หั่วอี้รีบเดินมาตลอดทาง แต่กลับไม่เห็นหลิ่วจิ้งคิดว่านางคงจะกลับหอหั่วเยี่ยนไปแล้ว
ในสมองเขายังคงนึกถึงคำพูดของอาหนูที่เพิ่งได้ยินมาองค์หญิงจะต้องร้องไห้ ต้องร้องไห้แน่ๆ…
พอคิดว่าหลิ่วจิ้งร้องไห้ ใจของหั่วอี้ก็หนักอึ้งทันใด มีบางสิ่งหนักแสนหนักกำลังทับหัวใจของเขาอยู่ราวกับหินก้อนใหญ่ทับบนอกเขา
ชายหนุ่มเร่งฝีเท้า แม้แต่บ่าวที่พบเห็นระหว่างทางคำนับเขาก็ยังไม่สนใจ
หลิ่วจิ้งและอวี้จิ่นเดินช้าเอามากๆ แสดงอาการร่างกายอยู่ในสภาพโรยแรงได้เข้าถึงเป็ที่สุด
ยามพวกบ่าวที่ได้พบและเอ่ยทักทายนางล้วนพยักหน้ารับการคำนับอย่างอ่อนแรง
หลิ่วจิ้งกลับมาถึงห้องนอนก็ล้มนอนบนเตียงทันทีเอาหน้าล้มลงบนหมอนด้วยท่าทางเสียอกเสียใจ
“ฮูหยิน ระวังจะทำให้ตนเองขาดใจนะเ้าคะ” อวี้จิ่นเหลียวซ้ายแลขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วจึงกระเซ้าหลิ่วจิ้งขึ้นมา
“ไป ตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากพบใครทั้งนั้นเ้าออกไปเฝ้าไว้ให้ข้า ผู้ใดมาล้วนให้กลับไปทั้งหมด”หลิ่วจิ้งเอ่ยอย่างมีความหมายอื่นซ่อนอยู่
“เ้าค่ะ…” อวี้จิ่นลากเสียงยาวก่อนจะเดินออกไป
“คาดว่าคงไม่มีใครมาหรอกแต่ละเรือนล้วนต้องวุ่นวายกับเื่ในเรือนของตนทั้งนั้น” หลิ่วจิ้งรำพึงกับตนเอง
เล่นละครต้องให้สมจริง น้ำตาที่ไหลออกมาจริงๆ จึงเป็สิ่งจำเป็เพียงแต่ทุกครั้งหลังจากร้องไห้แล้วกลับอารมณ์ดีขึ้นมาเสียนี่
ซึ่งหลิ่วจิ้งในเวลานี้ก็เป็ดังนั้น เมื่อครู่เพิ่งจะร้องไห้ให้ความแล้งน้ำใจของหั่วอี้พอร้องไห้เสร็จ เื่โกรธก็ส่วนโกรธ แต่ในใจกลับไม่ได้เป็ทุกข์เท่าใดแล้ว
ยามนี้น้ำตาย่อมไหลออกมายากสักหน่อย หลิ่วจิ้งเค้นแล้วเค้นอีกที่สุดก็บีบน้ำตาออกมาได้
เดิมทีคิดจะทำให้บางคนดู แต่กลายเป็ว่าพอร้องไห้ไปเรื่อยๆ กลับกระตุ้นโดนเื่เ็ปใจในอดีตขึ้นมาจากความแล้งน้ำใจของหั่วอี้ทำให้นางนึกย้อนไปถึงความไร้หัวใจและไร้เยื่อใยของหยวนเซิ่งชิงจากนั้นก็คิดไปถึงว่าภายในชั่วข้ามคืน คนในครอบครัวนางที่ตายก็ตายไปที่ต้องพลัดพรากก็พลัดพรากกันไป
ครานี้ไม่ต้องเค้น นางก็กลับเ็ปมาจากในหัวใจจริงๆแม้อยากจะหยุด น้ำตาก็ไม่หยุดไหลเสียแล้ว เปียกชุ่มทั้งปลอกหมอนและที่ใจนางด้วย
อวี้จิ่นยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู จากที่มีเพียงเสียงร้องไห้เบาๆดังออกมาในตอนแรก จนภายหลังกลับเป็เสียงสะอื้นร้องไห้โฮแม้จะบอกว่าหลิ่วจิ้งพยายามกลั้นเสียงเอาไว้แล้วแต่น้ำเสียงแห่งความโศกเศร้าเ็ปนั้นกลับจริงแท้นัก
“คงไม่กระมัง ต้องร้องไห้หนักเพียงนี้เชียวหรือ?” อวี้จิ่นไม่รู้ว่าครานี้หลิ่วจิ้งเสียใจจริงๆยังนึกว่าหลิ่วจิ้งเล่นละครสมจริงสมจังเสียเหลือเกิน
อวี้จิ่นเห็นหั่วอี้เดินก้าวเท้ายาวๆ มาแต่ไกล ก็คิดจะเข้าห้องไปเตือนหลิ่วจิ้งสักคำว่าท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว
ทว่าหั่วอี้เดินเร็วราวกับบิน ยังไม่ทันให้เวลาอวี้จิ่นได้เข้าไปรายงานในห้องเขาก็มาถึงตรงหน้านางเสียก่อน
“ฮูหยินอยู่ในห้องหรือไม่?” หั่วอี้เห็นอวี้จิ่นเฝ้าอยู่หน้าประตูคิดว่าเมื่อครู่เป็อวี้จิ่นออกไปกับองค์หญิง เช่นนั้นยามนี้องค์หญิงก็คงอยู่ในห้องกระมัง
หั่วอี้ถามเสียงดัง แต่แม้ไม่ต้องได้คำตอบจากอวี้จิ่นเขาก็รู้แล้วว่าองค์หญิงอยู่ในห้องเพราะเขาได้ยินเสียงสะอื้นที่พยายามสะกดเสียงร้องไห้ของหลิ่วจิ้งจากข้างใน
สีหน้าเขาหม่นลงทันใดสะบัดมือให้อวี้จิ่นเป็การยั้งไม่ให้นางเข้าไปรายงานในห้อง
เขาผลักประตูเปิดเข้าไปเอง เห็นว่าหลิ่วจิ้งเอาหน้าซุกหมอน ไหล่ของนางสั่นระริกเพราะกำลังร้องไห้อยู่
หลิ่วจิ้งได้ยินเสียงก็รีบคว้าหมอนอีกใบบนเตียงโยนออกไป
“ออกไป ข้าก็บอกแล้วว่าไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้นเหตุใดยังปล่อยคนเข้ามาอีก”
เมื่อหมอนใบนั้นโยนมาที่ตัวหั่วอี้ เขามีฝีมือล้ำเลิศถึงเพียงนั้นจะปล่อยให้หมอนที่โยนมาอย่างเชื่องช้าชนถูกตัวได้อย่างไร
หลิ่วจิ้งเห็นว่าหมอนก็โยนไปแล้ว ต่อว่าก็ต่อว่าไปแล้วคนที่มากลับไม่ตอบคำ นางกำลังโกรธจนลืมตัวจึงคว้าหมอนจะโยนออกไปอีก ครานี้เพิ่งมองเห็นและ ‘สำเหนียก’ ว่าคนที่มาคือหั่วอี้
“อ๊ะ เป็ท่านแม่ทัพ โปรดอภัยที่ข้าเสียมารยาท “หลิ่วจิ้งรีบเอาแขนปาดน้ำตาของตนว้าวุ่นไปหมด กำลังจะลงจากเตียงไปคารวะหั่วอี้
หั่วอี้เดินเข้ามาสองสามก้าว กดนางเอาไว้บนเตียง “ไม่ต้องมากพิธี เป็ข้าติดค้างท่านต่างหาก”
ใบหน้าหลังร้องไห้มา แม้แต่จมูกของหลิ่วจิ้งก็ยังแดงไปหมด เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นางต้องร้องไห้อย่างเ็ปใจนักถึงได้อยู่ในสภาพนี้
หั่วอี้เห็นแล้วปวดใจ “ร่างกายท่านเป็อย่างไรบ้าง มีที่ใดไม่สบายหรือไม่ข้าจะให้คนไปเรียกท่านหมอหวังมาตรวจ”
เขาพูดพลางจะร้องบอกให้อวี้จิ่นไปตามท่านหมอหวังมา
“ไม่ต้องหรอกเ้าค่ะท่านแม่ทัพ ข้าไม่เป็ไร กำลังคิดอยากจะพักสักครู่นอนหลับสักตื่น พอตื่นมาก็จะไม่เป็ไรแล้วเ้าค่ะ”
“ฮูหยิน มิใช่ว่าถือโทษข้าหรอกหรือ”หั่วอี้นึกถึงภาพที่หลิ่วจิ้งนอนอยู่กับพื้น แต่ตนกลับจากไปอย่างไม่ไยดี
เื่ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเขาไม่อาจทิ้งหลิ่วจิ้งเอาไว้แล้วจากไปตลอดทางที่กลับมาเขาก็ทบทวนถึงสิ่งที่ทำลงไป และรู้สึกว่าตนทำเกินไปจริงๆ
“ท่านแม่ทัพพูดสิ่งใดเ้าคะ เหตุใดข้าจึงฟังไม่รู้ความท่านแม่ทัพทำความผิดใดหรือเ้าคะ?” หลิ่วจิ้งแสร้งถามเหมือนไม่เข้าใจ
“ไม่มีสิ่งใด ฮูหยินไม่ถือโทษก็ดีแล้ว” ความทะนงตนของหั่วอี้ไม่ยินยอมให้เขาเอ่ยคำขอโทษมากมายไปกว่านี้
เขาเห็นว่าหลิ่วจิ้งก็ไม่ได้มีท่าทีจะไล่เรียงเอาความอันใดจึงวางใจลง สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาก
“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากจะนอนสักพักจริงๆ เชิญท่านแม่ทัพตามสบายให้ข้านอนครู่หนึ่งคงจะดีเ้าค่ะ”
หลิ่วจิ้งเอ่ยราวกับไม่เป็อะไร
“ตกลง เช่นนั้นท่านก็นอนสักพักเถิด อยากกินสิ่งใดข้าจะไปสั่งให้เตรียมไว้ให้ท่าน ตื่นมาจะได้กินทันที”
ไม่บ่อยนักที่หั่วอี้จะเอ่ยคำด้วยความห่วงใย
“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เป็ห่วง ไม่ต้องเ้าค่ะ ผู้มาเป็แขกแขกย่อมต้องแล้วแต่เ้าของบ้าน จะเลือกนั่นเลือกนี่ได้อย่างไร”
หลิ่วจิ้งตอบ บอกปัดความหวังดีของหั่วอี้
หั่วอี้จะเคยเอ่ยเสียงนุ่มนวลกับผู้อื่นเช่นนี้ที่ใดกันก่อนนี้เขาก็เคยสั่งอาหารที่สตรีของเขาชอบทานให้พวกนางแต่ที่สั่งไปนั่นก็เพราะมีความสุขจึงอยากจะให้รางวัลเท่านั้น
ที่ใดจะเหมือนกับครั้งแรกในครานี้เขารู้สึกจากใจจริงว่าอยากทำอะไรให้หลิ่วจิ้งบ้าง แต่กลับรู้สึกเหมือนซัดหมัดไปบนฝ้ายนุ่มนิ่มไม่เ็ป แต่ไม่สะใจ
หั่วอี้จ้องตาหลิ่วจิ้งไม่วางตาอยากมองเห็นความคิดที่แท้จริงของนาง แม้เขาจะเป็คนฉลาดแต่ก็ยังอ่อนหัดเื่เข้าใจสตรี เวลานี้เขามองไม่ออกเลยแม้สักน้อย
“เช่นนั้นท่านก็พักผ่อนก่อนเถิด ตื่นมาแล้วอยากกินสิ่งใดค่อยสั่งให้ห้องครัวไปทำ”
หั่วอี้พูดพลางช่วยห่มผ้าห่มให้หลิ่วจิ้ง แล้วจึงค่อยเดินจากไป
หลิ่วจิ้งรอจนหั่วอี้ปิดประตู นางหลับตาลงเพียงครั้งหนึ่งน้ำตาก็ไหลรินออกมา
หั่วอี้ออกไปก็กวักมือเรียกอวี้จิ่น บอกให้อีกฝ่ายเดินมาคุยกันข้างๆ
“บอกมาซิว่าหลังจากข้าไปแล้วเกิดสิ่งใดขึ้นกับฮูหยินบ้าง”
หั่วอี้เข้าประเด็น เอ่ยปากก็สอบถามสิ่งที่เขาอยากรู้มาตลอดในทันที
“หลังจากท่านแม่ทัพไปบ่าวก็เขย่าตัวฮูหยินจนฮูหยินตื่นขึ้นมาเ้าค่ะพอฮูหยินตื่นมาแล้วก็บอกว่านางไม่เป็ไร เพียงแต่เหนื่อยเกินไปจึงอยากนอนสักพักเท่านั้นเ้าค่ะ”
อวี้จิ่นตอบไปอย่างชัดเจนคล่องแคล่วนางรู้สึกว่าโชคดีที่วันนี้นางออกไปกับหลิ่วจิ้งหากเป็อิ๋งเหอก็เกรงว่าคงจะมีแต่ร้องไห้เป็เพื่อนหลิ่วจิ้งเท่านั้นจะช่วยสร้างสถานการณ์เช่นที่นางทำได้อย่างไร
“จากนั้นเล่า ยังเกิดเื่ใดขึ้นอีก พวกเ้าได้พบผู้ใดหรือไม่?”
หั่วอี้ถามต่อ
“เรียนท่านแม่ทัพ ภายหลังฮูหยินและบ่าวพบฮูหยินรองระหว่างทางกลับมาเ้าค่ะแล้วก็ยังมีบ่าวในเรือนอื่นๆ บ่าวไม่ได้จำชื่อแต่ละคนเอาไว้ ตอนนั้นคล้ายว่าฮูหยินจะอารมณ์ไม่ดีบ่าวจึงเอาแต่เดินตามฮูหยินเ้าค่ะ”
_____________________________
