แต่ว่าฉินหลางอาบน้ำเกือบ 20 นาที เฉินจิ้นหยงเกรงว่าให้หวูเหวินเซี่ยงรอนานเขาอาจจะเดือดได้ จึงโทรไปหาฉินหลางอีกครั้ง คิดไม่ถึง ฉินหลางกลับบอกว่า “จะรีบไปไหน น้ำยังไม่เดือดเลย กาต้มน้ำน่าจะไม่ค่อยดีแล้ว…”
ฉินจิ้นหยงเริ่มรู้เดือดจนใกล้จะะเิ เขาเข้าใจแล้วว่าฉินหลางตั้งใจจะกลั่นแกล้งเขา แต่เขากลับไม่กล้าะเิใส่ฉินหลาง เพราะคำสั่งของหวูเหวินเซี่ยงคือ “ไปเชิญฉินหลางมาที่บ้านของฉัน”
การใช้คำของผู้นำมักจะพิถีพิถันมาก ‘รับ’ กับ ‘เชิญ’ ความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในฐานะคนข้างกายผู้นำ เฉินจิ้นหยงค่อนข้างจะรู้ใจผู้บังคับบัญชา คนที่สามารถให้หวูเหวินเซี่ยงใช้คำว่า ‘เชิญ’ ได้ เขาจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งห้ามมีเื่ผิดใจ แต่เฉินจิ้นหยงดันทำให้ฉินหลางไม่พอใจแล้วนี่สิ
เดิมทีเฉินจิ้นหยงคิดว่าฉินหลางเป็ญาติคนหนึ่งของหวูเหวินเซี่ยงเท่านั้น บวกกับ่นี้เขาได้เลื่อนตำแหน่ง ทำให้อิ่มเอมใจจนคิดไม่ถึงว่าจะทำให้ฉินหลางไม่พอใจ มาเสียใจตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ดังคำที่ว่าอยู่ข้างผู้นำก็เหมือนอยู่ข้างเสือ แม้เฉินจิ้นหยงจะเป็คนสนิทที่หวูเหวินเซี่ยงไว้วางใจ แต่เขารู้ดีว่าถ้าทำให้หวูเหวินเซี่ยงโกรธจริงๆ เมื่อไร เขาอาจไม่คำนึงถึงคุณงามความดีก่อนหน้านี้ของตน
เวลาหมดไปอย่างรวดเร็ว เฉินจิ้นหยงนั่งอยู่ในรถราวกับนั่งอยู่บนเข็ม หลังจากครุ่นคิด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงจากรถ เดินเข้าไปในหอพักฉินหลาง เมื่อเฉินจิ้นหยงเปิดประตูออก กลับเห็นว่าความจริงฉินหลางไม่ได้กำลังอาบน้ำ แต่กำลังเล่นเกมกับจ้าวเหว่ยต่างหาก
เฉินจิ้นหยงรู้สึกเดือดพล่าน แต่กลับพูดด้วยความสุภาพว่า “คุณฉินครับ ตอนนี้สายมากแล้ว เดี๋ยวคุณค่อยกลับมาอาบดีไหมครับ?”
“มันจะดีเหรอ เมื่อกี้ผมเพิ่งเรียนพละเสร็จ ตัวเหม็นเหงื่อจะตาย” ฉินหลางพูดไปด้วยเล่นเกมไปด้วย พร้อมกับรับหน้าเฉินจิ้นหยง
“อันนี้…คุณฉิน เื่ตอนเย็นผมผิดไปแล้ว…”
“งั้นก็ได้ ในเมื่อน้ำไม่เดือดสักที งั้นเดี๋ยวค่อยกลับมาอาบก็ได้” ฉินหลางเล่นตัวพอถามเท่านั้น เพราะเขาเพียง้าให้เฉินจิ้นหยงขอโทษเท่านั้น เขาจะได้รู้ว่าต่อไปจะละเลยกับตนไม่ได้อีก ในเมื่อเฉินจิ้นหยงยอมก้มหัวแล้ว ฉินหลางก็ไม่อยากเอาเื่อะไรมากมาย
“งั้นดี เรารีบไปกันเถอะ ท่านหวูจะได้ไม่ต้องรอนานเกินไป” เฉินจิ้นหยงแอบถอนหายใจ ฉินหลางพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขาจะไม่เอาเื่ก่อนหน้านี้ไปฟ้องหวูเหวินเซี่ยงแล้ว
เมื่อฉินหลางขึ้นรถแล้ว เฉินจิ้นหยงก็รีบขับไปที่พักรัฐบาลทันที
ระหว่างทาง เฉินจิ้นหยงขับรถฝ่าหลายไฟแดงมาก แต่เขามั่นใจว่าไม่มีตำรวจคนไหนกล้าเขียนใบสั่งให้เขาแน่นอน
หลังจากพุ่งมาถึง เฉินจิ้นหยงก็มาส่งฉินหลางที่หน้าบ้านเฉินจิ้นหยงอีกครั้ง หญิงชราเป็คนมาเปิดประตูเอง ทันทีที่เห็นฉินหลาง เธอก็พูดด้วยความดีใจว่า “เ้าฉิน ในที่สุดเธอก็มาแล้ว! โอ๊ย ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ต้องรบกวนเธออีกแล้ว ไม่รบกวนเวลาเรียนของเธอใช่ไหม…”
เห็นท่าทีของหญิงชรา หลังของเฉินจิ้นหยงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หญิงชราดีกับฉินหลางดีมากขนาดนี้เลยเหรอ! ถ้าวันนี้ฉินหลางไม่ยอมออกมาจากหอพัก เฉินจิ้นหยงต้องซวยแน่ๆ เลย!
สิ่งที่ทำให้เฉินจิ้นหยงรู้สึกเก้อเขิน คือหญิงชรามองข้ามเขาไป แล้วดึงฉินหลางไปรักษาอาการป่วยแล้ว
“เ้าเฉิน ขอบใจมากนะ ตอนแรกจะให้คนขับรถไปรับ แต่ว่าฉินหลางเป็แขกพิเศษ ดังนั้นฉันเลยต้องให้เธอไปรับเอง” หวูเหวินเซี่ยงหันไปพูดกับเฉินจิ้นหยงด้วยรอยยิ้ม ฟังผิวเผินอาจเหมือนกำลังชมเฉินจิ้นหยง แต่กลับแฝงความหมายบางอย่างไว้ในคำพูด นั่นทำให้เฉินจิ้นหยงใ โดยเฉพาะคำว่า ‘แขกพิเศษ’ คำนี้ทำให้เฉินจิ้นหยงขนลุกขนพอง
ฉินหลางไม่ได้สนใจความรู้สึกของเฉินจิ้นหยง เขาตรวจดูอาการของหญิงชรา สังเกตเห็นว่าความจริงแล้วหญิงชราเป็โรคไมเกรนเท่านั้น ไม่จำเป็ต้องจ่ายยาก็ได้ นวดกดจุดที่หัวเพียงอย่างเดียว ก็สามารถทำให้อาการปวดของเธอดีขึ้นได้แล้ว
“เ้าฉิน วิชาการแพทย์ของเธอนี่ไม่มีที่ติจริงๆ! ไม่ต้องฝังเข็ม ไม่ต้องจ่ายยา ฉันก็รู้สึกหายปวดหัวแล้ว” หญิงชราชื่นชมฉินหลางอีกครั้ง จากนั้นพูดขึ้นว่า “เ้าฉิน ถ้านายเปิดคลินิกละก็ คนที่มาเข้าแถวรอตรวจกับนายจะต้องยาวเหยียดแน่ๆ—เวินซ๋าง ลูกว่าจริงไหม?”
“ใช่ๆ” หวูเหวินเซี่ยงพยักหน้าหลายครั้ง ไม่ว่าจะพูดยังไง วิชาการแพทย์ของฉินหลางก็ล้ำเลิศมากจริงๆ ไม่เพียงแต่รักษาอาการไขข้ออักเสบที่รบกวนแม่เขามานานหลายปี หวูเหวินเซี่ยงเองก็เคยััด้วยตัวเองเหมือนกัน ครั้งก่อนที่ ‘าเ็’ จากการไปบิวตี้คลับ นอกจากฉินหลางจะรักษาอาการาเ็ของเขาจนหายแล้ว ยังทำให้มันใหญ่และแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย นอกจากจะบอกลายาชูกำลังได้อย่างถาวรแล้ว ยังกระปรี้กระเปร่าราวกับเด็กลงอีกตั้งหลายปี ทำให้ตอนนี้เขากระตือรือร้นอยากจะรีบหาแฟนสักคนมาก เพราะผ่านประสบการณ์ขนหัวลุกครั้งก่อนแล้ว เขาไม่กล้าไปสถานที่เริงรมย์แบบนั้นอีกแล้ว
“ถ้าผมเปิดคลินิกจริงๆ มีหวังก้นยังลงไม่ถึงเก้าอี้ ก็ถูกกรมอนามัย กับกระทรวงสาธารณสุขจับตัวไปก่อนแล้ว คุณป้าครับ ผมยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์เลยนะครับ จะไปเปิดคลินิกได้ยังไงล่ะครับ” ฉินหลางพูดเล่น
“ถ้าใครจะกล้ามาจับเธอ ป้าไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่ ตอนนี้มีหมอเยอะก็จริง แต่หมอที่มีความสามารถจริงๆ กลับหาแทบไม่ได้ ถ้าเ้าฉินเปิดคลินิกจริงๆ ละก็ ฉันจะเป็คนคอยคุ้มให้เอง ดูซิว่าจะมีใครกล้ามาหาเื่เธอ!” หญิงชราปกป้องฉินหลางมาก หญิงชราเป็คนซื่อ คิดอะไรเรียบง่าย เธอรู้เพียงวิชาการแพทย์ของฉินหลางล้ำเลิศ รักษาอาการป่วยของเธอจนหายขาด เธอก็ควรจะตอบแทนคุณของเขา
“แม่ แม่ไม่ต้องเข้าไปยุ่งหรอก เ้าฉินพูดถูก บ้านเมืองมีขื่อมีแป ไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ จะเปิดคลินิกได้ยังไง—ช่างเถอะ ไม่พูดเื่พวกนี้แล้ว พวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะ เ้าฉินก็น่าจะหิวแล้ว” หวูเหวินเซี่ยงกล่าว
“พูดถึง ผมก็รู้สึกหิวขึ้นมาเลย” ฉินหลางพูดอย่างไม่เกรงใจ
“แกก็รู้แต่กลยุทธ์ เ้าฉินไม่มีสิทธิ์แต่ก็ตรวจให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วแกจะจับเขาหรือไง?” หญิงชราเริ่มโมโห
“คุณป้าไม่ต้องโมโหนะครับ ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ อีกอย่างผมก็ไม่เคยคิดจะเปิดคลีนิกด้วย ผมยังเป็นักเรียน ยังต้องศึกษาหาความรู้ แล้วสอบเข้ามหาลัยอีก จริงไหมครับ” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงสิ เธอยังต้องสอบเข้ามหาลัยอีก ยังต้องหาแฟน จากนั้นก็สร้างครอบครัว” หญิงชราจู้จี้จุกจิก
“นั่นสิครับ อีกอย่าง อาการปวดหัวของคุณป้ารักษาให้หายขาดยาก นี่เป็โรคคนชรา แต่เดี๋ยวผมจะสอนคุณป้านวดกดจุดนะครับ เวลาที่ปวดหัวอีกป้าก็นวดจุดพวกนี้ ไม่ต้องกินยาก็รักษาได้ครับ”
“เดี๋ยวผมจะดูวิธีนวดกดจุด ถ้าแม่ปวดหัวอีกเมื่อไหร่ ผมจะนวดให้แม่เอง” หวูเหวินเซี่ยงแสดงความกตัญญู
“แกมีความตั้งใจแบบนี้ก็พอแล้ว แกเป็นายกเทศมนตรี จะมีเวลาเยอะขนาดนั้นได้ยังไง…กินข้าวเถอะ”
“ดีครับ กินเสร็จค่อยว่ากัน”
“…”
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉินหลางอธิบายจุดต่างๆ บนหัว จากนั้นตอนหญิงชรานั่งดูทีวี หวูเหวินเซี่ยงเรียกฉินหลางเข้ามาในห้องทำงาน แล้วพูดกับฉินหลางว่า “คิดไม่ถึงเลยว่า นายจะเปิดบริษัทได้เร็วขนาดนี้ เพียงแต่ ทำไมพวกนายถึงยังไม่รับงานล่ะ?”
“มีหลายบริษัทที่เข้ามาติดต่อแล้ว ผมรู้ว่าคนพวกนี้มาเพราะเครดิตของคุณ แต่ว่า ตอนนี้บริษัทกำลังฝึกอบรมพนักงานอยู่ อยากให้คนพวกนี้เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ได้ก่อน จะรีบรับงาน แล้วให้คนพวกนี้ออกไปทำเสียชื่อบริษัทได้ยังไง”
คำตอบของฉินหลางทำให้หวูเหวินเซี่ยงมองเขาดีขึ้น “ไม่เลว ฉันคิดไม่ถึงว่า นายจะมีความคิดแบบนี้ ถ้านายสามารถทำให้อันธพาลพวกนี้เปลี่ยนเป็คนใหม่ได้ ถือว่าเป็ผลงานชิ้นใหญ่แล้ว ทำดีๆ ขอแค่ไม่ทำผิดกฎหมาย ฉันจะสนับสนุนนายเสมอ!—จริงสิ ยังมีอีกเื่นึง ่นี้น้องชายฉันฟิตมากเกินไป จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
สำหรับหวูเหวินเซี่ยงแล้ว นี่ถือว่าเป็เื่ดี แต่่นี้แค่เห็นผู้หญิงหุ่นดีๆ มันก็จะโด่ขึ้นมา โดยเฉพาะเวลาเจอผู้ใต้บังคับบัญชาสาวๆ ที่อยู่ในชุดทำงาน ทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงพวกนี้ เขาก็จะต้องนั่งไขว่ห้างเพื่อปิดบังน้องชายที่ตั้งขึ้นมา นั่นทำให้เขาหงุดหงิดมาก
“ไม่มีปัญหา” ฉินหลางกล่าว “มันเป็เพราะสภาพร่างกายของนายดีขึ้น ทำไม นายรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ดีเหรอ? ถ้าคุณรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ดี ผมก็มีวิธีให้มัน…”
“ดี ดีสิ เฮ้อ ดูแล้วถึงเวลาต้องหาใหม่สักคนแล้ว จะได้ไม่ต้องเก็บกดจนเกิดปัญหา…” หวูเหวินเซี่ยงพูดเองเออเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้