออกมา และแม้ว่าข้างในจะยังสั่นสะท้านรุ่มร้อนไม่หยุดก็ตามแต่เพื่อความปลอดภัยของอวัยวะที่กำศึกหนักมาก่อนหน้านี้ฉันจำต้องหักห้ามความปรารถนาส่วนลึกของตัวเองเอาไว้ จากนั้นร่างบางก็รีบวิ่งถลาไปเก็บเอาเสื้อผ้าทั้งตัวในและตัวนอกที่กองอยู่บนพื้นห้อง เพื่อนำมาใส่ปกปิดร่างกายอีกครั้งทันที
และในขณะที่ฉันกำลังหันหลังเตรียมจะใส่เสื้อชั้นในอยู่นั้น...
