ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเงินของฉินโจ้วเมื่อเริ่มต้นเพิ่มจาก 1 เหรียญทองเป็ 30 เหรียญทอง เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าตัวมีความรู้สึกเหมือนได้ร้องเพลงปลดปล่อยความเป็ทาสอยู่นิดหน่อย อารมณ์ดียิ่งนัก
เขาย้อนกลับมาที่ร้านขายไอเทมเพื่อดูว่าจะมีโอกาสทำเงินอีกหรือไม่แต่พอดูแล้วก็รู้ว่าไม่มีหวัง
ดาบเหล็กไม้ : อุปกรณ์ระดับขาว พลังโจมตี +6 ราคาขาย : 60 เหรียญเงิน
รองเท้าพายุ : อุปกรณ์ระดับขาว ความเร็ว +8 เลเวลที่้าเลเวล 3 ราคาขาย : 70 เหรียญเงิน
เสื้อคลุมกันลม : อุปกรณ์ระดับเหล็กดำพลังป้องกันกายภาพ +10 พลังป้องกันเวท +8 ความเร็ว +1 เลเวลที่้า เลเวล 5 ราคาขาย : 240 เหรียญเงิน
...
ราคานี้ปกติแล้วเกินความสามารถในการใช้จ่ายของผู้เล่นต่อให้หั่นราคาลงครึ่งหนึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะขายออกหรือไม่ เมื่อผู้เล่นมีเลเวลสูงขึ้นไอเทมที่เก็บอยู่นี้ก็ไม่คุ้มค่ากับเงินแล้ว
ที่ผ่านมาฉินโจ้วไม่ทันสังเกตนึกไม่ถึงว่าชั้นบนของร้านขายไอเทมยังมีร้านขายของชำอยู่ด้วย มีแป้งชนิดต่างๆ พริกฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ ตะปู ปูนขาว ค้อน และอื่นๆ สรุปว่าเป็แหล่งรวมของใช้ในชีวิตประจำวันฉินโจ้วเหลือบมองดูราคา ไม่น่าเชื่อ หายากนักที่จะราคาถูกมากขนาดนี้ เขาอดที่จะฉีกยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
“เถ้าแก่ ปูนขาวนั่นข้าเอาหมดเลย”
ระหว่างที่เถ้าแก่ร้านกำลังปากอ้าตาค้างฉินโจ้วก็เอาปูนขาว 15 กระป๋องในร้านเก็บเข้าไปในกระเป๋าแล้วต้องรู้ว่าในหมู่บ้านเริ่มต้นนี้ไม่มีช่างก่อสร้าง ไม่สร้างบ้านแล้วจะเอาปูนขาวไปทำอะไร?
คิดๆ แล้วฉินโจ้วก็พูดต่อ “เถ้าแก่ ขอพริกป่น 2 กระป๋อง ตะปู 2 ห่อ”
“ได้ๆ” เถ้าแก่ร้านที่ดูงกเงิ่น แต่การส่งของรับเงิน ท่าทางนั้นว่องไวนัก นานๆทีจะมีเ้าโง่แบบนี้เข้ามา เอ้ย... ไม่ถูกๆต้องบอกว่าเป็ตู้ทองเคลื่อนที่ถึงจะถูก มาช่วยเคลียร์สินค้าเื่ดีอย่างนี้ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ
หลังจากซื้อขายกันเสร็จฉินโจ้วก็เดินไปที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เขาพบว่ามีผู้เล่นหลายคนกำลังตั้งแผงลอยขายของผู้เล่นในเวลานี้ส่วนมากอยู่ที่เลเวล 3 ที่เลเวล 4 ก็มีไม่น้อย ทุกคนจะมากจะน้อยล้วนมีไอเทมเหลือใช้อยู่จำนวนหนึ่งใช้ไม่ได้ก็เอาออกมาขาย เปลี่ยนเป็เงินไปซื้อยา ฉินโจ้วสำรวจดูคร่าวๆ ครู่หนึ่งทั้งหมดล้วนเป็ไอเทมที่มีคุณสมบัติอยู่ไม่กี่อย่าง แต่คิดๆ แล้วก็ใช่พวกที่มีคุณสมบัติดีๆ ก็ต้องเก็บไว้ใช้เองอยู่แล้ว แม้คุณสมบัติจะไม่ค่อยเท่าไรแต่ราคากลับแพง ถูกกว่าในร้านแค่นิดเดียว กับคนที่ได้รับส่วนลดจากทางร้านถึง 50% เช่นฉินโจ้ว ของพวกนี้จึงไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย
ล้วนเป็พวกผู้เล่นที่ยากจนสุดขีดจริงๆ
“แผนที่จ้าแผนที่ ขายแผนที่แผ่นละ 180 เหรียญทองแดง” ผู้เล่นคนหนึ่งะโสุดเสียงอยู่ข้างทาง
แผนที่เป็ของดีอย่างหนึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาในการสำรวจให้กับผู้เล่นที่สำคัญคือในแผนที่จะบ่งบอกคุณสมบัติของมอนสเตอร์ที่เป็ที่รู้จักแบบนี้การเก็บเลเวลจะค่อนข้างมีเป้าหมาย สามารถเลื่อนเลเวลได้อย่างมีประสิทธิภาพนับว่าเป็ข้อยืนยันอย่างหนึ่ง ขอเพียงมีตลาด ก็มีการค้า
ฉินโจ้วล้วงเงินออกมาซื้อฉบับหนึ่งจากนั้นใส่แผนที่นี้ลงไปในนาฬิกา ทันใดแผนที่ประจำตัวของเขาส่วนที่ยังมืดอยู่ก็กลายเป็สีขาวขึ้นมารอบๆ บริเวณหมู่บ้านเริ่มต้นปรากฏชัดขึ้นทั้งหมด บริเวณที่มีมอนสเตอร์เลเวล 1 ถึง 8 ก็ถูกระบุออกมาอย่างชัดเจนส่วนบริเวณมอนสเตอร์เลเวล 9 ถึงเลเวล 10 นั้น เนื่องเพราะเลเวลผู้เล่นยังไม่พอ จึงยังไม่ถูกสำรวจออกมา เอาไว้อีกหน่อยค่อยเติมแต่สำหรับ ฉินโจ้วแค่นี้ก็นับว่าเพียงพอเื่ของอนาคตก็เอาไว้อนาคตค่อยมาพูดเถอะ
ฉินโจ้วนับว่าเป็คนหัวโบราณคนหนึ่งแต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบทำเื่โบราณๆ เช่นการใช้สองเท้าวัดโลกอะไรทำนองนั้นเขาไม่ทำแน่ๆ
เทือกเขาราชสีห์
มอนสเตอร์ในเทือกเขาราชสีห์ไม่ใช่ราชสีห์แต่เป็สุนัขจิ้งจอกเทือกเขานี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่บ้านเริ่มต้นห่างออกไป 3 ลี้[1] ลักษณะภูมิประเทศเปิดโล่ง ต้นไม้ใหญ่บางตา แต่ดอกไม้ใบหญ้ากลับมีไม่น้อยเป็ทุ่งราบสำคัญซึ่งปกคลุมยอดเขาแห่งหนึ่ง เพราะมีรูปร่างคล้ายราชสีห์จึงทำให้ได้ชื่อว่าเทือกเขาราชสีห์
ว่ากันว่าสุนัขจิ้งจอกมีความเฉลียวฉลาดในเลเวล 1 มอนสเตอร์ที่มีความเฉลียวฉลาดมักมีความโอหังดุร้ายดูจากตัวอย่างของตระกูลสุนัขจิ้งจอกก็พอจะมองออกที่บริเวณตีนเขาเป็สุนัขจิ้งจอกขนเทาเลเวล 2 ที่บริเวณไหล่เขาเป็สุนัขจิ้งจอกขนแดงเลเวล 3 สุดท้ายที่บริเวณยอดเขาเป็สุนัขจิ้งจอกขนทองซึ่งหาได้ยากมากสุนัขจิ้งจอกที่เทือกเขาราชสีห์มีจำนวนมิใช่น้อย แต่ผู้เล่นกลับเยอะยิ่งกว่าหากจะหาคำมาบรรยาย นั่นคือสิ่งของมีน้อยกว่าความ้านั่นเอง
ฉินโจ้วมาถึงครึ่งทางไหล่เขาเฝ้าอยู่นานกว่าจะพบสุนัขจิ้งจอกขนแดงตัวหนึ่ง ดวงตากลมโตของมันกลอกไปมาดูน่ารักน่าชังไม่หยอก แต่ฉินโจ้วไม่มีความคิดจำพวกรักหยกถนอมบุปผา เขาสาวเท้าก้าวออกไปในมือถือกริช เคลื่อนไหวรวดเร็วเต็มที่ ไม่มีทางเลือกจริงๆ รอบด้านมีผู้เล่นมากเกินไปหากคุณไม่ลงมือ คนอื่นก็จะลงมือ ดังคำที่ว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา
ปฏิกิริยาตอบสนองของจิ้งจอกน้อยก็ไม่ช้า ร่างคล่องแคล่วของมันเอี้ยวหลบการโจมตีวิ่งมาถึงด้านข้างของฉินโจ้ว จากนั้นกระโจนขึ้น กรงเล็บแหลมคมของมันเกือบตะปบใส่ลำคอของฉินโจ้วเมื่อเห็นประกายเย็นเยียบแหลมคมนั่น หากโดนเข้าไม่าเ็หนักก็ต้องเสียโฉมเมื่อครู่เพิ่งมีผู้เล่นโชคร้ายคนหนึ่งตายแบบนี้ไปหยกๆ
ฉินโจ้วยิ้มมือซ้ายยกขึ้น ผงปูนสีขาวกระจายเข้าปกคลุมรอบตัวสุนัขจิ้งจอกทันที ทันใดนั้นเ้าสุนัขจิ้งจอกก็ส่งเสียงร้องโหยหวนขึ้นร่างที่กำลังกระโจนอยู่กลางอากาศหล่นตุ้บ ฉินโจ้วไม่ยอมพลาดโอกาส มือขวากำกริชไว้อยู่นานแล้วกริชสะท้อนแสงวาบจู่โจมออกไปเป็ชุด จ้วงแทงใส่ร่างของสุนัขจิ้งจอก ตัวเลขสีแดงหลายตัวลอยขึ้นจากร่างของสุนัขจิ้งจอกทันที
-28 -2 -35 -2 -45 -2 -50 -2 -48 -2 -45 ...
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีจิ้งจอกตัวนั้นหอนโหยหวนออกมาเสียงดัง แล้วกลายเป็แสงสว่างสีเทากลุ่มหนึ่งและตายไปมีเหรียญทองแดงหล่นลงมา 5 เหรียญ
ฉินโจ้วเก็บเหรียญทองแดงจากนั้นรีบเปลี่ยนสถานที่เฝ้า สุนัขจิ้งจอกแถวนี้ล้วนมีเ้าของแล้วได้แต่ไปหาแถวอื่นเอา ผู้เล่นที่อยู่ด้านข้างจ้องมองเสียจนปากอ้าตาค้างผู้เล่นร่างเล็กคนหนึ่งอุทานออกมา “ทำแบบนี้ก็ได้ด้วย นับๆ ดูใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ เร็วจริงๆ”
เพื่อนผู้หญิงที่ร่วมกลุ่มกับเขาพูดขึ้นว่า“อยู่เลเวล 2 เหมือนกันแท้ๆแต่พวกเรา 3 คน ฆ่าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งยังต้องใช้เวลาตั้ง 5 นาที แถมยังรับประกันไม่ได้ว่าจะาเ็หรือเปล่า สุดยอดจริงๆ”
ผู้เล่นคนหนึ่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่นานพลันเอ่ย“พวกเราไปซื้อปูนขาวกันเถอะ”
มือขวาถือกริช มือซ้ายกำปูนขาวจากนั้นฉวยโอกาสในพริบตาที่สุนัขจิ้งจอกสูญเสียการมองเห็นจัดการมันซะ วิธีการฆ่าพิสดารแบบนี้นับว่ามีประสิทธิภาพนักหลังจากที่ฆ่าสุนัขจิ้งจอกอย่างต่อเนื่องไปสิบกว่าตัวฉินโจ้วก็พบกับความหงุดหงิดใจ การฆ่ามอนสเตอร์ไม่มีปัญหาอะไรแต่การหามอนสเตอร์นี่สิยากเหลือเกิน ด้วยความเร็วเท่านี้หนึ่งคืนคงยากจะเลื่อนแม้สักเลเวล คิดมาถึงตรงนี้ก็บังเกิดความคิดย้ายฐานขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ที่ราบสีเื
ปกติแล้วจะเป็มอนสเตอร์เลเวล 5 ขึ้นไป ในบรรดานั้นสุนัขจิ้งจอกจะมีมากที่สุด ว่ากันว่ายังมีสิงโต 8 ตัวอยู่ด้วยซ้ำ
ผู้เล่นที่เก็บเลเวลอยู่บริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็พวกเลเวล 4 หรือมากกว่า 4 ขึ้นไป อีกทั้งปกติยังมักมากันเป็กลุ่มผู้เล่นที่ออกมาล่ามอนสเตอร์คนเดียวหาได้น้อยมาก คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็พวกฝีมือดีแต่เพราะเวลานี้ผู้เล่นทั่วไปยังเพิ่งอยู่ในเลเวล 3 ถึงเลเวล 4 ผู้เล่นในที่ราบสีเืจึงยังไม่มาก
เขาคอยเฝ้าระวังหลบหลีกพวกมอนสเตอร์เลเวลสูงไม่ระวังคงไม่ได้ เมื่อครู่ม้ามองโกเลียเลเวล 6 ฝูงหนึ่งเพิ่งวิ่งตะลุยผ่านไป ฉินโจ้วหลบไม่ทันถูกกระแทกไปทีหนึ่งส่งผลให้พลังชีวิตลดลงไปครึ่งหนึ่งทันที ทำเอาเขาใจนหน้าซีดสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในเลเวลเดียวกันเอาเสียเลย
หลังจากสำรวจอยู่ราวครึ่งชั่วโมงในที่สุดจึงพบสถานที่เหมาะๆ แห่งหนึ่ง เขาใช้เวลาอีกราวครึ่งชั่วโมงเพื่อวางกับดักแผนการของฉินโจ้วเรียบง่ายมากถ้าพบหมาป่าตัวเดียวก็จัดการตรงๆ แต่ถ้าพบเป็ฝูงก็ใช้กับดักร่วมด้วย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเลื่อนให้ได้อีกหนึ่งเลเวล
แล้วโชคก็เข้าข้าง กับดักเพิ่งทำเสร็จหมาดๆก็เห็นหมาป่าตัวหนึ่งกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่เร่งร้อนจากที่ไกลออกไปนับว่ากำลังเดินตรงเข้ามาพอดี ท่าทางไม่รีบไม่ร้อนเมื่อเห็นฉินโจ้วดูราวกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาสักนิด
หมาป่าจะคิดอะไรฉินโจ้วไม่ได้สนใจแต่เขารู้สึกว่าตนออกจะดูถูกมอนสเตอร์ชนิดนี้เกินไปหน่อย ขณะที่หมาป่ายิ่งเข้ามาใกล้เขาก็ััได้ถึงแรงกดดันที่แรงกล้าโถมเข้าใส่
มันสูงราว 60 เิเ ลำตัวใหญ่ยาวราว 1.20 เมตร น้ำหนักน่าจะไม่ต่ำกว่า 250 จิน[2] ขนหมาป่าสีเทาแลดูสกปรกรกรุงรังมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอได้เห็นขนแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนเห็นหนามแหลมๆอย่างไรอย่างนั้น ดวงตาสีเขียวเรืองรองที่พบเห็นในบรรยากาศยามท้องฟ้าใกล้มืดทำให้ดูน่ากลัวเป็พิเศษเขี้ยวแหลมคมโผล่ออกมาให้เห็นั้แ่เมื่อไรก็ไม่ทราบของเหลวกลิ่นเหม็นคาวหยดหนึ่งหยดแหมะลงมากลิ่นสาบพิเศษเฉพาะตัวของหมาป่าดุร้ายลอยโชยมาตามลมระลอกหนึ่ง
ทันใดนั้นฉินโจ้วเห็นพื้นหญ้าใต้ฝ่าเท้าของหมาป่ายุบตัวลงรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว ร่างของเขาหมอบลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ยกกริชแทงขึ้นเ้าหมาป่าเริ่มโจมตีแล้ว ลมแรงหอบหนึ่งพัดวูบผ่านเหนือหัวไปของเหลวที่ทั้งอุ่นและคาว จำนวนหนึ่งไหลผ่านกริชลงไปถึงกลางฝ่ามือ ฉินโจ้วรีบลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้ากับหมาป่า แม้หลบพ้นจากการโจมตีได้แต่เนื้อตัวกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่เย็นเฉียบด้วยความตื่นกลัวบริเวณช่องท้องของหมาป่าสีเทามีรอยแผลยาว เืสดๆ ไหลออกมาไม่หยุดแต่าแไม่ลึกนัก ไม่อย่างนั้นครั้งนี้คงสามารถเอาชีวิตของมันได้แล้วประสาทััในการต่อสู้ของฉินโจ้วนับว่าแข็งแกร่งมากทีเดียว
หลังจากที่หมาป่าเทาได้รับาเ็ท่าทางของมันทวีความดุร้ายขึ้นไปอีก มันส่งเสียงคำรามลั่นร่างกายเปลี่ยนเป็พายุลูกหนึ่งโหมกระหน่ำเข้าใส่ มันอ้าปากกว้าง ฟันแหลมคมเตรียมกัดลำคอของฉินโจ้ว ในบรรดาสัตว์ทั้งหมดหากพูดถึงความสามารถในการหมุนตัวโจมตีจุดสำคัญหมาป่าน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดและยังยอดเยี่ยมในการโจมตีใส่จุดสำคัญของเหยื่อ
ฉินโจ้วรอบนี้เตรียมตัวไว้ก่อนแล้วเขาก้าวหลบฉาก เสี่ยงอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่าหลบหลีกการโจมตีของหมาป่าเทาขณะเดียวกันก็ยกมือซ้ายขึ้นซัด กลุ่มควันสีขาวปกคลุมทั่วตัวหมาป่าเทาทันทีตามมาด้วยเสียงหอนโหยหวนอย่างเ็ปของหมาป่าหมาป่าพ่ายแพ้ต่อความเ็ปนี้ทันที
แสงสว่างเย็นแล่นวาบฉินโจ้วจ้วงแทงใส่ท้องของหมาป่าเทาอย่างแรง ฟันสุดแรงลงไปอีกครั้ง เืสดๆทะลักออกมา ท้องของหมาป่าเทาเกือบจะขาดเป็สองท่อนแล้ว อวัยวะภายในทั้งหมดไหลออกมาหมาป่าเทาชักกระตุกสองสามครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็แสงสีขาวและตายลงคิดไม่ถึงว่าจะใจดีดรอปเสื้อผ้าชุดหนึ่งให้ด้วย
เสื้อคลุมพิภพ: อุปกรณ์ระดับขาว พลังป้องกันกายภาพ +11 ความเร็ว +1
แม้จะเป็ไอเทมขาวแต่พลังป้องกันมากถึง 11 จุด และยังมีคุณสมบัติสองอย่าง นับว่าเป็ชุดที่ดีเยี่ยมชุดหนึ่งฉินโจ้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเริ่มต้นออกทันที
ไม่รู้ว่าเป็เพราะมีกลิ่นเหม็นคาวเืหรืออย่างไรฉินโจ้วเพิ่งจะสวมเสื้อคลุมพิภพเสร็จ ด้านหลังก็ปรากฏหมาป่าเทาออกมาอีก 3 ตัวจากสายตาที่ไม่เป็มิตรของมัน เห็นได้ชัดว่าพวกมันคงไม่ได้มาเดินเล่นแน่สิ่งที่ทำให้ฉินโจ้วรู้สึกว่าถูกคุกคามมากที่สุดคือ หมาป่า 3 ตัวนี้ฉลาดมาก พวกมันเรียงตัวเข้ามาเป็รูปพัด ถึงแม้จะใช้สองมือซัดปูนขาวออกไปก็คงจัดการกับหมาป่าได้แค่ 2 ตัวเท่านั้น แล้วหมาป่าที่เหลืออยู่อีกตัวจะจัดการอย่างไรดีล่ะ?
สมองของฉินโจ้วแล่นเร็วจี๋กับดักอยู่ห่างออกไปกว่าสิบเมตรหากใช้กับดักก็คงไม่ทันการณ์ ตอนที่ฆ่าหมาป่าตัวแรก ฉินโจ้วก็รู้แล้วว่าความเร็วของเขาสู้หมาป่าไม่ได้ความต่างของเลเวลไม่ใช่แค่เื่เล่นๆ
ฉินโจ้วหมุนตัววิ่งขึ้นไปทางเชิงเขาที่อยู่สูงขึ้นไปเล็กน้อยหมาป่าทั้งสามตัวเห็นเหยื่อวิ่งหนีจึงรีบตามไปทันทีรูปขบวนที่โอบล้อมอยู่จึงแตกออกไป
ฉินโจ้วคำนวณระยะห่างอย่างใจเย็นชั่วขณะที่สองหูได้ยินเสียงลมหายใจฟืดฟาดของหมาป่า สองแขนจึงรีบยกขึ้นซัดปูนขาวออกไปขณะเดียวกันก็เปลี่ยนทิศทางทันทีไม่ไปอยู่ในทิศทางเดียวกับที่หมาป่าเทากำลังตรงเข้าใส่ ปูนขาวปลิวกระจายเต็มฟ้าหมาป่าเทาที่วิ่งอยู่ชะงักกึก เมื่อปูนขาวเข้าตา เจอเข้ากับน้ำก็เกิดความร้อนขึ้นความร้อนของการเผาไหม้แบบนั้น ประมาณได้ว่าเพียงพอจะแผดเผาทำลายดวงตาได้หมาป่าเทาเ็ปสุดจะทน มันใช้กรงเล็บตะกุยพื้นไปทั่ว และส่งเสียงโหยหวน
โชคดีทีเดียว หมาป่าทั้งสามตัวต่างติดกับ ฉินโจ้วยกมือขึ้นฟันส่งผลให้หมาป่าตัวหนึ่งถึงจุดจบ จากนั้นฟันท้องของหมาป่าตัวที่สองหัวทองแดงหางเหล็กเอวเต้าหู้ จะฆ่าหมาป่า กลเม็ดพวกนี้ต้องรู้จักจดจำไว้ยามวิกฤตจะช่วยชีวิตได้อย่างแท้จริงตอนที่กริชกำลังจะแทงใส่ท้องของหมาป่าเทาตัวที่สามหมาป่าเทาดูเหมือนจะรู้ตัวว่าหนีไม่รอดแน่แล้วมันหอนเสียงต่ำลากยาวไปไกล ในใจฉินโจ้วพลันตื่นตระหนกแม้ไม่เข้าใจถึงความหมายของเสียงหอนนั้นแต่เสียงโหยหวนที่ก้องอยู่กลางอากาศต้องไม่ใช่เื่ดีแน่ หลังจากจัดการหมาป่าเทาสำเร็จระบบจึงเลื่อนขึ้น 1 เลเวล
เขารีบเก็บกวาดบริเวณที่ต่อสู้เพิ่งเก็บเหรียญทองแดงที่หล่นเกลื่อนพื้นได้หลายสิบเหรียญก็ได้ยินเสียงพื้นะเืจากนั้นบนท้องทุ่งก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่นสีเทาหมาป่าเทานับร้อยนับพันตัวแห่กันเข้ามาทางฉินโจ้วดวงตาสีเขียวเรืองรองคล้ายกับไฟิญญาดวงจ้อย เมื่อมองจากที่ไกลๆช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง
ฉินโจ้วถึงกับพูดไม่ออกไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้เล่นฆ่ามอนสเตอร์ได้แล้วจะถูกแก้แค้นด้วยเมื่อเห็นว่ารอบด้านถูกล้อมไว้จนหมด ฉินโจ้วไม่ได้คาดหวังว่าจะหนีออกไปได้ เขาเฝ้ามองพื้นหญ้าสีเขียวที่เริ่มกลายเป็สีเหลืองอย่างสงบในใจวางแผนว่าครั้งต่อไปจะต้องเอาพวกน้ำมันมาด้วย มาเผาทุ่งราบนี้การเก็บเลเวลจะต้องเร็วติดจรวดเป็แน่เพียงแต่ไม่รู้ว่าระบบจะตั้งข้อหาจำพวกทำลายสิ่งแวดล้อมไว้หรือเปล่า
เวลานี้บนทุ่งราบจู่ๆ ก็เกิดลมพัดกรรโชกขึ้น เริ่มแรกฉินโจ้วก็ใแต่ต่อมาก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมาเสียอย่างนั้น
.........................................................................................................................................................
[1] 1 ลี้ ประมาณ 500 เมตร
[2] 1 จิน เท่ากับ 500 กรัม