จุนห่าวสังหารกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งไปหลายคน ไม่เพียงเหล่าผู้สังเกตการณ์ตกตะลึง แม้แต่สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งเองก็ตกตะลึง
กลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งมีทั้งหมด 5,000 คน นายพลก็คือหงอวี้ชิ่ง หงอวี้ชิ่งและหงอวี้หรูน้องสาวมีพร์ในการบำเพ็ญเพียรที่ไม่เลว เดิมทีพวกเขาเป็ลูกหลานของตระกูลเล็กๆ แม้ว่าจะมิใช่ตระกูลที่ร่ำรวย ทว่าก็มิได้ลำบากตรากตรำ ต่อมาเมื่อตระกูลล่มสลาย สองพี่น้องจึงตามท่านแม่ของพวกเขาย้ายไปใช้ชีวิตในหมู่บ้านเล็กๆ บนูเา ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไปอย่างขมขื่น ทว่าอย่างน้อยครอบครัวก็ได้อยู่ด้วยกัน หงอวี้หรูและหงอวี้ชิ่งสองพี่น้องต่างไม่ได้ชอบชีวิตสงบสุข หงอวี้หรูมีใบหน้างดงาม รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น เป็หญิงงามโดยสมบูรณ์ ส่วนหงอวี้ชิ่งก็รูปงาม และมีบุคคลิกสูงสง่า ทั้งสองคนเริ่มบำเพ็ญเพียรั้แ่อายุยังน้อย แม้ว่าตระกูลได้ล่มสลาย ทว่าก็มิได้ทอดทิ้งการบำเพ็ญเพียร พวกเขาคิดหาโอกาสที่จะออกจากหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ตลอด ต่อมาได้ช่วยชีวิตองค์ชายสาม ภายใต้การล่อลวงโดยเจตนาของหงอวี้หรู องค์ชายสามจึงตกหลุมรักหงอวี้หรู ในที่สุด ตอนที่องค์ชายสามจะจากมา จึงพาหงอวี้หรูสองพี่น้องติดตามไปด้วย
หงอวี้ชิ่งเป็คนฉลาดอยู่บ้าง เมื่อถึงเมืองเย่ว์เซียนจึงก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นภายใต้ร่มธงขององค์ชายสาม และพัฒนากลุ่มทหารรับจ้างขึ้นโดยเร็ว หงอวี้ชิ่งจากเด็กหนุ่มในหมู่บ้านบนูเากลายเป็นายพลของกลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ในเวลาไม่นาน จึงลำพองใจขึ้น ผู้นำเป็อย่างไรลูกน้องย่อมเป็เช่นนั้น หงอวี้ชิ่งลำพองใจ ลูกน้องของเขาก็ลำพองใจตาม ยามนี้จึงกลายเป็กลุ่มทหารรับจ้างที่บ้าคลั่งที่สุดในจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ ก่อเื่เข่นฆ่าผู้คนมาไม่น้อย
ขณะที่จุนห่าวก่อเื่ หงอวี้ชิ่งกำลังปลอบโยนหงอวี้หรู “อวี้หรู เ้าต้องใจกว้างเสียหน่อย ัพยัคฆ์อย่างองค์ชายสาม ไม่อาจมีเ้าแค่คนเดียว เ้าได้หัวใจของเขาก็พอแล้ว ตราบใดที่คนที่เขารักมากที่สุดคือเ้า จะมีนางสนมอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ หากจะโทษ ก็ต้องโทษที่เรามีชาติกำเนิดไม่ดี” หงอวี้ชิ่งชี้แนะหงอวี้หรูด้วยความจริงใจ
“ข้าทราบดีท่านพี่ ข้าก็ใจกว้างแล้ว เพียงแต่องค์ชายสามเคยบอกว่าจะตบแต่งข้าเป็พระชายา ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนให้เป็พระสนม มันช่างต่างกันยิ่งนัก พระชายาจะกลายเป็จักรพรรดินีในอนาคต ส่วนพระสนมอย่างมากที่สุดก็เป็แค่พระสนมเอก” หงอวี้หรูกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ
“เ้าคิดได้ก็ดีแล้ว จากฐานะของเรา การที่เ้าได้เป็พระสนมถือว่าเป็โชคจาก์แล้ว ต่อไปเราค่อยๆ วางแผน ใครบอกว่าจักรพรรดินีในอนาคตมิใช่เ้ากันล่ะ? อนาคตยังมีหวังอยู่” หงอวี้ชิ่งกล่าวชักนำ
“ที่ท่านพูดก็ถูก การที่เราจากหมู่บ้านเล็กๆ มามีวันนี้ได้ อนาคตย่อมไม่หยุดแค่ตรงนี้แน่ จุดสำคัญของความสำเร็จอยู่ที่ความพยายามของคน” หงอวี้หรูพูดด้วยสายตาแน่วแน่ ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนาในอำนาจ
พูดจบ หยุดชั่วครู่หนึ่ง และกล่าวอย่างร้ายกาจต่อว่า “ใครก็ตามที่ขวางทางข้า ข้าจะกำจัดให้สิ้น ต่อให้เป็บุตรชายคนเล็กจากตระกูลไป๋ก็ตาม ว่าไหม? ตราบใดที่เราพี่น้องมีความมุ่งมั่นเดียวกัน ย่อมไปสู่จุดสูงสุดของอำนาจได้แน่” หงอวี้ชิ่งกล่าว ความปรารถนาในอำนาจของเขาก็ไม่น้อยไปกว่าหงอวี้หรู กล่าวได้ว่าเป็พี่น้องที่บ้าคลั่งนัก
“หากให้ข้าพูด ครั้งนี้เ้าไม่ควรติดตามข้ามา ในเมื่อองค์ชายสามให้เ้าอยู่ที่วัง เ้าก็ควรอยู่ในวัง” หงอวี้ชิ่งพูดบ่นๆ คิดในใจ ชายใดต่างก็ชอบหญิงที่เชื่อฟัง หงอวี้หรูออกมาเป็การส่วนตัวเช่นนี้ องค์ชายสามย่อมไม่พอใจแน่ ยามนี้องค์ชายสามคือูเาลูกใหญ่ที่เป็ที่พึ่งพิงของพวกเขา คงไม่ดีแน่หากทำให้องค์ชายสามขุ่นเคือง
“ท่านไม่กลัวว่าองค์ชายสามจะลืมข้าหรือไง? องค์ชายสามพานายน้อยเล็กของตระกูลไป๋ไปด้วยนะ เขามีรักใหม่แล้วอาจลืมรักเก่าอย่างข้า จะทำอะไงล่ะ?” หงอวี้หรูพูดอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็จ้องมองหงอวี้ชิ่ง แล้วพูดว่า “ผู้ชายอย่างพวกท่านเป็เช่นนี้หมดมิใช่หรือ? กินอยู่ในถ้วยตัวเอง แต่ยังไปมองของกินในกระทะอีก ช่างไม่รู้จักพอ พอได้ชอบใครคนนึง ก็มีใหม่แล้วลืมเก่า”
ฟังคำของหงอวี้หรู หงอวี้ชิ่งพูดอย่างเก้อเขินว่า “นั่นคือธาตุแท้ที่ไม่ดีของผู้ชาย สาวงามใครจะไม่รักล่ะ สำหรับข้า ยิ่งมากยิ่งดี”
ฟังคำของหงอวี้ชิ่ง หงอวี้หรูพูดอย่างเศร้าๆ ว่า “ด้วยเหตุนี้ แทนที่จะอยู่กับชายที่รัก สู้ยึดติดกับอำนาจที่แท้จริงเสียดีกว่า ต้องมีอำนาจที่ชายใดก็ไม่อำนาจมีได้ ข้าเป็คนไม่เชื่อในความรัก องค์ชายสามเป็เพียงคนที่ให้อำนาจแก่ข้าได้”
“ปังงง” เสียงดังกึกก้อง ขัดจังหวะการสนทนาระหว่างพี่ชายและน้องสาว หงอวี้ชิ่งและหงอวี้หรูลุกยืนขึ้นอย่างตื่นใ
หงอวี้หรูพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “ท่านพี่ เห็นทีข้างนอกจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ฟังเสียงแล้วดูเหมือนอยู่ในค่ายของเรา”
หงอวี้ชิ่งสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวพร้อมเหล่ตาว่า “มีคนมา” เขาก็คิดว่าค่ายของพวกเขาเกิดเื่แล้ว
ทันทีที่สิ้นเสียงพูดของหงอวี้ชิ่ง ก็มีคนวิ่งเข้ามาหาเขา หงอวี้ชิ่งเอ่ยถาม “ข้างนอกเกิดเื่อันใดขึ้น?”
ชายคนนั้นพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “เรียนท่านนายพล มีคนโจมตีฐานที่มั่นของเรา หัวหน้าหลี่นำคนไปแล้ว”
“ในเมื่อหัวหน้าหลี่ไปแล้ว งั้นเขาคงจัดการได้ เรารออยู่ที่นี่ก็พอ” หงอวี้ชิ่งพูดกับหงอวี้หรู
หงอวี้ชิ่งรอชั่วครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกเข้ามา ในชั่วพริบตาชายคนนึงวิ่งเข้ามา ลืมแม้แต่การคำนับพื้นฐาน และพูดอย่างตื่นใว่า “หัวหน้าหลี่ แย่แล้ว พวกหัวหน้าหลี่ตายหมดแล้ว ถูกคนที่มาหาเื่นั่นฆ่าตายหมด”
ฟังคำของชายคนนี้ หงอวี้ชิ่งถามอย่างเฉยเมยว่า “มากันกี่คน คนที่เป็ผู้นำมีพลังปราณเท่าไหร่?” หงอวี้ชิ่งคาดไม่ถึงว่าจะมีคนมาหาเื่เขา หัวหน้าหลี่ไม่เพียงจัดการไม่ได้ ซ้ำยังถูกคนฆ่าตาย คิดในใจ เห็นทีผู้มาเยือนต้องร้ายกาจเป็แน่
ในเมื่อเอาชีวิตคนไป งั้นเื่นี้คงไม่อาจให้อภัยได้ คนของเขาหงอวี้ชิ่งผู้นี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย งั้นต้องใช้ชีวิตแลกชีวิต
คิดถึงกลยุทธ์การสังหารเกลี้ยงที่เด็ดเดี่ยวของจุนห่าว ในใจของชายผู้นั้นสั่นไหวและพูดสั่นๆ ว่า “แค่คนคนเดียว แม้แต่พลังปราณก็ดูไม่ออก”
“แค่คนคนเดียว ก็ทำให้เ้าตื่นตระหนกถึงเพียงนี้หรือ น่าเศร้าจริงๆ ใครเป็คนคัดเลือกเ้ามานะ ตอนที่คัดเลือกเ้าต้องตาบอดเป็แน่” หงอวี้ชิ่งพูดประชดประชัน พอได้ยินมาว่าคนคนเดียวหงอวี้ชิ่งก็สงบจิตสงบใจ ครั้งนี้เขามีกำลังคนเป็พันคน ต่อให้จะมาเป็กองพะเนิน เขาก็สามารถสังหารกองพะเนินที่กล้ายั่วยุทหารรับจ้างสิงโตคลั่งได้ ถึงตอนนั้น เขาต้องหักกระดูกคนนั้นให้หักเป็เสี่ยงๆ กล้าที่จะยั่วยุเขา ย่อมได้รับผลจากที่ทำให้เขาเดือดดาล หงอวี้ชิ่งคิดอย่างร้ายกาจ
ฟังคำของหงอวี้ชิ่ง ชายคนนั้นก็ไม่พอใจเล็กน้อย ทว่าเขาไม่อาจแสดงออกได้ เขายังคงให้ความเคารพนับถืออย่างสุดซึ้ง แต่ในใจเขากลับคิดว่า ข้าถูกเ้าคัดเลือกเข้ามาไง ตาบอดหรือไม่ มีเพียงเ้าเท่านั้นที่รู้
“ไป เราไปดูกัน” หงอวี้ชิ่งพูดกับลูกน้องทั้งสอง เดินไปสองก้าวก็หยุดและพูดกับหงอวี้หรูว่า “น้องหญิง เ้ารออยู่ที่นี่ รอพี่จัดการคนข้างนอกนั่นแล้วจะกลับมาอยู่เป็เพื่อนเ้า” พูดจบก็สาวเท้าออกไป
“ท่านพี่ ระวังตัวด้วย หากรับมือไม่ไหว รีบถอนกำลังกลับมา รอองค์ชายสามกลับมาเราค่อยว่ากัน” หงอวี้หรูพูดกับหงอวี้ชิ่งอย่างไม่สบายใจ ได้ฟังเธอแล้ว หงอวี้ชิ่งมิได้ตอบ ได้แต่โบกมือให้หงอวี้หรู
มองหงอวี้ชิ่งออกจากเต็นท์ หงอวี้หรูคิดในใจ เธอเคยพบหัวหน้าหลี่ครั้งหนึ่ง พลังปราณสูงกว่าพี่ชายของเธอ แม้แต่เขายังถูกคนนั้นฆ่าตาย ท่านพี่จะเป็คู่ต่อสู้ของชายคนนั้นได้อย่างไร องค์ชายสามใกล้จะกลับมาแล้ว เวลานี้วิธีที่ดีที่สุดคือรอให้องค์ชายสามกลับมา แต่ก็เกรงว่าผู้มาเยือนคนนั้นจะไม่ปล่อยให้พวกเขาถ่วงเวลา ในเวลานี้ จิตใจของหงอวี้หรูก็หวั่นไหว เป็ห่วงหงอวี้ชิ่งที่อยู่ข้างนอก แต่เมื่อนึกถึงว่ามีคนอยู่มากมายรอบกายหงอวี้ชิ่ง ก็เบาใจลงไม่น้อย
จุนห่าวสังหารไปหลายคน จากนั้นยืนอยู่ที่เดิมที่เดียว พลางมองไปยังฐานที่มั่นของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้ เขากำลังรอ... เขาเชื่อว่าการที่เขาสังหารคนของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง นายพลของพวกเขาต้องออกมาอย่างแน่นอน เขาคิดว่าหลังจากนายพลของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งออกมา เขาคิดอยู่ว่าจะฆ่าทิ้งดีไหมนะ พอจุนห่าวคิดๆ ดู ก็คิดว่าฆ่าทิ้งดีกว่า ในการทำากับองค์ชายสาม นายพลของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งจะยืนเคียงข้างเขาแน่นอน ฆ่าทิ้งเสียตอนนี้ ย่อมลดศัตรูไปได้หนึ่งราย
เป็ดังที่จุนห่าวคาดการณ์ ภายในระยะเวลาอันสั้น มีกลุ่มคนเดินออกมา สังเกตเห็นคนนับพัน จุนห่าวกวาดตามองคร่าวๆ ครู่หนึ่ง ล้วนมีพลังปราณประมาณลมปราณขั้นที่ห้า สูงสุดคือลมปราณขั้นที่สิบเอ็ด ทว่ามีเพียงแค่สองคน จุนห่าวคิดในใจ เห็นทีความแข็งแกร่งโดยรวมของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโจคลั่งนั้น ไม่เลวทีเดียว วันนี้ คนหลายพันคนนี้จะเหลือสักกี่คนนะ ด้วยนิสัยของเขาที่ชอบถอนรากถอนโคน เขาคิดว่าไม่ควรเหลือแม้แต่คนเดียว เขาหยิบยาพิษที่ใช้กับสุนัขจื่อเหลยออกมาจากเทศะ เขาไม่เคยประมาทใคร คนกลุ่มนี้มีจำนวนมาก เขาคิดว่ายังไงก็ต้องรีบจัดการให้ฉับไว เสี่ยวรุ่ยยังรอให้เขากลับไปทานมื้อค่ำอยู่นะ เวลาล่วงเลยมานาน เสี่ยวรุ่ยคงร้อนใจแล้ว จุนห่าวมองหาหานรุ่ยในฝูงชน แม้หานรุ่ยจะอยู่ท่ามกลางฝูงชน จุนห่าวก็มองเห็นหานรุ่ย ดวงตาของทั้งคู่สบตากัน หานรุ่ยยิ้มให้จุนห่าวบางๆ ดวงตาของจุนห่าวก็แปรเปลี่ยนเป็อ่อนโยน ในไม่ช้าสายตาของทั้งสองก็แยกจากกัน และไม่มีใครสังเกตเห็นฉากเล็กๆ นี้
หงอวี้ชิ่งเห็นจุนห่าว เขาคิดไม่ถึงว่า คนที่กล้าสร้างปัญหาในค่ายของตนจะเป็ชายหนุ่มตัวคนเดียวผู้นี้ เขายังคิดว่าจะเป็ตาเฒ่าประหลาดๆ เมื่อเห็นจุนห่าวเช่นนี้ หงอวี้ชิ่งยิ่งดูถูกเหยียดหยาม ชายหนุ่มเยี่ยงนี้ ไม่ว่าเขาจะมีพร์เพียงใด พลังปราณคงไม่สูงเท่าไหร่ เขาคิดว่าหัวหน้าหลี่คงประมาทถึงถูกเขาฆ่าตาย หรืออีกฝ่ายคงใช้เล่ห์เหลี่ยม พูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อ ว่าคนนี้มิได้ยิ่งใหญ่ไปกว่าตัวเอง จะปลิดชีวิตของหัวหน้าหลี่ได้ ในมุมมองของหงอวี้ชิ่ง พลังปราณของจุนห่าวอย่างมากที่สุด คงอยู่ที่ลมปราณขั้นที่หก เพราะอายุของจุนห่าวน่าจะประมาณการได้แค่นั้น
ใบหน้าของหงอวี้ชิ่งอึมครึม พูดกับจุนห่าวอย่างหยาบคายว่า “ไม่ว่าเ้าจะเป็ใคร วันนี้ เ้ามาฐานของเราเพื่อก่อปัญหา ทั้งยังสังหารคนของข้า ข้าไม่ปล่อยเ้าแน่ ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสสักครั้ง หากเ้าสารภาพผิด ข้าอาจทิ้งให้เ้าเป็ศพตัวเป็ๆ ไม่เช่นนั้น ข้าจะบดขยี้กระดูกของเ้าให้แตกเป็เสี่ยงๆ เป็ศพที่ไร้ซึ่งกระดูก” คำสุดท้ายของหงอวี้ชิ่งเปล่งออกมาด้วยการกัดฟันกรามแน่น
ฟังคำของหงอวี้ชิ่ง จุนห่าวมิได้แยแสเขา บุคคลที่ไม่อาจควบคุมตนเองได้นั้น ไม่สมควรที่จะได้รับความสนใจ จุนห่าวเอ่ยกับหงอวี้ชิ่งอย่างยิ้มเยาะว่า “เ้าก็คือนายพลของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่ง น้องชายภรรยาในอนาคตขององค์ชายสาม?”
“ในเมื่อรู้ความสัมพันธ์ของข้ากับองค์ชายสาม เ้ายังจะหาเื่ เ้าช่างใจกล้าเสียจริง ถ้าอยากตายนัก ข้าจะทำให้เ้าสมหวัง” หงอวี้ชิ่งกล่าวกับจุนห่าวด้วยดวงตาราวกับงูพิษ ั์ตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
“งั้นเ้าก็ใช่” จุนห่าวก้มหน้าลงและพูดอย่างเ็าว่า “ถ้าอย่างงั้น เ้าและลูกน้องของเ้า คงต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่วันนี้! สังหารพวกเ้าแล้ว ข้าก็ถือว่าได้กำจัดอันตรายให้ผู้คน”
ฟังคำของจุนห่าว หงอวี้ชิ่งหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “นี่เ้าเอาอะไรมาคิดจะ...ฆ่าข้า...” ฆ่าข้าสองคำนี้ยังไม่ทันที่หงอวี้ชิ่งจะพูดออกมา ก็เบิกตากว้าง พลางก้มศีรษะต่ำลงอย่างยากลำบาก มองกริชที่ติดอยู่ตรงทรวงอกอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หงอวี้ชิ่งไม่เข้าใจ จุนห่าวลงมือเมื่อใด เขามองกริชที่ทิ่มแทงทรวงอกของเขา เขาไม่พอใจยิ่ง เขายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ เขายังไม่ถึงจุดสูงสุดของอำนาจ แต่เขาไม่อาจยับยั้งการสูญเสียพละกำลังของเขาได้ ร่างกายทรุดตัวลงไปด้านหลัง ได้ยินเพียงเสียงปัง หงอวี้ชิ่งล้มลงกับพื้นและเสียชีวิต ดวงตาคู่นั้นของเขายังคงเปิดอยู่ ตายตาไม่หลับ
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คนรอบข้าง ต่างไม่กล้าแสดงตน พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ในสายตาของทุกคน หงอวี้ชิ่งเสียชีวิตลงแบบนี้ นายพลของกลุ่มทหารรับจ้างสิงโตคลั่งผู้เย่อหยิ่งผู้นี้สิ้นใจอย่างเงียบเชียบ กระทั่งหงอวี้ชิ่งเสียชีวิต พวกเขาไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามลงมืออะไร เห็นเพียงกริชที่ทิ่มแทงหัวใจของหงอวี้ชิ่งในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหมดมองด้วยสายตาตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะทรงพลังเช่นนี้ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะกล้าสังหารผู้นำของพวกเขาต่อหน้าสมาชิกของทหารรับจ้างสิงโตคลั่งที่มียอดฝีมืออยู่ ถ้าอย่างนั้น จุนห่าวจะมีชีวิตรอดได้หรือ? พวกเขาคงต้องรอให้มีปาฏิหาริย์ปรากฏขึ้น
