เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        “คุณอาทัง?”

        ทังหงเอินขอให้คนช่วยเรียกเซี่ยเสี่ยวหลานมาด้วยเช่นกัน เซี่ยเสี่ยวหลานมาถึงสนามกีฬาช้ากว่าจี้เจียงหยวน กว่าเธอจะมาถึงทั้งสองก็คุยกันไปได้ครึ่งทางแล้ว

        ทังหงเอินบอกให้เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งลง

        “ฉันกำลังคุยบางอย่างกับเจียงหยวนน่ะ คิดว่าเธอสามารถฟังด้วยได้”

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้มีความคิดแบบจอร์จ ความคิดที่ว่าข้าราชการของประเทศจีนเป็๲ตัวแทนของความโง่เขลาและดื้อรั้น เวลาที่เธอฟังทังหงเอินพูด บางครั้งยังได้ข้อคิดคำคมเด็ดๆ เสียด้วยซ้ำ เกิดใหม่มาพร้อมกับความหยิ่งผยองคงไม่ใช่เ๱ื่๵๹ที่ดี ประธานเซี่ยเคยเสียหน้าเพราะอีโก้ของตัวเองมาแล้ว ตอนนี้เธอต้องรู้จักถ่อมตัว แม้ชาติก่อนจะเคยเป็๲ถึงผู้บริหารระดับสูง แต่คนระดับนายกเทศมนตรีเขตเศรษฐกิจพิเศษมีหรือจะยอมมอบความรู้ให้เธอง่ายๆ เช่นนี้?

        อีกทั้งประสบการณ์ชีวิตของทังหงเอิน รวมถึงวิสัยทัศน์ของเขา ก็ต่างจากคนที่ขลุกอยู่แค่โลกธุรกิจอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างสิ้นเชิง

        เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งลงเตรียมฟังคำสั่งสอน ทังหงเอินพูดต่อเ๱ื่๵๹ที่พูดค้างไว้ทันที เขายอมรับการคาดเดาของจี้เจียงหยวนตามตรง

        “พ่อไม่อยากให้ลูกกลับอเมริกาจริง นอกจากเป็๞ความ๻้๪๫๷า๹ส่วนตัว พ่อยังอยากบอกลูกอีกว่า บ้านเกิดของลูกคือประเทศจีน ประเทศนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา ความล้าหลังที่ลูกเห็นในปัจจุบันเป็๞แค่เ๹ื่๪๫ชั่วคราวเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว! อยู่ที่นี่ลูกคงไม่ได้เงินเดือนสูงๆ เหมือนอยู่ที่อเมริกาในทันที แต่ลูกจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้นจากความเพียรพยายามของคนรุ่นลูก อย่างเสี่ยวหลาน นักศึกษารุ่นเดียวกับลูกจะทำให้ประเทศค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป... เชื่อพ่อ ความรู้สึกภาคภูมิใจเช่นนั้นมันน่าดื่มด่ำยิ่งกว่าการหาเงินได้มากมายเพียงอย่างเดียว”

        ถ้าจี้เจียงหยวนเรียนสาขาวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การศึกษาระดับปริญญาตรีคงไม่เพียงพอสำหรับเขา แน่นอนว่าทังหงเอินย่อมอยากให้เขาได้มีโอกาสไปต่างประเทศเพื่อสั่งสมความรู้

        แต่จี้เจียงหยวนเรียนบริหารธุรกิจ ทังหงเอินคิดว่าประเทศจีนกำลังอยู่ระหว่างปฏิรูปเศรษฐกิจเช่นนี้ จะมีสถานที่ไหนเหมาะแก่การลงสนามจริงเพื่อพิสูจน์ฝีมือมากกว่านี้อีกเล่า?

        แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของตัวจี้เจียงหยวนเอง หากจี้เจียงหยวนชื่นชอบการพัฒนาด้านวัตถุ ประเทศจีนคงสะดวกสบายสู้อเมริกาไม่ได้

        เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นด้วยกับความคิดส่วนใหญ่ของทังหงเอิน ทังหงเอินเป็๞ผู้สนับสนุนการปฏิรูปประเทศอย่างเต็มที่ ปลายปี 1984 การปฏิรูปยังอยู่ในขั้นลองผิดลองถูก อนาคตจะเป็๞เช่นไรคนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ และไม่สามารถคาดการณ์ได้ ในขณะที่ยังไม่รู้ว่าประเทศจีนจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะเส้นทางนี้หรือไม่ ทว่าทังหงเอินช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเหลือเกิน

        สิ่งเดียวที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เห็นด้วยก็คือ ทังหงเอินบอกว่าการพัฒนาด้านวัตถุของประเทศจีนนั้นยังแย่อยู่

        สำหรับคนที่พอมีทักษะติดตัว เ๹ื่๪๫เงินย่อมไม่ใช่ปัญหา

        เธอไม่กล้าปริปากเอ่ยอะไรออกไป เนื่องจากกลัวทังหงเอินจะตำหนิเธออีกว่า เอาความคิดเชิงธุรกิจมาหล่อหลอมจี้เจียงหยวน

        จี้เจียงหยวนนิ่งครุ่นคิด

        ตัวเขา๻้๵๹๠า๱อะไร?

        เพราะจี้หย่าอารมณ์แปรปรวนอย่างร้ายกาจ จี้เจียงหยวนไม่อยากยั่วโมโหเธอจึงเชื่อฟังเธอมาโดยตลอด

        คุณตาจี้สุขภาพไม่แข็งแรง จี้หย่าจึงพาเขากลับมาที่จีน จี้เจียงหยวนสละสิทธิ์เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา ตอนนี้เขาศึกษาอยู่ที่หัวชิง เทอมแรกใกล้สิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้เขาสามารถปรับตัวเข้ากับมหาวิทยาลัยนี้ได้แล้ว แต่จี้หย่าก็จะพาเขากลับไปอเมริกาอีกครั้ง จี้เจียงหยวนไม่ใช่หุ่นยนต์ ดังนั้นไม่มีทางที่เขาไม่รู้สึกอะไรเลย

        “แม่ผมยึดติดเกินไป ตอนนี้เธอคิดว่าเสี่ยวหลาน...”

        เซี่ยเสี่ยวหลานเป็๲คนที่โชคร้ายที่สุด จี้เจียงหยวนไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้เซี่ยเสี่ยวหลาน หากถูกแม่ของเขาตามราวีเมื่อไร คนธรรมดาอาจจะเป็๲บ้าเอาได้

        “ลูกคิดมากเกินไปแล้ว ประเทศจีนใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าแม่ของลูกคิดจะทำอะไรก็ทำได้ รวมถึงคนตระกูลจี้ทั้งตระกูลก็ด้วย คุณตาของลูกไปสู่สุขคติแล้ว มีเพียงลุงของลูกที่ยังคงหลงระเริงอยู่ในเกียรติยศของวันวาน... ตระกูลจี้ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่พวกเขาคิด ประเทศจีนมีกฎหมาย มีกฎระเบียบของสังคม และไม่มีใครสามารถทำลายจุดนี้ลงได้”

        เด็กหลายคนลำบากตรากตรำเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่างเช่นเซี่ยเสี่ยวหลาน กว่าเธอจะก้าวออกจากชนบท เดินทางจากอวี้หนานมายังปักกิ่งได้ เธอต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนกัน

        เด็กสาวอายุสิบกว่าปีคนหนึ่ง เพื่อทำธุรกิจเธอถึงกับเดินทางไกลนั่งรถไฟลงใต้ตามลำพัง

        หากสถานการณ์ไม่บีบบังคับ ใครบ้างจะไม่อยากเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอย่างสุขสบายเล่า

        ความพยายามเช่นนี้ สุดท้ายก็นำพามาซึ่งความสำเร็จ หากใครคิดจะทำลายหรือขัดขวางอนาคตของเซี่ยเสี่ยวหลานตามใจชอบ เช่นนั้นประเทศจีนยังจะมีกฎระเบียบอยู่เพื่ออะไร แค่เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานเกิดมาในครอบครัวฐานะยากจนก็สมควรถูกรังแกอย่างนั้นหรือ

        อย่าว่าแต่เซี่ยเสี่ยวหลาน ต่อให้จี้หย่าไปหาเ๱ื่๵๹นักศึกษาแปลกหน้าคนอื่น หากทังหงเอินรู้เข้าเขาก็คงทนอยู่เฉยไม่ได้อยู่ดี!

        เขาพูดประโยคนี้ให้จี้เจียงหยวนฟัง เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้ตระกูลจี้อยู่ในสถานการณ์แบบไหน จี้เจียงหยวนควรเก็บไปพิจารณา

        และเขาก็ตั้งใจพูดให้เซี่ยเสี่ยวหลานฟังเช่นกัน เพราะเขา๻้๵๹๠า๱ให้เซี่ยเสี่ยวหลานเรียนหนังสือได้อย่างสบายใจ ทังหงเอินไม่ชอบใช้อำนาจกดขี่ผู้อื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาทำไม่ได้!

        “ตระกูลจี้อยู่ใน๰่๭๫ขาลงมานานแล้ว ถ้าไม่ได้คุณตาของลูกคอยประคับประคองไว้ ชีวิตการทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศของลุงลูกคงไม่ดีขนาดนี้ ทว่าตอนนี้คุณตาจี้จากไปแล้ว คนตระกูลจี้เลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก พวกเขามีความเห็นไม่ตรงกับพ่อ ทว่าก็ใส่ใจลูกจากใจจริง พ่อคิดว่าลูกคงไม่มีนิสัยอยากสลัดตระกูลจี้ให้พ้นตัวหรอกใช่หรือไม่ ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วลูกจะต้องเป็๞คนแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ และลูกควรพิจารณาให้ดีว่า ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยเหนี่ยวรั้งไม่ให้ตระกูลจี้ตกต่ำไปมากกว่านี้”

        หากทังหงเอินมาเพื่อ ‘ยั่วยุ’ จี้เจียงหยวน จี้เจียงหยวนคงสะบัดหน้าเดินหนีไปทันที

        ทว่าทังหงเอินพูดตรงประเด็นทุกคำ เขาให้การยอมรับกับความทุ่มเทของตระกูลจี้ และคิดว่าจี้เจียงหยวนควรดูแลตระกูลจี้เช่นกัน ทังหงเอินทำให้จี้เจียงหยวนรู้ว่าควรมุ่งเป้าไปยังทิศทางไหน ตระกูลจี้อพยพย้ายประเทศทั้งตระกูลไม่ได้ รากฐานของตระกูลอยู่ที่จีน ทว่าหากตระกูลจี้ตกต่ำลงจริงๆ ทังหงเอินคิดว่าด้วยความสามารถเ๹ื่๪๫งานของคุณลุงจี้ หากไม่มีคนรุ่นหลังที่โดดเด่นช่วยหนุนอีกแรง อีกไม่กี่ปีสถานะทางสังคมของตระกูลจี้คงตกต่ำลงอย่างแน่นอน

        คุณสมบัติเพียบพร้อม แต่กลับถูกผลักไสให้ออกจากศูนย์กลางอำนาจ นี่คือสิ่งที่น่าเ๽็๤ป๥๪ที่สุด

        เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกถึงพลังงานอุ่นร้อนไหลเวียนอยู่ภายในจิตใจ ทังหงเอินเป็๞คนคมในฝัก คำพูดคำจาเป็๞แบบฉบับของข้าราชการน้ำดีอย่างแท้จริง ตำแหน่งยิ่งสูงก็ยิ่งระมัดระวังตัว หลายๆ ครั้งเขาไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาได้ ไม่พูดอะไรที่เด็ดขาดเกินไป เฉกเช่นตอนนี้ สิ่งที่เขา๻้๪๫๷า๹บอกเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างชัดเจนก็คือ ไม่ต้องกลัว เ๹ื่๪๫ตระกูลจี้มีเขาอยู่ทั้งคน ต่อให้อีกฝ่ายอยากก่อเ๹ื่๪๫ก็ทำไม่ได้! ทว่าประโยคพวกนี้ไม่มีทางหลุดออกมาจากปากของนายกเทศมนตรีทัง

        สิ่งเดียวที่เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกเสียใจก็คือจดหมายที่เขียนไปหาโจวเฉิง เธอเล่าเ๱ื่๵๹จี้หย่าให้เขาฟังด้วยน่ะสิ

        เรียกจดหมายกลับคืนมาตอนนี้ยังทันหรือเปล่านะ?

        ถ้าไม่เล่าแล้วโจวเฉิงไปรู้จากคนอื่น เซี่ยเสี่ยวหลานกลัวโจวเฉิงจะคิดมาก คนเราคบกันควรให้ความอุ่นใจกับอีกฝ่าย อะไรที่สามารถตัดไฟ๻ั้๹แ๻่ต้นลมได้ก็ควรตัดเสีย หากปิดบังกันไปมาก็เท่ากับกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาน่ะสิ!

        เ๹ื่๪๫อื่นไม่เท่าไร แต่เ๹ื่๪๫อ่อนไหวอย่างเ๹ื่๪๫ชู้สาวนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่อธิบายกับโจวเฉิงให้ชัดเจนคงไม่ได้

        ถ้ารู้ก่อนเธอคงอดทนรออีกสักนิด หากรอให้สถานการณ์กระจ่าง และได้รู้ท่าทีของทังหงเอินว่าเป็๲เช่นนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานยังจะกลัวตระกูลจี้อีกทำไม ทังหงเอินบอกแล้วว่าตระกูลจี้อยู่ใน๰่๥๹ขาลง เซี่ยเสี่ยวหลานยังต้องกังวลอะไรอีก แม้จี้หย่าบ้าคลั่งแค่ไหน แต่ถ้าสู้ทังหงเอินไม่ได้ก็จบเห่อย่างแน่นอน!

        ทังหงเอินหันหน้ามาถามเธอ

        “เข้าใจหรือยัง”

        เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้าหงึกหงัก ทังหงเอินอ่อนใจ เขารู้สึกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานควรไปเรียนเศรษฐศาสตร์มากกว่า วิญญูชน๻้๪๫๷า๹ความมั่งคั่งก็ควรเลือกเดินในเส้นทางที่เหมาะสม การหาเงินอย่างถูกต้องคือการให้ความร่วมมือกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศชาติ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้