ครอบครัวจุนห่าวที่มารวมตัวกันที่ตรงประตูบ้าน และหมาป่าตัวหนึ่งที่นั่งรอตัวตรงอยู่นอกประตู ข้างในครึกครื้น แต่ข้างนอกอ้างว้าง บรรยากาศแปลกประหลาดกำลังเกิดขึ้นโดยมีประตูกั้นไว้
จุนห่าวมองผู้คนรอบ ๆ ตัวเขา พลางพูดติดตลกกับพวกเขาว่า “เหตุใดพวกเ้าถึงแห่กันมา ด้านนอกมิใช่ขุนพยัคฆ์เสือดาวที่จะกลืนกินข้าได้หรอกน่า ต่อให้เป็ขุนพยัคฆ์เสือดาวจริง บัดนี้ข้าก็สามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยหมัดเดียวแล้ว พวกเ้าคิดมากกันเสียจริง ไม่เกรงว่าแขกที่มาด้านนอกจะใจนหนีไปหรือ”
“หากด้านนอกเป็ขุนพยัคฆ์เสือดาวจริง เ้ายังมีข้าอยู่ ข้าจะกำบังอยู่ข้างหน้าน้องสี่เสมือนโล่เวลาเผชิญอันตรายเอง” จุนฟานกล่าวพลางหัวเราะชอบใจ
“เป็เพราะเ้าอยู่ที่นี่ เราถึงไม่สบายใจอย่างไรล่ะ แต่เดิมตอนไม่มีเื่อะไร เ้าก็คอยก่อเื่ตลอด” จางหนิงกล่าวอย่างไม่เกรงใจ เขาเข้าใจอารมณ์ของจุนฟานดี มีเื่เกิดขึ้นที่ใด ก็จะต้องมีเขาอยู่ที่นั่น เพราะชอบทำเื่ไม่ดีราวกับเป็งานอดิเรก
จุนห่าวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาทั้งประหม่า ทั้งตื่นเต้น หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยกับจุนฟานว่า “พี่สาม ท่านอยากรู้ว่า คนที่อยู่ข้างนอกเป็คนประเภทไหนมิใช่หรือ? เช่นนั้นโอกาสนี้มาถึงแล้ว ข้าจะให้ท่านเป็คนเปิดประตู เพื่อให้ท่านได้เห็นก่อนแล้วกัน”
พอฟังคำของจุนห่าว จุนฟานก็สับสนเล็กน้อย แค่เปิดประตูมิใช่หรือ? การที่จุนห่าวให้จุนฟานเปิดประตูก่อนนี้ ทำให้คนอื่นงงงวยกันหมด ในเวลานี้ทุกคนััได้ถึงความกังวลใจของจุนห่าว คงมีแค่จุนฟานเท่านั้นที่เป็ประมาทเลินเล่อจนมองไม่ออก
“น้องสี่ให้เ้าเปิดก็เปิดเถอะ พูดเลอะเทอะอยู่ได้ รีบเปิดเร็ว” จางหนิงพูดกับจุนฟาน เขาแอบคิดในใจลึก ๆ จุนฟานโง่เง่าเสียจริง ดีที่เขายังไม่ตาย มิฉะนั้นถ้าจุนฟานอยู่ตัวคนเดียว เขาคงไม่วางใจแน่
จุนฟานเป็ดั่งล่อ [1] ที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร พอถูกจางหนิงพูดข่มขู่ ก็รีบพุ่งพรวดไปเปิดประตูทันที
เวลาเดียวกับที่จุนห่าวหันมามอง ประตูก็ถูกจุนฟานเปิดออก เ้าหมาป่าสีเทาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน มันสกปรกไปทั้งตัว แค่เห็นมันก็รู้แล้วว่าเป็สุนัขเร่ร่อน
ครั้นจุนฟานเปิดประตูก็เห็นสุนัขเร่ร่อนนั่งรออยู่หน้าประตู จุนฟานรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก นี่มิใช่ภาพที่เขาจินตนาการเอาไว้ เขาใช้ปลายเท้าสะกิดเ้าหมาป่าพร้อมเอ่ยว่า “ทำไมถึงมีแค่เป็สุนัขเร่ร่อนตัวนี้ แล้วคนล่ะ?” พอพูดจบ เขาก็มองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงา จึงหันไปทางหมาป่า แล้วพูดด้วยความไม่พอใจกับมันว่า “นี่ เ้าเห็นใครเคาะประตูเมื่อครู่นี้ไหม? คนนั้นคงไม่ได้ถูกเ้าทำให้ใจนหนีไปหรอกนะ? เ้าเป็สุนัขเร่ร่อนจากที่ใดรึ ข้าอยู่ในหมู่บ้านนี้มาหลายวันแล้ว ไม่เคยเห็นเ้ามาก่อนเลย”
เมื่อได้ฟังจุนฟานที่พูดเจื้อยแจ้วจนเ้าหมาป่าเริ่มหงุดหงิด มันกลอกตามองจุนฟาน และคิดในใจ คนโง่เง่าผู้นี้มาจากไหน นายของจ้าออกจะฉลาดหลักแหลม มีรูปงาม และหล่อเหลา เหตุใดถึงได้มาอยู่กับคนเช่นนี้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนายเสียจริง จากนี้ไปถ้ามีข้าอยู่ ข้าจะต้องทำให้นายดูดี มิใช่ว่าใครหน้าไหนจะเป็เพื่อนกับนายของข้าก็ได้ และชายคนนี้เป็ก้างขวางคอจริง ๆ มัวแต่มายืนบัง ทำให้นายมองไม่เห็นท่วงท่าของสุนัขที่สง่างามและหล่อเหลาของข้าั้แ่วินาทีแรกเลย
พอได้ฟังคำพูดของจุนฟาน คนที่ดูอยู่ต่างพูดไม่ออก จุนฟานยังเอ่ยถามอะไรอีกมากมายกับเ้าหมาป่าตัวนี้ สมองของเขาช่างน่าเป็ห่วงจริง ๆ ที่ประหลาดยิ่งกว่านั้นก็คือ สุนัขตัวนี้ดูรังเกียจจุนฟาน ทั้งยังกลอกตาใส่จุนฟานอีก ถึงแม้ว่าสุนัขตัวนี้จะเป็สุนัขธรรมดา แต่รู้สึกว่า พฤติกรรมของมันกลับไม่ธรรมดา แม้จะกล่าวกันว่า สุนัขสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ก็ตาม แต่สุนัขตัวนี้มีท่าทางเหมือนกับมนุษย์มากเกินไป
เมื่อได้ยินจุนฟานบอกว่า สิ่งที่อยู่หน้าบ้าน คือ สุนัขตัวหนึ่ง จุนห่าวหันขวับมองไปทางสุนัขตัวนั้นทันที ไม่รู้ว่า ในใจควรรู้สึกอย่างไรดี เพราะเขาหวังว่า คนที่มาจะเป็สหายรบของเขา แต่อีกใจก็หวังว่า ไม่ใช่เช่นกัน เขารู้สึกย้อนแย้งในตัวเอง เมื่อจุนห่าวเห็นสุนัขตัวนี้ครั้งแรก เขาก็รู้ได้ทันทีว่า สุนัขตัวนี้ช่างคุ้นตานัก แม้ว่าในความทรงจำของเขาจะไม่ได้ประทับใจสุนัขตัวนี้ ทว่าเมื่อมองดูสุนัขที่สกปรกตัวนี้กำลังนั่งตัวตรง และสายตาที่รังเกียจจุนฟานของมัน แต่พอมันมองมาที่เขา สายตาของมันกลับตื่นเต้นด้วยความรักและความคิดถึง จุนห่าวไม่รู้ว่า มันดีใจอะไร คิดถึงอะไร และทำไมมันถึงชื่นชอบเขา จุนห่าวจ้องสุนัขตัวนี้เขม็ง สุนัขตัวนี้ก็จ้องมองจุนห่าวกลับ รูปร่างของสุนัขตัวนี้ค่อย ๆ ใกล้เคียงกับสุนัขในความทรงจำของเขาเรื่อย ๆ มันคือสุนัขทหารของทีมของเขา... ‘เ้าสายฟ้า’ นั่นเอง เ้าสายฟ้าจะนั่งตัวตรงเช่นนี้ เพราะ มันเป็สุนัขทหาร เ้าสายฟ้าจึงเข้มงวดกับตัวเอง ทุกครั้งที่พบมัน สายตาของเ้าสายฟ้าจะแฝงไปด้วยความรู้สึกนี้อยู่เสมอ
สายฟ้าเป็ลูกหลานของสุนัขทหารรุ่นก่อน ๆ พ่อแม่ของมันก็เป็สุนัขทหารของกองกำลังพิเศษของเขาเช่นกัน ขณะที่แม่ของมันยังตั้งครรภ์มันอยู่ พ่อของมันก็สละชีพในภารกิจต่อต้านยาเสพติด ส่วนแม่ของมันก็จากไปในภารกิจหนึ่ง หลังจากที่คลอดสายฟ้าและพี่น้องไม่นาน อันที่จริงก็ยังไม่ควรให้แม่ของสายฟ้าออกไปปฏิบัติภารกิจ แต่เนื่องจากแม่ของสายฟ้าเป็สุนัขทหารที่ดีที่สุดของทีมกองกำลังพิเศษ จึงต้องให้มันไปด้วย แต่ในที่สุดมันก็ต้องตายอยู่ในสนามรบ เนื่องจากพวกสายฟ้ายังเด็กเกินไป สุดท้ายจึงเหลือแค่สายฟ้าที่เป็ลูกสุนัขอยู่ตัวเดียว จุนห่าวรับมันไปเลี้ยงที่หอพักของตนเอง และดูแลมันเหมือนกับเด็ก เขาเลี้ยงสายฟ้าด้วยนม และตั้งชื่อให้มันว่า ‘สายฟ้า’ เมื่อสายฟ้าโตขึ้น มันจึงกลายเป็สมาชิกของทีมทหาร และมักจะมีส่วนร่วมในภารกิจของทีมอื่นด้วย สติปัญญาของสายฟ้าเทียบเท่ากับเด็กอายุ 7 - 8 ปี สมรรถภาพร่างกายดี จนในที่สุดมันก็กลายเป็สุนัขทหารของหน่วยรบพิเศษ และออกไปปฏิบัติภารกิจที่มีความเสี่ยงสูงอยู่หลายครั้ง
ต่อมาในระหว่างการปฏิบัติภารกิจ สายฟ้าก็สละชีวิตเพื่อช่วยเขา ตอนนั้นเขาเสียใจมาก ในหัวใจของจุนห่าว เขาไม่เคยมองว่า สายฟ้าเป็สุนัข แต่สายฟ้าเป็สหายรบของเขา ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็เหมือนลูกชายของเขา ลูกชายที่สละชีวิตเพื่อช่วยเขา หากจุนห่าวจะเสียใจก็ไม่ใช่เื่แปลก
จุนห่าวหวนคิดถึงสายฟ้าที่ตายไป เขามองดูสุนัขที่คุ้นตาที่กำลังอยู่เบื้องหน้าเขาอีกครั้ง อีกทั้งเสียงเคาะประตูที่คุ้นเคยนั้น ทำให้เขาคิดถึงการผจญภัยของเขาขึ้นมาอีกครั้ง ในใจของจุนห่าวเกิดความคิดที่จะย่างก้าวไปหามัน พยายามระงับอย่างไรก็ทำไม่ได้ เขาก้าวไปอยู่เบื้องหน้าเ้าหมาป่า พร้อมเอ่ยถามเชิงสอบสวนว่า “สายฟ้า เ้าคือสายฟ้าใช่ไหม?”
เมื่อเ้าหมาที่อยู่เบื้องหน้า ได้ยินจุนห่าวเรียกมันว่า ‘สายฟ้า’ น้ำตาแห่งความปีติยินดีก็พลันไหลริน มันเห่าตอบจุนห่าวสองคำว่า “โฮ่ง โฮ่ง” ซึ่งหมายความว่า ข้าคือสายฟ้า ข้าคือสายฟ้าเอง ความสุขในหัวใจของสายฟ้าในเวลานี้สะท้อนให้เห็นผ่านดวงตาของมัน น่าเสียดายที่จุนห่าวฟังในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อไม่ออก ทว่าพอได้ยินเสียงเห่าของสุนัขตัวนี้และน้ำตาที่ไหลรินของมัน จุนห่าวก็รู้ว่า นี่คือสายฟ้าของเขา
จุนห่าวคุกเข่าต่อหน้าสายฟ้า ดวงตาทั้ง 2 คู่อยู่ในระดับเดียวกัน ในสายตาของคนหนึ่งคนและสุนัขหนึ่งตัวแฝงไปด้วยความสุขและความโหยหา พวกเขาได้ผ่านความตายมาแล้ว แต่บัดนี้กลับได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง พูดได้เลยว่า นี่เป็เื่ราวที่จะทำให้คนอื่นขนลุกได้ จุนห่าวไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เขายื่นมือทั้งสองข้างกอดคอพลางลูบใบหน้าของสายฟ้า จุนห่าวพูดกับสายฟ้าอย่างตื้นตันว่า “สายฟ้า ในที่สุดข้าก็ได้พบเ้า เ้าไม่รู้หรอกว่า ข้าคิดถึงเ้ามากแค่ไหน บัดนี้เราได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ช่างดีจริง ๆ”
สายฟ้าก็ตื้นตันใจมาก มันหลงทางอยู่ที่นี่มาเป็เวลาสามปี ในที่สุดก็ได้พบกับเ้านาย ความตื่นเต้นในใจของมันไม่น้อยไปกว่าจุนห่าวเลย สายฟ้าไม่รู้ว่า การข้ามเวลาคืออะไร การเกิดใหม่คืออะไร มันรู้แค่ว่า มันตายไปแล้ว ก่อนตายคนผู้เดียวที่มันอาลัยอาวรณ์ก็คือ จุนห่าว มันคิดเสมอว่า จุนห่าว คือ พ่อของมัน เขาดูแลมันมาั้แ่มันจำความได้ คอยเล่นเป็เพื่อนมัน แต่เพราะมันได้รับลูกะุแทนจุนห่าว สายฟ้าก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้ว ชีวิตของมัน แต่เดิมก็เป็ของจุนห่าว ช่างประจวบเหมาะเสียจริง ก่อนที่มันจะตาย มันได้ปรารถนาว่า ‘ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้มันได้เป็มนุษย์ และเป็ลูกชายของจุนห่าวจริง ๆ ด้วยเถิด’
แต่ความปรารถนาของสายฟ้านั้นไม่เป็จริง เมื่อมันตื่นขึ้นมา มันก็ยังคงเป็ลูกสุนัขอยู่ แม่ของมันถูกครอบครัวในเมืองซวงหวารับเลี้ยงดู ทุกวันมันจะมีหน้าที่คอยดูแลบ้าน เมื่อพบคนแปลกหน้ามันก็จะเห่าเรียกเสียงดัง ในเวลานั้นสายฟ้ายังคิดคำนึงถึงจุนห่าวอยู่เสมอ มันอยากไปกองทัพที่มันเคยอยู่ เพื่อตามหาจุนห่าว แต่ต่อมาสายฟ้าพบผู้คนมากขึ้น จนค้นพบว่า มันมาอยู่ในโลกที่แตกต่างไปจากอดีต มันคงไม่ได้พบจุนห่าวอีกแล้ว สายฟ้าละเหี่ยใจไปหลายวัน จากนั้นก็ยอมรับความจริงที่ว่า มันมาอยู่ในอีกโลกหนึ่งได้ สายฟ้ามีสติปัญญาสูงส่ง จึงพบว่า มีบางสิ่งที่พิเศษในโลกนี้ หลังจากที่มันดูดซับพลังิญญาเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายของมันก็รู้สึกสบายขึ้นมาก สายฟ้าจึงดูดซับพลังิญญาเช่นนี้ทุกวัน พลังิญญาหมุนไปมาในร่างกายของมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไป ทว่ายังมีส่วนหนึ่งที่หลอมรวมจนเข้ากับเนื้อหนังของมัน ทำให้สมรรถภาพทางกายของมันแข็งแกร่งกว่าสุนัขธรรมดามาก สายฟ้ามีเป้าหมายใหม่ นั่นคือดูดซับสิ่งแปลกประหลาดนี้
สัตว์ธรรมดามิใช่ว่าจะบำเพ็ญเพียรไม่ได้ แต่ถูกจำกัดด้วยสภาพร่างกาย จึงไม่อาจดูดซับพลังิญญาได้เอง และด้วยสติปัญญาที่ต่ำต้อยจึงทำให้ไม่เข้าใจวิธีดูดซับได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกมันจึงเป็แค่สัตว์ป่าไปตลอดกาล แม้ว่าสัตว์อสูรจะไม่มีสติปัญญา ทว่าร่างกายของพวกมันจะดูดซับพลังิญญาเองได้ เมื่อสะสมพลังิญญาถึงระดับหนึ่ง พวกมันก็จะเลื่อนขั้น และการเลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่เพียงทำให้สัตว์อสูรเพิ่มพูนสมรรถภาพทางกายได้ แต่ยังสามารถเพิ่มพูนสติปัญญาได้ด้วยเช่นกัน เมื่อมีสติปัญญาสูง ก็จะเข้าสู่เส้นทางการบำเพ็ญเพียรได้ นี่คือความแตกต่างระหว่างสัตว์ป่าและสัตว์อสูร ส่วนสายฟ้าถือเป็กรณีพิเศษ เนื่องจากมันได้ัักับผู้คนมามาก จึงทำความเข้าใจได้มากกว่าสัตว์ป่าทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ทำให้สายฟ้ามีสติปัญญาที่เปิดกว้าง จึงทำให้มีสติปัญญาเพิ่มขึ้น
หลังจากที่สายฟ้าเติบโตขึ้น มันไม่้าเป็สุนัขเฝ้าจวนอย่างแม่ของมัน มันอยากออกไปผจญโลกภายนอก มันจึงหนีออกมาจากจวนของเ้านาย และเนื่องจากมันเป็เพียงหมาป่าธรรมดา จึงไม่มีใครออกตามหามัน มันกลายเป็สุนัขเร่ร่อนในเมืองซวงหวา มันเคยแอบติดตามหน่วยล่าสัตว์อยู่เงียบ ๆ ทว่าอันตรายนอกเมืองมีมากมายเหลือคณานับ แม้แต่กระต่ายยังสามารถพ่นไฟได้ สายฟ้ารู้สึกว่า ภายนอกอันตรายเกินไปสำหรับมัน มันจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อออกไปเผชิญโลก ดังนั้นมันจึงแอบตามหน่วยล่าสัตว์เข้ามาในเมือง
อยู่มาวันหนึ่ง มันดมกลิ่นจนได้กลิ่นของจุนห่าว มันตามกลิ่นมาเรื่อย ๆ จนพบจุนห่าว แม้ว่ารูปลักษณ์ของจุนห่าวจะเปลี่ยนไป ทว่ากลิ่นกลับไม่เปลี่ยนแปลง มันอยากจะะโเรียกจุนห่าวมาก แต่มันไม่สามารถพูดได้ มันจึงได้แต่เห่าโฮ่ง ๆ และมองจุนห่าวนั่งรถม้าจากไป
มันคิดว่า มันจะไม่ได้พบกับจุนห่าวอีก มันไม่เคยคิดเลยว่า จะได้พบกับจุนห่าวอีกครั้งในโลกนี้ เมื่อมองดูจุนห่าวจากไป มันจะยินดีได้อย่างไร ฉะนั้นมันจึงตัดสินใจตามหาจุนห่าว มันไม่ได้สนใจเื่อันตรายนอกเมืองอีกแล้ว ในเวลานั้นสายฟ้าก็ได้ดื่มด่ำกับความสุขในการตามหาจุนห่าว เื่อันตรายใด ๆ ก็ไม่ได้อยู่ในใจมันอีกแล้ว สายฟ้า... ยอดสุนัขทหารของกองทัพได้กลับมาแล้ว การค้นหาจุนห่าวกลายเป็เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของมัน แม้ว่ามันจะตามติดรถม้าของจุนห่าวไม่ทัน ทว่ามันก็ไล่ตามกลิ่นของจุนห่าวจนมาถึงที่นี่... บ้านของจุนห่าว
[1] ล่อ คือ สัตว์ผสมระหว่างลาตัวผู้และม้าตัวเมีย
