ความจริงเซี่ยหวายอีไม่้าที่จะละลาบละล้วง เกี่ยวกับเื่ส่วนตัวของผู้อื่น แต่เขาอยากรู้ว่าแม่ทัพหยวนิเขียนสิ่งใดเอาไว้กันแน่ จึงทำให้หยวนชิงหลิงมีอาการเช่นนี้
มือเรียวยาวพยายามแกะกระดาษจดหมายออกจากมือเล็กของนางที่กำเอาไว้แน่นทั้งที่ยังไม่ได้สติกลับมา หลังจากที่เขาอ่านเนื้อความภายในจดหมายจนจบ เซี่ยหวายอีก็โมโหจนตบโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงจนพังยัง จื่อชางที่เฝ้าอยู่ด้านนอกรีบพุ่งเข้าไปในกระโจมอย่างไม่รีรอ เพราะคิดว่านายของตนกำลังได้รับอันตราย
“ท่านอ๋อง เกิดสิ่งใดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อจื่อชางมองเห็นเศษซากโต๊ะที่อยู่มุมหนึ่งของกระโจม เขาก็เข้าใจในสถานการณ์ทันที
“กระหม่อมจะให้คนมาทำความสะอาดทีหลัง”
เอ่ยจบจื่อชางก็เดินออกไปทำหน้าที่ของตนเช่นเดิม เซี่ยหวายอีก้มลงมองกระดาษจดหมายที่อยู่ในมือของตนอีกครั้ง เนื้อความในจดหมายเขียนถึงหยวนชิงหลิงเอาไว้ว่า
ถึงหลิงเอ๋อ
บุตรสาวสุดที่รักของพ่อ หากลูกได้รับจดหมายฉบับนี้แสดงว่าพ่อนั้นได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว ลูกจงตั้งใจฟังให้ดี พ่อนั้นถูกสหายที่ไว้ใจมากที่สุดทรยศหักหลัง หลี่ฮั่วชางได้ร่วมมือกับองค์ชายห้าวางแผนยึดอำนาจในกองทัพ น่าเสียดายที่พ่อรู้ตัวช้าไป ตอนนี้อาการถูกพิษของพ่อกำลังกำเริบจนไม่สามารถรักษาได้ พ่อคิดว่าตนเองอาจจะอยู่ได้อีกเพียงไม่นานแล้ว พ่ออยากเห็นลูกในชุดเ้าสาวสีแดง แต่งงานออกเรือนเป็ฝั่งเป็ฝากับบุรุษที่ลูกรัก พ่อเสียใจที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกไม่ได้ หลิงเอ๋อหากลูกอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว จงพาคนตระกูลหยวนที่เหลือเดินทางออกจากแคว้นฉินซะ อย่าได้ไว้ใจผู้ใดเด็ดขาดโดยเฉพาะคนตระกูลฉิน พ่อรักลูกสองคนมาก บอกแม่ของลูกด้วยว่า สามีที่ไร้ความสามารถผู้นี้ขอโทษนางจากใจจริง ที่ปล่อยให้นางรอคอยมาตลอด ดูแลและกตัญญูท่านย่าแทนพ่อด้วย
หยวนิ
ความจริงเซี่ยหวายอีรู้สึกสงสัยมานานแล้ว เพราะเนื้อหาในจดหมายฉบับนี้ เขาถึงได้เข้าใจเื่ราวทั้งหมดโดยกระจ่างว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่
การต่อสู้ระหว่างเขาและแม่ทัพหยวนิยังไม่ทันได้เริ่ม แต่ร่างกายของเขากลับมีเืเปรอะเปื้อนชุดเกราะเต็มไปหมด คล้ายกับถูกทำร้ายมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งาแที่เขาพึ่งได้รับมานั้นทำให้ตนเองก็รู้สึกสงสัย
คราแรกเซี่ยหวายอีคิดว่าหยวนิได้รับาเ็จากการต่อสู้ในสนามรบ แต่แม่ทัพใหญ่ที่กรำศึกมาเนิ่นนานอย่างเขาไม่น่าใช่ผู้ที่อ่อนแอถึงเพียงนั้น เป็เพราะเขาถูกวางยาพิษและถูกคนของตนหักหลังนั่นเอง
ทำให้การต่อสู้ระหว่างเขาและแม่ทัพหยวนิจบลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งก่อนตายเขายังแอบส่งจดหมายฉบับนี้ให้กับตน หากด้านหน้าซองที่ปิดผนึกมิได้เขียนชื่อของหยวนชิงหลิงเอาไว้ เขาคงจะเปิดอ่านไปนานแล้ว
นี่ก็เป็อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาต้องปลอมตัวเป็ทหารองครักษ์ติดตามคณะราชทูตไปที่แคว้นฉิน เขาอยากรู้ว่าชื่อหยวนชิงหลิงที่อยู่ด้านหน้าซองจดหมายคือผู้ใด
เพราะจดหมายฉบับเดียวทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเื่ยุ่งๆ ของนางและแคว้นฉิน อีกอย่างคนพวกนั้นถึงกับกล้าใช้เขาเล่นละครตบตาประชาชนแคว้นฉิน หากไม่หาทางเอาคืนเขาคงนอนตายตาไม่หลับแน่
เซี่ยหวายอีแสดงอาการโกรธเกรี้ยวมาออกทางสีหน้า หากมิใช่ว่าทั้งสองแคว้นทำสัญญาสงบศึกต่อกันแล้ว เขาอยากจะยกทัพกลับไปตีแคว้นฉินแล้วทำลายให้สิ้นซากเสียตอนนี้เลย
ผ่านไปสองวันแล้วที่หยวนชิงหลิงยังไม่ฟื้นคืนสติกำหนดการเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงแคว้นเซี่ยก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
เซี่ยหวายอีเองก็เอาแต่นั่งเฝ้านางอยู่แต่ภายในกระโจมของตนไม่ออกไปไหน ใบหน้าหล่อเหลามีความกังวลปรากฏฉายชัด ความรู้สึกหวาดกลัวของเขาผุดขึ้นมาในใจตลอดเวลา เขากลัวว่านางจะไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
“เ้าเป็ใคร”
ใบหน้างามที่ดูซีดเซียวของหยวนชิงหลิงหันไปมองผู้ที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ข้างเตียง เซี่ยหวายอีไม่คิดว่านางจะปุบปับฟื้นขึ้นมาเช่นนี้ เขาจึงมิทันได้ใส่หน้ากากเอาไว้
“ขะ...ข้าคือ”
นางจ้องมองหน้าเขาอย่างเฝ้ารอคำตอบ เซี่ยหวายอีถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ช่างเถิด ถึงนางจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาแล้ว นางก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาคือองครักษ์ในคืนนั้น
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น หยวนชิงหลิงขยับเข้าไปใกล้เขา จากนั้นนางจึงทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลังดมกลิ่นบางอย่าง เซี่ยหวายอีที่ไม่ทันตั้งตัวทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหน
“นี่!!เ้าเป็สตรีนะ เหตุใดไม่รู้จักสำรวมเช่นนี้ มาดมข้าด้วยเหตุใด”
หยวนชิงหลิงไม่สนใจคำพูดของเขา นางยื่นมือไปจับใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษตรงหน้า หันซ้ายหันขวาเพื่อดูให้ชัดๆ
“เ้ารูปงามมาก ข้าไม่เคยเห็นบุรุษใดรูปงามเท่ากับเ้ามาก่อน แต่กลิ่นกายและน้ำเสียงของเ้า....ช่างเหมือนกับหัวหน้าองครักษ์ผู้นั้นจริงเชียว”
นางถอยห่างออกจากเซี่ยหวายอี ก่อนที่จะมองเขาด้วยสายตาค้นหา
“บอกมาว่าเ้าเป็ใคร”
เซี่ยหวายอีถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เดิมทีเขาก็กำลังคิดที่จะบอกนางอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะถูกนางสงสัยก่อนเสียได้ เห็นทีการแปลงโฉมของเขาคงจะใช้ไม่ได้กับนาง หรือบางทีอาจเป็เขาที่ไร้ความสามารถเอง เซี่ยหวายอีหยิบหน้ากากที่วางอยู่บนโต๊ะมายื่นให้กับนาง
“ข้าคือจิ้นอ๋องแห่งแคว้นเซี่ย”
หยวนชิงหลิงชี้ไปที่ใบหน้าของเซี่ยหวายอี ก่อนที่จะะโออกมา
“หา!!!จิ้นอ๋องหรือ ท่านก็คือแม่ทัพเซี่ยที่ใส่หน้ากากผู้นั้น แล้วเหตุใดท่านจึง....”
นางมองใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษตรงหน้าแล้วมองไปที่หน้ากากที่อยู่ในมือตน ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“คงไม่ใช่ว่า....ท่านก็คือหัวหน้าองครักษ์ผู้นั้นด้วยหรอกกระมัง”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ไม่ไกลตัวแข็งทื่อขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นจึงพยักหน้าช้าๆ หยวนชิงหลิงไม่อยากจะเชื่อเลย นี่นางทำสิ่งใดลงไปกันแน่เนี่ย ตลอดการเดินทางนางเอาแต่ข่มเหงเขาทั้งยังพูดจาไม่ดีกับเขาอีกด้วย
แม้กระทั่งตอนอยู่ที่แคว้นฉินนางเคยทำร้ายร่างกายเขาด้วยซ้ำ ก็นางไม่รู้นี่นาว่าเขาคือเชื้อพระวงศ์ของแคว้นเซี่ย เื่นี้ถือว่านางไม่ผิดก็แล้วกัน เป็เขาเองที่ปลอมตัวมาทำลับๆ ล่อๆ ที่จวนของนาง หวังว่าหลังจากนี้เขาจะไม่เอาคืนนางหรอกนะ
ดวงตาของหยวนชิงหลิงกลอกกลิ้งไปมา คิดหาทางเอาตัวรอด ถ้าหากนางประจบเขาตอนนี้จะยังทันอยู่ไหม เซี่ยหวายอียกนิ้วชี้เคาะที่หน้าผากมนเบาๆ
“เ้ากำลังคิดเื่เหลวไหลอันใดอยู่กัน เลิกคิดได้แล้ว ตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นบ้างแล้วหรือไม่”
เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยความเป็ห่วง ั้แ่ที่บิดาตายจากไป เขาเป็คนแรกที่ทำให้นางรู้สึกได้พึ่งพิงใครสักคน ครั้งก่อนก็เป็เื่ที่เขาช่วยนางจากองค์ชายห้า ต่อมาเขายังช่วยนางจากการจมน้ำอีก ครั้งนี้.....
“ขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยเหลือข้ามาตลอด ชิงหลิงจะไม่มีวันลืมบุญคุณของท่าน แม้ข้าเป็เพียงสตรีตัวเล็กๆ หากวันหน้าสามารถช่วยเหลือสิ่งใดท่านอ๋องได้ ชิงหลิงจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ว่า....”
เซี่ยหวายอีเลิกคิ้วมองใบหน้างามที่ยังคงซีดเซียว รอว่านางจะเอ่ยสิ่งใดต่อ
“เื่การแก้แค้นให้บิดาและตระกูลหยวนนั้นก็สำคัญ ข้าจึงมีเื่้าขอร้องท่านอ๋องสักหน่อย”
บุรุษผู้นี้เป็ผู้ที่มีชื่อเสียงและมีอำนาจในแคว้นเซี่ย หากเกาะขาของเขาเอาไว้ บางทีหนทางการแก้แค้นของนางอาจราบรื่นกว่าเดิม
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าเซี่ยหวายอีเองก็คิดที่จะทำลายคนตระกูลฉินที่กล้ามาหลอกใช้เขาเช่นกัน ต่อให้นางไม่ขอร้องเขา แม่ทัพเซี่ยก็ไม่คิดจะปล่อยเื่นี้ให้ผ่านไปง่ายๆ แน่นอน
“วางใจเถิด ต่อให้เ้าไม่ร้องขอ ข้าก็คิดที่จะจัดการกับคนที่กล้ามากระตุกหนวดของข้าอยู่แล้ว ส่วนนี่ของเ้า ต้องขออภัยที่ข้าอ่านจดหมายฉบับนี้โดยที่มิได้ขออนุญาต ข้าเพียงอยากรู้ว่าแม่ทัพหยวนิเขียนสิ่งใดเอาไว้กันแน่ถึงทำให้เ้ามีอาการเช่นนั้น”
เซี่ยหวายอียื่นจดหมายที่ยับยู่ยี่เพราะหยวนชิงหลิงกำมันเอาไว้แน่นก่อนที่นางจะหมดสติคืนกลับไป ความเ็ปปรากฏฉายชัดอยู่ในดวงตา ใบหน้างามเศร้าสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด หยวนชิงหลิงรับจดหมายจากมือของเขา ก่อนที่จะพับเก็บเอาไว้อย่างประณีต
“ท่านอ๋อง ก่อนออกเดินทางไปที่เมืองหลวงข้าอยากขอร้องท่านสักเื่ได้หรือไม่”
เซี่ยหวายอีพยักหน้ารับอย่างไม่มีท่าทีลังเล
“ท่านช่วยส่งคนไปสืบดูความเป็อยู่ของครอบครัวข้าที่เขตแดนของอ๋องเจ็ดได้หรือไม่ หากเื่ราวทั้งหมดเป็ดั่งที่บิดาของข้าเขียนเอาไว้ ข้าเกรงว่าจะเป็ข้าเองที่ส่งพวกเขาไปตาย”
ใบหน้างามดูเ็ปขึ้นมาทันที เมื่อเอ่ยถึงครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของตน
“เ้าไม่ต้องห่วงเื่นั้น ก่อนที่เราจะออกเดินทางจากแคว้นฉิน ข้าได้ส่งสายลับแฝงตัวไปกับขบวนเดินทางของอ๋องเจ็ดเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานคงได้รู้ข่าวคราวของพวกเขาแน่”
หยวนชิงหลิงพยักหน้ารับอย่างซึ้งใจ ถ้าหากนางมีหนทางแก้แค้นพวกคนแซ่ฉิน ต่อให้นางต้องขายิญญาให้แก่พญามัจจุราชนางก็จะทำ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้