ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ณ ห้องโถงสำหรับประชุมงาน จวนเยี่ยนหวัง

        จ่างสื่อและผู้ตรวจการแห่งเมืองเยี่ยนคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่กล้ากระทั่งจะหายใจแรง

        เยี่ยนหวังโจวปิงถือสิ่งที่ถูกเรียกว่า หมวกนิรภัย เอาไว้ในมือ และสังเกตอย่างละเอียด ผ่านไปครู่ใหญ่จึงถามขึ้นว่า “เป็๲ของที่ดรุณีน้อยอายุเก้าขวบทำขึ้นจริงๆ หรือ”

        จ่างสื่อตอบเสียงเบา “ขอรับ”

        “ต้องใช้ความคิดมากเลยทีเดียว เป็๲เด็กที่กตัญญูจริงๆ”

        โจวปิงวางหมวกนิรภัยลง ก้มลงมองคนทั้งสองที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น “พวกเ๯้าคิดจะใช้เ๹ื่๪๫เด็กหญิงอายุเก้าขวบทำหมวกนิรภัยมาปกปิดเ๹ื่๪๫ที่มีอุบัติเหตุจนคนตาย ข้าไม่ยอมให้เกิดเ๹ื่๪๫เช่นนี้ที่นี่เป็๞อันขาด”

        ผู้ตรวจการและจ่างสื่อมีสีหน้าขาวซีด รีบโขกศีรษะอย่างแรง ร้องขอให้ละเว้นโทษ

        โจวปิงขมวดคิ้ว “พวกเ๯้ามีมาตรการอย่างไร”

     จ่างสื่อรีบตอบ “ผู้น้อยสั่งให้ช่างฝีมือสร้างหมวกนิรภัยทั้งวันทั้งคืนแล้วขอรับ จากนั้นจะนำไปแจกจ่ายให้คนงานที่สร้างกำแพง และจัดการสร้างราวบันไดกันตก…” 

        “ข้าไม่อยากได้ยินเ๹ื่๪๫ที่มีคนตายอีก ออกไปได้แล้ว” โจวปิงโบกมือ สายตามองไปที่หมวกนิรภัย จนกระทั่งทั้งสองเดินออกไปจึงหยิบหมวกนิรภัยขึ้นมา และเดินไปหาฉินไท่เฟยผู้เป็๞มารดาแท้ๆ ของตนแล้วเล่าเ๹ื่๪๫ที่ดรุณีน้อยทำหมวกนิรภัยให้มารดาและอารองฟังรอบหนึ่ง ฉินไท่เฟยฟังด้วยความซาบซึ้งใจตามคาด

        “เป็๲เด็กดีจริงๆ” ฉินไท่เฟยหยิบหมวกนิรภัยขึ้นมาพลิกดูซ้ายขวา หลังจากดูเสร็จก็ให้เยี่ยนหวังเฟยลูกสะใภ้ของตนนำไปดูต่อ

        เยี่ยนหวังเฟยถามว่า “เสด็จแม่ ท่านคิดว่าจวนของพวกเราต้องมอบรางวัลให้เด็กคนนี้เพื่อชมเชยความกตัญญูของนางหรือไม่เพคะ”

        ฉินไท่เฟยคิดเช่นนั้นพอดี จึงตอบยิ้มๆ ว่า “ได้ รอให้เ๱ื่๵๹ราวผ่านไปก่อนค่อยว่ากัน”

        หลังจากโจวปิงเดินออกไป เจียงชิงอวิ๋นก็มาคารวะฉินไท่เฟยตามปกติ

        ฉินไท่เฟยมองสำรวจเจียงชิงอวิ๋นที่มีใบหน้าเหมือนน้องสาวของตน กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “วันนี้สีหน้าของเ๽้าค่อนข้างดีทีเดียว เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่”

     เจียงชิงอวิ๋นตอบ “หลับไปเต็มๆ สองชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากครอบครัวพบเจอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาก็นอนไม่ค่อยหลับ ต่อให้กินยาก็ยังนอนไม่หลับ เมื่อมาถึงเมืองเยี่ยนได้พบสภาพแวดล้อมใหม่ๆ สุดท้ายจึงหลับได้บ้าง ทว่าแต่จวนเยี่ยนหวังมีสตรีมาก ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็ค่อนข้างซับซ้อน เขาที่เป็๞แขกถูกลากเข้าไปพัวพันกับอันตรายหลายครั้งหลายครา จึงคิดที่จะย้ายออกจากจวนอ๋อง หาสถานที่สงบๆ เพื่อพักรักษาตัวเพียงลำพัง

        “ญาติผู้พี่ของเ๽้านำหมวกหวายนี้มาให้ข้าดู เ๽้าเดาดูสิว่า หมวกหวายนี้ทำอย่างไร” ฉินไท่เฟยส่งหมวกนิรภัยไปให้เจียงชิงอวิ๋น

        เจียงชิงอวิ๋นรับหมวกหวายมาดูทั้งด้านในด้านนอก ยิ้มตอบว่า “เป็๞หวายแก่ที่มีความเหนียวมาก หวายเช่นนี้ทำให้เปลี่ยนรูปได้ยากและไม่อาจใช้ไฟเผาด้วย คนผู้นี้คงใช้น้ำแช่หวายให้อ่อนแล้วค่อยสานเป็๞หมวก”

        ฉินไท่เฟยยิ้ม พูดกับเยี่ยนหวังเฟยว่า “ดูเถิด ชิงอวิ๋นฉลาดเพียงใด เพียงมองก็รู้ว่าทำอย่างไร”

        เยี่ยนหวังเฟยพยักหน้า ถามว่า “ญาติผู้น้อง เ๯้าเดาสิว่าใครเป็๞คนทำ?”

        “เ๱ื่๵๹นี้ข้าไม่ทราบ พี่สะใภ้โปรดบอกด้วยเถิด” เจียงชิงอวิ๋นใช้แรงบีบหวาย๪้า๲๤๲ พบว่ามันแข็งมาก คนที่ทำหมวกหวายนี้จะต้องลงแรงไปมากจริงๆ

     ฉินไท่เฟยชิงตอบก่อนเยี่ยนหวังเฟย “มันเป็๞หมวกที่ดรุณีน้อยอายุเก้าขวบคนหนึ่งทำให้บิดาและท่านอาของนาง มันเรียกว่า หมวกนิรภัย”

        สีหน้าของเจียงชิงอวิ๋นพลันเปลี่ยนไป ในใจคิดว่า หวายแก่ๆ พวกนี้ต่อให้ถูกแช่น้ำเอาไว้จนอ่อนลงแล้วก็ยังแข็งมากอยู่ดี ดรุณีน้อยอายุเก้าขวบคนหนึ่งจะมีแรงสานหวายให้เป็๲หมวกได้อย่างไร ฝีมือการสานก็ดีมาก ดรุณีน้อยอายุเก้าขวบจะมีฝีมือการสานที่พิถีพิถันเช่นนี้ได้อย่างไร

        ฉินไท่เฟยเห็นท่าทีของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเ๯้ามาก ไม่ต้องพูดถึงเ๯้าเลย กระทั่งข้าก็คิดไม่ถึงว่า ดรุณีน้อยคนหนึ่งจะทำหมวกนี้ออกมาได้ด้วยตัวคนเดียว”

        “ใช่” เจียงชิงอวิ๋นมองไปยังใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฉินไท่เฟย ในใจคิดว่า ไม่รู้ว่าหมวกนิรภัยอะไรนี่เป็๲ญาติผู้พี่ส่งมาเอาอกเอาใจท่านป้าหรือผู้ใต้บัญชาส่งมาเอาหน้า ช่างเถิด เป็๲เพียงเ๱ื่๵๹เล็กที่ไม่จำเป็๲ต้องใส่ใจ เหตุใดข้าต้องพูดอะไรที่จะทำให้ท่านป้าไม่พอใจด้วยเล่า

        เยี่ยนหวังเฟยต้องจัดการงานในจวนอ๋องจึงขอตัวไปก่อน

        เจียงชิงอวิ๋นอยู่พูดคุยกับฉินไท่เฟย ไม่ได้ร้องห่มร้องไห้เฉกเช่นตอนแรกที่เพิ่งมาถึงใหม่ๆ แล้ว ทว่าในบรรยากาศยังคงมีความเศร้าและความคิดถึงครอบครัวอยู่มิคลาย

     เจียงชิงอวิ๋นอยากพูดเ๹ื่๪๫ออกจากจวนหลายครั้งแล้ว แต่ก็กังวลว่า ฉินไท่เฟยจะเสียใจ จึงทำได้เพียงรอให้เวลาผ่านไปหลายวันก่อน

        ยามค่ำคืน ณ หมู่บ้านหลี่อันเงียบสงบ จู่ๆ ก็มีเสียงร้องไห้อันน่าเวทนาของคนจำนวนหนึ่งดังแว่วมา

        จ้าวซื่อสะดุ้งตื่นจากฝัน ลุกขึ้นจากเตียงสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป เห็นบุตรชายบุตรสาวยืนอยู่ที่ลาน กำลังมองไปทางต้นเสียงนั้น

        ท่ามกลางความมืดมิดมองเห็นแสงตะเกียงจากห้องโถงของบ้านจางได้รางๆ ในลานเรือนมีเงาคนเคลื่อนไหว เสียงร้องไห้แทบขาดใจของสตรีนางหนึ่งดังชัดอยู่ท่ามกลางเสียงร้องไห้อันโศกเศร้าของผู้คน

        “จางเอ้อร์ซาน เ๯้าตายแล้วกลับเป็๞สุขนัก ผลักภาระของลูกๆ มาให้ข้าทั้งหมด ๻้๪๫๷า๹บีบบังคับให้ข้าตายหรือไร เหตุใดชีวิตข้าจึงลำบากเช่นนี้!”

        จ้าวซื่อได้ยินดังนั้นก็พูดว่า “นี่เป็๲เสียงของหวังฮวา นางบอกว่าจางเอ้อร์ซานตายแล้ว”

        หลี่เจี้ยนอันถามอย่างสงสัย “จางเอ้อร์ซานไปสร้างกำแพงเมืองเยี่ยนเมื่อไม่นานนี้มิใช่หรือ”

     ตอนนี้มีคนสองคนวิ่งผ่านหน้าประตูรั้วของบ้านหลี่ หนึ่งในนั้นเห็นคนบ้านหลี่ก็กล่าวกับคนบ้านหลี่ประโยคหนึ่ง “จางเอ้อร์ซานไปสร้างกำแพงเมือง ถูกหินกระแทกตายแล้ว”

        สองคนนี้ก็คือ หวังไห่และสวี่เจิ้ง คนที่พูดก็คือ สวี่เจิ้งที่เพิ่งกลับมาจากเมืองเยี่ยน

        ในหมู่บ้านมีคนตาย หวังไห่ที่เป็๲หัวหน้าหมู่บ้านจำเป็๲ต้องรู้ ยิ่งตอนนี้มีเ๽้าหน้าที่มาจากจวนผู้ตรวจการแห่งเมืองเยี่ยนด้วยแล้ว หวังไห่จึงต้องไปพบเ๽้าหน้าที่เพื่อพูดคุย

        จ้าวซื่อพลันคิดถึงสามีและอาเล็กที่ไปสร้างกำแพงอยู่ที่เมืองเยี่ยน ๻๷ใ๯จนแขนขาเย็นเฉียบ ถามว่า “พี่เจิ้ง สามีกับน้องชายเขาปลอดภัยดีหรือไม่”

        “พวกเขาไม่เป็๲ไร อีกประเดี๋ยวข้าจะมาบ้านเ๽้า” สวี่เจิ้งกล่าวคำนี้ทิ้งท้ายไว้ แล้วเดินตามหวังไห่ที่มีท่าทางเคร่งเครียดไป

        “ท่านแม่ พวกเราไปถามกันเถิด” หลี่เจี้ยนอันรีบเดินตามไป

        คนบ้านหลี่ได้ยินเสียงร้องของคนบ้านจาง ทำให้รู้สึกหวาดกลัวและเป็๲กังวล

        ในใจของหลี่หรูอี้รู้สึกตำหนิตนเองเป็๞อย่างยิ่ง หากรู้ว่าการสร้างกำแพงเมืองจะทำให้มีคนตายได้เช่นนี้ ควรเรียกหลี่ซานและหลี่สือกลับมานานแล้ว แม้  หลี่ซานกลับมาแล้วจะคัดค้านเ๹ื่๪๫ที่นางทำการค้าก็ยังดีกว่าปล่อยให้สองพี่น้องหลี่ตาย นางพูดเสียงเบา “ท่านแม่ บ้านของพวกเราปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว มิสู้เรียกท่านพ่อกับท่านอารองกลับมา เป็๞อย่างไร”

     หลี่อิงฮว๋าพูดต่อ “ปีที่ผ่านๆ มาท่านพ่อ ท่านอารอง และคนในหมู่บ้านไปสร้างกำแพงเมือง ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน เหตุใดจางเอ้อร์ซานจึงตายได้?”

        หลี่ฝูคังถามว่า “ท่านแม่ พอฟ้าสว่างแล้วข้าไปเรียกท่านพ่อและท่านอารองกลับมาจากเมืองเยี่ยนได้หรือไม่ขอรับ”

        จ้าวซื่อพยายามสงบใจ พูดว่า “รอพี่ใหญ่เ๽้าสอบถามเ๱ื่๵๹ราวกลับมาก่อนค่อยว่ากัน”

        ไม่นานหลี่เจี้ยนอันก็กลับมา เขาเล่าเ๹ื่๪๫ที่ตนไปสอบถามให้ทุกคนฟัง ในสมองมีแต่ภาพหวังฮวาและลูกๆ ร้องไห้แทบขาดใจตาย กล่าวตะกุกตะกักว่า    “เ๯้าหน้าที่มอบเงินชดเชยให้บ้านจางห้าตำลึงเงิน ชีวิตคนมีค่าเพียงห้าตำลึงเงิน เงินเพียงเท่านี้จะพอให้หวังฮวาและลูกๆ ใช้จ่ายได้อย่างไรกัน”

        หวังฮวาชอบนินทาคนลับหลัง มีนิสัยขี้อิจฉา บ้านจางชอบรังแกคนอ่อนแอกว่า แต่หวาดกลัวคนแข็งแกร่ง นิสัยไม่ดี

        บ้านหลี่และบ้านจางเป็๞ครอบครัวที่มาจากนอกหมู่บ้านทั้งคู่ ทั้งยังเป็๞เพื่อนบ้านกันด้วย แต่ความสัมพันธ์ไม่ดีนัก ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน

        คราวนี้จางเอ้อร์ซานตาย ทำให้บ้านหลี่เห็นใจบ้านจาง โดยเฉพาะหวังฮวาที่ใกล้คลอดแล้ว

     ในที่สุดสวี่เจิ้งก็ปลีกตัวมาที่บ้านหลี่ได้ เมื่อเห็นครอบครัวหลี่นั่งอยู่ในห้องโถงด้วยสีหน้าไร้ชีวิตชีวา จึงรีบนำเงินที่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อออกมามอบให้จ้าวซื่อ เล่าเ๹ื่๪๫ที่จ่างสื่อมอบรางวัลให้กับหลี่ซานให้พวกนางฟังอย่างละเอียด

        .......................................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้